Tweet
โชว์วาดรูปบน Galaxy Note 10.1 เจ๋งดีนะ (มีคลิป)
เนื่องจากว่า ทางซัมซุงประเทศไทย ได้ให้เครื่องมาใช้งานชั่วคราวเพื่อทดสอบการทำงานของเจ้า Note 10.1 นี้ในด้านต่างๆ ผมก็เอาเครื่องมาใช้พอสมควร วาดไปหลายรูป 55 เลยว่าจะเรียบเรียงประสบการณ์การใช้งานเป็นบทความไว้เสียหน่อย
อันดับแรก ข้อมูลจำเพาะ รายละเอียดขนาดตัวเครื่อง แนะนำให้ดูที่เว็บซัมซุงเองครับ << ตามลิงก์
เรื่องสเปคกับการใช้งานจริงนั้น หลายครั้งที่มันเป็นคนละเรื่องกัน ก็จะเน้นรีวิวแบบใช้งานนะครับ
ขนาดตัวเครื่องเมื่อเทียบกับฝ่ามือ
1.1.jpg
^ ถือว่าจับมือเดียวได้อยู่ แต่ถ้ามือผู้หญิงเล็กๆ นี่ก็ไม่แน่ แต่คิดว่ามันถูกออกแบบมาให้จับ 2 มือเป็นหลักครับ เพราะซัมซุงไม่ได้ออกแบบพอร์ตเชื่อมต่อ หรือปุ่มใดๆ ไว้ที่ด้านข้าง ซ้าย-ขวา เลย แสดงว่าคงไว้ให้จับได้เต็มที่ ส่วนปากกาจะเหน็บมาที่มุมล่างขวาของตัวเครื่อง
ฟีเจอร์ต่างๆ
1.4.jpg
^ เจ้าโน้ต 10.1 นี้ มาพร้อมฟีเจอร์หลายตัวที่ซัมซุงดูจะตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่าง เช่น การความสามารถมัลติทาร์กกิ้ง หรือทำงานได้พร้อมกันแบบคู่ขนานไปได้จริงๆ คือต้องเข้าใจก่อนว่าพวก Tablet เหล่านี้โตมาจากสายมือถือ ซึ่งหน้าจอขนาดเล็ก ดังนั้นต่อให้สเปคเครื่องแรงยังไง รูปแบบการทำงานก็ยังต้องเปิดที่ละโปรแกรม, เปิดใช้งานแอพนึงก็เต็มหน้าจอ แอพที่เหลือไปรันอยู่เบื้องหลัง เพื่อสแตนบาย รอการเรียกใช้ หรือสักพัก ก็จะปิดโปรเซสตัวเองไป (แม้ซีพียู และแรมของเครื่องจะไปไกลแล้ว แต่ฝั่งซอฟ์แวร์ยังเป็นแบบนั้นอยู่) จนกระทั่งเจ้าโน้ต 10.1 ตัวนี้แหล่ะครับ ที่สร้างระบบใหม่ขึ้นมา คือกดปุ่มขวาบน รูปสี่เหลี่ยมสองช่อง เพื่อแบ่งขนาดหน้าจอเป็น 2 ส่วน ให้ทำงานคู่กันไป
แนวคิดนี้เป็นการใช้พื้นที่ของ Tablet ได้คุ้มค่า และแสดงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ด้วย แต่ก็ยังมีข้อเสียครับ คือยังใช้ได้จำกัดไม่กี่แอพ แต่ก็ครอบคลุมการทำงานทุกชนิด เช่น ดูวิดีโอ, เล่นเพลง, ใช้อินเตอร์เน็ต, วาดรูปด้วย S-Note, หรือ ทำงานกับชุดออฟฟิศ ฯลฯ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงแล้ว แต่ถ้าใช้แอพตัวอื่น ที่โหลดมาเพิ่มเอง พวกนั้นก็จะไม่มีฟีเจอร์นี้
ฟีเจอร์นี้มันดียังไง : มันดีตรงที่คนส่วนใหญ่มักใช้อินเตอร์เน็ตไปด้วย ระหว่างทำงาน เช่นเล่นโซเชียลต่างๆ ค้นข้อมูล เราก็จะได้หา reference ไปด้วยได้ และวาดรูปไปด้วย อะไรประมาณนั้น, การแบ่งครึ่งจอนั้นทำได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ถือว่าสะดวกดี
ฟีเจอร์นี้มันเสียยังไง : ระหว่างเราสลับไปอีกจอนึง โดยเอานิ้วจิ้มเพื่อเลือก หรือลากนิ้ว ประมาณ 1-2 วินาทีแรก มันจะหน่วงแป้บนึง พอมันรู้ว่าเรากำลังจิ้มที่ครึ่งจอไหน แล้วจะจะใช้งานได้ดีขึ้น
รูปที่วาดโดยใช้ galaxy note 10.1
1.8.jpg
สรุปโดยรวม
ผมว่า Note 10.1 สอบผ่าน ในฐานะอุปกรณ์ Tablet สำหรับวาด ที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ (เว้นแต่ใครคิดจะไปซื้อ Wacom Cintiq 24HD อุปกรณ์ Tablet + ปากกา โดยผู้ผลิตเม้าส์ปากกาที่ทำปากกาให้ Note 10.1 นี่แหล่ะ แต่ทางโน้นราคาเครื่องละแสนกว่าบาท o_O! ) เพราะการใช้งานอุปกรณ์พวกนี้ ไม่ใช่เป็นแค่ฮาร์ดแวร์ แต่รวมถึงการพัฒนาซอฟ์แวร์ เพื่อดึงความสามารถของอุปกรณ์ให้คุ้มค่าที่สุดด้วย แต่ถ้าคุณเป็นแค่ใครสักคนที่หา Tablet เพื่อใช้งาน แน่นอน ด้วยราคาเปิดตัว 21,900 มันอาจเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูงเกินไป เพราะในตลาด ยังมี Tablet มากกมายที่ราคาต่่ำกว่านี้ และคำแนะนำสุดท้าย อย่าเชื่อคนอื่น จนกว่าจะได้ลองใช้งานด้วยตัวเองครับ
Note 10.1 มันดียังไง : ปากกา S-Pen เขียนเพลิน, Touch Wiz (การออกแบบระบบโต้ตอบการใช้งานตัวเครื่องเครื่อง) ซัมซุงออกมาทำได้ดี ผมลองเปลี่ยน Launcher เป็นตัวอื่นดู (Go Lanucher) พบว่าพอมาอยู่บน Note10.1 มันแย่มาก เพราะขนาดหน้าจอใหญ่ ไอคอนต่างๆ เลยใหญ่เกินความจำเป็น เลยต้องกลับมาใช้ Launcher ที่ติดมากับเครื่องเองนั่นแหล่ะดีแล้ว, น้ำหนักเบา แบตอึด เสียงดังดีตามที่ควรเป็น
Note 10.1 มันเสียยังไง : เครื่องมาพร้อมกับหน้าจอที่ขนาดความละเอียด 1,280x800 ซึ่งถือว่าใช้ได้ ความละเอียดใหญ่กว่ามือถือทั่วไปแล้ว และไม่มีผลต่อการใช้งานในการมองทั่วๆ ไป แต่ส่วนตัวคาดหวังให้ความละเอียดมากกว่านี้ ตรงนี้มีผลต่อการ Export ไฟล์ภาพ จะจำกัดอยู่ที่ขนาดเท่าหน้าจอเครื่อง (แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมือถือแอนดรอยด์ที่จะมีหน้าจอละเอียดกว่านี้ในตอนนี้นะครับ), หลายคนคาดหวังวัสดุที่ดีกว่านี้ แต่ส่วนตัวไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้ เพราะซัมซุงทำให้ Note 10.1 เบากว่า New iPad อยู่เกือบ 1 ขีด ซึ่งมีผลต่อการใช้งานพอสมควร สำหรับอุปกรณ์ที่หนักเพียง 5-6 ขีด และต้องถือบ่อยๆ อีกอย่างแม้ว่าจะใช้วัสดุที่แข็งแรงแค่ไหน ผมก็ไม่เคยเห็นใครใช้ Tablet ขนาด 10 นิ้วโดยไม่ใส่เคสครับ ถ้าเป็นคนซีเรียสเรื่องนี้อย่าลืมว่าความแข็งแรงมันก็จะบวกไปกับเคสอยู่ดี ;D
ตามไปอ่านรายละเอียด เกี่ยวกับความสามารถของปากกา S-Pen และ S-note ได้ที่ http://yimlamai.com/web/conDetail.asp?p=3201283054515
อันดับแรก ข้อมูลจำเพาะ รายละเอียดขนาดตัวเครื่อง แนะนำให้ดูที่เว็บซัมซุงเองครับ << ตามลิงก์
เรื่องสเปคกับการใช้งานจริงนั้น หลายครั้งที่มันเป็นคนละเรื่องกัน ก็จะเน้นรีวิวแบบใช้งานนะครับ
ขนาดตัวเครื่องเมื่อเทียบกับฝ่ามือ
1.1.jpg
^ ถือว่าจับมือเดียวได้อยู่ แต่ถ้ามือผู้หญิงเล็กๆ นี่ก็ไม่แน่ แต่คิดว่ามันถูกออกแบบมาให้จับ 2 มือเป็นหลักครับ เพราะซัมซุงไม่ได้ออกแบบพอร์ตเชื่อมต่อ หรือปุ่มใดๆ ไว้ที่ด้านข้าง ซ้าย-ขวา เลย แสดงว่าคงไว้ให้จับได้เต็มที่ ส่วนปากกาจะเหน็บมาที่มุมล่างขวาของตัวเครื่อง
ฟีเจอร์ต่างๆ
1.4.jpg
^ เจ้าโน้ต 10.1 นี้ มาพร้อมฟีเจอร์หลายตัวที่ซัมซุงดูจะตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่าง เช่น การความสามารถมัลติทาร์กกิ้ง หรือทำงานได้พร้อมกันแบบคู่ขนานไปได้จริงๆ คือต้องเข้าใจก่อนว่าพวก Tablet เหล่านี้โตมาจากสายมือถือ ซึ่งหน้าจอขนาดเล็ก ดังนั้นต่อให้สเปคเครื่องแรงยังไง รูปแบบการทำงานก็ยังต้องเปิดที่ละโปรแกรม, เปิดใช้งานแอพนึงก็เต็มหน้าจอ แอพที่เหลือไปรันอยู่เบื้องหลัง เพื่อสแตนบาย รอการเรียกใช้ หรือสักพัก ก็จะปิดโปรเซสตัวเองไป (แม้ซีพียู และแรมของเครื่องจะไปไกลแล้ว แต่ฝั่งซอฟ์แวร์ยังเป็นแบบนั้นอยู่) จนกระทั่งเจ้าโน้ต 10.1 ตัวนี้แหล่ะครับ ที่สร้างระบบใหม่ขึ้นมา คือกดปุ่มขวาบน รูปสี่เหลี่ยมสองช่อง เพื่อแบ่งขนาดหน้าจอเป็น 2 ส่วน ให้ทำงานคู่กันไป
แนวคิดนี้เป็นการใช้พื้นที่ของ Tablet ได้คุ้มค่า และแสดงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ด้วย แต่ก็ยังมีข้อเสียครับ คือยังใช้ได้จำกัดไม่กี่แอพ แต่ก็ครอบคลุมการทำงานทุกชนิด เช่น ดูวิดีโอ, เล่นเพลง, ใช้อินเตอร์เน็ต, วาดรูปด้วย S-Note, หรือ ทำงานกับชุดออฟฟิศ ฯลฯ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงแล้ว แต่ถ้าใช้แอพตัวอื่น ที่โหลดมาเพิ่มเอง พวกนั้นก็จะไม่มีฟีเจอร์นี้
ฟีเจอร์นี้มันดียังไง : มันดีตรงที่คนส่วนใหญ่มักใช้อินเตอร์เน็ตไปด้วย ระหว่างทำงาน เช่นเล่นโซเชียลต่างๆ ค้นข้อมูล เราก็จะได้หา reference ไปด้วยได้ และวาดรูปไปด้วย อะไรประมาณนั้น, การแบ่งครึ่งจอนั้นทำได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ถือว่าสะดวกดี
ฟีเจอร์นี้มันเสียยังไง : ระหว่างเราสลับไปอีกจอนึง โดยเอานิ้วจิ้มเพื่อเลือก หรือลากนิ้ว ประมาณ 1-2 วินาทีแรก มันจะหน่วงแป้บนึง พอมันรู้ว่าเรากำลังจิ้มที่ครึ่งจอไหน แล้วจะจะใช้งานได้ดีขึ้น
รูปที่วาดโดยใช้ galaxy note 10.1
1.8.jpg
สรุปโดยรวม
ผมว่า Note 10.1 สอบผ่าน ในฐานะอุปกรณ์ Tablet สำหรับวาด ที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ (เว้นแต่ใครคิดจะไปซื้อ Wacom Cintiq 24HD อุปกรณ์ Tablet + ปากกา โดยผู้ผลิตเม้าส์ปากกาที่ทำปากกาให้ Note 10.1 นี่แหล่ะ แต่ทางโน้นราคาเครื่องละแสนกว่าบาท o_O! ) เพราะการใช้งานอุปกรณ์พวกนี้ ไม่ใช่เป็นแค่ฮาร์ดแวร์ แต่รวมถึงการพัฒนาซอฟ์แวร์ เพื่อดึงความสามารถของอุปกรณ์ให้คุ้มค่าที่สุดด้วย แต่ถ้าคุณเป็นแค่ใครสักคนที่หา Tablet เพื่อใช้งาน แน่นอน ด้วยราคาเปิดตัว 21,900 มันอาจเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูงเกินไป เพราะในตลาด ยังมี Tablet มากกมายที่ราคาต่่ำกว่านี้ และคำแนะนำสุดท้าย อย่าเชื่อคนอื่น จนกว่าจะได้ลองใช้งานด้วยตัวเองครับ
Note 10.1 มันดียังไง : ปากกา S-Pen เขียนเพลิน, Touch Wiz (การออกแบบระบบโต้ตอบการใช้งานตัวเครื่องเครื่อง) ซัมซุงออกมาทำได้ดี ผมลองเปลี่ยน Launcher เป็นตัวอื่นดู (Go Lanucher) พบว่าพอมาอยู่บน Note10.1 มันแย่มาก เพราะขนาดหน้าจอใหญ่ ไอคอนต่างๆ เลยใหญ่เกินความจำเป็น เลยต้องกลับมาใช้ Launcher ที่ติดมากับเครื่องเองนั่นแหล่ะดีแล้ว, น้ำหนักเบา แบตอึด เสียงดังดีตามที่ควรเป็น
Note 10.1 มันเสียยังไง : เครื่องมาพร้อมกับหน้าจอที่ขนาดความละเอียด 1,280x800 ซึ่งถือว่าใช้ได้ ความละเอียดใหญ่กว่ามือถือทั่วไปแล้ว และไม่มีผลต่อการใช้งานในการมองทั่วๆ ไป แต่ส่วนตัวคาดหวังให้ความละเอียดมากกว่านี้ ตรงนี้มีผลต่อการ Export ไฟล์ภาพ จะจำกัดอยู่ที่ขนาดเท่าหน้าจอเครื่อง (แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมือถือแอนดรอยด์ที่จะมีหน้าจอละเอียดกว่านี้ในตอนนี้นะครับ), หลายคนคาดหวังวัสดุที่ดีกว่านี้ แต่ส่วนตัวไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้ เพราะซัมซุงทำให้ Note 10.1 เบากว่า New iPad อยู่เกือบ 1 ขีด ซึ่งมีผลต่อการใช้งานพอสมควร สำหรับอุปกรณ์ที่หนักเพียง 5-6 ขีด และต้องถือบ่อยๆ อีกอย่างแม้ว่าจะใช้วัสดุที่แข็งแรงแค่ไหน ผมก็ไม่เคยเห็นใครใช้ Tablet ขนาด 10 นิ้วโดยไม่ใส่เคสครับ ถ้าเป็นคนซีเรียสเรื่องนี้อย่าลืมว่าความแข็งแรงมันก็จะบวกไปกับเคสอยู่ดี ;D
ตามไปอ่านรายละเอียด เกี่ยวกับความสามารถของปากกา S-Pen และ S-note ได้ที่ http://yimlamai.com/web/conDetail.asp?p=3201283054515
Comment