Announcement

Collapse
No announcement yet.

[CR]Review จอ Dell U2414H, P2414H, P2314H + จออื่นๆ พร้อมแนะนำการเลือกซื้อจอคอม

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    Update :

    วันนี้ผมจะมาเพิ่มเติมเรื่อง Multi Monitor แล้วกันครับนะครับ สำหรับความสามารถของ U2414H กับการทำ Multi Monitor

    เพราะถ้าไม่กล่าวถึงในส่วนนี้ก็คงจะเสียของไม่น้อยครับ เพราะ U2414H เป็นจอไร้ขอบที่บางที่สุดในโลก ณ วันนี้ครับ เหมาะที่สุดกับการนำมาทำ Multi Monitor ครับ






    มาชมภาพกันก่อนสำหรับทั้ง 2 ตัวนี้ครับ U2414H กับ U2414H ทั้งสองตัวนี้เป็นพี่น้องฝาแฝดที่ไม่ธรรมครับ เพราะ Serial Number เรียงกันเลยครับ เป็นกล่องที่ออกมาจากสายการผลิตแบบติดกันเลยครับ






    และมาชมการใช้งานจริงกันต่อครับ สำหรับการต่อ Multi Monitor ของ U2414H นี่ เร้าใจมากครับ มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ดูจากภาพจะเห็นว่า มันแทบจะไม่มีขอบให้เห็นเลยครับสำหรับ U2414H เรียกได้ว่าสมกับตำแหน่งจอไร้ขอบที่บางที่สุดในโลก ณ วันนี้จริงๆ ครับ ท่านใดเป็นสาย Multi Monitor ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ


    นอกจากนั้นที่พิเศษกว่านั้นคือ มันรองรับฟังค์ชั่น Daisy Chain ของ DisplayPort 1.2 ครับ ถ้าการ์ดจอของท่านมี DisplayPort 1.2 แล้วล่ะก็จะฟินมากๆ ครับ

    เพราะ Daisy Chain หรือ MST (Multi Stream Transport) ของ DisplayPort นั้นต่อสายจาก VGA การ์ดมาแค่เส้นเดียว สามารถต่อจ่อ Full HD ด้วยสายเส้นเดียวนั้นได้ถึง 4 จอเลยทีเดียวครับ

    โดยที่จอ U2414H จะมีช่อง DisplayPort In และ Out โดยเชื่อมต่อกันไปเรื่อยๆ เป็น Chain แบบนี้ได้เลยครับ


    ทุกตัวรองรับการทำงานอิสระ ครับ







    อันนี้วีดีโอครับ

    BORKED


    ภาพและวีดีโอนะครับ มีคน PM มาอยากทราบว่าต่อกันแนวตั้งเป็นอย่างไร เลยทดสอบต่อมาให้ชมกันทั้งสิ้น 3 จอนะครับ

    ซึ่งก็ถ้าชอบแนวนี้ก็แน่นอนว่าดีที่สุดในโลกแล้วครับ เพราะขอบที่บางที่สุดนั่นเองครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบให้มีขอบเท่าไหร่นักครับ

    ขนาดสะใจเลยทีเดียวนะครับ 24" x 3 = 72" เลยนะครับ ใหญ่กว่า TV ในห้องรับแขกผมอีก ถ้าชอบแบบนี้รับรองว่าสะใจแน่นอนครับ ไม่ต้องหาขาตั้งเพิ่มด้วยครับ ประหยัดไป 4,000 - 5,000 เลย เพราะขาตั้งของจอ Dell U2414H ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ มันจะพอดีกันมากๆ ไม่ต้องง้อขาแยกครับ

    ใหญ่พอกับโต๊ะใหญ่ๆ สักตัวเลยครับ เหมือนเอาโต๊ะมาทำจอ

    ถ้าชอบ Multi Monitor ไว้เล่นเกม และงบไม่เป็นปัญหาลองดูครับ เป็นทางเลือกที่ไม่แพงนัก

    8,990 x 3 = 26,900 บาท ถูกกว่าจอ 4K แค่ 1 จออีกครับ



    มาว่าที่ข้อเสียกันบ้าง

    1. ปุ่มมันเป็นแบบสัมผัส แม้จะตอบสนองดี แต่ผมไม่ชอบอ่ะ

    2. DP ของมันตื่นช้ากว่า DP ของ P2414H แม้จะไม่กระทบการใช้งาน แต่ผมก็ไม่ชอบอีกนั่นแหละ
    Last edited by Prime Time; 3 Jul 2014, 15:44:25.

    Comment


    • #17
      ถ่ายกันมาให้ดูกันชัดๆ ว่าจอ Shipping มากรุงเทพนะครับ ไม่ใช่ต่างประเทศ

      BORKED

      ตามวีดีโอครับ


      มาว่ากันต่อที่ประกันของ Dell ครับ


      ประกันของ Dell สำหรับ U2414H และ P2314H รวมทั้ง P2414H เป็นประกัน Dell On-Site แบบ Premium Panel Guarantee และ Advanced Exchange Service ครับ

      คือ

      1. ถ้ามีจุด bright แม้แต่จุดเดียว หรือ ปัญหาใดๆ ก็ตาม Dell เปลี่ยนให้ทันทีครับ

      2. ประกันเอาตัวใหม่มาให้ถึงบ้านใน 24 ชม ที่โทรแจ้ง Dell ครับ ตลอด 3 หรือ 5 ปี (แล้วแต่ท่านเลือกตอนซื้อ) ถ้าเสียแค่โทรแจ้ง Dell ทาง Dell จะให้คนเอาจอใหม่มาส่งถึงบ้านท่านทันที ภายใน 24 ชม ครับ ถ้าจอรุ่นเก่าหมดเขาก็เอาจอรุ่นใหม่ให้ท่านเลย ง่ายๆ แบบนั้นเลยครับ

      ไม่ต้องรอ ไม่ต้องซ่อม ครับ
      Last edited by Prime Time; 3 Jul 2014, 15:44:52.

      Comment


      • #18
        มาต่อกันที่ DDM หรือ Dell Display Manager

        ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับจัดการหน้าจอของ Dell โดยท่านไม่ต้องไปกดที่จอให้เมื่อยครับ

        มาชมกันครับ



        พอคลิกที่ icon ใน notification area ใน taskbar จะมี DDM อย่างย่อขึ้นมาครับ

        ซึ่งตรงนี้ก็ปรับอย่างคร่าวๆ ได้หมดทุกอย่างครับ

        ขนาดจอ, รูปแบบ Profile สีที่ใช้ ทั้ง Auto และ Manual

        Brightness, Contrast

        และรูปแบบการเรียงหน้าจอครับ โดยจัด zone บนจอได้ ทำให้เรียงหน้าต่าง Application ได้สะดวกขึ้นครับ

        และมีทางลัดให้เข้าไปจัดเรียงจอว่าจะตั้งแนวนอน หรือแนวตั้่งอะไรพวกนี้ครับ




        พอกดที่ Open Dell Display Manager เราก็จะเข้ามาที่หน้าต่างหลักครับ

        หน้าแรกจะคล้ายกับหน้าต่างแบบย่อตะกี้ครับ

        มีให้ปรับ Preset แบบ Auto หรือ Manual

        แบบ Auto คือโปรแกรมจะเลือก Preset ที่เหมาะกับโปรแกรมได้ โดยสามารตั้งได้ในหน้าที่ 2 ครับ

        แบบ Manual คือใช้รูปแบบสีเดียวกันกับทุกโปรแกรม โดยมีให้เลือกดังในภาพครับ ควรใช้ sRGB เท่านั้นเพราะ Calibrate มาจากโรงงานเพื่อ Profile นี้เท่านั้นครับ




        การตั้งค่าว่าโปรแกรมไหนจะใช้ Preset อะไรกรณีใช้แบบ Auto ครับ




        การตั้งค่ารูปแบบหน้าจอว่าจะจัดเรียง grid บนหน้าจอแบบไหนครับ

        และอันสุดท้ายในหน้าสุดท้าย สามารถเลือก option ทางด้านการประหยัดพลังงานต่างๆ ได้ เช่น ถ้าเข้าโหมด screen saver ให้จอหรี่แสงลง หรือ standby ไปเลยไม่ต้องรอก็ได้ครับ



        Dell DDM จะทำให้ท่านสะดวกสบายมากขึ้นในการตั้งค่าจอ กรณีท่านเป็นคนเปลี่ยนค่าบ่อย เพราะห้องอาจจะมีไฟหลายแบบ สภาพแสงหลากหลาย หรี่แสง เพิ่มแสง บ่อย ก็จะสะดวกขึ้นไม่ต้องไปกดๆ ที่จอครับ

        Comment


        • #19
          สรุปสำหรับ Dell 3 ตัวนี้นะครับ ถ้าให้ผมเลือกตอนนี้นะครับ


          ผมเลือก U2414H ครับ ด้วยราคาไม่ต่างกับ P2414H มากแต่รวมๆ U2414H Rev.A01 ขึ้นไปนี่น่าเล่นกว่าครับ

          ยกเว้นท่านติดใจ DVI-D และ VGA port อันนั้นคงต้องไปกับ P2414H ครับ



          ส่วน P2314H เหมาะกับท่านที่งบจำกัดแต่อยากได้ความสมบูรณ์แบบ Dell นะครับ


          แต่ไม่ว่าท่านจะซื้อ P2314H หรือ P2414H ยังไงควรหาโอกาส Calibrate หน้าจอนะครับ จะได้รีดประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันออกมาครับ


          วันนี้เราจะมาว่ากันต่อเรื่องการ Calibrate ครับ


          อย่างที่เรียนให้ทราบในรีวิวแล้วว่า Dell U2414H นั้นเป็น Factory Calibrated คือผ่านการ Calibrate มาแล้วจากโรงงานครับ


          หลายท่านอาจจะสงสัยว่า อ้าวแล้ว Calibrate กับไม่ Calibrate มันจำเป็นด้วยเหรอ จอ IPS แล้วนะ


          ก่อนอื่นบอกเลยว่า IPS หรือไม่ IPS ไม่เกี่ยวกันครับ แค่ IPS/PLS เหมาะแก่การนำมา Calibrate ที่สุด เพราะความเสถียรของ Color temp สูงปรับแล้วให้ผลดีกว่า

          อีกทั้งยังสามารถมองได้แทบทุกมุม โดยไม่มีอาการ สีเพี้ยนไปตามองศา แกมม่าเพี้ยนไปตามองศา ที่มอง


          ในขณะที่ TN ถึงเอามา Calibrate ก็เสียดายเปล่าๆ ครับ เพราะ แค่ขยับหัวสีก็เปลี่ยน แกมม่า เอย อะไรก็เปลี่ยน ก็เพี้ยนไปหมดแล้ว จึงไม่เหมาะจะมา Calibrate ครับ หรือถึงมองตรงยังไงก็จะมี Color shift ที่บริเวณต่างๆ ของ Monitor อยู่ครับ ไม่สามารถให้สีได้เท่ากันทั้งแผงจอได้ครับ



          และแม้ IPS หรือจออื่นๆ ใดๆ บนโลกจะดีแค่ไหน ยังไงก็ต้อง Calibrate ถ้าต้องให้ได้สีตรงครับและถูกต้องครับ ทีนี้การ Calibrate มันไม่ได้มีแค่สีครับ

          ฃมันยังมีเรื่องของ Brightness, Contrast, Color, Color Tint, Shapness, Gamma และอื่นๆ อีกครับ ที่ไม่สามารถปรับด้วยตาได้ครับ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเพื่อออกโปรไฟล์ครับ




          จอที่คาลิเบตรแล้วแตกต่างกับจอที่ยังไม่ Calibrate ได้มากมายจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่เรื่องสีนะครับ เรื่องอื่นๆ อย่าง Gamma หรือ Color Balance ก็สำคัญครับ


          หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าปรับ RGB ให้จอขาวจั๊ว แล้วสีอื่นๆ จะตรงด้วย ไม่ใช่เลยครับ มันยังมีเรื่องอื่นๆ อีกเยอะมากๆ ครับ


          เรื่องความขาวของแสงขาว (white point) ก็ส่วนนึง แต่เรื่องอื่นๆ ยังเหลืออีกเยอะครับ



          เรื่องภาพยากจะแสดงภาพจริงๆ ให้เห็นได้ เพราะจอที่ไม่ Calibrate ก็จะเห็นทุกอย่างผิดไปหมด ทำได้แค่ภาพจำลองตามนี้ครับ














          ประมาณนี้เป็นต้นครับ


          หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมเห็นภาพที่ถูกได้ล่ะ ในเมื่อจอฉันยังไม่ Calibrate คือจริงๆ ภาพบนจอที่ไม่ Calibrate มันก็ผิดทั้งสองด้านครับ แค่ผิดมากกับผิดน้อย


          ถ้าเป็นจอที่ Calibrate แล้วจะได้อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ





          การ คาลิเบตร ทำได้หลายวิธีครับ ง่ายๆ ก็เครื่อง Calibrate เช่นเครื่อง Spyder หรือเครื่อง X-rite i1 อะไรพวกนี้ หรืออื่นๆ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 5,000 ไปจนหลายหมื่นแล้วแต่เกรดครับ


          แต่ถ้าจะทำกับ TN ผมไม่แนะนำนะครับ เสียของเปล่าๆ เอาเงินไปซื้อ IPS แล้วค่อยทำดีกว่าครับ




          ส่วนโรงงานจะใช้เครื่องมือที่หรูหรากว่านั้นหน่อย อย่างพวก Minolta CA210 หรืออื่นๆ อะไรพวกนี้เป็นต้นครับ พวกนี้ราคาเครื่องละหลายแสน แม่นยำกว่าพวกที่ขายกันทั่วไปครับ เพราะวัดด้วยการวัดความยาวคลื่นเพื่อให้ทราบถึงแสงสีที่ถูกต้อง และยังไม่ Factor อื่นๆ อีกด้วยครับ แค่โรงงานจะไม่ปราณีตทำอย่างละเอียดเท่าเราทำเองกับมือครับ


          แต่ผลก็ออกมาไม่แย่ครับ อย่าง Dell U2414H ผลออกมาค่า Delta E (ส่วนต่างของสีที่ผิดพลาด ยิ่งน้อยยิ่งดี) จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1 กว่าๆ และ Peak ประมาณ 2 กว่าๆ ครับ ในขณะที่แบบทำเองจะพยายามทำให้ได้ต่ำกว่า 1 ครับ แต่แลกมากับความแม่นยำของเครื่องมือที่ด้อยกว่าพวกแพงๆ ในโรงงานครับ


          และในส่วนของ Factory Calibrate ของ Dell U2414H นั้นมีการไล่สีเทาให้ได้ค่าสีแน่น เสถียรขึ้นด้วยครับ โดยจะเช็คองศาของสีเท่าไล่ตาม % ความเข้มของสีเท่าให้ได้เสถียร และไม่มี tint ติดครับ นอกจากนั้นยังมีการ Calibrate Gamma ให้ด้วยครับ เรียกว่าครบครัน พร้อมใช้ได้เลยสำหรับงานระดับทั้วไปถึงกึ่งโปรครับ




          ข้อแตกต่างเพิ่มเติมของ Factory Calibrate กับ Calibrate เองอีกอย่างคือ เรื่อง Profile สีที่คาลิเบตรครับ

          กรณีทำเอง บางครั้งเกมส์ต่างๆ จะไม่โหลดสีที่คาลิเบตรแล้ว แต่จะใช้สีดั้งเดิมของจอแทน ทำให้ได้ภาพและแสงสีที่ไม่เต็ม 100% ครับ

          แต่กรณี Factory Calibrate นั้น Profile สีมันอยู่ในจอครับ ไม่ง้อ Application ภายนอก ต่อให้เอาไปต่อกับมือถือก็ได้สีที่ถูกต้องครับ




          ดังนั้นทราบอย่างนี้แล้ว ท่านที่เอาไว้ใช้งานด้านภาพถ่ายหรืออะไรพวกนี้ อาจจะมีอารมณ์แบบถ่ายก็ว่าสวยแล้ว ทำภาพก็ว่าดีแล้ว ไม่เห็นมีใครชมเราบ้างเลย อาจจะเป็นเพราะสีที่ท่านเห็นกับสีที่คนอื่นเห็นไม่ตรงกันก็เป็นได้ครับ

          เช่นจอท่านอมฟ้า ท่านก็ปรับให้เหลืองเพิ่ม ปรับไปปรับมา จอท่านดูพอดี แต่จอคนอื่นๆ ดู เหลืองยังกับตกถังขมิ้นก็เป็นได้ครับ

          หรือจอท่านอมเหลือง ท่านก็ปรับให้ฟ้า ปรับไปปรับมา จอท่านดูชมพูพอดี แต่จอคนอื่นๆ อาจจะเห็นเป็นชาวนาวี จากเรื่อง Avatar เป็นต้นครับ


          แต่ถ้าท่านใช้จอที่ผ่านการ Calibrate อย่างน้อยที่สุด ท่านก็จะไม่ปรับให้มันฟ้าเกินหรือเหลืองเกิน แม้คนอื่นจะใช้จอไม่ Calibrate ดู แต่ท่านก็ได้ประโยชน์อยู่ดี เพราะต้นทางของท่านเพี้ยนน้อย ลดความเสี่ยงที่สีมันจะไปสุดโต่งที่จอปลายทางครับ หรือถ้าผู้ชม ผู้วิจารณ์ของท่านเป็นกูรูกล้อง เขาก็ใช้จอที่ Calibrate แล้วเหมือนกัน ท่านก็ได้สื่อสีที่ท่านอยากสื่อ คนดูก็ได้ดูภายสวยถูกต้องเป็นต้นครับ



          ส่วนคนใช้งานทั่วไปแต่ใช้จอที่ผ่านการ Calibrate ก็จะได้เห็นว่า

          ผู้กำกับอยากให้ท่านเห็นแสงสีอะไรในหนัง อยากสื่อ เพราะจอในวงการนี้ Calibrate แล้วทุกตัวชัวร์ๆ อยู่แล้วครับ

          คนสร้างเว็บ สร้างเกม สร้างนั้่นนี่ อยากให้ท่านเห็นอะไร

          คนถ่ายภาพ ตากล้อง เซียนกล้องอยากให้ท่านเห็นอะไร


          และการ Calibrate ที่ปรับไว้ถูกต้องสมดุลนั้น ภาพจะลึกขึ้นมีมิติขึ้น สีสันจะลึกและสวยถูกต้องขึ้น ความสมดุลของสี ของแสง จะดีไปหมด ใช้แล้วก็จะติดใจกลับไปใช้หรือไปทำงานบนจอที่ไม่ผ่านการ Calibrate แทบไม่ได้เลยครับ


          โดยเฉพาะเวลาเปิดรูปใหญ่ๆ ละเอียดๆ นี่ คนละเรื่องเลยจริงๆ ครับ



          ดังนั้นท่านที่ซื้อจอ Dell รุ่นพวก U2414H หรือ U อื่นๆ ที่ Calibrate แล้ว (ในกล่องจะมีใบ Calibration Report มาด้วย) ถ้าเป็นรุ่นพวกนี้ท่านก็ปรับโหมด Preset เป็น sRGB หรือ Adobe RGB ได้เลยครับ จะได้ใช้คุ้มราคา ได้ใช้จอที่ผ่านการคาลิเบตรแล้วในทันทีครับ คาลิเบตรมาตรงมากครับ U2414H ทั้ง Gamma 2.2 White Point 6500k และ สมดุลสีอื่นๆ รวมถึงสมดุลเฉดสีเทาด้วยครับ


          Dell ที่ Calibrate มาจากโรงงานจะเป็น U Series (และไม่มี m ต่อท้ายเป็นส่วนมากครับ)
          Last edited by Prime Time; 3 Jul 2014, 21:44:06.

          Comment


          • #20
            Dell ส่วนตัวอยากให้หลีกเลี่ยงตระกูล S นะครับ เพราะไม่เหมือนรุ่นพี่ๆ ของมัน อย่าง P และ U ครับ ขาตั้งเป็นแบบบ้านๆ Panel เองก็ไม่ดีเท่าที่ควรด้วยครับ



            และข้อสำคัญที่สุดสำหรับผู้ซื้อจอ Dell ช่างหัวใบเสร็จ JIB/BANANA/IT CITY หรือ Void JIB/BANANA/IT CITY

            สำคัญที่สุดคือข้างกล่องจะมี sticker Order Number แปะอยู่ สำคัญมากๆ ครับ ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ หรือทำยังไงก็ได้ให้ เลข พวกนั้นอยู่กับคุณจนครบอายุประกัน

            จะถ่ายเก็บไว้ จดเก็บไว้ หลายๆ ที่หรือเก็บกล่องอย่างดี ยังไงก็ได้ แต่ต้องมีเลขเหล่านั้นไว้เวลา Dell ถามเลขนะครับ


            ใบเสร็จจากร้านช่วยอะไรท่านไม่ได้ เพราะ Dell จะเอาแต่เลขนี้เท่านั้น อย่างอื่นไม่สน เน้นนะครับ สำคัญมากๆ

            Comment


            • #21
              มาต่อกันที่รีวิวเทียบกับตัวอื่นๆ นะครับ



              Viewsonic VX2370s / AOC i2367FH / AOC i2369v

              3 ตัวนี้คล้ายกันมาก ต่างที่ขาตั้งของ Viewsonic จะแข็งแรงมั่นคงกว่ามาก ความแข็งแรงประมาณ 20% จาก 100% ของ Dell แต่ไม่สามารถปรับได้แบบ Dell ครับ

              ส่วนขา ของ AOC อยากถาม AOC คำเดียว ขาตั้งจอหรือขาตั้งของเด็กเล่นครับ มันโยกเยกและดูไม่มีราคามากๆ


              คุณภาพของภาพ ไม่แย่นะครับ ผมชอบ Coating ของ VX2370s และ AOC i2369v นะครับ ดีกว่า IPS ราคาถูกๆ ด้วยกันทั่วไป (แต่ยังสู้ Dell ไม่ได้) และดีกว่า i2367FH นิดหน่อยครับ


              ถือว่าใช้ได้ระดับนึง คุณภาพ Panel ไม่เท่า Dell แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้แล้วสำหรับท่านที่ใช้งานทั่วไป ที่ไม่ต้องการอะไรที่ดีมากนัก แค่พอใช้ได้ครับ (ถ้า Calibrate ก็จะน่าใช้ขึ้นหน่อยครับ)


              ที่สำคัญ ไม่มี Flicker Free ซึ่งตอนนี้ใช้แบบ Flicker Free แล้วกลับไปใช้แบบเดิมไม่ได้แล้วครับ ทำให้ส่วนตัวว่าไม่ค่อยน่าใช้นักครับ 3 ตัวนี้ขายและแจก(ญาติ/คนรู้จัก) ไปหมด เพราะไม่มี Flicker Free และไม่ Perfect ผมไม่ชอบขาตั้งโยกๆ ก๊องๆ แก๊งๆ และปรับไม่ได้แบบนี้เท่าไหร่ครับ


              Menu จีนมากๆ ทั้ง 3 ตัวครับ ไม่ไหวจะเคลียร์ ไม่ชอบการออกแบบ Menu และการใช้งานของมันเลยครับ ยิ่งปุ่มสัมผัสของ VX2370s ออกแบบมาได้บ้าบอมาก กดแบบไม่มองรับรองได้โดนปุ่มปิดบ่อยๆ ครับ


              ประกันของ Viewsonic ต้องยกไปที่ศูนย์ครับ

              ประกันของ AOC เป็น on-site มาถึงบ้านในเขต กทม บางส่วนครับ

              (แต่อย่าเอา on-site ของ AOC ไปเทียบกับของ Dell นะครับ ของ AOC ช้ากว่า Dell และไม่ได้ยกจอมาให้ทันทีภายใน 24 ชั่วโมงแบบ Dell ครับ AOC บางครั้งจะยกจอสำรองมาให้แล้วเอาของเราไปซ่อม แล้วเอามาคืนอีกทีครับ และไม่ได้ประกัน Bright Pixel หรืออาการแสงรั่วอะไรอื่นๆ ครับ)
              Last edited by Prime Time; 28 Jun 2014, 14:58:01.

              Comment


              • #22
                Dell U2412M

                อันนี้เป็นตัว Version แรกนะครับ Dell U2412M มี 2 version

                คือ Dell U2412M Original

                กับ Dell U2412M Version 2014

                รูปร่างภายนอกเหมือนกันหมด แต่ Version 2014 เปลี่ยนมาใช้ Coat แบบ light ขึ้นเยอะมากๆ ครับ Version แรกหยาบมาก และเปลี่ยน Panel เป็น AH-IPS ครับ


                ของผมเป็น Version แรก ซึ่งก็ประทับใจทุกอย่างยกเว้น Coating หน้าจอครับ


                ที่ชอบที่สุดจะเป็นสัดส่วนของมันคือ 16:10 นี่ใช้งานกับคอมดีกว่า 16:9 เยอะครับ


                ไม่มี Version แรกไม่มี Flicker Free ส่วน Version 2014 มี Flicker Free แล้วครับ


                สรุปตัวนี้ผมยกให้ญาติไปเพราะทนที่มันไม่มี Flicker Free ไม่ได้ เดี๋ยวว่างๆ จะไปซื้อตัว 2014 มาลองสักหน่อย ยังไงเดี๋ยวมารีวิวอีกทีครับ

                Comment


                • #23
                  AOC i2757fh เป็นตัวที่ได้มาแล้วขายต่อไวมาก ไม่ชอบเท่าไหร่ครับ



                  LG e2240 อันนี้เป็นตัวเก่าอยู่ในเครื่องสำรองด้านล่างของบ้าน เอาไว้สำรองใช้เวลาลงไปข้างล่างหรือแขกมาบ้าน ก็จะใช้คอมสำหรับแขกเครื่องนี้ ซึ่งไม่ประทับใจครับ เดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็น 24MP55 แทนแล้วเพราะราคาถูกมากและเป็น IPS + Flicker Free ครับ



                  AOC e2440v เป็นจอที่ผมใช้กับเครื่องสำหรับ Review พวก SSD พวกอื่นๆ ว่าง่ายๆ คือเครื่องสำหรับเล่นขำๆ แยกกับทำงานจริงจัง ที่นานๆ จะไปเปิดทีครับ เป็นจอที่ทนทานดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะใช้แค่ทีละไม่กี่นาที เลยไม่ต้อง Flicker Free ครับ แต่สุดท้ายว่าจะเปลี่ยนไปใช้เป็น IPS + Flicker Free เพราะเดี๋ยวนี้ไม่แพงแล้วครับ ถูกกว่าตอนผมซื้อตัวนี้มาใหม่ๆ อีก

                  Comment


                  • #24
                    LG 24MP55HQ-P ตัวนี้เป็นจอที่ดีมากๆ ครับ ใช้ Panel รุ่นใกล้เดียวกับใน Dell P2414H ต่างแค่ รหัสย่อย ความใกล้เคียงกับ Dell P2414H ค่อนข้างสูงสำหรับ Panel ครับ

                    เป็น Flicker Free แถมราคาถูกมากๆ สำหรับ IPS ขนาด 24" ที่มี HDMI คือแค่ประมาณ 5,750 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าถูกโครตๆ ครับ

                    ถ้าได้รับการ Calibrate สักหน่อย ส่วนหน้าจอแทบไม่แพ้ P2414H เลยครับ จะไปแพ้พวกการไล่โทนสีชั้นสูงที่ Dell หลัง Calibrate ไล่ได้ดีกว่า และพวกภายนอก วัสดุ การออกแบบ คุณภาพ วัสดุ และประกันครับ

                    ขาตั้งของ 24MP55HQ-P ก๊องแก๊งมากๆ พอกับ AOC ครับ หรือ LG อาจจะดีกว่านิดหน่อย ถ้าใครทนได้หรืองบจำกัดเป็นจอที่น่าลองครับ


                    Menu ของ LG แม้จะออกมาดีกว่าของจีนอย่าง Viewsonic, AOC อยู่หน่อยๆ แต่ก็ยังจัดว่าแย่ครับ วุ่นวาย และไม่สะดวกเท่าที่ควรครับ ไม่สวยงามด้วยครับ


                    ประกัน LG ถ้าเสียต้องยกไปศูนย์เองครับ

                    Comment


                    • #25
                      สรุป สำหรับท่านที่จะซื้อจอนะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ



                      1. อย่างน้อยที่สุด ณ วันนี้ ควรเป็นจอความละเอียดอย่างน้อย 1920 x 1080

                      2. อย่างน้อยที่สุด ณ วันนี้ ควนเป็นจอ IPS นะครับ

                      3. ขนาด 21.5" เล็กไปสำหรับ 1920 x 1080 ครับ

                      4. ควรเป็น Flicker Free ครับ สุขภาพแลกกับเงินเท่าไหร่ก็คุ้มครับ สบายตากว่ามากๆ ด้วยครับ

                      5. ควรมีขนาด 23" ขึ้นไปครับ อย่างต่ำควรมี 23" กรณีงบจำกัดครับ

                      6. ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกที่ Calibrate มาแล้วจากโรงงานครับ แต่ระวังพวกถูกๆ อย่างของ LG อย่าง 23MP65HQ นี่ไม่ไหวครับ Calibrate มาชุ่ยมากๆ เมืองนอกถึงขั้นบอกว่าการคาลิเบรตของ LG นั้นระดับนิยายเลยทีเดียวครับ คือทำเอาโก้ๆ ไปงั้นๆ ครับ

                      7. ถ้างบพอมี และใช้คอมดีๆ ก็ควรใช้ Monitor ดีๆ ครับ มันเป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ที่สำคัญที่สุดในคอม คอมสเปคเทพ แต่จอกาก เสียดายของเลยครับ ที่สำคัญมันเป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ราคาไม่ได้แพงเลยครับ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยด้วย เลือกดีๆ สักตัวดีกว่าครับ

                      8. ไปซื้อจอ ให้ดูกล่องที่ Factory seal ยังอยู่ ยังไม่โดนแกะไม่โดนกรีดนะครับ ถ้ากล่องไหนกรีดแล้วหรือมีเทปอื่นแปะทับอย่าเอาครับ ให้เอากล่องที่ยังไม่กรีดเท่านั้น บอกพนักงานอย่ากรีด ขอตรวจสอบกล่องก่อนว่า factory seal และตัวกล่องทุกจุดไม่เคยโดยแกะครับ ไม่งั้นท่านอาจจะได้ของโชว์ในราคาเต็มได้นะครับ เห็นร้านใหญ่ๆ อย่าไว้ใจนะครับ โดนกันตลอดนะครับ

                      9. ซื้อจอต้องได้เลือกนะครับ ยิ่งจอถูกๆ ยิ่งต้องได้เลือก สำคัญนะครับ dead ไหม bright ไหม แสงรั่วเยอะไหม สำคัญนะครับ ร้านไหนไม่ให้เลือกไม่ให้ลองก่อนจ่าย ก็อย่าไปง้อ อย่าไปซื้อครับ ไปร้านอื่นเลย ทางเลือกมีเยอะแยะครับ

                      10. เรื่อง response time ของ IPS อย่าไปอะไรมากครับ ถ้าเป็นจอ 60Hz ด้วยกัน จะ 8ms หรือ 5ms หรือ 4ms ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่





                      ดูภาพเปรียบเทียบและตารางด้านบนนะครับ spec มันขึ้นอยู่กับบริษัทไหนจะโม้ยังไงเลยครับ 8ms ของ Dell ดีกว่า 5 และ 4 ms ของยี่ห้ออื่นๆ บางยี่ห้ออีกครับ เพราะเขาเขียนจริง ไม่ได้เขียนแค่การตลอด โดยใช้การวัดแบบภายในบริษัทวัดเอง ก็เหมือนเรื่องของจอครับ บริษัทของจีนบางแห่งไม่ซื่อสัตย์ทำรูปมาหลอกให้ลูกค้าเข้าใจผิด พอซื้อไปจอไม่มีขอบนอกแต่ขอบในก็หนาใช้ได้เลย ประมาณนั้นครับ ส่วน Dell ทำการค้าซื่อสัตย์ใช้ได้ ขอบบางที่สุดในโลกจริง บางเหมือนในภาพโฆษณาจริง เป็นต้นครับ

                      Comment


                      • #26
                        ส่วนตัวนะครับ สำหรับจอบ้านๆ ผมเลือกดังนี้ครับ


                        1. ถ้างบน้อยจริงๆ แบบโครตๆ น้อย AOC i2369v เลยครับ เป็น IPS ที่ราคาถูกมากๆ สี่พันนิดๆ ดีกว่าไปทนกับ TN ถูกๆ แย่ๆ ครับ

                        2. ถ้างบจำกัด และรับได้เรื่องประกันที่ต้องแบกไปเอง LG 24MP55HQ น่าเล่นครับแค่ ห้าพันปลายๆ ได้จอ IPS ที่จัดว่าดีใช้ได้เลยครับ

                        3. ถ้างบพอมีแต่ยังจำกัดอยู่บ้าง ลองดู Dell P2314H ก็ได้ครับ ไม่แพงเท่าไหร่ 6,xxx ก็เล่นได้ของดีๆ ใช้ได้แล้ว

                        4. ถ้างบพอมี จัด Dell U2414H เลยครับ แปดเก้าพันบาท ไม่เกินหมื่นสำหรับตัวประกัน 5 ปี ถือว่าถูกมากๆ เทียบกับสิ่งที่ท่านได้จากมันครับ สำหรับผมจ่ายไป แปดเก้าพัน ไม่เสียดายเงินเลย เพราะเหมือนจ่าย 100 ได้ของ 120 แต่ตอนซื้อพวกถูกๆ บางตัว สี่ห้าพัน รู้สึกเสียดายเพราะเหมือนจ่าย 50 ได้ของ 30 ครับ




                        ของแบบนี้เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย เงินที่เพิ่มมาจากตัวถูกๆ กินข้าวไม่กี่มื้อก็หมดแล้วครับ ซื้อของดีๆ ไปเลยทีเดียวคุ้มกว่าครับ เพราะจอส่วนมากจะใช้กันเป็นหลายปีครับ


                        จบแล้วครับสำหรับรีวิวบ้านๆ จากผู้ใช้อย่างผมวันนี้ครับ

                        Comment


                        • #27
                          เตือนท่านที่ใช้สาย HDMI กับจอภาพนะครับ

                          โดยเฉพาะการ์ดจอ Intel และ Nvidia (AMD ก็ไม่รอดนะครับ เทสก่อนครับ)


                          ท่านทราบหรือไม่ว่าการ์ดจอเวลาท่านเสียบจอกับสาย HDMI มันจะ Detect ว่าเป็น TV ไม่ใช่จอคอม

                          ทำให้มันส่งสัญญาณภาพไปผิดๆ แทนที่จะเป็น full range RGB 0-255 กลับส่งไปเป็น limit range RGB 16-235 ทำให้สีไม่สวยเท่าที่ควร และภาพจะมีปัญหาความไม่สมประกอบครับ

                          http://www.lagom.nl/lcd-test/gradient.php

                          ทดสอบได้ที่นี่นะครับ

                          ถ้าเป็น 0-255 ถูกต้อง การไล่เฉดควรจะสวยงามไม่มีเส้นขาวๆ มาคั่นครับ

                          ถ้ามีเส้นมาคั่นเยอะๆ แสดงว่าท่านเจอ 16-235 เข้าแล้ว แก้ไขดังนี้ครับ


                          Nvidia

                          http://community.futuremark.com/foru...tion-EASY-tool!

                          http://forums.guru3d.com/showthread.php?t=373241


                          Intel

                          it seems there is a work around for issue in windows os.

                          intel hd graphics driver --> select properties -->custom resolution --> enter resolution and select timing standard "CVT-RB" --> add.

                          Details can be found here..
                          http://hardforum.com/showthread.php?t=1730215


                          AMD



                          AMD ปรับตามภาพบนนะครับ


                          เป็นอันเรียบร้อยครับ

                          Comment


                          • #28
                            เตือนกันอีกครั้ง ซื้อจอใหม่ๆ ดีๆ มาแล้ว

                            อย่าใช้สาย VGA นะครับ มันจะได้ภาพที่ไม่เต็ม 100 ไม่สมบูรณ์

                            เพราะสาย VGA เป็นอนาล็อก มีสัญญาณรบกวน และต้องแปลงไปแปลงมา


                            ให้ใช้สาย Digital ต่างๆ เช่น

                            DVI-D

                            DisplayPort

                            HDMI

                            นะครับ


                            ขอบคุณที่ติดตามครับ แล้วโอกาสหน้าเจอกันใหม่ครับ ไม่แน่อาจจะถอยจอระดับราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย มา Group test พร้อมกันอีกทีครับ



                            และเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถติดตามรีวิวอื่นๆ ของผมได้อีกนะครับ เช่น SSD, Router, CPU และอื่นๆ ครับ

                            http://www.overclockzone.com/forums/...e-ครับ

                            http://www.overclockzone.com/forums/...B8%9E%E0%B8%87

                            http://www.overclockzone.com/forums/...roup-Test-SSDs

                            http://www.overclockzone.com/forums/...ro-King-of-(sa

                            Comment


                            • #29
                              ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกมายยยยยยยยยยยยยยเลยครับ
                              เป็นการรีวิวจอที่ครบถ้วนกระบวนความ เข้าใจง่าย แต่ละเอียดลึกซึ้งถึงสัจธรมของการใช้จอคอมพ์
                              อย่างไรก็ดี ผมอยากขอรบกวนช่วยชี้แนะเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
                              1. จอ dell ถ้าเข้าใจ/จำ/อ่านมาไม่ผิด เขาบอกว่า ประกันแบบ เปลี่ยนตัวใหม่ แต่เป็นการเปลี่ยนตัวที่เวียนซ่อม มาให้ ซึ่งดีไม่ดี อาจได้จอที่แย่กว่าตัวเดิมของเราซะอีก
                              (ไม่นับกรณีจอเราเสีย เปิดไม่ติด ไม่มีภาพ นะครับ แบบนี้ ยังไงๆ ก็ต้องขอเปลี่ยนตัวใหม่แน่ อิๆ)
                              ดังนั้น จอ dell ประกันดีจริงมั๊ย เพราะปัจจุบัน ผมใช้ จอ dell รุ่น u2410 ใช้ไปได้ไม่เท่าไร ประมาณ ปีกว่าๆเอง ก็มีคราบดำด่างๆ ตรงขอบจอด้านซ้าย ปุ่มกดปิดเปิด ก็กดติด(ให้ปิดให้เปิดน่ะครับ)ยาก ต้องกดย้ำๆไปมาหลายๆครั้ง ถึงจะกดปิดได้ หรือกดเปิดได้ หน้าจอครึ่งหนึ่งออกอาการเหลือง
                              ซึ่งกรณีปัญหาของผม ก็ไม่รู้ว่า อยู่ในเงื่อนไขที่จะเคลมเปลี่ยนตัวใหม่ได้มั๊ย และถึงอยู่ในเงื่อนไขเคลมได้
                              ก็ไม่กล้าจะขอเคลม เพราะก็สภาพโดยรวม ก็พอทนใช้งานได้ ไม่ได้รู้สึกรำคาญมากมายอะไร เกรงว่าจะได้จอใหม่ที่สภาพแย่กว่าเดิม(หรือปัญหาของผม ก็น่าจะแย่ที่สุดแล้ว แต่ยังบ้าทนใช้อยู่ได้ แหะๆ)
                              2. อยากให้ช่วยแนะนำวิธี calibrate ว่าต้องทำอย่างไรบ้างครับ ผมซื้อจอมา ก็ไม่เคย calibrate ปรับแต่ความเข้มความสว่างเท่านั้น
                              3. กำลังสนใจจอ benq xl2420z เพราะถนอมสายตาจากแสงสีน้ำเงิน ไม่ทราบว่า เป็นอย่างไรบ้างครับ เห็นท่านเน้นให้เลือกจอ ips แต่ดูเหมือนว่า Xl2420z จะเป็น tn
                              ขอบคุณมากครับ

                              Comment


                              • #30
                                ชิหายแล้วเพิ่งสอย P2314H มา Sub Pixel จะกลับด้านมั้ยเนี่ย

                                Comment

                                Working...
                                X