Tweet
ซื้อจีนแดงดีกว่า เทพกว่าเยอะ..!!
-
-
-
-
ได้ความรู้ดีครับComment
-
ของที่ผลิตเมืองไทยแต่ส่งไปต่างประเทศ คนไทยไม่มีโอกาสได้ใช้นะครับ แค่ผลิตเท่านั้นแต่ไม่ได้ขายในเมืองไทย แล้วของที่ผลิตก็เป็นมาตรฐานทางบริษัทแม่ที่สั่งมาเท่านั้น จะเห็นได้จากฮาร์ดดิส เสื้อผ้า และก็อะไรอีกหลายอย่างที่ผลิตในไทยแต่ส่งไปต่างประเทศ พอไปประเทศที่สั่งเราผลิต ไปก็ซื้อของที่มีแบรด์แต่กลับระบุว่า made in Thailand แต่จงภูมิใจว่า ถ้า made in Thailand คือของมีคุณภาพถ้าเทียบกับทางของจีน เราดูมีเกรดกว่าเยอะComment
-
ไม่มี DDTS-100 ใช้กะเขาหรอกOriginally posted by battlecruiser View Post
หนีซาวด์การ์ดไปใช้ AVR แล้ว เลยอยากรู้ว่า DDTS-100 มันมีดีอย่างไร
Comment
-
ไม่ได้ใช้ลำโพงรุ่นที่กล่าวถึงกัน แต่ใช้รุ่นที่มี Digital In เหมือนกัน เลยจะเล่าให้ฟังเฉยๆ คือ ตอนนี้ใช้ Boston BA790 เก่าโครตๆ 5 ปีล่ะมั๊ง ตอนแรกสุดซื้อมาต่อ Digital กะ Sound Blaster Live! สารภาพว่าแยกไม่ออกว่าต่อ Digital กะ Analog เสียงต่างกันยังไง แต่ก็ต่อ Digital ไว้
จากนั้นได้ลองใช้ Sound Onboard (Live! พังไปแล้ว) ของ Asus P4B533 ถ้าจำไม่ผิดจะเป็น C-Media 8738 ซึ่งมี Digital Out ที่ต่อกะ Digital In กะ Boston ได้ (คิดว่าเสียงไม่น่าจะต่างกันชัดเจนจนรู้สึกได้) ซึ่งเสียงที่ได้นั้น ผมคิดว่ามันด้อยกว่า Live! พอสมควรยิ่ง BASS นี่บางลงไปเยอะทีเดียว เลยเกิดอาการงงว่า ตกลงคุณภาพเสียง ไม่ได้ขึ้นกะ DAC อย่างเดียวหรอ เจ้า DSP มันเกี่ยวไหมเนี่ยกะคุณภาพเสียง นี่เป็นข้อข้องใจอย่างแรก
ต่อมาได้ Sound Blaster Audigy DE มาใหม่ แรกๆ ก็ต่อ Digital เหมือนเดิมเสียงแทบจะไม่ต่างกะ Live! เลย แต่ดีกว่า Sound Onboard แน่ๆ มีอยู่วันนึงไม่มีไรทำเลยลองเปลี่ยนจาก Digital เป็น Analog ปรากฏว่า โอโห! เสียงดีกว่าแบบรู้สึกได้ เลยต่อแบบ Analog ตลอดมา สิ่งที่ผมคคิดเอาไว้คือ DAC ของ Boston ตัวนี้มันสู้ของ Audigy ไม่ได้ ทำให้ Digital In ที่ Boston ไม่มีค่าอีกต่อไปสำหรับผม
ยิ่งตอนนี้ (ปัจจุบัน) ได้ Sound Blaster Audigy 2 มาเสียงยิ่งดีกว่า Audigy DE อย่างชัดเจน เลยเริ่มๆ มาหาข้อมูลเรื่อง DAC ว่าแต่ละตัวใช้ DAC อะไรกันบ้าง ที่ทราบตอนนี้ Audigy2/2ZS ใช้ Cirrus CS4382 ซึ่งค่อนข้างดีกว่า Audigy DE ที่ใช้ Philips UDA1328T และดีกว่า Live! ที่ใช้ SigmaTel STAC9708T อย่างไม่ต้องสงสัย
ทีนี้เกิดความสงสัยว่า ไอ้เจ้า Boston BA790 นี้มันใช้ DAC อะไรหนอ เลยลองแกะมันออกมาดู ปรากฏว่าเป็น Philips UDA1350T !! ทำให้เกิดอาการงงเล็กน้อย เพราะดูจากเบอร์แล้วน่าจะดีกว่า Audigy DE แต่ทำไมตอนนั้น ถึงฟังว่า DAC ของ Audigy DE ฟังเพราะกว่า
ทำให้เกิดคำถามขึ้นอีกว่าว่า ตกลงว่า หูผมมันตึง หรือว่า เบอร์ชิบมันไม่ได้สื่อว่าเลขมากจะดีกว่าหรือป่าว และบวกกับข้อสงสัยเดิมคือ เจ้า DSP เองมีผลกับเสียงหรือไม่ เพราะไม่ได้เปิดการทำงานมันเลย...(ไม่เคยปรับแต่งเสียงใดๆ EQ, Effect, 3D หรือของปรุงแต่งต่างๆ Off ทั้งหมด เพราะชอบฟังแบบเดิมๆ มากกว่า )
เหอๆ พิมพ์มาก็ไม่มีอะไร ให้อ่านกันเล่นๆ หรือใครแก้ข้อสงสัยผมได้ก็ได้โปรดช่วยด้วยนะครับ ขอบคุณครับLast edited by quake_the_rock; 10 May 2008, 22:48:34.Comment
-
ดันต่อไปครับ
รอความเห็นที่แตกต่างจากผู้ที่ใช้งานมาเล่าสู่กันฟัง เป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจมากเลยครับ
Comment
-
ตามท่าน quake_the_rock เลยครับ DAC แถมในตัวลำโพงหลายๆรุ่น เกือบทุกรุ่น เสียง สู้ soundcard ไม่ได้
และการอัพรุ่น soundcard ใน ระบบ digital แทบไม่ช่วยให้เสียงดีขึ้นเลย
มันมาแค่ใหน ก็ตันอยู่แค่นั้นComment
-
DAC ตัวเดียวกัน แต่การออกแบบวงจรต่างด้วยนิครับ อิอิอิอิComment
-
ดันต่อครับ สำหรับความคิดเห็นอันหลากหลาย ที่เข้ามาถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ กรุณาช่วยเข้ามามีส่วนในการแสดงความคิดเห็นล่วยครับ
Comment
-
ดันต่อไปครับ ยังมีคนที่มีความรู้มีประสบการณ์ที่พอจะนำเสนอให้คนที่เข้ามาอ่านได้ประโยชน์จากความคิดเห็นอันหลากหลายComment
-
ดันครับ อยากได้ความรู้จากประสบการณ์ต้องดันComment
-
ดันต่อไป ทุกคนมีส่วนในการออกความเห็นได้ แต่ต้องอยากให้ออกไปในทางสร้างสรรค์ครับ อารมณ์ปลดปล่อยมันไปก่อน อย่าให้มีผลกับการแสดงออกมากนักComment
-
ถูกต้องคร๊าาบบบบบบบDAC ตัวเดียวกัน แต่การออกแบบวงจรต่างด้วยนิครับ อิอิอิอิ
เห็นด้วยคนครับ
Comment
Comment