ที่มา http://www.biohazardclub.net/blog/?p=102
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และ Nvidias CEO Jen Hsung Huang คงต้องกุมขมับหลายๆเรื่อง
อย่างเช่น การที่ Fermi ต้องออกช้าไปจากเดิมถึง 6เดือน
แถมยังมีเรื่องกลุ้มใจเข้าไปอีกเมื่อทาง Intel มีข้อขัดแย้งกับ Nvidia ในเรื่องของ license สำหรับการทำชิบเซ็ตบน Intel CPU platform
ซึ่งชิบเซ็ตตัวเจเนอเรชั่นถัดไปอย่าง ION ก็เป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่า Nvidia ไม่ได้ทำ chipset แต่ทำ GPU แบบแยกมาเลยต่างหาก ดูแล้วมันก็เหมาะกับ Netbook ที่มีชื่อว่า Pine-trail 2010 platform
แต่ทาง Nvidia ก็ไม่เคยทำ QPI chipset สำหรับ 1366 pin CPU แถมยังไม่มี chipset ที่รองรับ 1156 Core i5, i7 และ CPU ตัวอื่นๆใน Series นี้ ก็เพราะต้องได้ license จาก Intel ก่อน (nVIDIA ไม่สามารถทำชิบเซ็ตได้เพราะทาง Intel ไม่ให้ licence สำหรับ Core i3-i7)
ซึ่งหมายความว่า Nvidia จะสูญเสียตลาด chipset แล้วแถมทาง AMD ก็ยังผลักดัน Platform ของตนเอง ออกมาอีก ซึ่งทำให้ทาง Nvidia ไม่สามารถออก ชิบเซ็ตมาสู้ กับ ชิบเซ็ตของทาง AMD ได้เลยในแพลทฟอร์มของ AMD ยิ่งไปกว่านั้น ชิบเซ็ตยังมีชิบเซ็ต AMD 890GX และ 890FX ที่ออกมาใหม่ และดูเหมือนว่าชิบเซ็ตดังกล่าวจะทำออกมาเป็น solution ที่เหมาะสมกับ Athlon และ Phenoms ในหลายๆรุ่น จนทาง Nvidia แทบไม่มีไม้ตายอะไรจะงัดมาสู้เลย จึงเป็นเหตุว่าทำไม นาย Jensen บอกกับทาง CNN จะสู้คดีกับ Intel อย่างเต็มที่ในศาลเพื่อให้ได้ license ที่พวกเขาควรจะได้เหมือนในครั้งอดีตที่ผ่านๆมา
เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ตอนที่ Intel เห็นว่า Nvidia เป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่ต้องโดนจัดการก่อนใครเพื่อนก็เลยจัดการปรับเปลี่ยนกลยุทธและไม่ยอมให้ licence แก่อีกฝ่าย ซึ่งตัวนาย Jensen ก็คงไม่อยากให้เรื่องหลุดไปจากชั้นศาลและตัวเขาก็เชื่อว่าจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะในบั้นปลาย
อย่างไรก็ตามเรามาลองหวนกลับไปดูเรื่องเก่าๆกันบ้างว่าเรื่องนี้นี้มันจะจบแบบไหน โดยดูจากคู่ปรับเก่าของ Intel อย่าง Via หลายๆคนคงจำได้ว่าทาง VIA เคยฟ้อง Intel ในแบบเดียวกันนี้ และในที่สุดพวกเขาก็เป็นฝ่ายชนะคดีแต่ทว่าหลังจากชนะคดีแค่ปีเดียวพวกเขากลับสูญเสียตลาด chipset แถมยังกลายเป็นผู้ผลิต chipset รายเล็กๆไปในที่สุด อันเนื่องมาจากกลยุทธที่ทาง Intel วางแผนไว้
ก็ได้แต่หวังว่า Nvidia จะทำได้ดีตามที่ได้วางแผนไว้ เพราะถ้าแพ้ขึ้นมาก็จะเกิดการผูกขาดและไม่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเลย
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และ Nvidias CEO Jen Hsung Huang คงต้องกุมขมับหลายๆเรื่อง
อย่างเช่น การที่ Fermi ต้องออกช้าไปจากเดิมถึง 6เดือน
แถมยังมีเรื่องกลุ้มใจเข้าไปอีกเมื่อทาง Intel มีข้อขัดแย้งกับ Nvidia ในเรื่องของ license สำหรับการทำชิบเซ็ตบน Intel CPU platform
ซึ่งชิบเซ็ตตัวเจเนอเรชั่นถัดไปอย่าง ION ก็เป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่า Nvidia ไม่ได้ทำ chipset แต่ทำ GPU แบบแยกมาเลยต่างหาก ดูแล้วมันก็เหมาะกับ Netbook ที่มีชื่อว่า Pine-trail 2010 platform
แต่ทาง Nvidia ก็ไม่เคยทำ QPI chipset สำหรับ 1366 pin CPU แถมยังไม่มี chipset ที่รองรับ 1156 Core i5, i7 และ CPU ตัวอื่นๆใน Series นี้ ก็เพราะต้องได้ license จาก Intel ก่อน (nVIDIA ไม่สามารถทำชิบเซ็ตได้เพราะทาง Intel ไม่ให้ licence สำหรับ Core i3-i7)
ซึ่งหมายความว่า Nvidia จะสูญเสียตลาด chipset แล้วแถมทาง AMD ก็ยังผลักดัน Platform ของตนเอง ออกมาอีก ซึ่งทำให้ทาง Nvidia ไม่สามารถออก ชิบเซ็ตมาสู้ กับ ชิบเซ็ตของทาง AMD ได้เลยในแพลทฟอร์มของ AMD ยิ่งไปกว่านั้น ชิบเซ็ตยังมีชิบเซ็ต AMD 890GX และ 890FX ที่ออกมาใหม่ และดูเหมือนว่าชิบเซ็ตดังกล่าวจะทำออกมาเป็น solution ที่เหมาะสมกับ Athlon และ Phenoms ในหลายๆรุ่น จนทาง Nvidia แทบไม่มีไม้ตายอะไรจะงัดมาสู้เลย จึงเป็นเหตุว่าทำไม นาย Jensen บอกกับทาง CNN จะสู้คดีกับ Intel อย่างเต็มที่ในศาลเพื่อให้ได้ license ที่พวกเขาควรจะได้เหมือนในครั้งอดีตที่ผ่านๆมา
เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ตอนที่ Intel เห็นว่า Nvidia เป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่ต้องโดนจัดการก่อนใครเพื่อนก็เลยจัดการปรับเปลี่ยนกลยุทธและไม่ยอมให้ licence แก่อีกฝ่าย ซึ่งตัวนาย Jensen ก็คงไม่อยากให้เรื่องหลุดไปจากชั้นศาลและตัวเขาก็เชื่อว่าจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะในบั้นปลาย
อย่างไรก็ตามเรามาลองหวนกลับไปดูเรื่องเก่าๆกันบ้างว่าเรื่องนี้นี้มันจะจบแบบไหน โดยดูจากคู่ปรับเก่าของ Intel อย่าง Via หลายๆคนคงจำได้ว่าทาง VIA เคยฟ้อง Intel ในแบบเดียวกันนี้ และในที่สุดพวกเขาก็เป็นฝ่ายชนะคดีแต่ทว่าหลังจากชนะคดีแค่ปีเดียวพวกเขากลับสูญเสียตลาด chipset แถมยังกลายเป็นผู้ผลิต chipset รายเล็กๆไปในที่สุด อันเนื่องมาจากกลยุทธที่ทาง Intel วางแผนไว้
ก็ได้แต่หวังว่า Nvidia จะทำได้ดีตามที่ได้วางแผนไว้ เพราะถ้าแพ้ขึ้นมาก็จะเกิดการผูกขาดและไม่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคเลย
Comment