หูทอง forum ภาคสั้น กำลังวัตต์บนแอมป์ สำคัญแค่ไหน

[HiddenDragon]

เนื่องจากเป็นพี่น้องหลายท่าน ชอบแอมป์มีชื่อแต่ว่าไม่ได้คำนึงถึงกำลังวัตต์ที่มีมากับเครื่อง
สิ่งนี้สำคัญมาก เนื่องกจาก กำลังวัตต์ที่เป็นตัวขับในเครื่อง เป็นตัวกำหนด เรื่องค่า dampping factor ในเครื่อง ซึ่ง กำลังขับถ้าน้อยเกินไป จะส่งผลให้ลำโพงที่ท่านใช้อยู่มีปัญหา เนื่องจาก damping factor เปิดไปที่ 9 โมงเท่ากัน แต่เสียงดังไม่เท่ากัน ตัวที่เสียงดังน้อยกว่า จะทำให้ลำโพงใหม้ได้มากกว่าครับเมื่อเร่งเสียงดังมากขึ้นไป จะเกิดแรงเครียดในลำโพง ส่งผลให้ลำโพงที่ท่านใช้ ขาดได้
จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ อาจมาเขียนเพิ่มเติมในภายหลัง ท่านที่ได้อ่าน ถ้าเห็นเป้นประโยชน์ รบกวนดันด้วยครับ
ด้วยจิตคารวะ

[sssppp555]

สอบถามนิดครับ เนื่องจากความรู้ด้านนี้ผมมีน้อย อยากสอบถามว่าถ้าเครื่องแอมป์หลอดวัตต์ต่ำๆ อย่างประมาณ 7-9 วัตต์ นี่ถ้าเทียบก้ับแอมป์ SS 30 w มันเทียบวัตต์กันตรงๆ ได้เลยหรือเปล่าครับ ว่าแอมป์ SS วัตต์สูงกว่า ขอบคุณครับ

[Inventory]

โอว ความรู้ใหม่ จดๆๆๆๆ
ขอบคุณมากคับ

[surapan24]

ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ดี ๆ

[gecomax]

ดันครับ ตามอ่านทุกกระทู้เลย มีประโยชน์ดีครับ

[siam1]

up

[JANE2009]

ดันให้ครับ

[yosavee]

มีคำถามครับ
พอดีผผมได้ลำโพงมาคู่นึงตัวใหญ่เอาเรื่องทีเดียวเสปกประมาณนี้ครับ
Technische Daten
Bauart: 3-Wege Standlautsprecher
Chassis:
Tiefton: 2x
Mittelton: 2x
Hochton: Kalotte
Belastbarkeit (Nenn-/Musikb.): 140/200 Watt
Wirkungsgrad:
Frequenzgang: 23 - 24.000 Hz
Übergangsbereiche: 180/3000 Hz
Impedanz: 4 Ohm
แล้วผมใช้แอมป์NAD T763 จะขับมันได้หมดไหมคัรบ
T763 A/V Receiver Features :
• 6 x 100W Simultaneous Minimum Continuous Power into 4 / 8 ohms
• 210W, 300W, 370W IHF Dynamic Power into 8, 4 and 2 ohms, respectively
• PowerDrive
• High Current Holmgren Toroidal Power Transformer
T763 A/V Receiver Specifications :
Power Amp
Power output (stereo, 8 ohms within rated distortion 2 X 130W (21.1dbW)
IHF dynamic power 8 ohms 2 x 210W (23.22dBW)
4 ohms 2 x 300W (24.77dBW)
2 ohms 2 x 370W (25.68dBW)
Simultaneous power output surround mode 6 x 100W (20dBW)
Total Harmonic Distortion at rated power 0.08%
IM Distortion at rated power 0.08%
Damping factor 8 ohms 60
Sensitivity and impedance (R and C) 400mV / 50k
Frequency response 5Hz-20kHz ±0.8dB
Signal to noise ratio rated power 8 ohms >90dB
1W/8ohms >80dB
ขอบคุณมากครับ

[tanwa_kang]

เนื่องจากเป็นพี่น้องหลายท่าน ชอบแอมป์มีชื่อแต่ว่าไม่ได้คำนึงถึงกำลังวัตต์ที่มีมากับเครื่อง
สิ่งนี้สำคัญมาก เนื่องกจาก กำลังวัตต์ที่เป็นตัวขับในเครื่อง เป็นตัวกำหนด เรื่องค่า dampping factor ในเครื่อง ซึ่ง กำลังขับถ้าน้อยเกินไป จะส่งผลให้ลำโพงที่ท่านใช้อยู่มีปัญหา เนื่องจาก damping factor เปิดไปที่ 9 โมงเท่ากัน แต่เสียงดังไม่เท่ากัน ตัวที่เสียงดังน้อยกว่า จะทำให้ลำโพงใหม้ได้มากกว่าครับเมื่อเร่งเสียงดังมากขึ้นไป จะเกิดแรงเครียดในลำโพง ส่งผลให้ลำโพงที่ท่านใช้ ขาดได้
จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ อาจมาเขียนเพิ่มเติมในภายหลัง ท่านที่ได้อ่าน ถ้าเห็นเป้นประโยชน์ รบกวนดันด้วยครับ
ด้วยจิตคารวะ

สอบถามนิดครับ เนื่องจากความรู้ด้านนี้ผมมีน้อย อยากสอบถามว่าถ้าเครื่องแอมป์หลอดวัตต์ต่ำๆ อย่างประมาณ 7-9 วัตต์ นี่ถ้าเทียบก้ับแอมป์ SS 30 w มันเทียบวัตต์กันตรงๆ ได้เลยหรือเปล่าครับ ว่าแอมป์ SS วัตต์สูงกว่า ขอบคุณครับ

พอดีเข้ามาเห็นจึงอยากเพิ่มแชร์ความรู้สักนิดนะครับ
จริงจริงแล้วถามว่ากำลังขับของแอมป์ทั้งหลายมีผลกับเสียงที่ได้มากไหม ก็ตอบได้ว่ามากครับ โดยแอมป์ที่มีกำลังขับสูงจะโอกาสที่จะให้เสียงที่ดีกว่าครับ เพียงแต่กำลังขับที่ผู้ผลิตบอกมากับเครื่องที่ซื้อนั้นไม่ได้บอกกำลังขับที่แท้จริงของเครื่องในสภาวะการใช้งานจริงสักเท่าไรครับ เนื่องจากมีวิธีที่จะหลีกเลี่ยงต่างในการวัดเพื่อให้ได้ตัวเลขกำลังขับที่สูงขึ้นได้หลายวิธีครับ เช่น การวัดที่การจ่ายความถี่ต่างกัน หรือการวัดกำลังขับในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่วัดอย่างต่อเนื่อง การวัดที่ความต้านทานLoadในที่นี้คือลำโพงคงที่ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่คงที่ครับ) ฯลฯ ทำให้เราพบได้เสมอว่าบางที่แอมป์ที่มีกำลังขับน้อยกว่ากลับให้เสียงที่ดีกว่าแอมป์ที่มีกำลังสูงบางตัวได้ครับ โดยกำลังขับของแอมป์จะถูกกำหนดโดยแรงดันไฟเลี้ยงของภาคขยายและสิ่งที่ทำให้แอมป์ที่บอกกำลังขับเท่ากับอีกตัวแต่เมื่อขับลำโพงกลับเหมือนจะมีกำลังมากว่า อยู่ที่การจ่ายกระแสของภาคขยายครับ โดยแอมป์ราคาถูกจะลดต้นทุนในส่วนของภาคจ่ายไฟ โดยใช้ภาคจ่ายไฟขนาดเล็กจ่ายกระแสได้น้อย เมื่อแอมป์ต้องขยายสัญญาณที่ความถี่ต่ำ ซึ่งต้องการกระแสสูงทำให้ได้เสียงที่ไม่ดีเท่าที่ควรครับ ซึ่งเราจะพบอยู่เสมอว่าบางทีแอมป์ที่บอกกำลังขับเพียง60W กลับขับลำโพงได้ดีกว่าแอมป์ที่บอกกำลังขับ100Wก็มีครับ แล้วถามว่าเราจะประเมินอย่างไรว่าแอมป์ตัวไหนน่าจะขับลำโพงได้ดีกว่าที่กำลังขับเท่ากันนั้นก็ดุได้หลายอย่างครับ ไม่ว่าจะดูจากขนาดหม้อแปลงที่ใช้ ขนาดภาคจ่ายไฟแต่ ฯลฯ จะเห็นได้ว่าดูยากครับ แต่ที่พิจารณาได้ง่ายก็คือ น้ำหนักครับแอป์ที่มีกลังเท่ากันตัวที่หนักกว่าย่อมมีโอกาสที่จะเสียงดีกว่าได้ครับ เนื่องจากน้ำหนักของแอมป์เกือบครึ่งมาจากหม้อแปลงและภาคจ่ายไฟครับ และอีกอย่างคือการลองฟังครับโดยการสังเกตุจากความถี่ต่ำครับ แอมป์ที่จ่ายกระแสได้ดีจะให้ความถี่ต่ำที่สะอาดกระชับไม่เบลอครับ และการจ่ายกระแสของภาคขยายยังมีผลต่อค่าdamping factor อีกด้วยครับ โดยค่าdamping factorไม่ได้คิดจากกำลังขับครับ โดยเป็นการคิดโดยการนำเอาค่าความต้านทานของLoad ในที่นี้คือลำโพงหารด้วยค่าความต้านทานขาออกของภาคขยายครับดังนั้นค่าdamping factorจะไม่คงที่ทุกความถี่ครับเนื่องจากค่าความต้านทานของลำโพงมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความถี่ครับและแอมป์ที่กำลังสูงไม่จำเป็นต้องมีDamping factor สูงครับ เราจึงไม่อาจพิจารณาคุณภาพเสียงจากค่าdamping factor ได้ครับ
ส่วนการที่แอมป์หลอดที่บอกกำลังขับเพียงไม่กี่วัตต์นั้น ถามว่ามีการวัดที่ต่างจากแอมป์SSหรือไม่คือไม่ต่างครับ เพียงแต่การที่จะอธิบายให้ละเอียดจะต้องลงลึกถึงการออกแบบภาคขยายครับเดี๋ยวเย็นๆจะมาอธิบายครับ พิมพ์เยอะๆตาลาย
ตัวอย่างครับตัวนี้กำลังขับ 40W

ในขณะที่ตัวนี้ก็40W เหมือนกันดูขนาดหม้อแปลงนะครับ ดังนั้นตัวนี้มีโอกาสที่จะขับลำโพงได้ดีกว่าตัวข้างบนที่กำลังขับเท่ากันครับ แน่นอนราคาก็แพงกว่าด้วย อิอิ

[pongxxx]

ดูวัตต์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูกำลังสำรองของแอมป์ด้วย แอมป์วัตต์สูงย่อมดีกว่าวัตต์ต่ำ แต่มันไม่แน่เสมอไปหรอกแอมป์วัตต์สูงอาจขับลำโพงสู้แอมป์วัตต์น้อยกว่าแต่มีกำลังขับสำรองสูงกว่าไม่ได้ และแอมป์วัตต์สูงแต่กำลังสำรองต่ำ ทำร้ายลำโพงได้ง่ายกว่าและรุนแรงแอมป์วัตต์ต่ำด้วยซ้ำ ไม่เกี่ยวกับเสียงนะครับ เสียงนี้แอมป์ที่มีคุณภาพดีกว่าแม้วัตต์น้อยกว่าขับลำโพงให้เสียงดีกว่าแอมป์วัตต์มากกว่ามีให้เห็นดาษดื่น แต่ว่าแอมป์วัตต์ต่ำตัวนั้นกำลังต้องพอขับลำโพงตัวนั้นออกด้วย

แอมป์ ss ส่วนใหญ่ที่เป็น แอมป์ class a แท้ๆ กำลังสำรองจะสูงกว่า แอมป์คลาสอื่นๆ ส่วนแอมป์หลอดกำลังสำรองสูงกว่าแอมป์ ss ที่กำลังวัตต์เท่าๆกัน ดังนั้น เอากำลังวัตต์แอมป์หลอดเทียบกับแอมป์ ss ตรงๆไม่ได้

ปกติค่า dampping factor ของ แอมป์ ss สูงกว่าแอมป์หลอด และกำลังวัตต์มากกว่า แสดงว่า แอมป์ ss เสียงดีกว่า แอมป์หลอด ???

ยิ่งเล่นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สเป็คแทบบอกอะไรไม่ได้ว่า แอมป์ไหนดีกว่ากัน

[HiddenDragon]

วัตตหลอด เทียบกับวัตต์ rms ต้องคูณ 5 ครับ ^^

สอบถามนิดครับ เนื่องจากความรู้ด้านนี้ผมมีน้อย อยากสอบถามว่าถ้าเครื่องแอมป์หลอดวัตต์ต่ำๆ อย่างประมาณ 7-9 วัตต์ นี่ถ้าเทียบก้ับแอมป์ SS 30 w มันเทียบวัตต์กันตรงๆ ได้เลยหรือเปล่าครับ ว่าแอมป์ SS วัตต์สูงกว่า ขอบคุณครับ

[HiddenDragon]

ขอบคุณที่ช่วยแชร์ครับ ผมเองก็พอเข้าใจแบบงูๆปลาๆเท่านั้นเอง

พอดีเข้ามาเห็นจึงอยากเพิ่มแชร์ความรู้สักนิดนะครับ
จริงจริงแล้วถามว่ากำลังขับของแอมป์ทั้งหลายมีผลกับเสียงที่ได้มากไหม ก็ตอบได้ว่ามากครับ โดยแอมป์ที่มีกำลังขับสูงจะโอกาสที่จะให้เสียงที่ดีกว่าครับ เพียงแต่กำลังขับที่ผู้ผลิตบอกมากับเครื่องที่ซื้อนั้นไม่ได้บอกกำลังขับที่แท้จริงของเครื่องในสภาวะการใช้งานจริงสักเท่าไรครับ เนื่องจากมีวิธีที่จะหลีกเลี่ยงต่างในการวัดเพื่อให้ได้ตัวเลขกำลังขับที่สูงขึ้นได้หลายวิธีครับ เช่น การวัดที่การจ่ายความถี่ต่างกัน หรือการวัดกำลังขับในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่วัดอย่างต่อเนื่อง การวัดที่ความต้านทานLoadในที่นี้คือลำโพงคงที่ (ซึ่งจริงๆแล้วไม่คงที่ครับ) ฯลฯ ทำให้เราพบได้เสมอว่าบางที่แอมป์ที่มีกำลังขับน้อยกว่ากลับให้เสียงที่ดีกว่าแอมป์ที่มีกำลังสูงบางตัวได้ครับ โดยกำลังขับของแอมป์จะถูกกำหนดโดยแรงดันไฟเลี้ยงของภาคขยายและสิ่งที่ทำให้แอมป์ที่บอกกำลังขับเท่ากับอีกตัวแต่เมื่อขับลำโพงกลับเหมือนจะมีกำลังมากว่า อยู่ที่การจ่ายกระแสของภาคขยายครับ โดยแอมป์ราคาถูกจะลดต้นทุนในส่วนของภาคจ่ายไฟ โดยใช้ภาคจ่ายไฟขนาดเล็กจ่ายกระแสได้น้อย เมื่อแอมป์ต้องขยายสัญญาณที่ความถี่ต่ำ ซึ่งต้องการกระแสสูงทำให้ได้เสียงที่ไม่ดีเท่าที่ควรครับ ซึ่งเราจะพบอยู่เสมอว่าบางทีแอมป์ที่บอกกำลังขับเพียง60W กลับขับลำโพงได้ดีกว่าแอมป์ที่บอกกำลังขับ100Wก็มีครับ แล้วถามว่าเราจะประเมินอย่างไรว่าแอมป์ตัวไหนน่าจะขับลำโพงได้ดีกว่าที่กำลังขับเท่ากันนั้นก็ดุได้หลายอย่างครับ ไม่ว่าจะดูจากขนาดหม้อแปลงที่ใช้ ขนาดภาคจ่ายไฟแต่ ฯลฯ จะเห็นได้ว่าดูยากครับ แต่ที่พิจารณาได้ง่ายก็คือ น้ำหนักครับแอป์ที่มีกลังเท่ากันตัวที่หนักกว่าย่อมมีโอกาสที่จะเสียงดีกว่าได้ครับ เนื่องจากน้ำหนักของแอมป์เกือบครึ่งมาจากหม้อแปลงและภาคจ่ายไฟครับ และอีกอย่างคือการลองฟังครับโดยการสังเกตุจากความถี่ต่ำครับ แอมป์ที่จ่ายกระแสได้ดีจะให้ความถี่ต่ำที่สะอาดกระชับไม่เบลอครับ และการจ่ายกระแสของภาคขยายยังมีผลต่อค่าdamping factor อีกด้วยครับ โดยค่าdamping factorไม่ได้คิดจากกำลังขับครับ โดยเป็นการคิดโดยการนำเอาค่าความต้านทานของLoad ในที่นี้คือลำโพงหารด้วยค่าความต้านทานขาออกของภาคขยายครับดังนั้นค่าdamping factorจะไม่คงที่ทุกความถี่ครับเนื่องจากค่าความต้านทานของลำโพงมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความถี่ครับและแอมป์ที่กำลังสูงไม่จำเป็นต้องมีDamping factor สูงครับ เราจึงไม่อาจพิจารณาคุณภาพเสียงจากค่าdamping factor ได้ครับ
ส่วนการที่แอมป์หลอดที่บอกกำลังขับเพียงไม่กี่วัตต์นั้น ถามว่ามีการวัดที่ต่างจากแอมป์SSหรือไม่คือไม่ต่างครับ เพียงแต่การที่จะอธิบายให้ละเอียดจะต้องลงลึกถึงการออกแบบภาคขยายครับเดี๋ยวเย็นๆจะมาอธิบายครับ พิมพ์เยอะๆตาลาย
ตัวอย่างครับตัวนี้กำลังขับ 40W

ในขณะที่ตัวนี้ก็40W เหมือนกันดูขนาดหม้อแปลงนะครับ ดังนั้นตัวนี้มีโอกาสที่จะขับลำโพงได้ดีกว่าตัวข้างบนที่กำลังขับเท่ากันครับ แน่นอนราคาก็แพงกว่าด้วย อิอิ

[HiddenDragon]

คงต้องขอนิยามเพิ่มละครับว่าในคลาสเดียวกันเท่านั้น
^^

ดูวัตต์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูกำลังสำรองของแอมป์ด้วย แอมป์วัตต์สูงย่อมดีกว่าวัตต์ต่ำ แต่มันไม่แน่เสมอไปหรอกแอมป์วัตต์สูงอาจขับลำโพงสู้แอมป์วัตต์น้อยกว่าแต่มีกำลังขับสำรองสูงกว่าไม่ได้ และแอมป์วัตต์สูงแต่กำลังสำรองต่ำ ทำร้ายลำโพงได้ง่ายกว่าและรุนแรงแอมป์วัตต์ต่ำด้วยซ้ำ ไม่เกี่ยวกับเสียงนะครับ เสียงนี้แอมป์ที่มีคุณภาพดีกว่าแม้วัตต์น้อยกว่าขับลำโพงให้เสียงดีกว่าแอมป์วัตต์มากกว่ามีให้เห็นดาษดื่น แต่ว่าแอมป์วัตต์ต่ำตัวนั้นกำลังต้องพอขับลำโพงตัวนั้นออกด้วย

แอมป์ ss ส่วนใหญ่ที่เป็น แอมป์ class a แท้ๆ กำลังสำรองจะสูงกว่า แอมป์คลาสอื่นๆ ส่วนแอมป์หลอดกำลังสำรองสูงกว่าแอมป์ ss ที่กำลังวัตต์เท่าๆกัน ดังนั้น เอากำลังวัตต์แอมป์หลอดเทียบกับแอมป์ ss ตรงๆไม่ได้

ปกติค่า dampping factor ของ แอมป์ ss สูงกว่าแอมป์หลอด และกำลังวัตต์มากกว่า แสดงว่า แอมป์ ss เสียงดีกว่า แอมป์หลอด ???

ยิ่งเล่นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สเป็คแทบบอกอะไรไม่ได้ว่า แอมป์ไหนดีกว่ากัน

[akikkik]

กำลังสำรองดีไม่ดีดูจากไหนครับ ถ้าไม่ได้ดูจากหม้อแปลงตัวใหญ่ ดูจาก spec จะรู้ได้ไหมครับ

[pongxxx]

ปกติผมก็เป็นแฟนติดตามอ่านข้อความของคุณ Hidden อยู่ครับ มีประโยชน์และผมเองก็ได้ความรู้ดีครับ ขอโทษที่ทักท้วง คงไม่ว่านะครับ

กำลังวัตต์เป็นเรื่องที่คนทำแอมป์ขายมักปั้นตัวเลขเกินจริง โดยเฉพาะในเครื่องเสียงราคาไม่แพง วิธีดูขนาดหม้อแปลงเป็นวิธีที่ดี แต่ต้องเปิดเครื่องดู แต่ถ้าจะดูจากสเป็คก็ดูเอาง่ายๆอีกวิธีว่า ถ้าแอมป์จ่ายได้กี่วัตต์ที่ 8 โอมห์ ถ้าที่ 4 โอมห์สามารถจ่ายได้เป็นสองเท่า ถือว่ามีกำลังสำรองสูงแล้วครับ แต่ถ้าที่ 4 โอมห์จ่ายได้มากขึ้นไม่เท่าไร นี้คือกำลังสำรองต่ำครับ

แต่ถ้าเจอปั้นตัวเลขสวยๆ ก็คงใช้ไม่ได้เหมือนกัน เอาไว้ดูกับแอมป์ที่มีมาตราฐานแล้วกัน คงพอช่วยได้