Announcement

Collapse
No announcement yet.

จอ27นิ้ว ใช้กับงานเอกสาร ช่วยเลือกที

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • จอ27นิ้ว ใช้กับงานเอกสาร ช่วยเลือกที

    เอาให้แฟนใช้โปรแกรมเวิด+เอ็กเซล +เล่นเนต ใช้วันละ8ชม

    อยากให้ตัวหนังสือพอดีครับ ไม่รู้ว่า1920*1080 หรือ 2560*1440 ดี

    สัดส่วน 16ต่อ9 16ต่อ10มีผลกับตัวอักษรมั้ย

    ตอนนี้เล็งรุ่น ViewSonic VX2770Sml-LED 10500บาท

    งบไม่เกิน15000ครับ

  • #2
    งานเอกสารหาจอที่มี Flicker Free ครับ จะได้สบายตา + รักษาสายตา เพื่อนๆ หลายคนก็มายืนยันว่าสบายตาขึ้นจริงครับ

    ลองอ่านในรีวิวดูครับ เผื่อช่วยในการตัดสินใจครับ

    Comment


    • #3
      27@1080p ภาพจะหยาบขึ้นนิดหน่อยนะ ลองไปดูของจริงก่อน

      2560x1440p มีดี คือ พื้นที่ในการทำงานเยอะมาก ข้อเสียคือตัวหนังสือเล็กมาก ลองไปดูของจริงก่อนเช่นกัน

      16:9 16:10 ไม่มีผลต่อตัวอักษร

      รุ่นไหนก็แล้วแต่จะชอบ แค่ให้คำแนะนำครับ

      Comment


      • #4
        Originally posted by Mazzard View Post
        27@1080p ภาพจะหยาบขึ้นนิดหน่อยนะ ลองไปดูของจริงก่อน

        2560x1440p มีดี คือ พื้นที่ในการทำงานเยอะมาก ข้อเสียคือตัวหนังสือเล็กมาก ลองไปดูของจริงก่อนเช่นกัน

        16:9 16:10 ไม่มีผลต่อตัวอักษร

        รุ่นไหนก็แล้วแต่จะชอบ แค่ให้คำแนะนำครับ
        ขอบคุณครับ

        Originally posted by Prime Time View Post
        งานเอกสารหาจอที่มี Flicker Free ครับ จะได้สบายตา + รักษาสายตา เพื่อนๆ หลายคนก็มายืนยันว่าสบายตาขึ้นจริงครับ

        ลองอ่านในรีวิวดูครับ เผื่อช่วยในการตัดสินใจครับ
        ขอบคุณคร้าบ

        Comment


        • #5
          2560 x 1440 กับ 27 นิ้วก็โอเคครับ ขนาดตัวอักษรพอกับ 1920 x 1080 23 นิ้ว

          ปล.ได้ working space มาอีกเยอะมากนะ ลองละจะติดใจ

          Comment


          • #6
            Originally posted by Prime Time View Post
            วันนี้เราจะมาว่ากันต่อเรื่องการ Calibrate ครับ


            อย่างที่เรียนให้ทราบในรีวิวแล้วว่า Dell U2414H นั้นเป็น Factory Calibrated คือผ่านการ Calibrate มาแล้วจากโรงงานครับ


            หลายท่านอาจจะสงสัยว่า อ้าวแล้ว Calibrate กับไม่ Calibrate มันจำเป็นด้วยเหรอ จอ IPS แล้วนะ


            ก่อนอื่นบอกเลยว่า IPS หรือไม่ IPS ไม่เกี่ยวกันครับ แค่ IPS/PLS เหมาะแก่การนำมา Calibrate ที่สุด เพราะความเสถียรของ Color temp สูงปรับแล้วให้ผลดีกว่า

            อีกทั้งยังสามารถมองได้แทบทุกมุม โดยไม่มีอาการ สีเพี้ยนไปตามองศา แกมม่าเพี้ยนไปตามองศา ที่มอง


            ในขณะที่ TN ถึงเอามา Calibrate ก็เสียดายเปล่าๆ ครับ เพราะ แค่ขยับหัวสีก็เปลี่ยน แกมม่า เอย อะไรก็เปลี่ยน ก็เพี้ยนไปหมดแล้ว จึงไม่เหมาะจะมา Calibrate ครับ หรือถึงมองตรงยังไงก็จะมี Color shift ที่บริเวณต่างๆ ของ Monitor อยู่ครับ ไม่สามารถให้สีได้เท่ากันทั้งแผงจอได้ครับ



            และแม้ IPS หรือจออื่นๆ ใดๆ บนโลกจะดีแค่ไหน ยังไงก็ต้อง Calibrate ถ้าต้องให้ได้สีตรงครับและถูกต้องครับ ทีนี้การ Calibrate มันไม่ได้มีแค่สีครับ

            ฃมันยังมีเรื่องของ Brightness, Contrast, Color, Color Tint, Shapness, Gamma และอื่นๆ อีกครับ ที่ไม่สามารถปรับด้วยตาได้ครับ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเพื่อออกโปรไฟล์ครับ




            จอที่คาลิเบตรแล้วแตกต่างกับจอที่ยังไม่ Calibrate ได้มากมายจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่เรื่องสีนะครับ เรื่องอื่นๆ อย่าง Gamma หรือ Color Balance ก็สำคัญครับ


            หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าปรับ RGB ให้จอขาวจั๊ว แล้วสีอื่นๆ จะตรงด้วย ไม่ใช่เลยครับ มันยังมีเรื่องอื่นๆ อีกเยอะมากๆ ครับ


            เรื่องความขาวของแสงขาว (white point) ก็ส่วนนึง แต่เรื่องอื่นๆ ยังเหลืออีกเยอะครับ



            เรื่องภาพยากจะแสดงภาพจริงๆ ให้เห็นได้ เพราะจอที่ไม่ Calibrate ก็จะเห็นทุกอย่างผิดไปหมด ทำได้แค่ภาพจำลองตามนี้ครับ














            ประมาณนี้เป็นต้นครับ


            หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมเห็นภาพที่ถูกได้ล่ะ ในเมื่อจอฉันยังไม่ Calibrate คือจริงๆ ภาพบนจอที่ไม่ Calibrate มันก็ผิดทั้งสองด้านครับ แค่ผิดมากกับผิดน้อย


            ถ้าเป็นจอที่ Calibrate แล้วจะได้อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ





            การ คาลิเบตร ทำได้หลายวิธีครับ ง่ายๆ ก็เครื่อง Calibrate เช่นเครื่อง Spyder หรือเครื่อง X-rite i1 อะไรพวกนี้ หรืออื่นๆ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 5,000 ไปจนหลายหมื่นแล้วแต่เกรดครับ


            แต่ถ้าจะทำกับ TN ผมไม่แนะนำนะครับ เสียของเปล่าๆ เอาเงินไปซื้อ IPS แล้วค่อยทำดีกว่าครับ




            ส่วนโรงงานจะใช้เครื่องมือที่หรูหรากว่านั้นหน่อย อย่างพวก Minolta CA210 หรืออื่นๆ อะไรพวกนี้เป็นต้นครับ พวกนี้ราคาเครื่องละหลายแสน แม่นยำกว่าพวกที่ขายกันทั่วไปครับ เพราะวัดด้วยการวัดความยาวคลื่นเพื่อให้ทราบถึงแสงสีที่ถูกต้อง และยังไม่ Factor อื่นๆ อีกด้วยครับ แค่โรงงานจะไม่ปราณีตทำอย่างละเอียดเท่าเราทำเองกับมือครับ


            แต่ผลก็ออกมาไม่แย่ครับ อย่าง Dell U2414H ผลออกมาค่า Delta E (ส่วนต่างของสีที่ผิดพลาด ยิ่งน้อยยิ่งดี) จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1 กว่าๆ และ Peak ประมาณ 2 กว่าๆ ครับ ในขณะที่แบบทำเองจะพยายามทำให้ได้ต่ำกว่า 1 ครับ แต่แลกมากับความแม่นยำของเครื่องมือที่ด้อยกว่าพวกแพงๆ ในโรงงานครับ


            และในส่วนของ Factory Calibrate ของ Dell U2414H นั้นมีการไล่สีเทาให้ได้ค่าสีแน่น เสถียรขึ้นด้วยครับ โดยจะเช็คองศาของสีเท่าไล่ตาม % ความเข้มของสีเท่าให้ได้เสถียร และไม่มี tint ติดครับ นอกจากนั้นยังมีการ Calibrate Gamma ให้ด้วยครับ เรียกว่าครบครัน พร้อมใช้ได้เลยสำหรับงานระดับทั้วไปถึงกึ่งโปรครับ




            ข้อแตกต่างเพิ่มเติมของ Factory Calibrate กับ Calibrate เองอีกอย่างคือ เรื่อง Profile สีที่คาลิเบตรครับ

            กรณีทำเอง บางครั้งเกมส์ต่างๆ จะไม่โหลดสีที่คาลิเบตรแล้ว แต่จะใช้สีดั้งเดิมของจอแทน ทำให้ได้ภาพและแสงสีที่ไม่เต็ม 100% ครับ

            แต่กรณี Factory Calibrate นั้น Profile สีมันอยู่ในจอครับ ไม่ง้อ Application ภายนอก ต่อให้เอาไปต่อกับมือถือก็ได้สีที่ถูกต้องครับ




            ดังนั้นทราบอย่างนี้แล้ว ท่านที่เอาไว้ใช้งานด้านภาพถ่ายหรืออะไรพวกนี้ อาจจะมีอารมณ์แบบถ่ายก็ว่าสวยแล้ว ทำภาพก็ว่าดีแล้ว ไม่เห็นมีใครชมเราบ้างเลย อาจจะเป็นเพราะสีที่ท่านเห็นกับสีที่คนอื่นเห็นไม่ตรงกันก็เป็นได้ครับ

            เช่นจอท่านอมฟ้า ท่านก็ปรับให้เหลืองเพิ่ม ปรับไปปรับมา จอท่านดูพอดี แต่จอคนอื่นๆ ดู เหลืองยังกับตกถังขมิ้นก็เป็นได้ครับ

            หรือจอท่านอมเหลือง ท่านก็ปรับให้ฟ้า ปรับไปปรับมา จอท่านดูชมพูพอดี แต่จอคนอื่นๆ อาจจะเห็นเป็นชาวนาวี จากเรื่อง Avatar เป็นต้นครับ


            แต่ถ้าท่านใช้จอที่ผ่านการ Calibrate อย่างน้อยที่สุด ท่านก็จะไม่ปรับให้มันฟ้าเกินหรือเหลืองเกิน แม้คนอื่นจะใช้จอไม่ Calibrate ดู แต่ท่านก็ได้ประโยชน์อยู่ดี เพราะต้นทางของท่านเพี้ยนน้อย ลดความเสี่ยงที่สีมันจะไปสุดโต่งที่จอปลายทางครับ หรือถ้าผู้ชม ผู้วิจารณ์ของท่านเป็นกูรูกล้อง เขาก็ใช้จอที่ Calibrate แล้วเหมือนกัน ท่านก็ได้สื่อสีที่ท่านอยากสื่อ คนดูก็ได้ดูภายสวยถูกต้องเป็นต้นครับ



            ส่วนคนใช้งานทั่วไปแต่ใช้จอที่ผ่านการ Calibrate ก็จะได้เห็นว่า

            ผู้กำกับอยากให้ท่านเห็นแสงสีอะไรในหนัง อยากสื่อ เพราะจอในวงการนี้ Calibrate แล้วทุกตัวชัวร์ๆ อยู่แล้วครับ

            คนสร้างเว็บ สร้างเกม สร้างนั้่นนี่ อยากให้ท่านเห็นอะไร

            คนถ่ายภาพ ตากล้อง เซียนกล้องอยากให้ท่านเห็นอะไร


            และการ Calibrate ที่ปรับไว้ถูกต้องสมดุลนั้น ภาพจะลึกขึ้นมีมิติขึ้น สีสันจะลึกและสวยถูกต้องขึ้น ความสมดุลของสี ของแสง จะดีไปหมด ใช้แล้วก็จะติดใจกลับไปใช้หรือไปทำงานบนจอที่ไม่ผ่านการ Calibrate แทบไม่ได้เลยครับ


            โดยเฉพาะเวลาเปิดรูปใหญ่ๆ ละเอียดๆ นี่ คนละเรื่องเลยจริงๆ ครับ



            ดังนั้นท่านที่ซื้อจอ Dell รุ่นพวก U2414H หรือ U อื่นๆ ที่ Calibrate แล้ว (ในกล่องจะมีใบ Calibration Report มาด้วย) ถ้าเป็นรุ่นพวกนี้ท่านก็ปรับโหมด Preset เป็น sRGB หรือ Adobe RGB ได้เลยครับ จะได้ใช้คุ้มราคา ได้ใช้จอที่ผ่านการคาลิเบตรแล้วในทันทีครับ คาลิเบตรมาตรงมากครับ U2414H ทั้ง Gamma 2.2 White Point 6500k และ สมดุลสีอื่นๆ รวมถึงสมดุลเฉดสีเทาด้วยครับ


            Dell ที่ Calibrate มาจากโรงงานจะเป็น U Series (และไม่มี m ต่อท้ายเป็นส่วนมากครับ)

            อยากได้จอ แสดงสีไม่เพี้ยน เลือกซื้อจอที่ ผ่านการ Calibrate จากโรงงาน นะครับ ^^

            Comment


            • #7
              Originally posted by Prime Time View Post
              เตือนกันอีกครั้ง ซื้อจอใหม่ๆ ดีๆ มาแล้ว

              อย่าใช้สาย VGA นะครับ มันจะได้ภาพที่ไม่เต็ม 100 ไม่สมบูรณ์

              เพราะสาย VGA เป็นอนาล็อก มีสัญญาณรบกวน และต้องแปลงไปแปลงมา


              ให้ใช้สาย Digital ต่างๆ เช่น

              DVI-D

              DisplayPort

              HDMI

              นะครับ


              ขอบคุณที่ติดตามครับ แล้วโอกาสหน้าเจอกันใหม่ครับ ไม่แน่อาจจะถอยจอระดับราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย มา Group test พร้อมกันอีกทีครับ



              และเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถติดตามรีวิวอื่นๆ ของผมได้อีกนะครับ เช่น SSD, Router, CPU และอื่นๆ ครับ

              http://www.overclockzone.com/forums/...e-ครับ

              http://www.overclockzone.com/forums/...B8%9E%E0%B8%87

              http://www.overclockzone.com/forums/...roup-Test-SSDs

              http://www.overclockzone.com/forums/...ro-King-of-(sa
              Originally posted by Prime Time View Post
              เรื่อง Flicker-Free backlight // PWM Free


              ทราบไหมว่าปกติจอภาพที่เราเห็นนิ่งๆ นั้นมีแสงสั่นหรือกระพริบตลอดนะครับ แค่สมองเราพยายามตัดการทำงานออกไปให้ พูดง่ายๆ ว่าใช้สมองในการตัดการมองเห็นความสั่นส่วนนั้นไป เพราะเป็นความถี่สูงมาก

              แต่ก็ยังมีผลให้ล้าสายตา หรือ สมอง เวลามองจอนานๆ เป็นที่มาของบางคนที่มองจอนานๆ แล้วปวดหัว มึนๆ หรือตาลาย ปวดตา อะไรพวกนี้ครับ

              รายละเอียดตามคลิป จาก BenQ ครับ

              http://www.youtube.com/watch?v=QMXYfi2lRdA&fs=1" width="644" height="390">http://www.youtube.com/watch?v=QMXYfi2lRdA&fs=1" />BORKED

              http://www.youtube.com/watch?v=QMXYfi2lRdA


              อาการนี้จะเป็นหนักขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาหรี่แสงลงมาครับ เพราะจำเป็นต้องใช้ PWM (Pulse Width Modulation) ในการควบคุมความสว่างของ Backlight ครับ

              ทำให้เกิดอาการเวลาเปิดแสงเต็มๆ รู้สึกแสบตา เพราะแสงแรงไป แต่พอหรี่แสงไม่แสบตาแต่กลับล้าตา หรือใช้ได้ไม่นาน




              Flicker Free นี่ Monitor รุ่นใหม่ๆ ดีๆ จะมีมาให้ครับ อย่าง

              ของ LG เรียก Flicker Safe ครับ

              หรือใน Dell ใส่ไว้แต่ไม่ได้เรียกชื่อ ครับ

              หรือใน BenQ เรียก Flicker Free ครับ


              เรื่องนี้ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไป ยี่ห้อเดียวกัน บางรุ่นมี บางรุ่นไม่มีครับ
              Originally posted by Prime Time View Post
              มาว่ากันต่อเรื่อง Flicker Free ผมเพิ่มเติมไว้ตรงนี้นะครับ

              บางท่านสงสัยว่าทำไมเมื่อก่อนใช้จอ LCD สมัยก่อน ไม่ปวดหัว ไม่ปวดตา สบายตาดี พอเปลี่ยนมาเป็น LED แล้วถึงมีอาการแปลกๆ



              ดูตามตารางเลยนะครับ กระแสไฟที่ส่งไปเลี้ยงหลอดไฟของจอ ตามเรื่อง Flicker Free ที่ผมอธิบายไว้ด้านบน


              จอรุ่นเก่าๆ ที่เป็น CCFL backlight ที่เราเรียกๆ กันว่า LCD นั้น จะมีอัตราการกระพริบที่ไม่โหดร้ายและไม่เปลี่ยนแปลงหนักเท่าพวก LED ครับ


              ทำให้หลายคนบ่นว่า LED ใช้แล้วไม่สบายตา ซึ่งท่านไม่ได้อุปทานครับ สายตาคนเราอ่อนไหวไม่เท่ากัน ผู้ผลิตเมื่อก่อนไม่ได้ใส่ใจ ผลเลยเป็นแบบนี้ รวมทั้งแต่ละคนสายตาและสมอง sensitive ต่อเรื่องนี้ไม่เท่ากันเลยเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ผู้ผลิตเลยเนียนไปเลยครับ

              อันนี้เป็นหมดทั้ง IPS และ TN ครับ รุ่นก่อนๆ จะใช้ PWM ทั้งหมด


              ตอนนี้เมืองนอกให้ความสนใจเรื่องนี้กันมาก เพราะมีผลกับผู้ใช้ และหลังจากพวก Flicker Free ออกมาขาย คนที่มีปัญหากลับมาสบายตาอีกครั้ง ขนาดผมเป็นพวกสายตาถึกทนทาน เปลี่ยนมาใช้ยังรู้สึกได้ว่าสบายตาขึ้นเยอะ

              เลยมี Monitor ประเภท Flicker Free / PWM Free ออกมาขายครับ ตามภาพที่ 3

              ประเภทนีั้จะมีจอ Dell รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตในช่วงปีนี้ เช่น

              P2414H U2414H P2314H และอื่นๆ ที่ออกมาใหม่ในช่วงนี้ครับ

              รวมทั้ง BenQ รุ่นที่ระบุว่า Flicker Free


              ส่วน LG ยังไม่แน่ใจว่าเป็นแบบไหนระหว่างกระพริบน้อย หรือไม่กระพริบเลย แต่ LG รุ่นที่มี Flicker Safe พวกนี้ก็จัดได้ว่าสบายตากว่า LED ธรรมดาทั่วไปเยอะแล้วครับ
              Originally posted by Prime Time View Post
              ผมทดสอบเอาไปให้น้องสาวที่ชอบปวดหัว ปวดตา เวลาเล่นคอมนานๆ ใช้ (แต่ละคนจะ Sensitive กับเรื่องนี้ไม่เท่ากัน เรียกได้ว่าอึดไม่เท่ากัน แต่ก็โดนทำร้ายอยู่ดีครับ) โดยไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้จะได้เป็น blind test เพราะไม่มี Bias ครับ

              ปรากฏว่าจากเดิมที่น้องเคยเล่นคอมได้ครั้งละ 2-3 ชั่วโมงก็จะเริ่มมึนๆ คราวนี้เล่นได้ยาวเลยครับ ไม่มีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดตา เลย ถือว่าน่าพอใจมากๆ ครับ


              เป็น a must หรือของสำคัญเลยนะครับ สำหรับท่านที่รักสุขภาพตา หรือมีปัญหาสายตา เช่น แพ้แสง มึนหัวง่าย อะไรพวกนี้ครับ ขนาดผมปกติถึกทนทานกับแสงจอมากๆ พอมาใช้อันนี้รู้สึกได้จริงๆ ว่าตาลายน้อยลง และสบายตาขึ้นเวลาใช้นานๆ ครับ



              โดยทั้ง LG 24MP55HQ-P, 23MP65HQ-P และ Dell P2414H, U2414H, P2314H เป็น Flicker Free หรือไม่กระพริบนั่นเองครับ ยอดมากๆ ครับ

              http://www.youtube.com/watch?v=nPuAT1ARUC8&fs=1" width="644" height="390">http://www.youtube.com/watch?v=nPuAT1ARUC8&fs=1" />BORKED

              http://www.youtube.com/watch?v=nPuAT1ARUC8

              ตามวีดีโอ ที่ผมถ่ายมาสดๆ เลยครับ
              Originally posted by GreenHerb View Post
              อ๋ออออ มันเป็นอย่างงงี้นี่เองงงงงง

              คือตอนแรกผมก็ใช้จอ LCD มาตั้งนานก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับลูกกะตาซักเท่าไหร่ แต่ไม่ชอบตรงแค่ทำงานเอกสารไปนานๆละรู้สึกว่าหน้าจอมันสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เท่านั้น (สงสัยลูกกะตาเริ่มล้า)

              ต่อมาก็อยากลองเล่นจอใหญ่ดูมั่งก็ไปซื้อ LED มาเล่น ผลคือถึงกับอ้วกกันเลยทีเดียว ส่วน ips นี่ไม่รู้สึกอยากอ้วก แต่แค่มีอาการล้าตาแค่นั้นเองแหละครับ


              ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องสุขภาพตามากนะครับ

              เตือนภัย ซื้อจอใช้งาน มีปัญหาปวดตา ปวดหัว นั่งเล่นสักพัก เกิดอาการเหมือนคนท้อง คลื่นไส้จะอวก


              ^^

              .

              ถ้าใช้นานขนาดนั้น ระวัง อาการแพ้ท้อง

              ^^

              .

              Comment


              • #8



                เห็นด้วยกับด้านบนนะครับ ถ้าจะเอา 27" ควรจะเป็น 2560 x 1440 เป็นอย่างน้อยครับ Full HD ละเอียดน้อยไปมากสำหรับ 27" ครับ

                ถ้าเป็น 2560 x 1440 จะได้พื้นที่ทำงานเยอะขึ้นมาก ตามภาพด้านบนเลยครับ วงเล็กใน Photoshop คือ ขนาด 1920 x 1080 ครับ

                ถ้าอยากรู้ว่าพื้นที่เยอะขึ้นแค่ไหน ลองกดที่ link ภาพด้านล่างแล้วกดขยายดูครับ จะรู้เลยว่าเทียบกับ 1920 x 1080 แล้ว พื้นที่เยอะขึ้นมากๆ ครับ

                http://f.ptcdn.info/130/021/000/1405091689-1440p-o.jpg
                http://f.ptcdn.info/130/021/000/1405091699-1440p2-o.jpg


                เพิ่มอีกนิดไป U2713HM เลยครับ ถ้าจะเอา 27" 2560 x 1440 และอยากได้ดีๆ ไปเลย


                ถ้าเล่นพวก AOC 27" LG 27" 1920 x 1080 ไม่คุ้มครับ เมื่อยคอขึ้นแต่ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นเลย ไป 23-24" ดีกว่าครับถ้ากรณีนั้น

                Comment

                Working...
                X