Announcement

Collapse
No announcement yet.

Samsung ประเทศไทย เตรียมขาย Galaxy S III วันที่ 7 มิถุนายนนี้

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #91
    อ้อ ลืมบอก "การตลาด" ของผม นี่เหมารวมหมดนะ
    ทั้ง "การโฆษณา(การโม้) การผลิต การStock การกระจายสินค้า บลาๆ"
    (มีการ Define ตัวแปร "การตลาด" เกิดขึ้น !!!)
    คืออาจจะใช้คำไม่ถูก แต่ต้องเข้าใจไม่ใช่นักธุรกิจ - -"

    อย่างที่เห็นชัดๆเลย
    ลองเข้าไปดู Thaimobilecenter , SiamPhone ดู (ซึ่งไม่อยากจะเข้าเล้ย)
    แต่ต้องเข้า เพราะเวลา คนขอให้แนะนำ ต้องเอา Webไทย เดี๋ยวไม่เข้าใจ (เอากับมันสิ)

    คอมเม้นของ SS ส่วนใหญ่ อวย SS เพียวๆ อวยกันเข้าไป (ไม่เห็นเหมือน บอร์ด AMD เลย "ห้ามอวย")
    ไม่ค่อยเทียบกับค่ายอื่นเล้ย เต็มที่ก็แอบกัด Apple - -"

    ตามร้านทั่วไป SS ก็โชว์เต็มแผง ยี่ห้ออื่นแค่ไม้ประดับ (กระจายสินค้าดีสุดๆ)
    จะไม่ให้ มันติดกระแส ต่างคนต่างอวย ทั้งคนซื้อและคนขายได้อย่างไร

    สรุปอย่างที่ท่าน ZervZ ว่าสุดท้าย SS เอาไปกินหมด เพราะ "การตลาด" เทพ ทั้ง บน กลาง ล่าง -..-



    แต่ถ้าลองไปดู ฝั่ง Sony HTC หลายคน จะเทียบ และ เลือกมาระดับนึงเลย
    เพราะอย่างว่า ยี่ห้อพวกนี้จะโดนกระแส SS กลบหมดน่ะนะ -..-

    แล้วหลายๆ Comment ก็แอบเหน็บ SS กับ Apple ซะด้วย
    ซึ่งเข้าทางผมเลย กด Like อย่าให้เสีย
    Last edited by Blue NarCiSs; 28 May 2012, 00:32:51.

    Comment


    • #92
      Originally posted by Inspiral View Post
      จะชอบมีคนเข้ามาพูดว่า "ชอบอะไรก็ใช้ไปสิ เถียงกันเอาโล่หรอไง"

      แต่เพราะมีการเปรียบเทียบกัน เถียงกันด้วยข้อมูลไม่ใช่หรือครับ ที่ทำให้พวกท่านได้รู้ในสิ่งที่ท่านไม่รู้ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเถียง โดยอาศัยข้อมูลที่ผมรู้ ประโยชน์ที่ผมได้รับก็คือข้อมูลที่อีกฝ่ายแย้งมา ซึ่งบางอย่างผมก็ไม่รู้เช่นกัน

      การที่เราแลกเปลี่ยนความเห็นกัน มันมีประโยชน์ทั้งนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมองมุมไหน
      ตามนี้แหละครับ ที่ผมไม่หยุดบ่นก็เพราะแบบนี้ มันมีการแลกเปลีีีี่ยนความรู้ครับ (ถึงบางเรื่อง จะลึกเกินไปจากผู้ใช้งานทั่วๆ ไป ก็เถอะ 555)
      จะเห็นได้ว่า ตรงไหนที่ผมไม่รู้ ผมก็บอกไปว่าไม่รู้ ผมจะได้คำตอบ ได้ข้อมูลมารกสมองเพิ่มขึ้น

      จริงๆ ถ้าเราเถียงกันด้วยอารมณ์ 100% ผมคงหยุดไปนานแล้วครับ เถียงแบบนั้นมันไม่ได้ประโยชน์ เถียงไปก็วนกลับมาเรื่องเก่า

      Comment


      • #93
        ผมใช้ nokia (เบอร์ หนึ่งของโลก ) จากนั้นก็ใช้ ซัมซูง ( ตอนนี้ก็เบอร์หนึ่ง )

        ผมว่า ผมออกแนวร่วม ตามประชากรส่วนใหญ่ของโลก ที่ใช้กัน ( จำนวน )
        หลังๆ มา อยากออกแนว indy เดี่ยวไปเล่น Sony ละกัน
        รับผมเข้า สาวกก โหนยยยย..

        Comment


        • #94
          เคยใช้ แซมซวย Galaxy S2 ได้10วัน ขายเลย พอกันที สงสัยไม่ถูกชะตากัน

          ยิ่งมาเห็น S3 ทำให้รู้สึกดีจริงๆที่ขาย S2 ไปก่อน

          ต่อไปคงใช้อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แซมซวย อัดสเปคซะเว่อร์ เล่นเกมส์ยิงไข่หน่วงๆ ไอโฟน4เครื่องเก่าแหล่มกว่าอีก -*-

          ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะได้ลองใช้กับตัวมาแล้ว ไม่ต้องการมาม่ากับใคร

          Comment


          • #95
            ตอบท่าน inspiral ผมว่าท่านน่าจะไม้เข้าใจ ที่ว่ามีแต่ widget มันเรื่องที่ท่านว่าซูมออกมาให้เห็นหน้า home ทุกหน้าไง ที่โซนี่โผล่มาแต่ widget หรือไม่จริง


            เพิ่มคล็อคกินไฟเพิ่มคุณช่างไม่รู้อะไรเลย เขาลดกระบวนการผลิตลงมาเหลือ 32nm จ๊ะ ฮามากขอบอก GPU ตัวเดิมหรือจะให้เขาใส่ Mali อีกรุ่นมาซึ่งถ้ามาตลาดล่มแน่นอน ขนาดนี่แค่ของเก่าเพิ่มคล็อครุ่นใหม่น่ะแรงให้เท่าเขาก่อนเถอะครับ กล้องอีกตัวท่านไม่ตามท่านดูแต่ resolution ท่านก็คิดได้แบบนั้นแหละ


            เรื่อง S4 ผมบอกละ ท่านรู้อะไรมั่งเกี่ยวกับมัน ถ้าจะเป็น Adreno รหัส 3 มันต้องเป็น codename S4 Pro รู้อะไรมั่งเนี่ย



            เรื่อง GX ท่านรู้อะไรมั่งบอกว่ามันเป็น On screen button ไม่ใช่ HW button แบบ XS ตกม้าตาย ถ้าเทสที่ Native มันต้องไม่ครบเพราะมันต้องเหลือที่ให้ปุ่มไงรู้ป่ะ



            เรื่อง S II vs S III ก็ท่านบอกว่า S II น่าเล่นกว่าผมก็ยกตัวอย่างมาให้ดูว่าถ้ามีคนต้องการแบบนี้ S II จะให้ได้ไหม หรือทำได้บอกด้วย


            เรื่อง Storage ท่านจะให้มันได้มาเหมือนกันได้ไง แค่คิดก็ตลกในเมื่อ S III ได้อะไรมากกว่านี่เทียบกันไปได้ไง ตรรกะแปลกๆ ลองสเปคเท่า XS แล้วได้ไม่เท่าแถมแพงกว่าสิผมจะด่าให้


            ท่านจะให้ Nexus สู้ไอโฟนหรอ ท่านชอบเดาอนาคตเนอะ แถมเก่งด้วยรู้ล่วงหน้าหมดทุกอย่างเลย มาย้อนดูอดีตดีกว่า Galaxy Nexus คิดผิดตั้งแต่ใช้ OMAP4 มาขับจอ HD แล้วสู้ยังไงไหว 4s จอแค่ 960x640 vs HD เนี่ยนะเสียเปรียบแล้วเสียเปรียบเล่า แค่คิดก็ตายแต่แรก 4s SGX543 ขณะที่ Nexus sgx540 ตลกเกินไปละ



            ปล.เสียดายเล่นมือถิอไม่งั้นเต็มที่กว่านี้แน่นอน ข้อมูลหลายอย่างก็รู้ไม่จริง รู้ผิดๆยังเอามาเถียงแทบตาย ผมเถียงได้เรื่อยๆครับตราบเท่าที่ท่านพิมพ์มายังไม่ใช่ความจริง ไม่ถูก อยากยาวก็ยาวได้มาเรื่อยๆเลยครับ

            Comment


            • #96
              มาขับหน่อย

              Comment


              • #97
                Originally posted by mathburn View Post
                ปล.เสียดายเล่นมือถิอไม่งั้นเต็มที่กว่านี้แน่นอน ข้อมูลหลายอย่างก็รู้ไม่จริง รู้ผิดๆยังเอามาเถียงแทบตาย ผมเถียงได้เรื่อยๆครับตราบเท่าที่ท่านพิมพ์มายังไม่ใช่ความจริง ไม่ถูก อยากยาวก็ยาวได้มาเรื่อยๆเลยครับ
                นานจริงๆ นะท่าน (ของผมยาวสุดๆอะ)
                ส่วนตัวถ้า Smartphone VS Smartphone ผมไม่ค่อยจะเทียบกันตรงๆ
                เพราะแต่ละตัวมันต่างกันไป เอาเข้าจริงๆแล้วเทียบยาก

                อย่างก่อนหน้านี้ ดูได้ ผมไม่ค่อยจะเทียบรุ่นหรอกครับ
                ผมจะหนักไปทางโจมตี Samsung เน้นๆครับ หุ หุ

                Comment


                • #98
                  ผมว่า Nexus ไม่ได้เอามาชนกับ iPhone นะ

                  Nexus มันไม่มีอะไรเลย ขนาด UI เสริมยังไม่มี สเปคก็ห่วยเมื่อเทียบกับราคา อนาคตก็ไม่ได้ไกลนัก ดู Nexus One โดนปล่อยเกาะอัพ ICS ไม่ได้ (แต่ก็ยังไกลกว่าซัมซุงหลายรุ่น) ซื้อมาใช้เดิมๆเนี่ย คิดผิดมาก และสักพักก็มีบางคนเถียงว่า ''มือถือเค้าทำมาดีอยู่แล้วจะไปแก้อะไรอีก'' ถ้าคิดอย่างงั้นอย่าซื้อเลย ไปซื้อพวก Sensation , Galaxy S Series , One ยังจะดีกว่าอีก พวกนี้เค้าทำมาดีกว่าเยอะ ทั้ง UI สเปค รูปร่างหน้าตา ใช้เดิมๆก็ไม่ผิด หรือถ้าอยากใช้ UI ธรรมดาของ Android ก็ไปหาวิธีปิดเอาได้
                  สรุปว่ามือถือตระกูลนี้ผมว่าไม่ได้ทำมาเพื่อคนทั่วไป เค้าทำมาเพื่อพวก Developer หรือพวก Advance User

                  ซึ่ง iPhone เค้าทำมาอีกจุดประสงค์นึง เป็นมือถือที่ใครๆก็ใช้เดิมๆได้ ไม่จำเป็นต้องเก่งอะไรนักหนา ไม่ต้องไปแฮคอะไรมาก ถึงใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดเด็กบางคนยังแบมือขอตังพ่อแม่ไปซื้อ ส่วนเรื่องเจลเบรคนั่นมันอีกเรื่อง ถามว่าทาง Apple เองอยากให้ทำไหม ถ้าอยากให้ทำจริงเค้าคงไม่หาคำว่า Cydia ตอนส่งซ่อมหรอก

                  Comment


                  • #99
                    Originally posted by BaKerStreet View Post
                    เคยใช้ แซมซวย Galaxy S2 ได้10วัน ขายเลย พอกันที สงสัยไม่ถูกชะตากัน

                    ยิ่งมาเห็น S3 ทำให้รู้สึกดีจริงๆที่ขาย S2 ไปก่อน

                    ต่อไปคงใช้อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แซมซวย อัดสเปคซะเว่อร์ เล่นเกมส์ยิงไข่หน่วงๆ ไอโฟน4เครื่องเก่าแหล่มกว่าอีก -*-

                    ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะได้ลองใช้กับตัวมาแล้ว ไม่ต้องการมาม่ากับใคร
                    เหมือนจะเคยอธิบายไปแล้วนะครับ เกี่ยวการประมวลผลUIที่ต่างกันระหว่างiOS กับแอนดรอย

                    สงสัยจะจำไม่ได้

                    สิ่งที่iOSเหนือกว่าแอนดรอยคือความลื่น

                    แต่สิ่งที่แอนดรอยเหนือว่าiOSคือลูกเล่นที่มากกว่า



                    เลือกเอาครับ

                    Comment


                    • ผมรัก samsung samsungเหมือนแม่ทำมาหากินเลี้ยงผม
                      sonyเหมือนพ่อ
                      apple ตูเกลียดเมิง เมิงเป็นชู้กะ samsung
                      นี้คือเหตุผลที่หลายๆท่านทะเลาะกันจะเป็นจะตาย 55555555 ไปละ

                      Comment


                      • Originally posted by A_kunG View Post
                        เหมือนจะเคยอธิบายไปแล้วนะครับ เกี่ยวการประมวลผลUIที่ต่างกันระหว่างiOS กับแอนดรอย

                        สงสัยจะจำไม่ได้

                        สิ่งที่iOSเหนือกว่าแอนดรอยคือความลื่น

                        แต่สิ่งที่แอนดรอยเหนือว่าiOSคือลูกเล่นที่มากกว่า



                        เลือกเอาครับ
                        เหมือนตอนนำ้แตกลื่นมาก(เสียวด้วย)

                        Comment


                        • Originally posted by A_kunG View Post
                          เหมือนจะเคยอธิบายไปแล้วนะครับ เกี่ยวการประมวลผลUIที่ต่างกันระหว่างiOS กับแอนดรอย

                          สงสัยจะจำไม่ได้

                          สิ่งที่iOSเหนือกว่าแอนดรอยคือความลื่น

                          แต่สิ่งที่แอนดรอยเหนือว่าiOSคือลูกเล่นที่มากกว่า



                          เลือกเอาครับ
                          เหมือน amd ร้อน intel เย็น รึปล่าว ตรรกะ ลื่นนิ สมัยนี้มันก้ลื่นๆหมดนะ

                          Comment


                          • Originally posted by kenjix55 View Post
                            เหมือน amd ร้อน intel เย็น รึปล่าว ตรรกะ ลื่นนิ สมัยนี้มันก้ลื่นๆหมดนะ
                            สถาปัตยกรรมซอฟแวร์การให้ลำดับความสำคัญในการประมวลผลUIมันต่างกันครับ

                            ลองไปดูบทความเว็บแอนดรอยใหญ่ๆของประเทศไทยดูก็ได้ครับ แล้วจะีู้
                            ข่าวสารเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน พีซี แกดเจ็ต รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมรีวิวอุปกรณ์ต่างๆ ที่น่าสนใจในประเทศไทย และทั่วโลก มาอัปเดตทุกวัน

                            Comment


                            • Google เค้าบอกแล้วว่า android ไม่มีทางลื่นแบบ iOS ได้ เพราะว่าเวลา slide หน้าจอ ระบบจะทำการ render ใหม่เสมอ
                              ซึ่งระบบนี้เป็นมาตั้งแต่ android 1.0 ซึ่งตอนนั้นทำมาแข่งกับ BB ซึ่งยังไม่ได้เป้น touch screen แบบปัจจุบัน

                              ถ้าจะให้ลื่น ต้องยกระบบใหม่ ถ้ายกระบบใหม่ app ทั้งหมดจะใช้งานไม่ได้ ต้องสร้างรูปแบบใหม่ด้วย

                              Comment


                              • ขอเสริมให้เป็นความรู้แกท่าน kenjix55 และท่าน o2man นะครับ

                                Dianne Hackborn วิศวกรของทีม Android ออกมาอธิบายหลักการและแก้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประมวลผลกราฟิกของ Android หลายประการ

                                ประเด็นเรื่อง hardware acceleration ใน Android แต่ละรุ่น

                                Android มี hardware acceleration มาตั้งแต่รุ่น 1.0 โดยส่วนที่ใช้งานคือการเรนเดอร์ตัวกรอบหน้าต่าง (window compositing) ดังนั้นแอนิเมชันต่างๆ ที่เราเห็นในเมนูหรือชิ้นส่วน UI ต่างๆ เรนเดอร์ด้วยฮาร์ดแวร์ทั้งนั้น
                                แต่เนื้อในของหน้าต่างหรือ content ภายในแอพ จะใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลแทน ซึ่งประสิทธิภาพของการประมวลผลจะขึ้นกับพลังของฮาร์ดแวร์และจำนวนพิกเซลที่ใช้งาน เช่น Droid ตัวแรกจะมีปัญหากับความละเอียด 800x480 ในขณะที่ Nexus S ทำได้สบาย
                                การประมวลผลเนื้อหาโดยใช้ hardware acceleration ถูกเพิ่มเข้ามาใน Android 3.0 แต่ปิดเอาไว้ไม่ใช้งาน เว้นเสียแต่ว่านักพัฒนาแอพจะระบุให้ใช้ GPU ช่วยประมวลผลเท่านั้น
                                Android 4.0 ใช้เอนจิน hardware acceleration ตัวเดียวกับ 3.0 แต่เปิดมาแต่แรก และถ้าแอพระบุว่าตัวมันเองทำงานบน Android 4.0 ได้ ตัวระบบปฏิบัติการก็จะเรียกใช้ hardware acceleration ทั้งหมด

                                ประเด็นเรื่องความช้า-เร็วของการแสดงผลใน Android

                                hardware acceleration ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะโพรเซสของแอพจะต้องเปลืองแรมอีก 8MB ต่อโพรเซสสำหรับเรียกใช้ OpenGL ดังนั้นงานบางงานในตัวระบบปฏิบัติการ Android 4.0 จึงเลือกจะไม่ใช่ hardware acceleration เพื่อประหยัดแรม โดยเฉพาะงานที่เพียงซีพียูลำพังสามารถทำได้ดีอยู่แล้ว (เช่น ไม่ควรจะเรนเดอร์ status bar ด้วย OpenGL เพราะไม่คุ้ม)
                                hardware acceleration ไม่ใช่ "คำตอบสุดท้าย" ที่ทำให้ Android ลื่นขึ้น เพราะยังมีประเด็นด้านเทคนิคอื่นๆ อีกมาก เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพของ scheduler ระหว่างเธร็ดที่ทำงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง (อยู่ใน 1.6) หรือการปรับปรุงระบบการป้อนข้อมูล (อยู่ใน 2.3) การปรับปรุง garbage collector เป็นต้น
                                บางครั้ง hardware acceleration กลับทำให้การแสดงผลช้าลงด้วยซ้ำ โดยยกกรณีทีมงานของกูเกิลเคยพบว่าเลื่อนหน้าจอบน Nexus S/ICS ช้ากว่า Gingerbread ในบางกรณี ซึ่งค้นพบว่าเป็นปัญหาของ timing ของการประมวลผล ถึงแม้สมรรถนะในการประมวลผลจะสามารถวาดหน้าจอที่ 60 fps ได้ก็ตาม ก็ยังกระตุกเพราะเรื่องอื่น
                                เวลาคนเปรียบเทียบการเลื่อนหน้าจอใน Android และ iOS เหตุผลส่วนมากที่ Android ช้ากว่าไม่ได้เป็นเพราะไม่มี hardware acceleration แต่เป็นเพราะวิธีการเรนเดอร์เว็บเพจของ Android ในอดีต มองว่ามันเป็น list ที่ต้องค่อยๆ วาดบนหน้าจอไปตามลำดับ ทำให้การเลื่อนหรือซูมมีปัญหากับส่วนที่ยังไม่ได้วาดบนจอ แต่ใน Android 3.0 เปลี่ยนมาเรนเดอร์แบบ tiles ที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
                                hardware acceleration ไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของกราฟิกทั้งหมด เพราะ GPU ก็มีข้อจำกัดทางสมรรถนะอยู่ ตัวอย่างเช่น Tegra 2 สามารถเรนเดอร์พิกเซลได้สูงสุด 2.5 เท่าของความละเอียด 1280x800 ที่ 60fps ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การแสดงผลกราฟิกไม่ได้วาดแค่ 1280x800 แต่ต้องวาดวัตถุต่างๆ บนหน้าจอซ้อนกันหลายๆ ชั้นแล้วค่อยนำมาประกอบเข้าด้วยกัน (compositing) ซึ่งลำพังแค่นี้ก็ใช้พิกเซลครบโควต้าของ GPU แล้ว
                                Android 3.0 ใช้เทคนิคหลายอย่างช่วยให้พลังของ GPU พอใช้สำหรับการแสดงกราฟิก เช่น การวาดหน้าต่างเฉพาะส่วนที่ไม่บังกัน (overlay) จะได้ไม่ต้องเรนเดอร์ภาพของหน้าต่างทั้งหมด, วาดภาพพื้นหลังเก็บไว้ในหน่วยความจำ เวลาเลื่อนจอก็เลื่อนภาพตาม จะได้ไม่ต้องวาดใหม่ทุกครั้งที่เลื่อน เป็นต้น
                                ยิ่งความละเอียดของหน้าจอเพิ่มขึ้น การแสดงผลหน้าจอที่ 60 fps จะยิ่งขึ้นกับพลังของ GPU และแบนด์วิธหน่วยความจำของ GPU ซึ่งเธอแนะนำว่านักพัฒนาควรใส่ใจกับแบนด์วิธตรงนี้ให้มาก ถ้าแอพที่ทำอยู่เกี่ยวข้องกับกราฟิก
                                แอนดรอยเป็นซอฟแวร์ ไม่ได้เกิดมาเพื่อฮาร์ดแวร์ มันร้อยพ่อพันแม่เกินไป ใครจะเขียนโปรแกรมครอบคลุมไหว iOS ทดสอบกับฮาร์ดแวรไม่กี่รุ่น ถูกเขียนขึ้นมาโดยเฉพาะ เกิดมาเป็นคู่กันและกัน Perfect Match

                                แต่เอาจริงๆมันก็แต่เปรียบแค่ความลื่น แต่ลูกเล่นและความเป็นอิสระ สู้แอนดอรยไม่ได้หรอก

                                Comment

                                Working...
                                X