6 โอห์ม และ 8 โอห์ม คืออะไรครับ และ แบบไหนดีกว่ากัน
Announcement
Collapse
No announcement yet.
6 โอห์ม และ 8 โอห์ม คืออะไรครับ
Collapse
X
-
Originally posted by jang_2324 View Postค่าอิมพิแดนซ์ลำโพงครับ เป็นความต้านทานในกระแสสลับครับ ไม่มีตัวไหนดีกว่ากันครับ อยู่ที่เครื่องเสียงท่านครับ ให้ค่าลำโพงกับแอมป์ของท่านตรงกันดีที่สุดครับ
Comment
-
Originally posted by cynical View Postคือค่าความต้านทานครับ
8 โอห์ม ขับง่ายกว่า 6 โอห์มOriginally posted by TEEHUNTER View Postค่าน้อยยิ่งดังครับเเต่เครื่องขับจะร้อน แต่มากไปก็ดังไม่ดี ทางที่ดี เท่ากับกำลังเครื่องชับของท่านอ่ะครับ
อันนี้ไม่รู้จริงๆ ผมก็โง่เรื่องเครื่องเสียงเหมือนกัน
Comment
-
ลำโพงที่มีค่า Impedance(ค่าความต้านทานในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ) น้อยจะเหมาะกับแอมป์ที่ความสามารถในการจ่ายกระแสได้มากๆ ครับ ดูง่ายๆเลย ลำโพงรถยนต์ 99% จะมีอิมพิแดนซ์ = 4 ohm
ส่วนลำโพงบ้านโดยทั่วไปจะเป็น 8 ohm ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น แอมป์บ้านก็จะออกแบบมาให้รองรับลำโพงที่มี Impedance ตั้งแต่ 4-8 ohm ซึ่งแล้วแต่สเปคของแต่ละยี่ห้อ,แต่ละรุ่น
เรื่องขับง่ายขับยากนี่ต้องไปดูเรื่องของความไว (sensitivity) ของลำโพงเอาครับ แต่จะยกตัวอย่างง่ายๆ นะครับมีลำโพงอยู่ 2 คู่ มีค่าความไวเท่ากันคือ 88dB แต่มีอิมพิแดนซ์ไม่เท่ากันคือ 4 และ 8 ohm
ขับโดยแอมป์ NAD (สมมุติ) ลูกบิด Volume เร่งความดังเสียงอยู่ที่ 10 นาฬิกา
เสียงของลำโพงทั้ง 2 คู่ จะมีความดังเท่ากันครับ แต่คู่ที่เป็น 4 ohm จะทำให้แอมป์เกิดความร้อนมากกว่าคู่ที่เป็น 8 ohm ครับ
Comment
-
Originally posted by tassapon View Postอ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี (อย่าว่ากันนะถ้าโง่นิดนึง)
คือว่า ถ้า 4ohm มันก็หมายถึง ความต้านทานน้อยกว่า แล้วทำไมถึงทำให้ amp ร้อนกว่า 8ohm ได้หล่ะครับ
มันไม่เหมือนตัวต้านทาน (r) หรือ
เมื่อเป็นวงจรไฟฟ้ากระแสสลับจะเรียนค่า R นี้ว่า Impedance ครับ โดยสูตรการคำนวณจะเหมือนกันกับในวงจรกระแสตรงเพียงแต่จะมีเรื่อง power factor เข้ามาเกี่ยวข้องครับ
(ถ้าได้เรียนเรื่องวงจรไฟฟ้ามาจะเข้าใจมากขึ้นครับ)
ขอยกสูตรคำนวณกำลังไฟฟ้ามาให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ
P = I ยกกำลัง 2 * R
P = กำลังไฟฟ้า หน่วยเป็น วัตต์
I = กระแสไฟฟ้า หน่วยเป็น แอมป์
R = ค่าความต้านทาน หน่วยเป็น โอห์ม
ถ้าต้องการกำลังไฟฟ้า 50 วัตต์ โดยมีค่าความต้านทาน = 8 โอห์ม
แทนค่าลงในสูตรแล้วจะได้ I = 2.5 A
แต่ถ้าเปลี่ยนค่าความต้านทานลดลงเป็น 4 ohm
จะได้ I = 3.54 A
จะสังเกตุได้ว่า เมื่อค่าความต้านทานลดลง จะต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังไฟฟ้าเท่าเดิม
เหมือนกันกับลำโพง ถ้ามีอิมพีแดนซ์ลดลง ลำโพงจะต้องการกระแสไฟฟ้าจากแอมป์มากขึ้นครับ
แอมป์ก็จะทำงานหนักขึ้นจึงเกิดความร้อนมากกว่าเดิมครับ
creditรูป : http://www.pwtk.ac.th
Comment
-
Originally posted by CtMonz View Postเหมือนกันครับแต่ R คือค่าความต้านทานในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ครับ
เมื่อเป็นวงจรไฟฟ้ากระแสสลับจะเรียนค่า R นี้ว่า Impedance ครับ โดยสูตรการคำนวณจะเหมือนกันกับในวงจรกระแสตรงเพียงแต่จะมีเรื่อง power factor เข้ามาเกี่ยวข้องครับ
(ถ้าได้เรียนเรื่องวงจรไฟฟ้ามาจะเข้าใจมากขึ้นครับ)
ขอยกสูตรคำนวณกำลังไฟฟ้ามาให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ
P = I ยกกำลัง 2 * R
P = กำลังไฟฟ้า หน่วยเป็น วัตต์
I = กระแสไฟฟ้า หน่วยเป็น แอมป์
R = ค่าความต้านทาน หน่วยเป็น โอห์ม
ถ้าต้องการกำลังไฟฟ้า 50 วัตต์ โดยมีค่าความต้านทาน = 8 โอห์ม
แทนค่าลงในสูตรแล้วจะได้ I = 2.5 A
แต่ถ้าเปลี่ยนค่าความต้านทานลดลงเป็น 4 ohm
จะได้ I = 3.54 A
จะสังเกตุได้ว่า เมื่อค่าความต้านทานลดลง จะต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังไฟฟ้าเท่าเดิม
เหมือนกันกับลำโพง ถ้ามีอิมพีแดนซ์ลดลง ลำโพงจะต้องการกระแสไฟฟ้าจากแอมป์มากขึ้นครับ
แอมป์ก็จะทำงานหนักขึ้นจึงเกิดความร้อนมากกว่าเดิมครับ
creditรูป : http://www.pwtk.ac.th
Comment
-
Originally posted by tugy View Postขอขุดกระทู้เก่ามาตอบนิดนึงนะครับ
จริง ๆ แล้วคำว่า Ohm ไม่น่าจะใช้คำว่า
ความต้านทาน เพราะอาจจะทำให้เกิดความ
เข้าใจผิดระหว่างแปลไทยเป็น Eng จริง ๆ ถ้าใช้
คำว่า ความทนทาน อะไรประมาณนี้จะสื่อสารกันได้ OK กว่าครับhttp://dict.longdo.com/search/Ohm
ในที่นี้ จขกท. พูดถึง 6 โอห์ม และ 8 โอห์ม เป็นที่เข้าใจกันว่าพูดถึงความต้านทานของลำโพง(เป็นโอห์มเหมือนตัวต้านทาน)
จะเห็นว่าในลำโพงถูกๆที่ใช้ประกอปสำเร็จรูปมาเช่นtv/minicompo./ลำโพง+แอมป์ในตัว
บางทีใช้4โอห์ม ด้วยซ้ำไปเหตุผลคือยิ่งความต้านทานต่ำยิ่งขับง่ายสามารถใช้ชิปแอมป์วัตต์ต่ำๆก็ขับเสียงได้ดังกว่าโอห์มสูงๆลดต้นทุนได้บาน
ส่วนลำโพงแพงๆไม่ต้องพูดถึงหรอกครับว่าโอห์มมาก โอห์มน้อย ขับยากขับง่าย(แอมป์ขับลำโพง)
มันขึ้นอยู่กับการออกแบบลำโพงบางทีแอมป์วัตต์สูงๆยี่ห้อดีๆใช่ว่าจะขับลำโพงไม่ว่าโอห์มมาก โอห์มน้อยได้เสียงดีทุกตัว ต้องดูว่ามันไปด้วยกันได้ดีหรือเปล่าอีกที หรือพูดกันว่าแมทไรเนี๊ย
Comment
-
ผมก็ความรู้น้อยนิดนะ
เท่าที่รู้มาการบอกวัตต์ก็เป็นการตลาดเหมือนกัน
ตัวแรกแอมป์ญี่ปุ่นบอกว่า 300 วัตต์ กับ อีกตัวนึง แค่ 100 วัตต์ แต่หนัก40-50กิโล และยี่ห้อ mark levinson เราจะเลือกอะไร
อย่างที่ผมใช้เขาบอกแค่50 ที่8โอห์ม 100 ที่4โอห์ม เขาบอกวัดจริงได้ 80/140
ผมถามคนขายว่าอยากจะซื้อรุ่นที่ใหญ่ขึ้นที่เขียนว่า 100 ที่8โอห์ม 200 ที่4โอห์ม นึกว่าจะได้กำลังเพิ่มขึ้น
คนขายห้าม เขาบอกว่าที่พี่ใช้อยู่น่ะดีแล้ว รุ่นที่ใหญ่ขึ้นมามันแค่เพิ่มความละเอียดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น กำลังก็พอๆกัน
ถ้าฟังดูรุ่นใหญ่อาจฟังแล้วเบสต้นน้อยลงด้วย เพราะไปเพิ่มความละเมียดนั่นเอง
Comment
Comment