Announcement

Collapse
No announcement yet.

หูฟังนี้ต้องเบินไหมครับ5555ไม่รู้

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • หูฟังนี้ต้องเบินไหมครับ5555ไม่รู้

    หูฟังนี้ต้องเบินไหมครับ5555ไม่รู้ ที่แถมมา

  • #2
    ถ้าเบินต้องเบินกี่ชั่วโมงแล้วต้องเบินกับเครื่องอารัยดีที่สุดหรือเบินกับเครื่องเล่นที่เราชื่อมาดีที่สุด อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ

    Comment


    • #3
      ผมเบิร์น กะคอม บ้าง mp3บ้าง 200 ชั่วโมง อ่ะ

      เบิ์ืนเเล้ว แตกต่างอย่างเเรง

      Comment


      • #4
        ทดลองด้วยตัวเองเลยครับ สัก 100 ชม . เห็นผลๆ

        Comment


        • #5
          ขอถามไรหน่อยครับ เบินทำยังไงครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเสียง
          แต่เบินหูฟังคงไม่ทำ ผมจะเบินลำโพง

          Comment


          • #6
            ผมเครมเพิ่งได้มา ตัวใหม่กิ๊งๆ เลย อิอิ

            เปิดทิ้งไว้อยู่เลยค๊าบบบ

            เสียงยังกะอันละ 200 เหอะๆตอนยังไม่ได้เบรินนะ

            ระยะเวลา มันแล้วแต่ driver ของแต่ละตัวอ่าครับ ว่าตัวไหน จะเข้าที่ เร็วกว่ากัน

            แต่ส่วนใหญ่ ถ้าเกิน 200 ชัวโมงเงี้ย จะเข้าที่หมดแล้ว

            Comment


            • #7
              ต้องเบรินอยู่แล้วครับ
              เหตุผลเดียวกับที่ต้องเบรินลำโพงนั่นล่ะ

              ไดร์เวอร์ได้อ่อนตัว เข้าที่เข้าทาง กาวยืด 9ล9 ได้อยู่ไนสภาพที่พร้อมสั่น อิๆๆ

              ซัก100ชม. นี่ก็เห็นผลแล้วครับ ระยะเวลา ของแต่ละอันก็แล้วแต่ บางอันนี่ก็ต้องเบรินนานถึงจะเข้าที่ บางตัว40-50ชั่วโมงก็มาแล้ว

              การเบรินนี่ แค่เปิดเพลงหรือเสียง ไม่ต้องดังมาก ไห้แค่พอมีเสียง ก็พอครับ เหมือนวอมอัฟ
              ไฟล์เบริน ผมไม่แนะนำไห้ไช้เบรินหูฟังครับ ถึงเค้าจะว่ากันว่า ช่วยลดระยะเวลาก็เถอะ แต่มันทรมารหูฟังเปล่าๆ

              ไฟล์ที่ไช้ผมไช้ MDMS (Magnetic Domain Matrix Signals) - System Conditioning and Degaussing CD อย่างเดียวครับ (ถ้าไช้)

              Comment


              • #8
                แล้วต้องมีเพลงหรือโปรแกรมอารัยไช่เบิร์นครับ

                Comment


                • #9
                  ส่งริ้งไห้ก็ได้นะครับจาขอบคุนอย่างมากครับชื่อLGมาครับเสียงยังกะควายออกลูกครับส่งสัยต้องเบรินครับและชื่อsumsungมาจาขายแต่ไม่มีไครสนเลยต้องไช้เองสนไจทิ่งเบอได้นะครับอย่ากขาย

                  Comment


                  • #10
                    burn 100-200ชั่วโมง+ แล้วแต่หูฟังคับ

                    ตัว Grado MS-1 ของผมซื้อมาใหม่ เสียงแสบหูมาก

                    -การ Burn-

                    -อย่าเปิดดังคับ เปิดแค่ที่เราฟังเพลงปกติ
                    -File Burn ผมลอง 1440Kbps ไม่แนะนำให้ทำกับหูฟังคับลองมาแล้ว แนะนำ 320 พอคับ [เล่นเอา ไดร์เวอร์ ผมเสียเลยคับ แต่ถ้าเป็นลำโพงไม่เป็นไรคับแต่ก้ไม่แน่ -*-]
                    -เปิด file เพลง ที่ตัวเองชอบคับ
                    -ไม่ต้อง Burn ติดต่อกัน 200ชั่วโมง ก็ได้คับ มีเวลา burn เมื่อไหร่ก็ burn
                    -burn กับเครื่องเล่นอะไรก้ได้คับ{จีนแดงก็แล้วแต่ไม่รับประกัน} แต่ผม burn กับคอม ผ่าน sb0100

                    Comment


                    • #11
                      "burn-in" หูฟังคำถามยอดฮิตสำหรับคอ MP3

                      "..ช่วงนี้ถ้าเข้าไปอ่านกระทู้ในโต๊ะ Gadget ของหมวด Technical Exchange จะมีคำถามหนึ่งที่จะเห็นประจำทุกวันนอกจากที่ว่าจะซื้อ MP3 รุ่นไหนดีแล้วก็คือจะมีคำถามว่า "burn-in หูฟังคืออะไร" หรือ "เบิร์นหูฟังต้องทำอย่างไรบ้างครับ.."

                      ช่วงนี้ถ้าเข้าไปอ่านกระทู้ในโต๊ะ Gadget ของหมวด Technical Exchange จะมีคำถามหนึ่งที่จะเห็นประจำทุกวันนอกจากที่ว่าจะซื้อ MP3 รุ่นไหนดีแล้วก็คือจะมีคำถามว่า "burn-in หูฟังคืออะไร" หรือ "เบิร์นหูฟังต้องทำอย่างไรบ้างครับ" จนตอนนี้คำถามดังกล่าวเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้ครับตอนนี้ ซึ่งถ้าพวกที่เคยศึกษาด้านเครื่องเสียงมาก่อนจะพอรู้ว่า "burn-in" คืออะไรบ้างแล้ว เพราะนอกจากจะเขาจะ "burn-in" หูฟังแล้ว ชุดลำโพงก็ต้องทำการ "burn-in" ด้วยเช่นกันครับ พอดีไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากเวบต่างประเทศมาก็จะรวบรวมๆนำมาแปลไว้ในที่นี้เพื่อที่จะได้พอไขความสงสัยไปบ้างครับ


                      "burn-in" คืออะไร?
                      การ "burn-in" หรือที่มักเรียกติดปากคนไทยว่าการเบิร์นนั้นจริงๆถ้าจะเทียบก็คล้ายๆการ run-in รถยนต์ใหม่ให้เครื่องเข้าที่ครับ แต่หลายๆท่านจะเข้าใจว่าหูฟังนั้นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า จะไปเทียบกับรถยนต์ไม่ได้ แต่จริงๆแล้วหูฟังจะมีพวกแผ่นไดอะแฟรมที่เคลื่อนไหวให้เกิดเสียงครับ การ "burn-in" หูฟัง หรือลำโพงนั้นก็คือการทำให้แผ่นไดอะแฟรมเหล่านี้เข้าที่เข้าทาง มีการให้ตัวตามที่ควรจะเป็นไม่ได้ตึงแน่นเหมือนกับตอนที่เขาประกอบมาจากโรงงานครับ ซึ่งเมื่อ "burn-in" เข้าที่เข้าทางแล้วคุณภาพเสียงที่ออกมาจากหูฟังก็จะไม่เปลี่ยนไปจากนั้นแล้วครับ เพราะไดอะแฟรมจะเข้าที่แล้ว

                      ถ้าจะ "burn-in" หูฟังหรือลำโพงควรจะทำอย่างไร?
                      การ "burn-in" นั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ แค่ต่อหูฟัง หรือลำโพงเข้ากับแหล่งกำเนิดเสียง จะเป็นวิทยุ AM/FM หรือ CD หรือ MP3 ก็ได้ครับ แล้วก็เปิดให้มีเสียงออกมาจากหูฟังไปเรื่อยๆต่อเนื่อง เท่าที่อ่านดูจากหลายๆแห่งก็แนะนำให้ "burn-in" เป็นระยะเวลาสัก 100ชั่วโมงขึ้นไป หูฟัง หรือชุดลำโพงนั้นก็จะเข้าที่เข้าทางแสดงเสียงออกมาดูดีมีราคาขึ้นกว่าตอนที่ซื้อมาครับ แต่ถ้าไม่อยากจะเปิดเพลงทิ้งให้หูฟัง "burn-in" ต่อเนื่องก็จะสามารถใช้ฟังเพลงตามปรกติไปเรื่อยๆได้ครับ ก็ถือว่า "burn-in" ได้เช่นกัน แต่แบบนี้กว่าจะ "burn-in" ได้ที่ก็ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าสักระยะหนึ่ง ดังนั้นหลายๆคนจึงเลือกที่จะ "burn-in" หูฟังทิ้งไว้ต่อเนื่องก่อนที่จะนำไปใช้งานจริงครับ นอกจากจะ "burn-in" ด้วยเพลง หรือสัญญาณเสียงจากวิทยุแล้ว บางท่านก็จะมีโปรแกรมสำหรับ generate คลื่นเสียงออกมาสำหรับ "burn-in" หูฟังโดยเฉพาะครับ ลองหาโหลดมาใช้ได้ ซึ่งผลที่ได้รับในท้ายสุดก็คือไดอะแฟรมจะถูกปรับสภาพให้เข้าที่เช่นกันครับ ก็เลือกวิธีตามสะดวกได้เลยครับ ส่วนระหว่างการ "burn-in" นั้นจะเอาหูฟังมาสวมฟังเพลงไปเลย หรือจะเอาไปยัดใต้โต๊ะก็ได้เช่นกันครับ

                      จำเป็นที่จะต้อง "burn-in" หูฟังให้เสร็จก่อนที่จะนำไปใช้จริงหรือไม่?
                      ไม่จำเป็นครับอย่างที่บอกไว้แล้วคือแล้วแต่สะดวก เพราะถึงแม้ว่าจะแกะกล่องออกมาแล้วใช้งานเลย ใช้ไปสักระยะนึงหูฟังก็จะเข้าที่เข้าทางเช่นกัน ก็เป็นการ "burn-in" ชนิดหนึ่งได้ แต่หลายๆคนอยากจะให้เสียงของหูฟังเข้าที่ก่อนที่จะนำมาใช้งานจริง ก็มักจะเลือกที่จะทำการ "burn-in" ก่อนนำมาใช้งานจริง แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องลำบากครับ

                      จำเป็นหรือไม่ที่หลังจาก "burn-in" แล้วเสียงของหูฟังจะดีขึ้นกว่าตอนซื้อมาใหม่มาก?
                      ข้อนี้ก็ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ต้องแล้วแต่รุ่น หรือแล้วแต่หูฟังแต่ละตัวเลยครับ บางตัวที่ประกอบมาแล้วพอดีชิ้นส่วนต่างๆเกือบจะเข้าที่อยู่แล้วพอ "burn-in" เสร็จก็แทบจะไม่เห็นผลเท่าใดนัก แต่บางตัวที่ส่วนประกอบไดอะแฟรมค่อนข้างจะตึงมากพอ "burn-in" แล้วก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากอย่างเห็นได้ชัดครับ การ "burn-in" เป็นการทำให้หูฟังเข้าที่ตามที่มันควรจะเป็นเฉยๆ ไม่ใช่การทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นนะครับต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วย

                      การ "burn-in" นานเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียหรือไม่?
                      การ "burn-in" นั้นอย่างที่บอกไว้คือการทำให้ชิ้นส่วนขับเสียงของหูฟังเข้าที่เข้าทางอย่างที่มันควรจะเป็น และเมื่อ "burn-in" ถึงจุดนั้นแล้วชิ้นส่วนต่างๆก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากนั้นแล้ว ฉะนั้นถึงจะ "burn-in" นานกว่าเดิมไปเท่าไรเสียงก็จะยังคงเหมือนจุดที่ "burn-in" เข้าที่พอดีครับไม่มีผลใดๆ

                      ระดับเสียงที่ใช้ระหว่าง "burn-in" ควรจะเป็นที่ประมาณเท่าใด?
                      ระดับเสียงที่จะใช้นั้นก็ประมาณที่เราใช้ฟังเพลงปรกติและสบายหูละครับ หรืออาจจะดังกว่าที่เราฟังปรกตินิดๆหน่อย เพราะถ้าเปิดเสียงดังมากไปอาจจะสร้างความเสียหายให้หูฟังเสียไปได้เลยครับ ดังนั้นเสียงไม่ควรที่จะดังมากไปครับ แต่ถ้าเสียงเบามากไปก็จะไม่ค่อยมีผลในการ "burn-in" เช่นกันครับ

                      หวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยไขข้อข้องใจไปบ้างนะครับ ทิ้งท้ายไว้นะครับว่า "burn-in" ไม่ใช่วิธีพิเศษอะไรที่จะทำให้หูฟังคุณภาพต่ำมีเสียงระดับหูทิพย์ฟัง แค่เป็นการทำให้ชุดหูฟังเข้าที่เข้าทางเปล่งเสียงออกมาได้ตามสเป็คที่โรงงานผลิตออกมาเท่านั้นครับ

                      บทความจากคุณ ../ TechX แห่งเวปพันธ์ทิพย์

                      Comment


                      • #12
                        -ขอบคุน

                        Comment

                        Working...
                        X