เท่าที่ผมเคยอ่านมา อย่างละเอียดแต่ จำไม่ค่อยได้
มันเป็นการตลาดน่ะครับ
อย่างเช่น(ลำโพง A) 8 โอร์ม อันนี้เป็นค่ากลางลำโพงบ้านที่ใช้กันทั่วหน้า สมมุติว่า 80 watt (ค่านี้อาจจะเป็นกำลังขับมาตรฐานจริง) (ไอ้ขับยากขับง่ายไม่อยากพูดถึง โอร์มมากส่วนใหญ่ วัตต์จะน้อยแต่วัตต์นั้นแท้โคตรถ้าวัตต์เยอะก็แพงโ๕ตรอีกครับ) และก็
(ลำโพง A) 4 โอร์ม อันนี้เขาจะใส่ประมาณ 120 watt
เพื่อให้ดูไม่น่าเกลียด อะครับ (หลอกตา)/ยิ่งพวกวัตต์ pmpo นี่ ที่อเมริกาเขาบอกให้หาร 50 เลยจะได้วัตต์ rms แท้
เสริมนิดกับพวก THD(ค่าความเพี้ยน) เช่น 10% หมายถึง ถ้าลำโพงเร่งไปถึงวัตต์เต็ม เสียงจะเพี้ยนไป 10%
ลำโพงระดับ hifi หรือหลักล้านส่วนใหญ่ เขาจะดูกันที่ 8 โอร์มอะครับ ซึ่งจะได้วัตต์จริงมาก ส่วน THD เขาจะไม่ให้เกิน 0.08 % มั้ง พวกระดับหูทองคำฝังเพชร
ผิดพลาดไงขออภัยครับ อ่านมานานละจำไม่ค่อยจะได้
มันเป็นการตลาดน่ะครับ
อย่างเช่น(ลำโพง A) 8 โอร์ม อันนี้เป็นค่ากลางลำโพงบ้านที่ใช้กันทั่วหน้า สมมุติว่า 80 watt (ค่านี้อาจจะเป็นกำลังขับมาตรฐานจริง) (ไอ้ขับยากขับง่ายไม่อยากพูดถึง โอร์มมากส่วนใหญ่ วัตต์จะน้อยแต่วัตต์นั้นแท้โคตรถ้าวัตต์เยอะก็แพงโ๕ตรอีกครับ) และก็
(ลำโพง A) 4 โอร์ม อันนี้เขาจะใส่ประมาณ 120 watt
เพื่อให้ดูไม่น่าเกลียด อะครับ (หลอกตา)/ยิ่งพวกวัตต์ pmpo นี่ ที่อเมริกาเขาบอกให้หาร 50 เลยจะได้วัตต์ rms แท้
เสริมนิดกับพวก THD(ค่าความเพี้ยน) เช่น 10% หมายถึง ถ้าลำโพงเร่งไปถึงวัตต์เต็ม เสียงจะเพี้ยนไป 10%
ลำโพงระดับ hifi หรือหลักล้านส่วนใหญ่ เขาจะดูกันที่ 8 โอร์มอะครับ ซึ่งจะได้วัตต์จริงมาก ส่วน THD เขาจะไม่ให้เกิน 0.08 % มั้ง พวกระดับหูทองคำฝังเพชร
ผิดพลาดไงขออภัยครับ อ่านมานานละจำไม่ค่อยจะได้
Comment