Announcement

Collapse
No announcement yet.

ถ้ามี router แยกจาก modem ทำไมต้องต่อ modem เป็น bridge mode ครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ถ้ามี router แยกจาก modem ทำไมต้องต่อ modem เป็น bridge mode ครับ

    วัตถุประสงค์ของการset modem เป็น bridge ทำเพื่ออะไรครับ และการต่อ bridge เป็นยังไง สัญญาณจาก ISP จะผ่านตรงไป router เลยหรือว่ายังไงครับ ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย

    ขอบคุณครับ

  • #2
    เอาเท่าที่ผมรู้นะครับ คำว่า bridge ถ้าแปลก็คือสะพาน ก็ตรง ๆ นะครับมันทำหน้าที่เป็นสะพานโดยเมื่อ

    สัญญาณเข้ามาที่ตัวมันก็จะผ่านไปเข้าเร้าท์เตอร์ และเร้าท์เตอร์ก็ตั้ง ppoe เหตุผลโดยมากก็คือ เมื่อมี

    การจัดการใด ๆ ตัวเร้าท์เตอร์สามารถตั้งค่าได้มากมาย (เป็นรุ่น ๆ ไป) จำพวก all in one ที่จริงก็ใช้ได้

    แต่บางงานซึ่งต้องตั้งค่ามาก ๆ ลึก ๆ ก็จะไม่มีฟังค์ชั่นที่ต้องการ อีกทั้งความสามารถในการจัดการเรียกว่า

    ยังไม่เพียงพอก็แล้วกันสำหรับงานใหญ่ ๆ แต่ถ้าเล่นในบ้านผมว่าเหลือเฟือครับ ผมเองไม่เก่งแต่อ่าน ๆ มา

    ก็ประมาณนี้ละครับ

    Comment


    • #3
      ถามว่าทำไปทำไมก็เพราะการใช้งานหนักๆ modem ทำธรรมดาๆ นั้นมันทำงานไม่ไหวทำให้เกิดการแฮงแรมเต็ม ซีซันเต็มทำให้บ้างทีเข้าเวปแล้วโหลดหมุนๆแล้วก็หลุดไป เมื่อเรา set มันเป็น bridge ภาระทั้งหมด router จะรับหน้าที่แทนแต่เราเตอร์นั้นมันไม่มี port rj-11 จึงต้องนำเอามา modem มาต่อแล้วตั้งเป็น bridge
      ถ้าในความคิดผมคิดไม่ผิด ถ้าเรา set modemเป็น bridge มันก็ทำหน้าที่แค่เป็น rj-11

      Comment


      • #4
        เวลาเราจะ connect เมื่อต่อครบสายเรียบร้อยแล้ว เราต้องใส่ Username Password ให้ตรงกับที่ ISP กำหนดไว้
        ปกติเราก็เอา Username Password ไปใส่ไว้ในโมเด็มได้เลย (ตรงช่อง PPPoE) แล้วโมเด็มจะ connect ให้เอง
        แต่ถ้ามีการใช้งานหนัก โมเด็มอาจจะแฮงก์/รีสตาร์ท สาเหตุหลักๆคือแรมหมด/ร้อน
        เราก็ใช้ไวร์เลสเราเตอร์ PPPoE แทนโมเด็มได้ โดยตั้งโมเด็มเป็น Bridged แล้วใส่ PPPoE ที่เราเตอร์
        ไวร์เลสเราเตอร์สเปคดีกว่าโมเด็ม โอกาสค้างจะน้อยกว่าโมเด็ม(เป็นบางรุ่น)

        Comment


        • #5
          ดีอีกอย่างก็เรื่องของการ Forward port ด้วยครับ ถ้าไม่ตั้งเป็น Bridge ก็จะต้องทำทั้ง 2 ตัว

          Comment


          • #6
            ผมเปิดดูโมเด็มผม (billionsky) ตั้งเป็น bridge และก็มีใส่ username + password ของทรูอยู่กับโมเด็มด้วย ผมควรต้องลบออกและไปใส่ในrouter แทนไม๊ครับ

            แล้วถ้าต่อ bridge mode อยากทราบว่าโมเด็มอะไรก็ให้คุณภาพการต่อเน็ตเหมือนกันไม๊ครับ หรือโมเด็มที่ดีจะให้ความเสียงของ connection ที่ดีกว่าและการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า

            ขอบคุณครับ

            Comment


            • #7
              ผมเปิดดูโมเด็มผม (billionsky) ตั้งเป็น bridge และก็มีใส่ username + password ของทรูอยู่กับโมเด็มด้วย ผมควรต้องลบออกและไปใส่ในrouter แทนไม๊ครับ
              ไม่จำเป็น ใส่/ไม่ใส่ค่าเท่ากัน

              แล้วถ้าต่อ bridge mode อยากทราบว่าโมเด็มอะไรก็ให้คุณภาพการต่อเน็ตเหมือนกันไม๊ครับ หรือโมเด็มที่ดีจะให้ความเสียงของ connection ที่ดีกว่าและการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า
              Modem แต่ละตัว จับสัญญาณได้มาก-น้อยไม่เท่ากัน (ค่า SNR)
              แต่เท่าที่จับมา แตกต่างกันไม่มาก ถ้าเนตไม่หลุดบ่อยก็ใช้ไปเถอะ

              Comment


              • #8
                bridge เป็นเหมือนสะพานทาง Wireless เชื่อม เครือข่ายสองเครือข่าย หรือมากกว่านั้น เข้าด้วยกัน พูดง่ายๆก็คือ ตัวส่งเข้าแลน ออกไวเวส แล้วตัวรับ รับเป็นไวเวส ออกแลนอีกที

                Comment


                • #9
                  Originally posted by NeoXeoN7 View Post
                  ไม่จำเป็น ใส่/ไม่ใส่ค่าเท่ากัน


                  Modem แต่ละตัว จับสัญญาณได้มาก-น้อยไม่เท่ากัน (ค่า SNR)
                  แต่เท่าที่จับมา แตกต่างกันไม่มาก ถ้าเนตไม่หลุดบ่อยก็ใช้ไปเถอะ
                  เน็ตมันหลุดบ่อยครับ เลยมาอ่านหาความรู้เรื่องโมเด็มเพิ่มครับ ที่ขายในบ้านเรา มีตัวไหนจับสัญญาณเน็ตดีๆ เสถียรๆ บ้างครับ ถ้าได้ Broadcom ยิ่งดีเพราะบ้านผมอยู่***งจากชุมสาย true มาก ตัว Thomson 536v6 546v6 มีของใหม่ขายกันไม๊ครับ

                  Comment


                  • #10
                    การคั้งแบบ Bridge เป็นแบบนิยมเพราะง่าย แต่เราเพิ่มภาระให้กับ Router แบบ bridge ประสิทธิภาพที่ว่าดีกว่าไม่เป็นความจริงครับ

                    Comment


                    • #11
                      ส่วนมาก modem ที่ได้จาก isp จะเป็น router all in one ซึ่งเป็น modem อยู่ในตัว โดยจะมี port rj11(รูเสียบสายโทรศัพท์) มาให้ด้วย และจะมี port lan อย่างน้อย 1 ช่อง เช่นของ tot เน็ตบ้านทั่วไปทาง isp ก็จะประมาณว่าแถม router all in one มาให้เลย

                      โดยทั่วไปตามบ้านก็จะใช้ internet โดยรับ ip เป็น dhcp จาก router ส่วนมากจะมี computer หลังละ 1-3 เครืองซะส่วนใหญ่ ซึ่งจะกระจายเป็น wireless หรือ lan อะไรก็แล้วแต่ ด้วยโหมดของ dhcp server จากตัว router เอง หากมี user เข้ามาขอรับ ip จำนวนไม่มากก็พอรับไหว แต่ในบริษัทแค่ขนาดย่อมๆ ใช้ router all in one ตัวเดียกระจาย port ด้วย switch มี computer แค่ 10 กว่าเครื่อง ภาคการทำงานของ modem (router all in one) ก็ถือว่าหนักอึ้งแล้ว จึงเป็นที่นิยมในการตั้งค่าให้ modem ที่ได้รับมาจาก isp เป็น Bridge มากกว่า แล้วหา router คุณภาพดีหน่อยมา dial-connect pppoe กับฝั่งต้น(isp)เพื่อขอสัญญาณ internet และให้ router ช่วยในเรื่อง route กระจาย ip แบบ dhcp server ไปให้เครื่อง clients ครับ

                      Comment


                      • #12
                        ขอบคุณมากครับสำหรับคำอธิบาย

                        ถ้าเราไม่ต่กเป็น bridge โดยให้โมเด็มรับ ip จาก dhcp ส่วนที่ตัว router เราสามารถเซ็ต ip ขึ้นมาใหม่เองได้ไม๊ครับ แล้วจะดีกว่าการต่อ bridge modem รึเปล่าครับ

                        ตามที่คุณ baraqkak บอก แสดงว่าการต่อโมเด็มแบบไม่ bridge จะดีกว่า ไม่ทราบว่าดีกว่าในด้านไหนครับ และมีวิธีเซ็ตยังไงครับ ผมใช้เน็ตทรู (ตอนที่ซื้อ ร้านที่ขาย router บอกว่าให้เซ็ตโมเด็ม bridge เพราะไม่งั้น ip ชนระหว่างโมเด็มกับ router)

                        ขอบคุณครับ

                        Comment


                        • #13
                          ลองอ่านที่นี่ครับ

                          http://www.overclockzone.com/forums/...1#post22243413

                          Comment


                          • #14
                            ผมคิดอย่างนี้นะ

                            ถ้ามี router 2 ตัว ในระบบ
                            NAT ก็ต้อง 2 ครั้ง (แม้ว่าบาง NAT เราไม่ต้องทำเองแต่ router ทำอยู่ดี)
                            port forward ก็ต้อง 2 ครั้ง
                            Internet ---> Router1+NAT1/port forward1---> Router2+NAT2/port forward2 ---> PC
                            การรแก้ปัญหากรณีระบบมีปัญหาก็จะยากขึ้น

                            แต่ถ้าเป็น bridge ก็จะมี router ในระบบตัวเดียว ควบคุมและจัดการทุกอย่าง
                            NATครั้งเดียว port forward ครั้งเดียว ระบบเร็วกว่า
                            Internet ---> modem---> Router+NAT/port forward ---> PC

                            Comment


                            • #15
                              ประโยชน์ของ Bridge อีกอย่างคือการรวมศูนย์การจัดการครับ

                              ถ้าไม่ใช้ เราต้องตั้ง Username/Password แล้วก็ DHCP รวมทั้ง Wireless Management ทั้งหมดที่ Modem
                              แล้วก็มาตั้งเกี่ยวกับ Switching ที่ Router แยกกัน
                              (ยังไม่รวมเรื่อง Port Forwarding ที่ต้องตั้งซ้อนกัน 2 ที่อีก)

                              แต่ถ้า Bridge ปุ๊บ เราควมคุมทุกอย่างที่ Router ได้ในตัวเดียวเลย
                              โมเดมทำหน้าที่วิ่งออกเนทให้เท่านั้น (โดย Username/Password ยังอยู่ที่ Router)

                              แล้วอื่นๆก็คือเรื่องของความสามารถในการรองรับเครื่องเยอะๆอย่างที่ท่านบนๆบอกมาแหละครับ
                              ลองจินตนาการถึง Router แบบ All-in-One ง่อยๆที่ ISP ชอบแถมมา (Billion, D-Link รุ่นถูกๆ)
                              เทียบกับ Router รุ่นเทพๆ (Linksys WRT54GL, Asus RT16N แล้วลงพวก Tomato หรือ DD-WRT)
                              ความสามารถในการรองรับ client พร้อมกันในเวลาเดียวมันต่างกันเยอะครับ

                              Comment

                              Working...
                              X