Apple เอ็งเลิกรังแกพวกตูได้แล้ว!!!
Google เสริมกระดอง!!! ทุ่ม 12.5 พันล้าน
ติดอาวุธหนัก สิทธิบัตร Motorola Mobility!!!
ปกป้อง Android จาก Apple!!!

กูเกิลสู้สงครามสิทธิบัตร
ด้วยการเข้าซื้อ Motorola Mobility!!!
15/08/11
กูเกิลประกาศการเข้าซื้อ Motorola Mobility พันธมิตรสำคัญในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ด้วยมูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าราคาปิดตลาดของ Motorola Mobility เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. อยู่ 63%
กูเกิลกล่าวอย่างชัดเจนว่า คลังสิทธิบัตรของ Motorola จะถูกนำมาใช้ปกป้องแอนดรอยด์จากสงครามสิทธิบัตรที่มุ่งโจมตีแอนดรอยด์ โดยอ้างอิงถึงกรณีที่ไมโครซอฟท์และแอปเปิลจับกลุ่มกันประมูลสิทธิบัตรของ Nortel
ดีลเข้าซื้อนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากทางการเสียก่อน ซึ่งคาดว่ากระบวนการจะสิ้นสุดในปลายปี 2011 หรือต้นปี 2012
ที่มา - Google Blog, Google Investor Relations
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กูเกิลฮุบโมโตโรลา่ ใครได้ใครเสีย!!!???
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2554 10:31 น
กลายเป็นดีลบรรลือโลกที่ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงทุกฝ่ายในวงการ โทรศัพท์มือถือ เมื่อกูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตประกาศซื้อกิจการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ โมโตโรลา "โมโตโรลา โมบิลิตี้ (Motorola Mobility)" ในราคา 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.75 แสนล้านบาท
ปรากฏว่านักวิเคราะห์ยกให้คู่แข่งค่ายสมาร์ทโฟนอย่างริมและโนเกียเป็นผู้ชนะที่ส่อแววได้รับประโยชน์จากดีลที่เกิดขึ้นมากที่สุด หาก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เป็นพันธมิตรกับกูเกิลเลือกตีตัวออก***งแอนดร อยด์ ขณะที่ไมโครซอฟท์ถูกประเมินว่ามีทั้งได้และเสียปนกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าดีลครั้งนี้อาจจะจุดประกายให้ไมโครซอฟท์ฮุบกิจการในวง การโทรศัพท์มือถือโลกอื่นๆในอนาคต
สำหรับแอปเปิล นักวิเคราะห์เชื่อว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้กูเกิลกลายเป็นคู่แข่งตัว จริงของแอปเปิลมากกว่าเดิม ทั้งหมดมีโอกาสทำให้แอปเปิลยกเลิกการใช้บริการของกูเกิลในผลิตภัณฑ์แอปเปิลหลายบริการ
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเคเบิลทีวียังส่อแววรุ่งเรืองอีกครั้งในยุคที่โมโตโรลาโมบิลิตี้ อยู่ใต้ชายคากูเกิล เนื่องจากหน่วยธุรกิจดังกล่าวครอบคลุมถึงการผลิตอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ หรือเซ็ตท็อบบ็อกซ์ด้วย
มูลค่าการซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้ด้วยเงิน 1.25 หมื่นล้านเหรียญคำนวณจากราคาหุ้น 40 เหรียญ สูงกว่าราคาปิดตลาดโมโตโรลา 63% เมื่อเทียบกับราคาเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค.54
ไมโครซอฟท์คือบริษัทที่มีมุมมองทั้งได้และเสียชัดเจนจากการซื้อกิจการมือถือ โมโตโรลาของกูเกิล โดยนักวิเคราะห์มองว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์จะโดดเด่นในฐานะ โอเอสทางเลือกที่นอกเหนือจากแอนดรอยด์และไอโอเอสของแอปเปิลได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์จะหันมาหาวินโดวส์มากขึ้นแม้ผู้บริโภคจะไม่ส่งสัญญาณให้ความสนใจวินโดวส์เท่าที่ควรในขณะนี้
แต่ในแง่ของมุมเสีย นักวิเคราะห์เชื่อว่าไมโครซอฟท์จะเสียเปรียบในคดีสิทธิบัตรเทคโนโลยีซึ่งเคยฟ้องโมโตโรลาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2553 ครั้ง นั้นไมโครซอฟท์ฟ้องโมโตโรลาว่าละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการรวมเชื่อมต่ออี เมล์ ปฏิทินงาน และรายชื่อผู้ติดต่อ ซึ่งโมโตโรลาได้รับอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ภายในปี 2548-2550 แต่โมโตโรลากลับใช้งานต่อเนื่องมาโดยไม่มีการต่อใบอนุญาตใหม่ ทำให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั้ง Motorola Droid 2 และ Motorola Charm เข้าข่ายละเมิดเต็มตัว แน่นอนว่าเกมจะเปลี่ยนไปเมื่อกูเกิลเข้าถือครองธุรกิจอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ โมโตโรลา ซึ่งการตีความในชั้นศาลอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในมุมที่เป็นบวกกับโมโตโรลา มากกว่า
ที่สำคัญ Al Hilwa นักวิเคราะห์จากไอดีซียังชี้ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกูเกิลยังเป็นแรงกดดันทำให้ไมโครซอฟท์ต้องหาดี ลที่ช่วยเสริมให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนแพร่หลายในวงกว้างได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์อาจหันไปเจรจาเพื่อซื้อกิจการผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรา ยอื่นอย่างเอชทีซี หรือแม้กระทั่งโนเกียด้วย
***'โนเกีย-ริม' ยิ้ม
หลังการประกาศดีล มูลค่าหุ้นของโนเกียพุ่งกระฉูด 17% ส่วน หนึ่งเป็นเพราะข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเสนอซื้อโนเกียหลังจากโนเกีย เลือกใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นระบบหลักในผลิตภัณฑ์โนเกียนับจากนี้
เช่นเดียวกับริมซึ่งมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 3.7% หลังการประกาศ แม้ว่าริมจะมีมูลค่าหุ้นตกต่ำต่อเนื่องมากกว่า 60% ตลอดปีนี้หลังจากสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแอปเปิลต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าการผนึกกำลังของกูเกิลและโมโตโรลาจะทำให้ริมได้รับ แรงกดดันในการกำหนดนโยบายสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ QNX (ระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ต PlayBook ซึ่งริมจะนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนในช่วงปีหน้า) ซึ่งอาจจะส่งผลดีให้ริมแสดงฝีมือชนิดลืมตาย
***แอปเปิลไม่กระเทือน
นักวิเคราะห์เชื่อว่าแอปเปิลจะได้รับผลกระทบจากดีลที่เกิดขึ้นไม่มากในมุมธุรกิจสมาร์ทโฟน เนื่อง จากโมโตโรลาเป็นฝ่ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนมากกว่ากูเกิล ทำให้โอกาสที่กูเกิลจะยื่นมือเข้าไปเปลี่ยนแปลงการผลิตหรือการออกแบบอุปกรณ์ ของโมโตโรลาแบบพลิกฝ่ามือนั้นเป็นไปได้น้อย
แต่ในมุมของการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตร หลายเสียงเชื่อว่าคดีความระหว่างแอปเปิล กูเกิล และโมโตโรลาที่ค้างอยู่ในชั้นศาลทั่วโลกจะทวีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม แต่สิ่งที่จะเป็นไปได้สูงคือแอปเปิลอาจตัดสินใจเลิกใช้บริการหลายชิ้นจากกู เกิลบนอุปกรณ์ตระกูลไอเช่นบริการแผนที่ (Maps) หรือบริการค้นหา (Search)
***เคเบิลทีวีคึกคัก
การซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้ครั้งนี้ทำให้กูเกิลกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณทีวีแบบคิดค่าบริการ ถือ เป็นครั้งแรกที่กูเกิลสามารถรุกตลาดทีวีอเมริกันได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้กูเกิลจะมีโอกาสแจ้งเกิดได้หลายครั้งด้วยเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ "ยูทูบ (YouTube)" และ "กูเกิลทีวี (Google TV)" แต่ไม่สำเร็จ
มีการวิเคราะห์ว่าดีลครั้งนี้จะทำให้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสและการให้ สิทธิ์การชมข้อมูลของโมโตโรลายิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น เพราะมีโอกาสสูงที่กูเกิลจะลงมาเล่นในตลาดเคเบิลทีวีอเมริกันอย่างจริงจังใน อนาคต เมื่อนั้นตลาดเคเบิลทีวีก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
***พันธมิตรยินดี?
พันธมิตรรายใหญ่ของกูเกิลอย่างเอชทีซี แอลจี ซัมซุง และโซนี่อิริกสัน ล้วนออกแถลงการณ์ว่ายินดีที่กูเกิลจะลงเล่นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยยอมรับว่าดีลครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อปกป้องแอนดรอยด์ (Android) รวมถึงทุกฝ่ายในระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
โดยภาพรวม การซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้จะทำให้แอนดรอยด์เป็นระบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เนื่อง จากกูเกิลแสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการปกป้องระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ให้ไม่ ถูกฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยย้ำว่าแอนดรอยด์จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มเปิดต่อไป บนการทำงานร่วมกับพันธมิตรรายอื่นเช่นเดิม
แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิลเชื่อว่าการซื้อโมโตโรลาครั้งนี้จะช่วย เพิ่มคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้อุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ให้ดียิ่งกว่าเดิม เช่นเดียวกับ ซานเจย์ จฮา (Sanjay Jha) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมโตโรลาโมบิลิตี้ที่ยืนยันว่าโมโตโรลาและกูเกิล จะร่วมกันสร้างความก้าวหน้าให้แอนดรอยด์ ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจทั่วโลก
Google เสริมกระดอง!!! ทุ่ม 12.5 พันล้าน
ติดอาวุธหนัก สิทธิบัตร Motorola Mobility!!!
ปกป้อง Android จาก Apple!!!

กูเกิลสู้สงครามสิทธิบัตร
ด้วยการเข้าซื้อ Motorola Mobility!!!
15/08/11
กูเกิลประกาศการเข้าซื้อ Motorola Mobility พันธมิตรสำคัญในแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ด้วยมูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าราคาปิดตลาดของ Motorola Mobility เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. อยู่ 63%
กูเกิลกล่าวอย่างชัดเจนว่า คลังสิทธิบัตรของ Motorola จะถูกนำมาใช้ปกป้องแอนดรอยด์จากสงครามสิทธิบัตรที่มุ่งโจมตีแอนดรอยด์ โดยอ้างอิงถึงกรณีที่ไมโครซอฟท์และแอปเปิลจับกลุ่มกันประมูลสิทธิบัตรของ Nortel
ดีลเข้าซื้อนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากทางการเสียก่อน ซึ่งคาดว่ากระบวนการจะสิ้นสุดในปลายปี 2011 หรือต้นปี 2012
ที่มา - Google Blog, Google Investor Relations
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กูเกิลฮุบโมโตโรลา่ ใครได้ใครเสีย!!!???
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2554 10:31 น
กลายเป็นดีลบรรลือโลกที่ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงทุกฝ่ายในวงการ โทรศัพท์มือถือ เมื่อกูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตประกาศซื้อกิจการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ โมโตโรลา "โมโตโรลา โมบิลิตี้ (Motorola Mobility)" ในราคา 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3.75 แสนล้านบาท
ปรากฏว่านักวิเคราะห์ยกให้คู่แข่งค่ายสมาร์ทโฟนอย่างริมและโนเกียเป็นผู้ชนะที่ส่อแววได้รับประโยชน์จากดีลที่เกิดขึ้นมากที่สุด หาก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เป็นพันธมิตรกับกูเกิลเลือกตีตัวออก***งแอนดร อยด์ ขณะที่ไมโครซอฟท์ถูกประเมินว่ามีทั้งได้และเสียปนกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าดีลครั้งนี้อาจจะจุดประกายให้ไมโครซอฟท์ฮุบกิจการในวง การโทรศัพท์มือถือโลกอื่นๆในอนาคต
สำหรับแอปเปิล นักวิเคราะห์เชื่อว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้กูเกิลกลายเป็นคู่แข่งตัว จริงของแอปเปิลมากกว่าเดิม ทั้งหมดมีโอกาสทำให้แอปเปิลยกเลิกการใช้บริการของกูเกิลในผลิตภัณฑ์แอปเปิลหลายบริการ
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเคเบิลทีวียังส่อแววรุ่งเรืองอีกครั้งในยุคที่โมโตโรลาโมบิลิตี้ อยู่ใต้ชายคากูเกิล เนื่องจากหน่วยธุรกิจดังกล่าวครอบคลุมถึงการผลิตอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ หรือเซ็ตท็อบบ็อกซ์ด้วย
มูลค่าการซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้ด้วยเงิน 1.25 หมื่นล้านเหรียญคำนวณจากราคาหุ้น 40 เหรียญ สูงกว่าราคาปิดตลาดโมโตโรลา 63% เมื่อเทียบกับราคาเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค.54
ไมโครซอฟท์คือบริษัทที่มีมุมมองทั้งได้และเสียชัดเจนจากการซื้อกิจการมือถือ โมโตโรลาของกูเกิล โดยนักวิเคราะห์มองว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์จะโดดเด่นในฐานะ โอเอสทางเลือกที่นอกเหนือจากแอนดรอยด์และไอโอเอสของแอปเปิลได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์จะหันมาหาวินโดวส์มากขึ้นแม้ผู้บริโภคจะไม่ส่งสัญญาณให้ความสนใจวินโดวส์เท่าที่ควรในขณะนี้
แต่ในแง่ของมุมเสีย นักวิเคราะห์เชื่อว่าไมโครซอฟท์จะเสียเปรียบในคดีสิทธิบัตรเทคโนโลยีซึ่งเคยฟ้องโมโตโรลาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2553 ครั้ง นั้นไมโครซอฟท์ฟ้องโมโตโรลาว่าละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการรวมเชื่อมต่ออี เมล์ ปฏิทินงาน และรายชื่อผู้ติดต่อ ซึ่งโมโตโรลาได้รับอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ภายในปี 2548-2550 แต่โมโตโรลากลับใช้งานต่อเนื่องมาโดยไม่มีการต่อใบอนุญาตใหม่ ทำให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั้ง Motorola Droid 2 และ Motorola Charm เข้าข่ายละเมิดเต็มตัว แน่นอนว่าเกมจะเปลี่ยนไปเมื่อกูเกิลเข้าถือครองธุรกิจอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ โมโตโรลา ซึ่งการตีความในชั้นศาลอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในมุมที่เป็นบวกกับโมโตโรลา มากกว่า
ที่สำคัญ Al Hilwa นักวิเคราะห์จากไอดีซียังชี้ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของกูเกิลยังเป็นแรงกดดันทำให้ไมโครซอฟท์ต้องหาดี ลที่ช่วยเสริมให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนแพร่หลายในวงกว้างได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์อาจหันไปเจรจาเพื่อซื้อกิจการผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรา ยอื่นอย่างเอชทีซี หรือแม้กระทั่งโนเกียด้วย
***'โนเกีย-ริม' ยิ้ม
หลังการประกาศดีล มูลค่าหุ้นของโนเกียพุ่งกระฉูด 17% ส่วน หนึ่งเป็นเพราะข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเสนอซื้อโนเกียหลังจากโนเกีย เลือกใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นระบบหลักในผลิตภัณฑ์โนเกียนับจากนี้
เช่นเดียวกับริมซึ่งมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 3.7% หลังการประกาศ แม้ว่าริมจะมีมูลค่าหุ้นตกต่ำต่อเนื่องมากกว่า 60% ตลอดปีนี้หลังจากสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแอปเปิลต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าการผนึกกำลังของกูเกิลและโมโตโรลาจะทำให้ริมได้รับ แรงกดดันในการกำหนดนโยบายสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ QNX (ระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ต PlayBook ซึ่งริมจะนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนในช่วงปีหน้า) ซึ่งอาจจะส่งผลดีให้ริมแสดงฝีมือชนิดลืมตาย
***แอปเปิลไม่กระเทือน
นักวิเคราะห์เชื่อว่าแอปเปิลจะได้รับผลกระทบจากดีลที่เกิดขึ้นไม่มากในมุมธุรกิจสมาร์ทโฟน เนื่อง จากโมโตโรลาเป็นฝ่ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนมากกว่ากูเกิล ทำให้โอกาสที่กูเกิลจะยื่นมือเข้าไปเปลี่ยนแปลงการผลิตหรือการออกแบบอุปกรณ์ ของโมโตโรลาแบบพลิกฝ่ามือนั้นเป็นไปได้น้อย
แต่ในมุมของการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตร หลายเสียงเชื่อว่าคดีความระหว่างแอปเปิล กูเกิล และโมโตโรลาที่ค้างอยู่ในชั้นศาลทั่วโลกจะทวีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม แต่สิ่งที่จะเป็นไปได้สูงคือแอปเปิลอาจตัดสินใจเลิกใช้บริการหลายชิ้นจากกู เกิลบนอุปกรณ์ตระกูลไอเช่นบริการแผนที่ (Maps) หรือบริการค้นหา (Search)
***เคเบิลทีวีคึกคัก
การซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้ครั้งนี้ทำให้กูเกิลกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณทีวีแบบคิดค่าบริการ ถือ เป็นครั้งแรกที่กูเกิลสามารถรุกตลาดทีวีอเมริกันได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้กูเกิลจะมีโอกาสแจ้งเกิดได้หลายครั้งด้วยเว็บไซต์วิดีโอออนไลน์ "ยูทูบ (YouTube)" และ "กูเกิลทีวี (Google TV)" แต่ไม่สำเร็จ
มีการวิเคราะห์ว่าดีลครั้งนี้จะทำให้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสและการให้ สิทธิ์การชมข้อมูลของโมโตโรลายิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น เพราะมีโอกาสสูงที่กูเกิลจะลงมาเล่นในตลาดเคเบิลทีวีอเมริกันอย่างจริงจังใน อนาคต เมื่อนั้นตลาดเคเบิลทีวีก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
***พันธมิตรยินดี?
พันธมิตรรายใหญ่ของกูเกิลอย่างเอชทีซี แอลจี ซัมซุง และโซนี่อิริกสัน ล้วนออกแถลงการณ์ว่ายินดีที่กูเกิลจะลงเล่นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยยอมรับว่าดีลครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อปกป้องแอนดรอยด์ (Android) รวมถึงทุกฝ่ายในระบบนิเวศน์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
โดยภาพรวม การซื้อโมโตโรลาโมบิลิตี้จะทำให้แอนดรอยด์เป็นระบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เนื่อง จากกูเกิลแสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการปกป้องระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ให้ไม่ ถูกฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยย้ำว่าแอนดรอยด์จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มเปิดต่อไป บนการทำงานร่วมกับพันธมิตรรายอื่นเช่นเดิม
แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิลเชื่อว่าการซื้อโมโตโรลาครั้งนี้จะช่วย เพิ่มคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้อุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ให้ดียิ่งกว่าเดิม เช่นเดียวกับ ซานเจย์ จฮา (Sanjay Jha) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมโตโรลาโมบิลิตี้ที่ยืนยันว่าโมโตโรลาและกูเกิล จะร่วมกันสร้างความก้าวหน้าให้แอนดรอยด์ ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจทั่วโลก
Comment