สรุป คือใครชอบแนวไหน ก็ฟังแนวนั้นละกันครับ ใครชอบแนว Bose ก็ฟัง Bose ไปครับเพราะมันก็มีความเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Bose ในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบKLIPSCH ก็ฟัง KLIPSCH ไป เพราะ KLIPSCH ก็มีความโดดเด่นอยู่ในตัวอยู่แล้วตามสไตล์ KLIPSCH เหมือนกัน ซึ่งคนฟังนั่นแหล่ะจะเป็นคนตัดสินได้เป็นอย่างดีครับ
Announcement
Collapse
No announcement yet.
ภาพถ่ายจากลูกค้าที่ซื้อ KLIPSCH PROMEDIA 2.1 THX ไปครับ
Collapse
X
-
-
ลำโพง อัตราภาษี ศุลการกร 30 % + Vat 7 %
Originally posted by ozza View Postมันต้องเสียภาษีด้วยหรอ30% ค่าคลังสินค้า-*-
เอา 1 + 2 = ภาษีที่ต้องเสียทั้งหมดครับ
ในการเคลียร์สินค้าที่ส่งมาทางไปรษณีย์ ที่มีใบรับให้ไปรับสินค้าที่ไปรษณีย์ แถว ๆๆ หัวลำโพง กับ
แจ้งวัฒนะ + ทาง Air + ท่าเรือต่าง ๆ ต้องมีค่าเช่าโกดัง เช่น มาทาง Air เข้าคลัง การบินไทย อัตรา 50 KGM = 62 บาท / วัน
Comment
-
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ozza
มันต้องเสียภาษีด้วยหรอ30% ค่าคลังสินค้า-*-
วิธีคิดนะครับ (ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ประกันภัย) * อัตราภาษี = ....1.... + (ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ประกันภัย) =.............. * vat 7 % =..........2........
เอา 1 + 2 = ภาษีที่ต้องเสียทั้งหมดครับ
ในการเคลียร์สินค้าที่ส่งมาทางไปรษณีย์ ที่มีใบรับให้ไปรับสินค้าที่ไปรษณีย์ แถว ๆๆ หัวลำโพง กับ
แจ้งวัฒนะ + ทาง Air + ท่าเรือต่าง ๆ ต้องมีค่าเช่าโกดัง เช่น มาทาง Air เข้าคลัง การบินไทย อัตรา 50 KGM = 62 บาท / วัน
__________________
Comment
-
ถ้าใครเห็นว่าบนอินเตอร์เน็ตของถูกลองสั่งดูครับเผื่อจะได้ของถูกกว่าผม ถ้าแพงกว่าอย่ามาโทษกันนะครับ มันต้องแลกกับประสบการณ์ที่ต้องจ่ายไปครับ แล้วจะรู้ซึ้งครับว่ามันไม่ได้ง่ายหรือถูกอย่างที่คิดครับ เค้าคิดหมดทุกอย่างตามที่คุณ Takai โพสไว้ ข้างบน จึงขอสรุปนะครับว่า คนซื้อสบายกว่าคนสั่งหรือนำเข้ามาครับ คนซื้อแค่ต่อรองราคาอย่างเดียวแล้วก็จ่ายเงิน แต่คนสั่งนี่ซิต้องดำเนินการเองหมดทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง บางทีที่คิดไว้ตอนแรกมันเท่านี้ แต่พอจ่ายจริงมันมากกว่าที่คิดอีกครับ เผลอๆถ้าไปตกลงกับลูกค้าเค้าไว้แล้ว บางทีอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นจากราคาที่ตกลงกับลูกค้าไว้ กำไรจึงไม่ต้องพูดถึง บางทีถ้าลูกค้ายอมรับส่วนที่เกินได้ ก็โชคดีไปไม่ขาดทุน ถ่้าลูกค้าไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมควักเงินตัวเองจ่ายส่วนที่เกินไป เพื่อรักษาคำพูดที่ได้ตกลงไว้ นี่แหล่ะครับมันยุ่งยากจนบางทีก็ไม่มีใครอยากนำเข้ามา เพราะราคาค่าใช้จ่ายมันมากกว่าราคาของครับเป็นเท่าตัว ถ้าของเล็กก็ยังพอหิ้วเข้ามาได้ แต่ของชิ้นใหญ่การจะหิ้วก็คงทำได้ไม่ง่ายนัก แล้วเอาเข้ามาจำนวนมากไม่ได้ครับ แค่ชิ้นเดียวก็ไม่มีใครอยากจะหิ้วแล้วครับ
Comment
-
จะไปอเมริกาเอง ก็มีค่าเครื่องบิน ค่าวีซ่า[ไม่ใช่ได้ง่ายๆ] ค่าโรงแรม ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเสียเวลา หยุดงาน ต้องวางแผนโหลดเข้ากระเป๋า แบกลาก ค่าแท๊กซี่ ไหนจะเสี่ยง หิ้วกลับมาเจอคัสตอมตรวจอีก
แต่ผมเคยซื้อเครื่องเกมส์และอะไหล่รถ กับพ่อค้าหลายคนที่หิ้วของเข้ามาจาก ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ เขาหิ้วเข้ามาเอากล่องๆใหญ่ๆ หลายกล่อง ใส่ถุงๆ นน.เกินพอประมาณ ผ่านเข้ามาง่ายดาย ไม่ได้โดนตรวจ ไม่รู้เส้นใหญ่ ยัดเงินกันยังไง
แต่สินค้าแต่ละอย่าง มันถูกกว่าไทย บางอย่าง 100%-200% เลยนะครับ
ว่าแล้ว ก็หาหนทางต่อไป
Comment
-
ถ้าของขนาดไม่ใหญ่เกินไป ก็ยังพอหิ้วกันได้ แต่ต้องเอามาจำนวนมากถึงจะคุ้มกับค่าเดินทาง ยิ่งเป็นลำโพงของขนาดแบบนี้ นน. ขนาดนี้ ใครคิดว่าหิ้วกันง่าย ผมขอฝากหิ้วด้วยคนนะครับ ลองเสนอราคามาครับ ผมจะได้ขายของถูกลงด้วยครับ แต่มีข้อแม้ว่าของต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีการแกะกล่องนะครับทุกอย่างต้องอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนผมนำเข้า สั่งเลยครับอย่างน้อย 10 ชุดLast edited by ultraline; 23 Apr 2008, 05:31:51.
Comment
-
Comment