สัญญาณ5ghzนิ่งจริงๆ ผมส่งเน็ตไปร้านเน็ตผม 5ghz เช็คต้นping 10 เช็คที่ร้านผม ได้ไม่เกิน15 ถ้าหาว่าโม้มาเทศได้ ถ้าโกหกให้ถีบปากเลย
Announcement
Collapse
No announcement yet.
เห็นกันหรือยัง AIS AIRNET 7/7 590 บริการใหม่จาก ais
Collapse
X
-
Originally posted by baraqkak View Postตกลง fiber oftic กับ fttx มันคือสายหรือไม่ครับ? ผมไม่ได้บอกว่าเป็นสายทองแดง ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ครับ?
อีกอย่าง 5GHz มันคือย่านความถี่ของการรับส่งข้อมูล มันไปเกี่ยวอะไรกับความเร็วด้วยละครับ
FTTx แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ FTTN, FTTC, FTTB และ FTTH ? Fiber To The Node (FTTN) หรือ Fiber To The Cabinet (FTTCab) บางครั้งอาจเรียกว่า Fiber To The Neighborhood เป็นการวางสายใยแก้วนำแสงจากชุมสายโทรศัพท์ไปสิ้นสุดยังตู้กระจายสัญญาณโทรคมนาคม (Cabinet) จาก นั้นจึงทำการกระจายสัญญาณผ่านคู่สายโคแอกเชียลไปยังที่พักอาศัยของผู้ใช้ บริการแต่ละราย ในทางปฏิบัติจะมีการติดตั้งคู้กระจายสัญญาณโดยพิจารณาให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ ใช้บริการเป้าหมายภายในรัศมี 1,500 เมตร อย่างไรก็ตามหากรัศมีการกระจายสัญญาณของตู้กระจายมีระยะทางต่ำกว่า 300 เมตร ก็จะเรียกสถาปัตยกรรมนี้ว่า Fiber To The Curb (FTTC) ทั้งนี้ผู้ให้บริการสามารถเลือกให้บริการสื่อสารแบบบรอดแบนด์ระหว่างตู้ กระจายสัญญาณกับผู้ใช้บริการ โดยอาศัยโพรโทคอลได้หลากหลายประเภท เช่น Broadband Cable Access ตามมาตรฐาน Data Over Cable Service Interface Specification (DOCSIS) รวมถึงการให้บริการตามมาตรฐาน DSL ทั่วไป สถาปัตยกรรมแบบ FTTN นี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์จากคู่สายโคแอกเชียลหรือแม้กระทั่งสายทอง แดงที่มีการติดตั้งใช้งานอยู่แต่เดิมให้ได้มากที่สุด เป็นการลดต้นทุนในการรื้อเปลี่ยนโครงข่ายกระจายสัญญาณใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้บริการ ต่ำสุดเมื่อเทียบกับบรรดาเทคโนโลยีในกลุ่ม FTTx ทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการพึ่งพาขีดความสามารถที่มีอยู่จำกัดของคู่สายกระจายที่มีแต่เดิมนั่นเอง ? Fiber To The Curb (FTTC) บางครั้งมีชื่อเรียกว่า Fiber To The Kurb (FTTK) เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความแตกต่างจาก FTTN ตรงที่มีการติดตั้งตู้กระจายสัญญาณไว้ใกล้กับกลุ่มผู้ใช้บริการมาก (โดยทั่วไปนิยามไว้ที่ระยะ***งจากกลุ่มผู้ใช้บริการไม่เกิน 300 เมตร) และเนื่องจากยังคงเป็นการใช้ประโยชน์จากคู่สายทองแดงและสายโคแอกเชียลที่มี อยู่แต่เดิมในการกระจายรับส่งสัญญาณไปยังผู้ใช้บริการปลายทาง แม้จะย่นระยะ***งระหว่างตู้กระจายสัญญาณกับผู้ใช้บริการให้ใกล้เข้ามากว่า สถาปัตยกรรม FTTN แต่สถาปัตยกรรมแบบ FTTC ก็ยังคงมีข้อจำกัดในแง่ของอัตราเร็วในการสื่อสารอันเนื่องจากคุณลักษณะของ คู่สายกระจายสัญญาณอยู่ เพียงแต่มีโอกาสที่จะให้บริการได้ด้วยอัตราเร็วที่เหนือกว่า FTTN ? Fiber To The Home (FTTH) และ Fiber To The Building (FTTB) ซึ่งทั้ง 2 สถาปัตยกรรมมักได้รับการเรียกชื่อรวมๆ กันว่า Fiber To The Premise (FTTP) ล้วนเป็นการใช้ประโยชน์จากการวางสายใยแก้วนำแสงจากชุมสายโทรศัพท์ตรงไปสิ้น สุดยังอาคารที่พักอาศัยหรืออาคารสำนักงาน เพื่อลดการเชื่อมต่อกับคู่สายทองแดงหรือโคแอกเชียลที่มีอยู่แต่เดิมโดยสิ้น เชิง ทั้งนี้เน้นให้ใช้ประสิทธิภาพของการรับส่งข้อมูลอัตราเร็วสูงผ่านคู่สายใย แก้วนำแสงให้ได้มากที่สุด โดยข้อแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี FTTH และ FTTB อยู่ที่ตำแหน่งของจุดกระจายสัญญาณ ซึ่ง FTTP จะติดตั้งตู้กระจายสัญญาณไว้ ณ จุดใดจุดหนึ่งภายในอาคาร จากนั้นจึงกระจายสัญญาณผ่านสายโคแอกเชียลไปยังผู้บริโภคแต่ละรายภายในอาคาร ในขณะที่สถาปัตยกรรมแบบ FTTH จะแยกกระจายคู่สายใยแก้วนำแสงไปยังห้องหรือตำแหน่งใช้งานของผู้บริโภคแต่ละราย ซึ่งภายในแต่ละจุดนั้นจะมีการติดตั้งกล่องแปลงสัญญาณ (ONT ? Optical Network Terminator) จากสัญญาณ แสงไปเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อต่อเข้ากับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ จึงถือว่าสถาปัตยกรรมแบบ FTTH มีการรับประกันอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้บริการปลายทางได้สูงที่สุดเทียบกับสถาปัตยกรรมแบบอื่นๆ ในตระกูล FTTx ที่มาhttp://dreamsender.blogspot.com/2009...ftth-fttx.htmlLast edited by -:R:-; 17 May 2011, 08:17:54.
Comment
-
Originally posted by -:R:- View Postดู ๆ ไปแล้ว รู้สึกเน็ทหอพัก กระจ้อยร่อยอย่างเราจะโดนค่ายมือถือรุกคืบ กินจนจะหมดแล้วมั้งนิ 30 วันผมให้ใช้ 2m/512 ราคาแค่ 250 บาทเอง แต่ถ้ามันทำเหมือน 3bb 100เดียวก็เจ๊งกันหมดดิ - -*
ของท่านรู้แน่ๆว่ามีคนเล่นเท่าไหร่/ความเร็วเนตเท่าไหร่/ความเร็วแต่ละ User เท่าไหร่
Truewifi มีมาตั้งนาน ยังไม่เห็นมีจุดไหนเสถียร 100%
คนเล่นกี่คนไม่รู้/เนตที่เอามาต่อเร็วเท่าไหร่ไม่รู้
ผมว่า Hotspot ของ AIS คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ นอกโซนรถไฟฟ้ายังอีกนานกว่าจะไว้ใจได้
สำหรับลูกค้า จ่ายแพงกว่า=เล่นได้แน่ๆ เป็นผมก็ยอมจ่าย
Comment
-
ผมว่ายังคงเข้าใจอะไรผิดๆกันอยู่พอสมควรนะครับ เกี่ยวกับ AIS AIRNET
ก่อนอื่น เรื่องคลื่นสัญญาณ 2.4Ghz กับ 5Ghz มันเป็นคุณสมบัติหนึ่งของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ถูกกำหนดตามมาตรฐานโลก IEEE 802.11
เป็นช่วงความถี่ที่ใช้กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์
โดยทั่วๆไปแล้ว ในบ้านเราประเทศเรา ในเมืองหลวงหรือชุมชนใหญ่ๆที่มีตึกสูง ด้วยคุณสมบติของคลื่นที่มีความยาวคลื่นยาว = ความถี่ต่ำ จะทะลุทะลวง
สิ่งกีดขวางได้ดีกว่า ทำให้มาตรฐาน IEEE 802.11b/g/n หรือที่เรียกๆกันว่า 2.4Ghz ถูกนำมาใช้ในการส่งข้อมูลได้ดีกว่า มันอยู่ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่
ของเราแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคลื่นไมโครเวฟ สัญญาณ wifi จาก AP ทั่วๆไป เช่น truewifi 3BB ล้วนแต่เป็นช่วงคลื่น 2.4Ghz ทั้งสิ้น
แต่ ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าบ้านเราหลายๆเท่า คุณสมบัติของคลื่น 2.4Ghz นั้นมีกำลังส่งไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับการสูญเสีย
เมื่อระยะทางเพิ่มขึ้น มาตรฐาน IEEE 802.11a/n หรือ คลื่น 5Ghz จึงถูกนำมาใช้ ด้วยคุณลักษณะของคลืนที่มีความยาวคลื่นสั้น = ความถี่สูง
ทำให้มันส่งได้ไกลและแรงกว่า 2.4Ghz หลายเท่า โดยมีข้อจำกัดว่า จะต้องมีสิ่งกีดขวางให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
และนี่คือเหตผลว่าทำไม AIS เปิดให้บริการช่วงแรกในเขต กทม รอบนอก และปริมณฑล เพราะรอบๆเมืองชั้นนอก ย่อมมีอาคารสูงหรือสิ่งกีดขวางน้อยกว่า
การติดตั้งเสากระจายสัญญาณ จึงทำได้ง่ายและครอบคลุมพืนที่ได้ง่ายกว่า
แน่นอนว่า AIS ต้องใช้ตัวส่ง ระบบ 5Ghz แน่นอน แล้วถามว่าเราจะรับอย่างไรในเมื่ออุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เราใช้ เช่นมือถือ การ์ดไวเลส มันก็เป็น 2.4Ghz
ใช่ครับ มันรับไม่ได้ แต่ AIS จะให้ Access point มาติดตั้งที่บ้านเรา เพื่อรับสัญญาณ 5Ghz ที่ปล่อยมาจากเสา หลังจากนั้นจึงแปลงเป็นสัญญาณ 2.4Ghz เพื่อกระจาย
ภายในบ้านอีกทีหนึ่ง คงพอเข้าใจนะครับ
Comment
-
Originally posted by NeoXeoN7 View Postจากราคา ก็เห็นได้ชัดว่าแข่งกับ ADSL ^^
แบบมีสาย ก็มั่นใจได้เลยว่า เล่นได้แน่ ๆ แม้ฝนจะตกก็ยังเล่นได้ (บางท่านอาจจะเล่นไม่ได้เพราะคู่สายเก่า)
แบบไร้สาย แบบนี้ ก็ประหยัดการเดินสาย แต่ก็ต้องจ่ายในส่วนของอุปกรณ์แทน ฝนตกทีร้องไม่ออก เพราะเม็ดฝนหนา ๆ ก็ไม่ต่างกับต้นไม้ใหญ่ ๆ เลย คลื่น สูญเสียไประหว่างเม็ดฝหมด และยิ่งมีสิ่งกีดขวาง...ตึก ต้นไม้ คลื่นรบกวนต่าง ๆ ไมโครเวฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัว ap ของชาวบ้าน กว่าจะมาถึงเราได้ ยิ่งไกล ยิ่งทำให้ losse หมด
ต้องเข้ารหัสใหม่เหมือน airmax ถึงจะนิ่งหมด รู้กันแค่ 2 ฝั่ง ทำให้ไม่โดนอะไรมากวน packer ได้เยอะเหมือนไม่เข้ารหัส
Comment
-
Originally posted by -:R:- View Postข้อดีข้อเสียต่างกันนะผมว่า
แบบมีสาย ก็มั่นใจได้เลยว่า เล่นได้แน่ ๆ แม้ฝนจะตกก็ยังเล่นได้ (บางท่านอาจจะเล่นไม่ได้เพราะคู่สายเก่า)
แบบไร้สาย แบบนี้ ก็ประหยัดการเดินสาย แต่ก็ต้องจ่ายในส่วนของอุปกรณ์แทน ฝนตกทีร้องไม่ออก เพราะเม็ดฝนหนา ๆ ก็ไม่ต่างกับต้นไม้ใหญ่ ๆ เลย คลื่น สูญเสียไประหว่างเม็ดฝหมด และยิ่งมีสิ่งกีดขวาง...ตึก ต้นไม้ คลื่นรบกวนต่าง ๆ ไมโครเวฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัว ap ของชาวบ้าน กว่าจะมาถึงเราได้ ยิ่งไกล ยิ่งทำให้ losse หมด
ต้องเข้ารหัสใหม่เหมือน airmax ถึงจะนิ่งหมด รู้กันแค่ 2 ฝั่ง ทำให้ไม่โดนอะไรมากวน packer ได้เยอะเหมือนไม่เข้ารหัส
5ghz ไม่แพ้ฝนน่ะครับ ถึงแพ้ก็น้อย เอาง่ายๆ ลูกค้าผม30กว่าคน ใช้nanoloco 5ghz ไม่มีใครโทรมาบ่นเลยช่วงนี้ จังหวัดผมฝนตกทุกวัน แล้วลูกค้าที่ร้านเกมส์ผม ก็เล่นซะลืมไปเลยฝนตก ผมไม่กลัวเรื่องpacketด้วยครับเพราะผมใช้ ciscoมาแยกvlan แยกtrafficแต่ละจุด เรื่อง boardcastในระบบ จึงมีปัญหาน้อยมาก ปัจจุบันผมให้บริการทั้งย่าน 2.4/5ghz ผมใช้จริง ใช้อยู่จึงบอกได้ว่าไม่มีปัญหา ไม่ใช่ตามเค้าเล่าอ้าง ที่เอาบริการนี้มาโพสเพราะว่า ผมใช้อยู่ ปัจุบันมี ubiqutiในระบบผมไม่ต่ำกว่า60ตัว เรื่อง boadcastมีปัญหาน้อยมาก เรื่องฝนนี้กระทบได้แค่ย่าน2.4 5ghzไม่ได้แอ้ม
Comment
-
Originally posted by -:R:- View Postผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันครับ ปกติไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้
ดู ๆ ไปแล้ว รู้สึกเน็ทหอพัก กระจ้อยร่อยอย่างเราจะโดนค่ายมือถือรุกคืบ กินจนจะหมดแล้วมั้งนิ 30 วันผมให้ใช้ 2m/512 ราคาแค่ 250 บาทเอง แต่ถ้ามันทำเหมือน 3bb 100เดียวก็เจ๊งกันหมดดิ - -*
Comment
-
Originally posted by chincom View Post5ghz ไม่แพ้ฝนน่ะครับ ถึงแพ้ก็น้อย เอาง่ายๆ ลูกค้าผม30กว่าคน ใช้nanoloco 5ghz ไม่มีใครโทรมาบ่นเลยช่วงนี้ จังหวัดผมฝนตกทุกวัน แล้วลูกค้าที่ร้านเกมส์ผม ก็เล่นซะลืมไปเลยฝนตก ผมไม่กลัวเรื่องpacketด้วยครับเพราะผมใช้ ciscoมาแยกvlan แยกtrafficแต่ละจุด เรื่อง boardcastในระบบ จึงมีปัญหาน้อยมาก ปัจจุบันผมให้บริการทั้งย่าน 2.4/5ghz ผมใช้จริง ใช้อยู่จึงบอกได้ว่าไม่มีปัญหา ไม่ใช่ตามเค้าเล่าอ้าง ที่เอาบริการนี้มาโพสเพราะว่า ผมใช้อยู่ ปัจุบันมี ubiqutiในระบบผมไม่ต่ำกว่า60ตัว เรื่อง boadcastมีปัญหาน้อยมาก เรื่องฝนนี้กระทบได้แค่ย่าน2.4 5ghzไม่ได้แอ้ม
ไม่ว่าจะ 2.4 หรือ 5 ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนมากนัก
กรณีท่านจะเริ่มกระทบตอนที่ AIS วางระบบครอบคลุมบริเวณที่ท่านให้บริการนั่นแหละ
packet ในสายไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แก้ได้โดย vlan แต่ packet collisions ในอากาศมันเลี่ยงยาก
ท่านให้บริการลูกค้า 60 สมมุติ AIS มีลูกค้าซัก 200 True เปิดบ้าง 3BB เปิดบ้าง ยังจะเหลือ channel ไหนให้เอามาใช้อีก ^^"
ใกล้ๆไม่เป็นไร แต่ลูกค้าที่อยู่ไกลหน่อยคุณภาพสัญญาณมันจะลดลงฮวบฮาบ เหมือน 2.4 ตอนนี้แถวๆสยาม
Comment
-
ผมลองมาแล้วครับ ฝนตกจานแดงดูไม่ได้ แต่ airnet ไม่เคยหลุดครับ ^^
อ้าว มันไปเทสภูเก็ตทำไม อันนี้ของ Bangkok ครับ
ส่วนวันพรุ่งนี้ call center จะโทรแจ้งเพื่อนผมอีกคนละ ว่าบ้านมันติดได้หรือป่าว
*** ติดแล้วค่า ratio บิทผมพุ่งปรี๊ดเลยครับ อิอิLast edited by MarketKith; 17 May 2011, 20:53:18.
Comment
-
Originally posted by NeoXeoN7 View Postเรื่องฝนเป็นปัญหากับพวกแถวๆ 10 GHz ครับ
ไม่ว่าจะ 2.4 หรือ 5 ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนมากนัก
กรณีท่านจะเริ่มกระทบตอนที่ AIS วางระบบครอบคลุมบริเวณที่ท่านให้บริการนั่นแหละ
packet ในสายไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แก้ได้โดย vlan แต่ packet collisions ในอากาศมันเลี่ยงยาก
ท่านให้บริการลูกค้า 60 สมมุติ AIS มีลูกค้าซัก 200 True เปิดบ้าง 3BB เปิดบ้าง ยังจะเหลือ channel ไหนให้เอามาใช้อีก ^^"
ใกล้ๆไม่เป็นไร แต่ลูกค้าที่อยู่ไกลหน่อยคุณภาพสัญญาณมันจะลดลงฮวบฮาบ เหมือน 2.4 ตอนนี้แถวๆสยาม
Comment
-
Originally posted by MarketKith View Postผมลองมาแล้วครับ ฝนตกจานแดงดูไม่ได้ แต่ airnet ไม่เคยหลุดครับ ^^
อ้าว มันไปเทสภูเก็ตทำไม อันนี้ของ Bangkok ครับ
ส่วนวันพรุ่งนี้ call center จะโทรแจ้งเพื่อนผมอีกคนละ ว่าบ้านมันติดได้หรือป่าว
*** ติดแล้วค่า ratio บิทผมพุ่งปรี๊ดเลยครับ อิอิ
รบกวน review อุปกรณ์ให้หน่อยได้มั้ยครับว่า รูปร่างหน้าตาเป็นเช่นใด ขอบคุณล่วงหน้าครับLast edited by chincom; 17 May 2011, 21:01:34.
Comment
Comment