จริงๆ เท่าที่ผมพยายามอธิบายหลายท่านก็คือ
HDTune ไม่ใช่โปรแกรมสำหรับ Benchmark SSD ที่ดีนัก เพราะว่า...
- ทดสอบแต่รูปแบบ Max. เท่านั้น ไม่ได้เทสต์การอ่านเขียนหลายๆ รูปแบบ และไม่ได้อ้างอิงการทำ IOPS ที่แท้จริง
สิ่งที่ HDTune ทดสอบแตกต่างกันได้คือขนาดไฟล์ในแต่ละ Test ซึ่งข้อมูลที่ Compressible ดังกล่าว
ทำให้ SandForce ผลดูโอเว่อร์มาก (แบบเดียวกับ ATTO)
- ไม่ได้ทดสอบ 4k Performance แต่กลับใช้วิธีอ่านที่แย่กว่า Sequential อีก คือ อ่านไปเรื่อยๆ ตามลำดับ
พื้นที่ดิสก์ (ตาม Partition Table) ซึ่้งเราจะรู้กันว่า สำหรับ HDD วงในกับวงนอกมันมีความเร็วต่างกันชัดเจน
แต่ SSD มันไม่มีนัยสำคัญในการอ่านแต่ละตำแหน่ง ทำให้การอ่านที่ประหนึ่งเป็น Surface Test ไม่สื่ออะไรเลย
สิ่งเดียวที่ HD Tune ใช้ประโยชน์สำหรับ SSD ได้ คือเรื่อง Access Time ครับ เพราะเป็นการเข้าถึง
แต่ละตำแหน่ง แต่เรื่องสปีดในการอ่าน เราก็จะเห็นแล้วว่า แม้แต่การก็อปปี้ไฟล์ในชีวิตจริงที่เทสต์ก็อปกันสดๆ
ไม่มีไดรฟ์ตัวไหนสามารถทำได้ตามตัวเลขเลย ที่ใกล้เคียงสุด กลายเป็นพวกตัวที่ "ไรต์ต่ำๆ" ด้วยซ้ำ
ประโยชน์นอกจากนี้ก็คงเป็นเรื่อง SMART Monitoring มากกว่า..
อย่างที่พยายามสื่อให้หลายคนที่ยังหัวปักหัวปำกับ HDTune, ATTO หรือ IoMeter ว่า
คุณใช้งานจริง ลักษณะไฟล์มันไม่ได้มีรูปแบบเดียว แต่มันเป็นแบบผสม การเทสต์ต้องเทสต์
การอ่านเขียนหลายๆ อย่าง ในรูปแบบประมาณ CrystalDiskMark หรือ AS-SSD จึงจะ
ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ไม่ใช่เอามาแต่ Max. Max. มาคุยกัน อะไรแบบนั้น
คิดว่าถ้าทำ Benchmark SSD รอบหน้า อาจจะไม่โชว์ผล HDTune แล้วก็ได้ครับ
ยกเ้ว้นจะเทสต์พวก RAID Performance หรือพวก Enterprise ที่พอจะเห็น Throughput
ใกล้เคียงความเป็นจริงกับการใ้ช้งานของมันมากกว่าซื้อมาใช้ตามบ้านปกติ
HDTune ไม่ใช่โปรแกรมสำหรับ Benchmark SSD ที่ดีนัก เพราะว่า...
- ทดสอบแต่รูปแบบ Max. เท่านั้น ไม่ได้เทสต์การอ่านเขียนหลายๆ รูปแบบ และไม่ได้อ้างอิงการทำ IOPS ที่แท้จริง
สิ่งที่ HDTune ทดสอบแตกต่างกันได้คือขนาดไฟล์ในแต่ละ Test ซึ่งข้อมูลที่ Compressible ดังกล่าว
ทำให้ SandForce ผลดูโอเว่อร์มาก (แบบเดียวกับ ATTO)
- ไม่ได้ทดสอบ 4k Performance แต่กลับใช้วิธีอ่านที่แย่กว่า Sequential อีก คือ อ่านไปเรื่อยๆ ตามลำดับ
พื้นที่ดิสก์ (ตาม Partition Table) ซึ่้งเราจะรู้กันว่า สำหรับ HDD วงในกับวงนอกมันมีความเร็วต่างกันชัดเจน
แต่ SSD มันไม่มีนัยสำคัญในการอ่านแต่ละตำแหน่ง ทำให้การอ่านที่ประหนึ่งเป็น Surface Test ไม่สื่ออะไรเลย
สิ่งเดียวที่ HD Tune ใช้ประโยชน์สำหรับ SSD ได้ คือเรื่อง Access Time ครับ เพราะเป็นการเข้าถึง
แต่ละตำแหน่ง แต่เรื่องสปีดในการอ่าน เราก็จะเห็นแล้วว่า แม้แต่การก็อปปี้ไฟล์ในชีวิตจริงที่เทสต์ก็อปกันสดๆ
ไม่มีไดรฟ์ตัวไหนสามารถทำได้ตามตัวเลขเลย ที่ใกล้เคียงสุด กลายเป็นพวกตัวที่ "ไรต์ต่ำๆ" ด้วยซ้ำ
ประโยชน์นอกจากนี้ก็คงเป็นเรื่อง SMART Monitoring มากกว่า..
อย่างที่พยายามสื่อให้หลายคนที่ยังหัวปักหัวปำกับ HDTune, ATTO หรือ IoMeter ว่า
คุณใช้งานจริง ลักษณะไฟล์มันไม่ได้มีรูปแบบเดียว แต่มันเป็นแบบผสม การเทสต์ต้องเทสต์
การอ่านเขียนหลายๆ อย่าง ในรูปแบบประมาณ CrystalDiskMark หรือ AS-SSD จึงจะ
ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ไม่ใช่เอามาแต่ Max. Max. มาคุยกัน อะไรแบบนั้น
คิดว่าถ้าทำ Benchmark SSD รอบหน้า อาจจะไม่โชว์ผล HDTune แล้วก็ได้ครับ
ยกเ้ว้นจะเทสต์พวก RAID Performance หรือพวก Enterprise ที่พอจะเห็น Throughput
ใกล้เคียงความเป็นจริงกับการใ้ช้งานของมันมากกว่าซื้อมาใช้ตามบ้านปกติ
Comment