จาก http://www.thairath.co.th/content/eco/150989
ทั้งนี้ สาเหตุการลาออกของกรรมการ เนื่องจากการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการประมูล 3 จี...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการมีข้อร้องเรียนการประมูลโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 จี มูลค่า 17,440 ล้านบาท ให้เกิดความรอบคอบมากสุด ก่อนที่บอร์ดจะอนุมัติการลงนามสัญญาจ้างกับผู้ชนะประมูลคือกลุ่มเอสแอล คอนซอร์เตียม ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด บริษัท หัวเว่ย จำกัด ในการประชุมบอร์ดวันที่ 25 ก.พ.นี้ แต่ขณะนี้มีกรรมการบอร์ดได้ยื่นใบลาออก 3 คน ได้แก่ นายวันชาติ สันติกุญชร รองอธิบดีอัยการสูงสุด นางวณี ทัศนมณเฑียร รองอธิบดีกรมสรรพากร และนางนุชนาถ ปัณฑวังกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด
ทั้งนี้ สาเหตุการลาออกของกรรมการ เนื่องจากการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการประมูล 3 จี โดยฝ่ายแรกต้องการให้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติการประมูลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง ขณะนี้อยู่ในขบวนการไต่สวนของศาลปกครอง แต่อีกฝ่ายต้องการให้อนุมัติลงนามในสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลทันที ในที่สุดก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมประมูลอีกรอบ เพราะบอร์ดหวั่นเกรงว่า ราคาที่ชนะประมูลครั้งนี้จะไม่เกิดประโยชน์ต่อทีโอที เพราะถือเป็นราคาที่สูงกว่าหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าราคาต่ำสุดน่าจะอยู่ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท แต่ผู้ชนะประมูลเสนอราคา 16,290 ล้านบาท โดยการลาออกของบอร์ดครั้งนี้ได้มีการตั้งประเด็นว่าทีโอที อาจไม่สามารถลงนามในสัญญาจ้างเอสแอล คอนซอร์เตียมได้
ขณะเดียวกัน ทีโอที ยังมีคดีข้อพิพาทกับคู่สัญญาอีกกว่า 100 คดี ล้วนแต่เป็นคดีที่สำคัญ เช่น การฟ้องร้องบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังเข้าร่วมในการหารือระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคณะ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า จากการหารือนายสมประสงค์ระบุว่ากลุ่มชินคอร์ปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวตอบไปว่า การดำเนินการของรัฐบาล เป็นไปตามกฎหมายไม่ได้รังแก และทุกบริษัทได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
23 กุมภาพันธ์ 2554, 05:45 น.
ทั้งนี้ สาเหตุการลาออกของกรรมการ เนื่องจากการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการประมูล 3 จี...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางการมีข้อร้องเรียนการประมูลโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 จี มูลค่า 17,440 ล้านบาท ให้เกิดความรอบคอบมากสุด ก่อนที่บอร์ดจะอนุมัติการลงนามสัญญาจ้างกับผู้ชนะประมูลคือกลุ่มเอสแอล คอนซอร์เตียม ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด บริษัท หัวเว่ย จำกัด ในการประชุมบอร์ดวันที่ 25 ก.พ.นี้ แต่ขณะนี้มีกรรมการบอร์ดได้ยื่นใบลาออก 3 คน ได้แก่ นายวันชาติ สันติกุญชร รองอธิบดีอัยการสูงสุด นางวณี ทัศนมณเฑียร รองอธิบดีกรมสรรพากร และนางนุชนาถ ปัณฑวังกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด
ทั้งนี้ สาเหตุการลาออกของกรรมการ เนื่องจากการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการประมูล 3 จี โดยฝ่ายแรกต้องการให้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติการประมูลได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง ขณะนี้อยู่ในขบวนการไต่สวนของศาลปกครอง แต่อีกฝ่ายต้องการให้อนุมัติลงนามในสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลทันที ในที่สุดก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมประมูลอีกรอบ เพราะบอร์ดหวั่นเกรงว่า ราคาที่ชนะประมูลครั้งนี้จะไม่เกิดประโยชน์ต่อทีโอที เพราะถือเป็นราคาที่สูงกว่าหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าราคาต่ำสุดน่าจะอยู่ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท แต่ผู้ชนะประมูลเสนอราคา 16,290 ล้านบาท โดยการลาออกของบอร์ดครั้งนี้ได้มีการตั้งประเด็นว่าทีโอที อาจไม่สามารถลงนามในสัญญาจ้างเอสแอล คอนซอร์เตียมได้
ขณะเดียวกัน ทีโอที ยังมีคดีข้อพิพาทกับคู่สัญญาอีกกว่า 100 คดี ล้วนแต่เป็นคดีที่สำคัญ เช่น การฟ้องร้องบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังเข้าร่วมในการหารือระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคณะ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า จากการหารือนายสมประสงค์ระบุว่ากลุ่มชินคอร์ปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวตอบไปว่า การดำเนินการของรัฐบาล เป็นไปตามกฎหมายไม่ได้รังแก และทุกบริษัทได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ.
ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
23 กุมภาพันธ์ 2554, 05:45 น.

Comment