เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เว็บไซต์ News.con.au และ CoreDate ไดจัดทำแบบสอบถามเกี่ยวกับดาวน์โหลดซอฟแวร์เถื่อนบนอินเตอร์เน็ตซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมตอบคำถามราว 7,000 คนด้วยกัน ซึ่งผลสำรวจนั้นก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าคนส่วนใหญ่จะยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าที่พวกเขาดาวน์โหลดมาอย่างผิดกฏหมาย ถ้ามันมีราคาที่สมเหตสมผล
นอกจากนั้น ผลการศึกษาดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้งานที่ชอบดาวน์โหลดภาพยนตร์เถื่อนนั้นจะยอมจ่ายเงินสูงสุด $10 (ราว 330 บาท) ต่อภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง และต้องทำออกมาในฟอร์แมตที่พวกเขาสามารถใช้งานได้ตามต้องการ ในขณะที่ผู้ที่ชอบดาวน์โหลดเพลงเถื่อนส่วนใหญ่นั้นจะยอมจ่ายราว 50 เซ็นต์ (ราว 17 บาท) ต่อเพลงหนึ่งเพลง
นาย David Crafti หัวหน้าพรรค Pirate Party ของประเทศออสเตรเลียให้ความเห็นว่า "ผู้คนไม่ใช่แต่จะมองหาของฟรีเท่านั้น พวกเขากำลังอาศัยอยู่ในโลกยุคใหม่ที่พวกเขาคาดหวังว่ารูปแบบทางธุรกิจต้องตามเขาให้ทัน"
"พวกเขาเพียงต้องการรู้ว่าพวกเขาได้ข้อมูลที่อยากได้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกเวลา บนอุปกรณ์ที่พวกเขาต้องการ และสามารถใช้งานได้ในอีกสามเดือนให้หลัง หรือในปีต่อไป และต้องไม่มีข้อจำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน" (ซึ่งน่าจะหมายถึงระบบ DRM บนแผ่นลิขสิทธิ์อันน่าเอือมระอา - ผู้เรียบเรียง)
นาย Neil Gane กรรมการบริหารของ Australian Federation Againsy Copyright Theft ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลสำรวจดังกล่าวว่า "นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และเป็นสิ่งที่ธุรกิจถูกกฏหมายต่างพากันแสวงหา"
"อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นต้องการให้เนื้อหาของพวกเขาไปอยู่บนโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่สามารถแข่งขันกับทางเลือกอื่นที่เป็นของฟรีซึ่งมาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ และเมื่อใดที่มันมีพื้นที่ว่างให้กับมันแล้ว ผมคิดว่าคุณก็จะได้เห็นรูปแบบทางธุรกิจที่ยืดหยุ่นและดีกว่านี้"
นอกจากนั้นนาย Gane ยังกล่าวอีกว่าราคาสูงสุดที่ผู้บริโภคจะยอมจ่ายดังที่รายงานไปแล้วนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์และเพลง

Source: i3
นอกจากนั้น ผลการศึกษาดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้งานที่ชอบดาวน์โหลดภาพยนตร์เถื่อนนั้นจะยอมจ่ายเงินสูงสุด $10 (ราว 330 บาท) ต่อภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง และต้องทำออกมาในฟอร์แมตที่พวกเขาสามารถใช้งานได้ตามต้องการ ในขณะที่ผู้ที่ชอบดาวน์โหลดเพลงเถื่อนส่วนใหญ่นั้นจะยอมจ่ายราว 50 เซ็นต์ (ราว 17 บาท) ต่อเพลงหนึ่งเพลง
นาย David Crafti หัวหน้าพรรค Pirate Party ของประเทศออสเตรเลียให้ความเห็นว่า "ผู้คนไม่ใช่แต่จะมองหาของฟรีเท่านั้น พวกเขากำลังอาศัยอยู่ในโลกยุคใหม่ที่พวกเขาคาดหวังว่ารูปแบบทางธุรกิจต้องตามเขาให้ทัน"
"พวกเขาเพียงต้องการรู้ว่าพวกเขาได้ข้อมูลที่อยากได้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกเวลา บนอุปกรณ์ที่พวกเขาต้องการ และสามารถใช้งานได้ในอีกสามเดือนให้หลัง หรือในปีต่อไป และต้องไม่มีข้อจำกัดจำนวนครั้งในการใช้งาน" (ซึ่งน่าจะหมายถึงระบบ DRM บนแผ่นลิขสิทธิ์อันน่าเอือมระอา - ผู้เรียบเรียง)
นาย Neil Gane กรรมการบริหารของ Australian Federation Againsy Copyright Theft ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลสำรวจดังกล่าวว่า "นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และเป็นสิ่งที่ธุรกิจถูกกฏหมายต่างพากันแสวงหา"
"อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นต้องการให้เนื้อหาของพวกเขาไปอยู่บนโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่สามารถแข่งขันกับทางเลือกอื่นที่เป็นของฟรีซึ่งมาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ และเมื่อใดที่มันมีพื้นที่ว่างให้กับมันแล้ว ผมคิดว่าคุณก็จะได้เห็นรูปแบบทางธุรกิจที่ยืดหยุ่นและดีกว่านี้"
นอกจากนั้นนาย Gane ยังกล่าวอีกว่าราคาสูงสุดที่ผู้บริโภคจะยอมจ่ายดังที่รายงานไปแล้วนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์และเพลง

Source: i3
Comment