สำหรับในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์หรือเเม้กระทั่งผู้ผลิตฮาร์ดเเวร์ก็ตาม เราจะพบว่ามีสองวิธีหลักๆ ที่ใช้กันคือการสร้างโรงงานของตนเองขึ้นมา หรือเเนวทางการออกเเบบเเละข้อกำหนดที่ต้องการเเละจ้างโรงงานอื่นผลิตเเทน ซึ่งหลายๆ เเบรนด์เลือกใช้เเนวทางหลัง เนื่องจากเชื่อในเรื่องของ Economics of Scale หรือการประหยัดต่อขนาด ซึ่งโรงงานที่ผลิตเฉพาะน่าจะมี Best Practices หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของตนมาก ส่วนเเบรนด์หรือผู้ออกเเบบนั้นก็จะดูในภาพรวมมากกว่า ปล่อยให้เรื่องทางเทคนิคหรือทางปฏิบัติให้เป็นหน้าที่ของโรงงานเเก้ปัญหากันเอง หรือเราจะเรียกเเนวทาง Outsource ที่เป็นนิยมกันอยู่ในตอนนี้ก็ได้

Intel ได้บอกว่าโมเดลการผลิตเเบบไม่มีโรงงานนั้นกำลังใกล้จะถึงทางตันเเล้ว โดยได้ยก Qualcomm ที่มีปัญหาไม่สามารถผลิตชิป Snapdragon S4 ได้เพียงพอกับความต้องการจากโรงงาน TSMC ที่เป็นผู้ผลิตตัวประมวลผล Snapdragon S4 เเละนั่นหมายถึงการสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาลของ Qualcomm เอง โดย TSMC นั้นประกาศว่าสามารถผลิตชิปขนาด 28 นาโนเมตรรวมไปถึง 22 นาโนเมตร เเต่กลับมีปัญหาในเรื่องของจำนวนการผลิตที่ทำออกมาได้น้อยเกินไป ในขณะที่ Intel นั้นสามารถผลิตชิปขนาด 22 นาโนเมตรมาได้หลายเดือน (Ivy Bridge) เเละมีถึง 5 โรงงานเเล้ว ในขณะที่ TSMC นั้นมีเพียงโรงงานเดียวเท่านั้นสำหรับ 20 นาโมเมตร ถ้าไม่มีการพัฒนากระบวนการออกเเบบเเละผลิตชิปที่ดีเเล้วจะไม่สามารถดึงประสิทธิภาพชิปที่อยู่ในเทคโนโลยีนั้นๆ ออกมาได้อย่าเต็มที่
ถึงเเม้ว่าการมีโรงงานของตัวเองจะมีข้อดีอย่างที่ Intel กล่าวมา เเต่ก็เป็นเพราะ Intel นั้นสามารถขายชิปได้เป็นจำนวนมากกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ มากจึงสามารถสร้างโรงงานขึ้นได้เองรวมไปถึงพัฒนาวิธีผลิตชิปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเเละซับซ้อนขึ้นได้จากงบวิจัยเเละพัฒนาที่ได้จากขายชิป ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบมหาศาลของ Intel ที่มีโรงงานผลิตชิปเองที่ล้ำหน้ากว่าโรงงานผู้ผลิตชิปเจ้าอื่นๆ เสมอเนื่องจากมีกำไรมากกว่าการทำเฉพาะอย่าง เช่น รับจ้างผลิต หรือออกเเบบเพียงอย่างเดียว โดย Intel ระบุว่า ความยุ่งยากจะเริ่มส่งผลชัดเจนเมื่อเทคโนโลยีมีขนาดเล็กลงในระดับหนึ่งเเละมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเริ่มเห็นผลเเล้วในปัจจุบัน
ในขณะที่ผู้ออกเเบบชิปส่วนใหญ่นั้นไม่มีโรงงานเป็นของตัวเอง ผู้จ้างนั้นก็ต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเพื่อให้เเข่งขันได้ในปัจจบัน เเต่ดูเหมือน Intel จะมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะเมื่อ Intel หันมาพัฒนาตัวประมวลผลที่ใช้บนสมาร์ทโฟนอย่าง Medfiled
credit:www.i3.in.th

Intel ได้บอกว่าโมเดลการผลิตเเบบไม่มีโรงงานนั้นกำลังใกล้จะถึงทางตันเเล้ว โดยได้ยก Qualcomm ที่มีปัญหาไม่สามารถผลิตชิป Snapdragon S4 ได้เพียงพอกับความต้องการจากโรงงาน TSMC ที่เป็นผู้ผลิตตัวประมวลผล Snapdragon S4 เเละนั่นหมายถึงการสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาลของ Qualcomm เอง โดย TSMC นั้นประกาศว่าสามารถผลิตชิปขนาด 28 นาโนเมตรรวมไปถึง 22 นาโนเมตร เเต่กลับมีปัญหาในเรื่องของจำนวนการผลิตที่ทำออกมาได้น้อยเกินไป ในขณะที่ Intel นั้นสามารถผลิตชิปขนาด 22 นาโนเมตรมาได้หลายเดือน (Ivy Bridge) เเละมีถึง 5 โรงงานเเล้ว ในขณะที่ TSMC นั้นมีเพียงโรงงานเดียวเท่านั้นสำหรับ 20 นาโมเมตร ถ้าไม่มีการพัฒนากระบวนการออกเเบบเเละผลิตชิปที่ดีเเล้วจะไม่สามารถดึงประสิทธิภาพชิปที่อยู่ในเทคโนโลยีนั้นๆ ออกมาได้อย่าเต็มที่
ถึงเเม้ว่าการมีโรงงานของตัวเองจะมีข้อดีอย่างที่ Intel กล่าวมา เเต่ก็เป็นเพราะ Intel นั้นสามารถขายชิปได้เป็นจำนวนมากกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ มากจึงสามารถสร้างโรงงานขึ้นได้เองรวมไปถึงพัฒนาวิธีผลิตชิปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเเละซับซ้อนขึ้นได้จากงบวิจัยเเละพัฒนาที่ได้จากขายชิป ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบมหาศาลของ Intel ที่มีโรงงานผลิตชิปเองที่ล้ำหน้ากว่าโรงงานผู้ผลิตชิปเจ้าอื่นๆ เสมอเนื่องจากมีกำไรมากกว่าการทำเฉพาะอย่าง เช่น รับจ้างผลิต หรือออกเเบบเพียงอย่างเดียว โดย Intel ระบุว่า ความยุ่งยากจะเริ่มส่งผลชัดเจนเมื่อเทคโนโลยีมีขนาดเล็กลงในระดับหนึ่งเเละมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเริ่มเห็นผลเเล้วในปัจจุบัน
ในขณะที่ผู้ออกเเบบชิปส่วนใหญ่นั้นไม่มีโรงงานเป็นของตัวเอง ผู้จ้างนั้นก็ต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเพื่อให้เเข่งขันได้ในปัจจบัน เเต่ดูเหมือน Intel จะมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะเมื่อ Intel หันมาพัฒนาตัวประมวลผลที่ใช้บนสมาร์ทโฟนอย่าง Medfiled
credit:www.i3.in.th


Comment