[SIZE="3"][B]
เว็บไซต์ pconline.com.cn ได้เปิดเผยข้อมูลซีพียูของอินเทลที่มีชื่อรหัสในการพัฒนาว่า Golftown อย่างละเอียด โดยซีพียู Golftown ตัวแรกที่จะปรากฏโฉมหน้าออกมานั้นจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Core i7 980X ซึ่งแต่เดิมซีพียูตัวนี้คาดกันว่าทางอินเทลจะใช้ชื่อว่า Core i9 สำหรับ Core i7 980X นี้จะอยู่บนพื้นฐานของสถาปัตยกรรม Westmere ซึ่งเป็นการพัฒนาซีพียูด้วยกระบวนการ 32 นาโนเมตร ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อมาจาก Nehalem อีกทอดหนึ่ง
Core i7 980X "Gulftown": six-core, LGA-1366, 3.33 GHz (turbo: 3.60 GHz), March 16
Core i7 970 "Bloomfield": quad-core, LGA-1366, 3.33 GHz (turbo: 3.46 GHz), Q3, 2010
Core i7 930 "Bloomfield": quad-core, LGA-1366, 2.80 GHz (turbo: 3.06 GHz), February 28
Core i7 880 "Lynnfield": quad-core, LGA-1156, 3.06 GHz (turbo: 3.73 GHz), Q2, 2010
Core i5 680 "Clarkdale": dual-core, LGA-1156, 3.60 GHz (turbo: 3.80 GHz), Mid-May
Core i3 550 "Clarkdale": dual-core, LGA-1156, 3.20 GHz, Q2, 2010
Pentium E6700 "Wolfdale-2M": dual-core, LGA-775, 3.43 GHz, Q2, 2010
เมื่อ Core i7 980X พัฒนาต่อเนื่องมาจาก Nehalem ดังนั้นคุณสมบัติเด่นๆ ที่มีอยู่ใน Core i7 รุ่นก่อนหน้าจึงได้ถูกถ่ายทอดมาอยู่ใน Core i7 980X ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรวมวงจรควบคุมหน่วยความจำไว้เป็นส่วนเดียวกับซีพียูที่รองรับการทำงานแบบ Trip-Channel การใช้บัสแบบ QPI การมีเทคโนโลยี Hyper-Threading และโดดเด่นสุดๆ กับเทคโนโลยี Turbo Boost ส่วนชิปเซตที่ทำงานร่วมกับซีพียู Core i7 980X นั้น ยังคงเป็นชิปเซตตัวเดิมที่ใช้กับ Core i7 รุ่นก่อนๆ คือชิปเซต X58 นั่นเอง
เมนบอร์ดซ็อกเก็ต LGA1366 ที่ใช้ชิปเซต X58 สามารถทำงานร่วมกับ Core i7 980X ได้ แต่อาจจะต้องทำการอัปเกรดไบออสเสียก่อน
เมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซต X58 ที่ออกจำหน่ายมาแล้วนั้นสามารถใช้งานร่วมกับซีพียู Core i7 980X ได้ แต่ว่าอาจจะต้องมีการอัปเกรดไปออส เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับ Core i7 980X ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการพลังงาน
รูป Roadmap ซีพียล่าสุดสำหรับตลาดเดสก์ท็อปของอินเทลในปี 2010
ถ้าเราดูจากรูป Roadmap เราจะพบว่าซีพียู Core i7 980X นี้จะเป็นซีพียูประสิทธิภาพสูงเพียงตัวเดียวที่อินเทลผลิตออกมาลงตลาด ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะตลาดในระดับนี้มีความต้องการไม่มากนัก อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่การขายการออก Core i7 980X นี้อินเทลไม่ได้คาดหวังในเรื่องของยอดขายมากนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องทางการตลาดการมาของ Core i7 980X นี้มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของอินเทล สำหรับซีพียูที่จะเป็นไฮไลต์จริงๆ ก็น่าจะอยู่ที่ซีพียู Core i7 930 ซึ่งจะเป็นซีพียู Core i7 สำหรับตลาดผู้ใช้ทั่วไปคาดว่าจะมาทดแทน Core i7 920
Core i7 980X โดย Core i7 980X นั้นมีสเปคความเร็วและประสิทธิภาพอยู่ที่ 3.3GHz clock speeds พร้อมด้วยหน่วยความจำ L3 Cache รวมถึงกว่า 12 MB โดยที่มีรายงานเพิ่มเติมว่าแต่ละแกนประมวลผลนั้นสามารถทำการเร่งไปได้ถึงกว่า 3.6 GHz ด้วยฟีเจอร์ TurboBoost และพร้อมกันนั้น Core i7 980X ยังสนับสนุนฟีเจอร์ Hyper-Threading ที่จะทำให้มีหน่วยประมวลผลแสดงในโปรแกรมรวมกันทั้งสิ้น 12 แกน Core i7 980X จะใช้พลังงานในการทำงาน 130 วัตต์ และจะอยู่ใน Socket LGA 1366 โดยทาง Intel มีแผนที่จะให้ Core i7 980X เข้ามาแทนที่ตำแหน่งของ Core i7 975 โดยที่จะมีราคาเท่าเดิมก็คือ 999 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 หมื่นบาทไทย
ที่มา www.quickpcextreme.com
เว็บไซต์ pconline.com.cn ได้เปิดเผยข้อมูลซีพียูของอินเทลที่มีชื่อรหัสในการพัฒนาว่า Golftown อย่างละเอียด โดยซีพียู Golftown ตัวแรกที่จะปรากฏโฉมหน้าออกมานั้นจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Core i7 980X ซึ่งแต่เดิมซีพียูตัวนี้คาดกันว่าทางอินเทลจะใช้ชื่อว่า Core i9 สำหรับ Core i7 980X นี้จะอยู่บนพื้นฐานของสถาปัตยกรรม Westmere ซึ่งเป็นการพัฒนาซีพียูด้วยกระบวนการ 32 นาโนเมตร ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อมาจาก Nehalem อีกทอดหนึ่ง
Core i7 980X "Gulftown": six-core, LGA-1366, 3.33 GHz (turbo: 3.60 GHz), March 16
Core i7 970 "Bloomfield": quad-core, LGA-1366, 3.33 GHz (turbo: 3.46 GHz), Q3, 2010
Core i7 930 "Bloomfield": quad-core, LGA-1366, 2.80 GHz (turbo: 3.06 GHz), February 28
Core i7 880 "Lynnfield": quad-core, LGA-1156, 3.06 GHz (turbo: 3.73 GHz), Q2, 2010
Core i5 680 "Clarkdale": dual-core, LGA-1156, 3.60 GHz (turbo: 3.80 GHz), Mid-May
Core i3 550 "Clarkdale": dual-core, LGA-1156, 3.20 GHz, Q2, 2010
Pentium E6700 "Wolfdale-2M": dual-core, LGA-775, 3.43 GHz, Q2, 2010
เมื่อ Core i7 980X พัฒนาต่อเนื่องมาจาก Nehalem ดังนั้นคุณสมบัติเด่นๆ ที่มีอยู่ใน Core i7 รุ่นก่อนหน้าจึงได้ถูกถ่ายทอดมาอยู่ใน Core i7 980X ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรวมวงจรควบคุมหน่วยความจำไว้เป็นส่วนเดียวกับซีพียูที่รองรับการทำงานแบบ Trip-Channel การใช้บัสแบบ QPI การมีเทคโนโลยี Hyper-Threading และโดดเด่นสุดๆ กับเทคโนโลยี Turbo Boost ส่วนชิปเซตที่ทำงานร่วมกับซีพียู Core i7 980X นั้น ยังคงเป็นชิปเซตตัวเดิมที่ใช้กับ Core i7 รุ่นก่อนๆ คือชิปเซต X58 นั่นเอง
เมนบอร์ดซ็อกเก็ต LGA1366 ที่ใช้ชิปเซต X58 สามารถทำงานร่วมกับ Core i7 980X ได้ แต่อาจจะต้องทำการอัปเกรดไบออสเสียก่อน
เมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซต X58 ที่ออกจำหน่ายมาแล้วนั้นสามารถใช้งานร่วมกับซีพียู Core i7 980X ได้ แต่ว่าอาจจะต้องมีการอัปเกรดไปออส เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกับ Core i7 980X ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการพลังงาน
รูป Roadmap ซีพียล่าสุดสำหรับตลาดเดสก์ท็อปของอินเทลในปี 2010
ถ้าเราดูจากรูป Roadmap เราจะพบว่าซีพียู Core i7 980X นี้จะเป็นซีพียูประสิทธิภาพสูงเพียงตัวเดียวที่อินเทลผลิตออกมาลงตลาด ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะตลาดในระดับนี้มีความต้องการไม่มากนัก อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่การขายการออก Core i7 980X นี้อินเทลไม่ได้คาดหวังในเรื่องของยอดขายมากนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องทางการตลาดการมาของ Core i7 980X นี้มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของอินเทล สำหรับซีพียูที่จะเป็นไฮไลต์จริงๆ ก็น่าจะอยู่ที่ซีพียู Core i7 930 ซึ่งจะเป็นซีพียู Core i7 สำหรับตลาดผู้ใช้ทั่วไปคาดว่าจะมาทดแทน Core i7 920
Core i7 980X โดย Core i7 980X นั้นมีสเปคความเร็วและประสิทธิภาพอยู่ที่ 3.3GHz clock speeds พร้อมด้วยหน่วยความจำ L3 Cache รวมถึงกว่า 12 MB โดยที่มีรายงานเพิ่มเติมว่าแต่ละแกนประมวลผลนั้นสามารถทำการเร่งไปได้ถึงกว่า 3.6 GHz ด้วยฟีเจอร์ TurboBoost และพร้อมกันนั้น Core i7 980X ยังสนับสนุนฟีเจอร์ Hyper-Threading ที่จะทำให้มีหน่วยประมวลผลแสดงในโปรแกรมรวมกันทั้งสิ้น 12 แกน Core i7 980X จะใช้พลังงานในการทำงาน 130 วัตต์ และจะอยู่ใน Socket LGA 1366 โดยทาง Intel มีแผนที่จะให้ Core i7 980X เข้ามาแทนที่ตำแหน่งของ Core i7 975 โดยที่จะมีราคาเท่าเดิมก็คือ 999 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 หมื่นบาทไทย
ที่มา www.quickpcextreme.com
Comment