สคบ. เตือนผู้บริโภคที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกฉกเงินในบัญชีธนาคาร โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วและกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หวั่นผลกระทบเป็นวงกว้างหลังจากพบว่ามีการร้องเรียนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆทั้งจากผู้ฝากเงินและสถาบันการเงิน
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แจ้งเตือนว่าบริการธนาคารออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายปีที่ผ่านมาอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ตเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารจัดการด้านการเงิน แต่การใช้บริการดังกล่าวโดยการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นอย่างมากต่อบุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจต่างๆ
สคบ.และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แนะนำให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์โดยเด็ดขาดเพราะนอกจากจะเป็นการละเมิดกฎหมายแล้วผู้บริโภคยังจะทำให้ตัวเองและครอบครัวเสี่ยงต่อการถูกอาชญากรคอมพิวเตอร์หลอกด้วย ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าผู้ขายซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มีเจตนาติดตั้งมัลแวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการคุกคามต่างๆ
นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระบุว่า ?บริการธนาคารออนไลน์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ลูกค้าพบว่าบริการดังกล่าวมีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดกรณีการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ และที่มากไปกว่านั้น การใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง?
รองเลขาธิการ สคบ. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ?ผู้กระทำความผิดโดยการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ได้พัฒนาวิธีการที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อปลอมบัตรต่างๆที่ออกจากธนาคาร โดยการเจาะเข้าระบบเพื่อดูรหัสผ่าน และหลอกให้เปิดเผยข้อมูลทางด้านการเงิน (phishing) ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้บริโภค แม้ว่าธนาคารและสถาบันการเงินทั้งหลายจะได้ทำการอัพเกรดระบบป้องกันความปลอดภัยของระบบออนไลน์เป็นประจำก็ตาม แต่อาชญากรคอมพิวเตอร์ก็ยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน?
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แจ้งเตือนว่าบริการธนาคารออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายปีที่ผ่านมาอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ตเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารจัดการด้านการเงิน แต่การใช้บริการดังกล่าวโดยการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นอย่างมากต่อบุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจต่างๆ
สคบ.และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้แนะนำให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์โดยเด็ดขาดเพราะนอกจากจะเป็นการละเมิดกฎหมายแล้วผู้บริโภคยังจะทำให้ตัวเองและครอบครัวเสี่ยงต่อการถูกอาชญากรคอมพิวเตอร์หลอกด้วย ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าผู้ขายซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มีเจตนาติดตั้งมัลแวร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้รับการอัพเดทระบบรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการคุกคามต่างๆ
นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระบุว่า ?บริการธนาคารออนไลน์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ลูกค้าพบว่าบริการดังกล่าวมีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดกรณีการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ และที่มากไปกว่านั้น การใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง?
รองเลขาธิการ สคบ. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ?ผู้กระทำความผิดโดยการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ได้พัฒนาวิธีการที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อปลอมบัตรต่างๆที่ออกจากธนาคาร โดยการเจาะเข้าระบบเพื่อดูรหัสผ่าน และหลอกให้เปิดเผยข้อมูลทางด้านการเงิน (phishing) ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้บริโภค แม้ว่าธนาคารและสถาบันการเงินทั้งหลายจะได้ทำการอัพเกรดระบบป้องกันความปลอดภัยของระบบออนไลน์เป็นประจำก็ตาม แต่อาชญากรคอมพิวเตอร์ก็ยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน?
Comment