Originally posted by pisnu
View Post
Announcement
Collapse
No announcement yet.
The Witcher 3 ส่อแวว?ดาวน์เกรด?
Collapse
X
-
-
สิ่งที่ควรทราบก่อนผจญภัยในโลก The Witcher 3: Wild Hunt
เป็นข้อมูลรวมๆตลอดการทำข่าวผ่านมาครับ)
หน้าเมนูเลือกระดับความยากของเกมครับ ประกอบด้วย
>> Just The Story (Easy) Enjoy a Smooth Ride Through the World
>> Story And Sword (Normal)You're Happy to Be Challenged
>> Blood And Broken Bones (Hard)You're a Seasoned, Demanding Gamer
>> Death March (Very Hard)You're Truly Insane and Loving It.
>> ก่อนหน้านี้นักพัฒนากล่าวว่า " การจะเลือกเล่นในความยากระดับใดนั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำระดับต่ำไปก่อน ระดับสูงๆจะสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทาย ความยากระดับต่ำออกแบบมาสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเนื้อเรื่องและความท้าทายในการเล่นนิดหน่อย" โดยในระดับ Death March ผู้เล่นจะมีเพียงชีวิตเดียว ถ้าคุณตายเกมจะจบลงทันที เหมาะสำหรับการเล่นรอบใหม่ที่ต้องการความยากและผู้เล่นฮาร์ดคอร์ อย่างไรก็ตามคุณสามารถเปลี่ยนความยากในระหว่างเล่นเกมได้ แต่มันจะมีผลต่อการได้ Achievement ของเกม
>> Witcher 3: Wild Hunt เป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่ ,เพื่อให้ผู้ใหญ่เล่นและมีเซ็กส์ เซ็กส์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักพัฒนาเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการทำเกมสำหรับผู้ใหญ่
>> The Witcher 3: Wild Hunt มีพื้นที่ Open world ขนาดใหญ่ 2 แห่งคือ.
(1) Novegrad + Velen (No Man's Land) เป็น 1 แมพ Open world (ประกอบด้วย 2 ภูมิภาค) ครึ่งบนส่วนใหญ่เป็นเมืองที่เจริญ ,มั่นคงมีผู้คนอาศัยอยู่ ส่วนครึ่งล่างเป็นดินแดนอันตราย มีผู้คนและเมืองตั้งถื่นฐานอยู่น้อย จึงเรียกว่า No Man's Land
(2) Skellige เป็นอีก 1 แมพ Open world ส่วนนี้เป็นหมู่เกาะ สภาพภูมิประเทศทางทะเล ต้องล่องเรือหรือว่ายน้ำไป
(3) Royal Palace of Vizima (ไม่เป็นแมพ Open world) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ที่นี่คือที่อยู่ของ Emhyr var Emreis จักรพรรดิแห่ง Nilfgaard ผู้เล่นต้อง fast travel เข้าไปอย่างเดียว
(4) White Orchard เป็นแมพ Open world (ขนาดเล็กที่สุด) เล่นในช่วงเริ่มเกมตอนอารัมภบท (Prologue) เมื่อเล่นจบบทนำเรื่องไปแล้ว คุณยังคงสามารถเข้าพื้นที่แห่งนี้ได้ด้วยการ fast travel
>> เกมจะใช้เวลาในการเล่น 100 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นถ้าคุณต้องการสัมผัสส่วนต่างๆที่นอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลัก อย่างไรก็ตามนักพัฒนาเปิดเผยว่าเนื้อเรื่องในเกมเพียงอย่างเดียวจะใช้เวลาในการเล่นประมาณ 50 ชั่วโมงด้วยการเล่นแบบปกติหรือใช้เวลาเล่น 25 ชั่วโมงด้วยการเล่นแบบ Speed Run โดยเลือกเส้นทางที่ถูกต้องในการเล่น,กดบทสนทนาตอบคำถามที่ถูกต้องและรวดเร็ว
>> ฉากจบที่แตกต่างกัน 35 แบบจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณตัดสินใจในระหว่างเกม
>> The Witcher 3 ไม่มีระบบ New Game+ แต่ถ้าคุณเล่นจบเกมแล้ว คุณยังคงสามารถเดินสำรวจโลกใบนี้ได้อย่างอิสระ
>> The Witcher 3: Wild Hunt จะเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับการแต่งขึ้นมาโดยนักเขียนจาก CD Projekt RED เป็นเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ในหนังสือที่แต่งโดยคุณ Andrzej Sapkowski
>> ระบบการต่อสู้แบบเกม Dark Souls มีอิทธิพลกับเกม The Witcher 3 เช่นการตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างต่อสู้
>> เนื้อเรื่องในเกมยังคงแบ่งเป็น Act เพียงแต่มันจะไม่แสดงให้คุณเห็นว่าคุณกำลังอยู่ใน Act ไหน และจะมีเควสย่อยเกิดขึ้นมาในระหว่างที่คุณเปลี่ยน Act
>> หนึ่งในความท้าทายของการพัฒนาคือการสร้างตัว NPC จำนวนมากที่ไม่ซ้ำกันให้ปรากฎบนหน้าจอ ซึ่งมันท้าทายความคิด
>> มุมกล้องของตัวเกมจะมีออฟชั่นปรับแต่ง แต่สำหรับตอนนี้ส่วนใหญ่มุมกล้องจะซูมในสไตล์มุมมองแบบบุคคลที่ 3 ในขณะที่คุณกำลังเล่น
>> ชุดเกราะปรับแต่งไม่ได้ แต่มันจะแยกย่อยออกเป็น Tier โดย 3 ชุดเกราะที่ดีที่สุดในเกมจะมีชุดละ 5 Tier
>> คุณสามารถพักการทำเควสเนื้อเรื่องหลัก และเลือกทำเควสย่อยได้ แต่อย่างไรก็ตามการเคลียร์เควสย่อยจะส่งผลกระทบไปยังเควสหลัก หรือไปเปลี่ยนแปลงบทสนทนากับผู้คนในเมือง มันเป็นเนื้อเรื่องในเกมที่ออกแบบมาอย่างไร้รอยต่อ
>> การทำเควสหลักกับเควสย่อยในเกมก็เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านแพร่ขยายออกไป ลำต้นคือเควสหลักพอคุณหยุดทำหรือเลือกทำที่กิ่งใดกิ่งหนึ่ง มันจะส่งผลไปยังกิ่งอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงหรือเป็นการหักกิ่งอื่นทิ้งไป
>> ระดับความยากของมอนสเตอร์แต่ละตัวไม่ได้ปรับสเกลตามเลเวลของผู้เล่น ถ้าเลเวลของคุณต่ำกว่ามอนสเตอร์ คุณจะไม่สามารถทำดาเมจมันได้
>> ระดับเลเวลของศัตรูจะปรากฎให้คุณเห็น แต่ถ้าคุณเห็นระดับเลเวลของศัตรูที่เป็นรูปกะโหลกคุณควรจะหนีไปให้ไกล เพราะมันแข็งแกร่งเกินไปสำหรับคุณ การโจมตีเพียงครั้งเดียวของมันก็อาจทำให้คุณถึงกับตายได้
>> การเดินทางของ Geralt สิ้นสุดที่ภาค Wild Hunt แต่จักรวาลของ The Witcher ยังคงดำเนินต่อไป
>> คุณสร้าง (Crafting) ยาเพียงอันเดียวเพื่อปลดล็อกมัน และเมื่อคุณใช้ยาหมด คุณก็แค่ทำ meditation แล้วยาก็จะรีฟีลกลับมาเต็มสต็อกของคุณอีกครั้ง
>> ตัวเกมจะมอบอิสระให้กับผู้เล่นในการสำรวจสิ่งต่างๆโดยไม่มีการรอโหลดข้อมูลในระหว่างเล่นให้เสียเวลา
>> CD Projekt RED ยืนยันผู้เล่นใหม่สามารถเข้าถึงและเข้าใจพื้นฐานของโลก The Witcher ได้หลังจากเล่นจบช่วงอารัมภบท (Prologue)
>> ถ้าผู้เล่นเลือก fast travel ในระหว่างเกม ตัวเกมยังคงมีหน้าจอรอโหลดข้อมูลอยู่ดี แต่จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับระยะทางที่คุณเลือก fast travel ถ้าคุณเลือกไปยังสถานที่ใกล้ๆระยะเวลาในการรอโหลดข้อมูลก็จะน้อย และอีกกรณีที่ผู้เล่นจะพบกับหน้าจอรอโหลดข้อมูลคือ คุณเริ่มเกม,ช่วงโหลดเพื่อเล่นเกม และตอนคุณตายเป็นต้น
>> เลเวลสูงสุดของเกมคือเลเวล 60 (แต่ปลดล็อกช่องใส่สกิลทุกช่องที่เลเวล 50)
>> ฆ่ามอนสเตอร์นอกเควสจะไม่ได้รับค่าประสบการณ์ (XP)
>> ค่าประสบการณ์ (XP) จะได้จากการทำเควสอย่างเดียวเท่านั้น
>> เลเวลขึ้นช้ามากๆ สำนักข่าวรัสเซียพรีวิวเกมใช้เวลาเล่น 3 ชั่วโมง เพิ่งได้เลเวล 2
>> มอนสเตอร์ไม่ดรอปอาวุธ อาวุธและชุดเกราะได้จากเปิดหีบสมบัติเท่านั้น
>> สเตตัสของไอเทมที่คุณเก็บจะถูกปรับให้พอดีกับระดับเลเวลปัจจุบันของคุณ แต่มันยังคงมีประสิทธิภาพ
>> การปรับสเตตัสของไอเทมโดยอัตโนมัติเป็นวิธีที่ฉลาดมาก เพราะคุณไม่จำเป็นรอให้ได้เลเวลตามอาวุธที่คุณเก็บจึงจะใช้มันได้ (เช่นคุณเก็บดาบได้เล่มหนึ่งแต่มันบังคับเลเวลที่จะใช้ได้คือเลเวล 12 แต่คุณมีเลเวลแค่ 10 คุณจึงจำเป็นต้องอัพอีก 2 เลเวลเพื่อที่จะใช้ดาบเล่มนั้น)
>> อย่างไรก็ตามตัวเกมไม่มีการปรับสเตตัสของไอเทมโดยอัตโนมัติทุกอย่างในเกม บางอย่างก็จำเป็นต้องมีเลเวลให้ถึงคุณจึงจะสามารถใช้มันได้
>> ตัวเกมจะมีระบบเจรจาต่อรอง (bargaining system) ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถต่อรองของรางวัลกับผู้ว่าจ้าง (ผู้มอบเควส) ของคุณได้ เพราะการรับเควสต่างๆมันเป็นงานหลักของคุณที่ส่วนใหญ่แล้วคุณต้องไปรับงานทำจาก NPC คนต่างๆในเกม
>> Geralt อาจพบกับมอนสเตอร์บางตัวและนำมันมาช่วยต่อสู้กับคุณได้
>> Geralt ไม่สามารถฝากเงินได้แต่เขาสามารถกู้เงินได้
>> ในจุดเริ่มต้นของเกม ตัวเกมจะสอนให้คุณออกเดินทางสำรวจและเก็บของรางวัล ซึ่งเป็นไอเทมที่ไม่พบเห็นทั่วไป
>> ศัตรูอย่างเช่นหมาป่าถ้าคุณเข้าใกล้มันมากเกินไปมันจะโจมตีคุณ ถ้าคุณเดินเข้าไปใกล้มันมันจะคำรามเพื่อเตือนคุณให้ออกไป
>> ศัตรูบางอย่างจะต่อสู้กับคุณเพราะมันกำลังปกป้องหีบสมบัติ ซึ่งถ้าคุณสามารถฆ่ามันได้คุณก็สามารถเก็บสมบัตินั้นได้
>> ไอเทมในกล่องจะเป็นอาวุธหรือชุดเกราะที่ดี
>> ในบางดันเจี้ยนจะมีขนาดที่ใหญ่มากจริงๆ และใช้เวลาในการเล่นประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการเล่นของคุณด้วยว่าคุณเลือกต่อสู้แบบไหนหรือเลือกสำรวจถ้ำอย่างละเอียดหรือเปล่า (แน่นอนว่าในดันเจี้ยนแต่ละแห่งจะมีความลับซ่อนอยู่) และอีกอย่างหนึ่งคือความอดทนของคุณในการรับมือกับความมืดในถ้ำที่ใช้ระยะเวลานานพอสมควร (ซึ่งคุณสามารถใช้คบเพลิงเพื่อทำให้เกิดแสงสว่างได้).
>> คุณ Miles Tost ตำแหน่ง Level Designer กล่าวว่า "มีบ้านหลายร้อยหลังที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปด้านในได้ (โดยไม่จำเป็นต้องรอทำเควสถึงเข้าไปได้) บ้านแต่ละหลังจะได้รับการตกแต่งภายในอย่างเหมาะสมตามภูมิประเทศที่อยู่นั้นๆ"
>> ชุดเกราะในเกม The Witcher 3: Wild Hunt จะมีด้วยกัน 3 แบบคือ Heavy ,Medium และ Light ,ชุดเกราะ Heavy จะมีพลังป้องกันที่สูงสุดแต่มันจะทำให้คุณฟื้นฟู Stamina ช้า
>> เมื่อคุณต้องต่อสู้กับศัตรูมนุษย์ที่เป็นกลุ่ม ภายในกลุ่มนั้นจะมีนักธนูอยู่ด้วย
>> ถ้าคุณทำให้แถบ Stamina ของศัตรูค่อยๆลดลง (แถบสีเหลืองใต้พลังชีวิต) ,แถบตัวนี้จะทำให้ศัตรูสามารถบล็อกป้องกันการโจมตีของคุณ ถ้าแถบหมดศัตรูจะป้องกันตัวเองไม่ได้
>> คุณจะมีการหลบในระหว่างสู้อยู่ 2 แบบคือ หลบแบบไกล (ม้วนตัวหลบ) และหลบแบบใกล้ (sidestep/backstep)
>> ค่า Adrenaline เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยให้คุณสามารถใช้สกิลได้หลากหลาย
>> ถ้าคุณปัดลูกธนูที่ศัตรูยิงใส่คุณได้ถูกจังหวะ มันจะสะท้อนกลับไปยังศัตรูเอง.
>> ช่องใส่สกิลช่วยให้คุณสามารถเชื่อมโยงมันกับมิวเตชั่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มเอฟเฟคของสกิลต่างๆให้แรงมากขึ้น
>> คุณสามารถปรับแต่งสกิลของคุณได้อย่างอิสระ เพื่อค้นหาสกิลที่คุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณ
>> ถ้าคุณโฟกัสสร้างสกิลสายดาบ จึงทำให้คุณมีปัญหาในการใช้เวทย์ แต่คุณสามารถชดเชยได้ด้วยรูนและ Adrenaline
>> Alchemy ในเกมมีความท้าทายและซับซ้อนขึ้น แต่มันก็ให้รางวัลที่คุ้มค่า
>> ถ้าคุณใส่รูนในดาบ (ที่มีรู) แต่คุณต้องการนำมันออก คุณสามารถเลือกได้ว่า ทำลายดาบเพื่อเก็บรูนหรือทำลายรูนเพื่อเก็บดาบ โดยดาบที่คุณได้คืนยังคงมีรูคงอยู่เหมือนเดิม
>> ใส่รูนในดาบจะเพิ่มเอฟเฟคบนใบมีด
>> ถ้าคุณโจมตีสวนกลับศัตรูในขณะที่ยืนอยู่บนพื้นที่สูงกว่า ,มีโอกาสทำให้คุณตกจากที่สูงได้
>> มีถังระเบิดในระหว่างต่อสู้ คุณสามารถทำให้มันระเบิดได้
>> สูตรสร้างของใน Alchemy สามารถได้จากการซื้อและเก็บจากศพศัตรู
>> ทุกๆสกิลที่คุณอัพใน sign จะเพิ่มอัตราการฟื้นฟู stamina ให้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่าถ้าคุณอัพสาย sign จนเต็ม มันจะทำให้คุณร่ายเวทย์ต่อเนื่องได้
>> Places of power คือเสาหินที่คุณสามารถพบได้ทั่วไปเพื่อทำการ meditate มันจะมอบ skill point และบัพให้กับคุณ
>> ถ้าพลัง sign ของคุณแรงพอ จะสามารถจัดการศัตรูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว.
>> คุณสามารถปลดล็อก sign รูปแบบที่สองจากการอัพในแต่ละ sign ได้ และติดตั้งมันไว้กับตัว การร่าย sign แบบแรกจะกดปุ่มแต่การร่าย sign แบบสองจะต้องกดปุ่มค้างไว้
>> ม้าของคุณสามารถทำการปรับแต่งได้เช่นกัน เช่น อาบม้าและ blinder ซึ่งมันจะปรากฎให้เห็นบนตัวม้า
>> saddlebags จะเพิ่มขีดจำกัดของน้ำหนักที่คุณเก็บได้ ,saddle จะเพิ่ม stamina ให้้กับม้า และ blinder จะลดการตกใจของม้าในระหว่างสู้กับมอนสเตอร์
>> Card Game Gwent ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt คือมินิเกมการ์ดที่มีระบบการเล่นแบบ 1 VS 1 คล้ายกับการเล่น Magic: The Gathering ผู้เล่นสามารถได้การ์ดจากการซื้อและชนะฝ่ายตรงข้าม การ์ด Gwent จะมีทั้งหมด 150 ใบในเกม แบ่งออกเป็น 4 คราส 2 ประเภทคือ Spell กับ Battlefield Unit ผู้เล่นสามารถเล่นมินิเกมนี้ได้ที่ Tavern ตามเมืองต่างๆในเกม The Witcher 3: Wild Hunt
>> ในระดับความยากสูงสุด การทำ meditation จะไม่ฟื้นพลังชีวิตให้กับคุณ
>> เวอร์ชั่น PC คุณสามารถตัดสินใจอิมพอร์ตเซพเกมภาค The Witcher 2 มาเล่นต่อใน The Witcher 3 ได้แต่อาวุธ,ชุดเกราะ,ไอเทมที่คุณเก็บไว้จะไม่สามารถนำมาใช้ต่อได้ มีเพียงแค่การตัดสินใจที่เลือกไว้จากภาคเก่าเท่านั้นที่มีความสำคัญกับภาคใหม่
>> พิษที่คุณได้รับจะสามารถจางหายไปได้ตามกาลเวลา ,สกิลสาย Alchemy ช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการติดพิษ บางเอฟเฟคจะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่คุณเมา
>> ชุดเกราะที่คุณอัพเกรด จะเปลี่ยนรูปแบบและสีสัน
>> ความเร็วของ Geralt จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่นถ้าคุณเดินอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นหนองน้ำ เขาจะเดินได้ช้าลง
>> มีบางเควสคุณจะทำได้ในบางช่วงเวลาเท่านั้น เหตุผลหนึ่งเพราะมอนสเตอร์บางตัวจะเข้านอนตอนกลางคืน
>> คุณไม่สามารถปิดระบบไม่ให้โชว์เลือดในเกมได้ เพราะ CD Projekt สร้างเกมสำหรับผู้ใหญ่เล่น
>> ระบบต่อสู้โดยใช้หมัดต่อยในระยะประชิด ไม่ใช้การกดปุ่มเล่นหรือ Quicktime Event อีกต่อไป
>> คุณไม่สามารถหาม้าตัวใหม่ได้ ,คุณสามารถทำให้ม้าป่าเชื่องได้ด้วยการร่าย Axii sign จากนั้นคุณจึงขี่มันได้ แต่จะไม่ได้มันเป็นม้าของคุณอย่างถาวร
>> คุณสามารถเลือกปิดแถบแสดงเลือดของศัตรูได้แต่มันจะทำให้เกมยากขึ้น ,แถบเลือดของศัตรูจะเปล่งแสงแสดงให้คุณรู้ว่าคุณสามารถทำ Counterattack ได้ซึ่งถ้าคุณปิดแถบนี้คุณจะมองไม่เห็น
>> ตัวเลือกในเควสย่อยส่งผลต่อเควสหลัก
>> คุณสามารถสร้างลูกดอกสำหรับหน้าไม้ของคุณ ด้วยลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่นลูกดอกระเบิด,ลูกดอกที่ทำให้ศัตรูเลือดออก หรือลูกดอกที่ทำให้ศัตรูล้ม
>> หน้าไม้เป็นอาวุธเดียวที่คุณสามารถใช้ในขณะดำน้ำได้ คุณสามารถอัพเกรดมันหรือซื้ออันใหม่ได้
>> คุณสามารถขู่ NPC ที่หยามคุณ ,ซึ่งมันทำให้เขากลัวจนวิ่งหนีและไปตามทหารยามมาจัดการกับคุณ
>> ถ้าคุณถูกฆ่าโดยทหารยาม คุณจะสูญเสียเงินส่วนหนึ่งที่คุณมี
>> คุณสามารถเคลียร์เกมได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้หน้าไม้เลย
>> ในการเข้าบางพื้นที่ คุณจำเป็นต้องทำเควสก่อนถึงเข้าได้ หรือต้องได้รับเอกสารที่เหมือนพาสปอร์ต,ติดสินบนทหาร หรือค้นหาทางเข้าลับที่ซ่อนอยู่
>> ความสามารถในการ blink ของ Ciri คือการม้วนตัวหลบของ Geralt
>> Ciri จะไม่มีระบบอัพสกิล การเล่นเป็นเธอคือการเล่าเรื่องราวของตัวเกมที่คุณสัมผัสเอง (ไม่ใช่ฟังจากที่คนอื่นเล่า)
>> เควสย่อยบางเควสจะปรากฎให้คุณเห็นเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น
>> ในบางช่วงการต่อสู้ผู้เล่นต้องใช้เทคนิคการเล่นเหมือนคุณเล่นซีรีย์ Souls จาก From Software
>> มีร้านค้าอยู่ในหมู่บ้านและในเมืองเป็นจำนวนมาก เราพบกับแม่ค้าคนหนึ่งที่ขายของมากกว่า 80 อย่างและมันแตกต่างกันด้วย
>> ของที่คุณเก็บได้จากศพสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการสร้างสิ่งต่างๆในเกม
>> Gerlat สามารถถืออาวุธได้ทั้งดาบมือเดียวและดาบ 2 มือ
>> ศัตรูสามารถเกิด (respawn) ได้เองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
>> ชุดเซ็ตชุดเกราะที่ดีที่สุดในเกมจะมาจากการสร้างเอง แต่มันจะเชื่อมโยงกับเควสที่คุณทำ กล่าวคือการสร้างชุดเกราะที่ดีที่สุดต้องใช้พิมพ์เขียวสูตรสร้าง ซึ่งในพิมพ์เขียวจะมีวัตถุดิบที่คุณต้องหา ซึ่งเป็นสิ่งที่หายาก และหาได้จากการทำเควสเท่านั้นเช่นต้องฆ่าบอสจึงได้วัตถุดิบชิ้นนั้นมา
>> คุณสามารถใส่พลังรูนไฟ/น้ำแข็ง กับอาวุธและชุดเกราะได้
>> คุณจะได้รับค่าประสบการณ์ (XP) ที่น้อยลงในระดับการเล่นที่ยากขึ้น
>> คุณจะเห็นมอนสเตอร์ฆ่าสัตว์ตัวหนึ่ง ,แล้วสัตว์อีกตัวหนึ่งได้กลิ่นศพก็มากินซากสัตว์ที่ถูกฆ่า ,และสัตว์ที่มากินก็โดนฆ่าตาย มันคือวงวรชีวิต.
>> สิ่งก่อสร้างในเกมหลายอย่างได้แรงบันดาลใจจากสถานที่สำคัญๆในประเทศโปแลนด์ เช่น Zuraw Crane ใน Gdansk
>> ใบหูของ Geralt สามารถเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมีอากาศหนาวเย็น
>> คุณสามารถ blinder ตาของม้าเพื่อลดความหวาดกลัวในระหว่างต่อสู้กับมอนสเตอร์
>> อานม้าและ blinder สามารถอัพเกรดได้ คุณสามารถได้จากการซื้อ,ชนะการแข่งม้า และค้นหามันตามส่วนต่างๆของเกม
>> การแข่งม้าในเกมเหมือนการแข่งม้าใน Red Dead Redemption คุณต้องควบม้าผ่านในแต่ละ checkpoint ที่เกมกำหนด สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องคอยดูแถบ stamina ของม้าและคอยกันคู่แข่งของคุณ
>> ในเมืองใหญ่ๆจะมีการจัดแข่งขันแข่งม้าเป็นทัวร์นาเมนต์
>> มีระบำในเกม
>> NPC ในเกมสามารถสนทนากับคุณได้ 800 คน ในช่วงการพัฒนาใช้ผู้พากษ์เสียง NPC ในเกมจำนวนทั้งสิ้น 81 คน รวมบทสนทนาที่บันทึกไว้สำหรับใช้ในเกมทั้งสิ้น 300 ชั่วโมง Geralt มีบทสนทนาที่แตกต่างกันมากกว่า 70,000 ประโยค
>> เอฟเฟคของยาพิษที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของ Geralt จะแสดงให้เห็นในฉากคัทซีนด้วย (คุณต้องใช้ White Honey รักษามัน)
>> มอนสเตอร์สามารถโจมตีคุณได้ในขณะที่คุณกำลัง Meditating
>> สัตว์ทั่วไปในเกมอย่างแกะกับแพะ จะมีพฤติกรรมพื้นฐานแบบสัตว์ทั่วไปคือกินอาหารในบริเวณใกล้เคียงตัวมัน เช่นกินหญ้า และพวกมันจะวิ่งหนีถ้าคุณทำให้มันกลัว
>> ถ้าคุณฆ่าแพะ เลือดและเนื้อของมันจะส่งกลิ่นดึงดูดมอนสเตอร์รอบๆ ถ้ามีสัตว์นักล่าที่ชอบกลิ่นนั้นมันจะปรากฎตัวออกมา อย่างไรก็ตามสัตว์นักล่าที่กินเนื้อก็ไม่ได้ต้องกินเนื้อแพะทุกตัวเสมอไป สัตว์บางประเภทก็กินซากศพหรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ
>> ถ้ามีกวางอยู่ในพื้นที่นั้น จะมีหมาป่าออกมาล่ามัน แต่ถ้าคุณฆ่ากวางคุณจะเห็นหมาป่าออกลาดตระเวนหาเหยื่อ .
>> เหตุผลที่ว่าทำไมนักพัฒนาจึงนำ ice skating ออกไป หรือคุณสมบัติในการใช้อนาล็อกซ้าย-ขวาในการควบคุมขาซ้ายกับขวาของ Geralt ออกไปนั้น เป็นเพราะว่าการสร้างระบบต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ จะขึ้นอยู่กับหลักกลศาสตร์ต่างๆที่แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งยังไม่เคยมีใครใช้มาก่อน ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่มีโอกาสสัมผัสกับมันและมันจึงเป็นความคิดที่แย่ มันอาจทำให้คุณถูกฆ่าตายได้ง่ายในระหว่างการเล่นหรืออาจทำให้คุณผิดหวังกับเกม
>> ในบางกรณีถ้าคุณทำการฆ่ามอนสเตอร์ในพื้นที่จะมีมนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ในช่วงเริ่มเกมจะมีฉากคัทซีนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นเข้าใจหลักกลศาสตร์ของตัวเกม ซึ่งมันไม่ง่ายเสมอไปและมันมีความแตกต่างกันมาก
>> ในทุกๆพื้นที่ที่คุณเล่นตัวเกมจะตรวจเช็คทุกสิ่งที่คุณทำและไม่ได้ทำ ใครที่คุณช่วยและไม่ได้ช่วย,การตัดสินใจที่คุณเลือกในระหว่างเควสและบทสนทนา สิ่งเหล่านั้นสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้มากมาย รวมถึงเปลี่ยนแปลงการปรากฎตัวของผู้คนในเมืองอีกด้วย หลักกลศาสตร์เป็นเรื่องง่ายแต่มันมีความซับซ้อนเพราะแยกย่อยออกไปหลายแขนง
>> ระดับความยากของมอนสเตอร์แต่ละตัวไม่ได้ปรับสเกลตามเลเวลของผู้เล่น ถ้าเลเวลของคุณต่ำกว่ามอนสเตอร์ คุณจะไม่สามารถทำดาเมจมันได้
>> ระดับเลเวลของศัตรูจะปรากฎให้คุณเห็น แต่ถ้าคุณเห็นระดับเลเวลของศัตรูที่เป็นรูปกะโหลกคุณควรจะหนีไปให้ไกล เพราะมันแข็งแกร่งเกินไปสำหรับคุณ การโจมตีเพียงครั้งเดียวของมันก็อาจทำให้คุณถึงกับตายได้
>> เวทย์ในเกม The Witcher จะเรียกว่า Sign ทุกอย่างสามารถอัพเกรดให้ทรงพลังขึ้น เช่น Axii sign ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมจิตใจศัตรูได้ 1 ตัวแต่ถ้าคุณทำการอัพเกรดมัน จะทำให้คุณสามารถใช้มันทำให้ศัตรูหลับเป็นกลุ่มด้วยการโจมตีครั้งเดียว หรือคุณสามารถใช้ Axii sign ในระหว่างบทสนทนากับผู้คนได้อีกด้วย เพื่อทำให้เขาพูดความจริงหรือทำให้เขาใจเย็นลง
>>> คุณสามารถใช้ Axii sign กับสัตว์ได้อีกด้วย เช่นม้าของคุณจะมีระดับหวาดกลัวกับมอนสเตอร์ที่โจมตีคุณ คุณสามารถใช้มันกับม้าเพื่อทำให้ม้าสงบขึ้น ถ้าม้าหวาดกลัวจนถึงขีดสุดมันจะแตะคุณตกหลังของมัน
>>> ส่วนหนึ่งของการสนทนากับนักพัฒนามีการพูดถึงว่า Geralt สามารถเปลือยทั้งตัวได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการเซ็นเซอร์อวัยวะเพศ ในด้านหนึ่งมีหลายคนเชื่อว่าตัวเกมจะต้องมีผู้หญิงเปลือยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในภาคใหม่ควรจะมีผู้ชายเปลือยด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าใน The Witcher 3 จะมีผู้ชายแก้ผ้ามากกว่าภาคก่อน แต่ Geralt ยังคงสวมใส่กางเกงในของเขาเหมือนเดิม
>>> การแข่งมินิเกมการ์ด Gwent Tournament ใน Passiflora จะใช้เวลาแข่งต่อแมทช์ประมาณรอบละ 10 นาที รางวัลที่คุณจะได้จากการชนะการแข่งคือเงินและการ์ดใหม่ บางเควสที่คุณทำจะเชื่อมโยงกับการแข่งมินิเกม
>>> ผู้เล่นสามารถหลอกล่อมอนสเตอร์หรือสัตว์ต่างๆให้เข้าไปยังเมืองหรือหมู่บ้านได้ แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะทำแบบนั้น สิ่งมีชีวิตในเกมส่วนใหญ่จะมีความฉลาดพอที่จะรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เช่นสัตว์จะหวาดกลัวแหล่งที่มีมนุษย์อยู่รวมกันมากๆ ดังนั้นพวกสัตว์จึงตั้งถิ่นฐานของตน***งไกลจากเมืองขนาดใหญ่ หมู่บ้านและแหล่งชุมชนต่างๆ แต่ถึงกระนั้นมันยังคงสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามชาวเมืองก็ไม่ต้องการยืนอยู่กับที่และถูกสัตว์ฆ่า (หากสัตว์บุกเมือง) พวกเขาฉลาดพอที่จะโจมตีต่อสู้หรือหลบหนีเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู
หลักการพื้นฐานทั่วไป
>> สกิลย่อยจะมีด้วยกัน 4 tier ช่วงเริ่มเกมคุณจะสามารถเข้าถึงได้แค่สกิลแถว 1 (tier 1) แถวที่ 2 (tier 2) จะปลดล็อกเมื่อใช้แต้มอัพเกรดในสกิลแถว 1 (tier 1) จำนวน 8 แต้ม แถวที่ 3 (tier 3) จะปลดล็อกเมื่อใช้แต้มอัพเกรดในสกิลแถว 2 (tier 2) จำนวน 20 แต้ม แถวที่ 4 (tier 4) จะปลดล็อกเมื่อใช้แต้มอัพเกรดในสกิลแถว 3 (tier 3) จำนวน 30 แต้ม
>> Mutagen ไว้วางที่ช่องใหญ่ติดกับสกิลย่อยที่เราเลือกติดตั้งไว้กับตัว มันจะช่วยเพิ่มพลังเป็นเท่าตัวให้กับสกิลที่เราใช้ คุณต้องวาง Mutagen สีเดียวกับสกิลคือ สีเขียวคู่กับสีเขียว ,สีแดงคู่กับสีแดง ,สีฟ้าคู่กับสีฟ้า
>> สกิลในเกมมีทั้งหมด 70 อันแต่มีช่องให้คุณติดตั้งสกิลไว้กับตัวแค่ 12 ช่อง เพราะฉะนั้นเลือกที่คุณต้องการมากที่สุด
>> คุณสามารถรีเซ็ตสกิลที่คุณอัพได้ (เพื่อเลือกอัพใหม่) ได้ตลอดเวลา เพียงแค่ซื้อ Elixir ที่มีขายตามเมืองต่างๆ
>> ช่องว่างที่ไว้ให้คุณติดตั้งสกิลกับ Mutagen จะปลดล็อกเพิ่มเติมเมื่อคุณอัพเลเวลตัวละครให้สูงขึ้น
>> คุณสามารถปรับเปลี่ยนสกิล/Mutagen ที่ติดตั้งไว้กับตัวได้ตลอดเวลา (ที่ไม่ใช่ในระหว่างต่อสู้)
>> ผู้เล่นสามารถได้แต้มไว้อัพเกรดสกิลที่คุณต้องการ 4 วิธีคือ(1) เลเวลอัพ Geralt ได้ Skillpoint 1 แต้มในทุกๆครั้งที่เลเวลอัพ (เลเวลสูงสุด 60)(2) จาก Shrines/Places of Power (เหมือนภาคก่อน) ที่จะบัพให้กับคุณและมอบ Skillpoint 1 แต้ม(3) ในบางเควสที่คุณทำ เมื่อคุณเคลียร์สำเร็จคุณจะได้ Skillpoint 1 แต้ม(4) การที่คุณเก็บสะสม (Collectible) สิ่งของบางอย่างที่เกมกำหนด เมื่อคุณเก็บครบคุณจะได้ Skillpoint
>> ชุดเกราะในเกมจะมี 3 แบบคือMedium Armor (Gryphin) เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความเชี่ยวชาญในการใช้ Sign มันจะช่วยให้ผู้สวมใส่ฟื้นฟูแถบ Vigor ได้เร็วมากขึ้นLight Armor (Cat) เป็นเซ็ตชุดเกราะที่ดีสำหรับสกิล Swordsman แม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้กับผู้สวมใส่เพียงเล็กน้อย แต่มันจะช่วยเพิ่มดาเมจให้กับการโจมตี และเพิ่มความแรงในการทำ Cricital ด้วยสกิล Fast Attack มันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักความรวดเร็วและความรุนแรงHeavy Armor (Bear) มันเป็นชุดเกราะที่มอบพลังป้องกันให้กับผู้เล่นมากที่สุด อีกทั้งยังเพิ่มดาเมจสำหรับ Heavy Attack และเพิ่มเลือดให้กับผู้สวมใส่อีกด้วยมันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Alchemist ที่มีของดีแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้มัน และมันยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Swordsman ที่ต้องการโจมตีด้วย Strong Atttack
>>> DLC ฟรีสำหรับเกม The Witcher 3: Wild Hunt จะประกอบด้วย 16 ชิ้นด้วยกัน ทั้งหมดจะปล่อยออกมาให้กับผู้เล่นทุกคนที่ซื้อเกม Wild Hunt บนเครื่อง Xbox One, PC, และ PlayStation4 ซึ่งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2015 นักพัฒนาจะปล่อย DLC 2 ชิ้น (จากทั้งหมด 16) คือ the Temerian Armor Set ประกอบด้วย ชุดเกราะสำหรับม้าและชุดเกราะของ Geralt กับหนวดเคราทรงผมใหม่สำหรับ Geralt และหลังจากนั้นจะปล่อย DLC ออกไปต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2 อันในทุกๆสัปดาห์ ซึ่งทั้งหมดมันจะฟรีสำหรับทุกคน (โดย DLC ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2015 จะเป็นเควสใหม่ และชุดเสื้อผ้าของ Yennefer of Vengerberg และสัปดาห์ถัดไปจะเป็นวันที่ 3 มิถุนายน)
Expansion (เนื้อเรื่องเสริม) มีด้วยกัน 2 ตัวคือ Hearts of Stone คือการผจญภัยของ Geralt ครั้งใหม่ทั้งหมด ด้วยเกมเพลย์ที่มีความยาวกว่า 10 ชั่วโมงภายในป่าของเขต No Man?s Land และตรอกซอกซอยของ Oxenfurt วางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2015 และ Blood and Wine คือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ของ Geralt ด้วยเกมเพลย์ที่มีความยาวกว่า 20 ชั่วโมงบวกกับพื้นที่แห่งใหม่ใน Toussaint วางจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016
สกิล (Skill) ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt จะแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่ โดยจะมีสีกำกับไว้เพื่อแสดงความแตกต่างในแต่ละประเภทและเพื่อให้ผู้เล่นดูง่าย .-Swordmanship (Red) สกิลประเภทโจมตีกายภาพด้วยอาวุธ (สีแดง)-Magic/Signs (Blue) สกิลประเภทเวทย์มนต์คาถา (สีฟ้า)-Alchemy(Green) สกิลประเภทยา,ยาพิษ,กับดักต่างๆ (สีเขียว)-Other(Yellow/White) สกิลอื่นๆ (สีเหลือง/ขาว).
>> ในแต่ละหมวดของสกิลใหญ่จะมี 5 ประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทจะมีสกิลย่อยไปอีกอย่างละ 4 สกิล(รวมหนึ่งหมวดใหญ่จะมีสกิลย่อย 20 สกิล) รวมกันทั้งหมดจะมีทั้งสิ้น 70 สกิลที่แตกต่างกัน (สกิลประเภท Other จะมีสกิลย่อย 10 สกิล)
>> ใน 20 สกิลย่อยจาก 1 หมวดสกิลใหญ่ จะมีการอัพเกรด ซึ่งในทุกๆสกิลจะมีเลเวลกำหนด (เลเวล 1-5)
>> คุณสามารถปลดล็อกสกิลได้โดยการใช้แต้ม Ability point ซึ่งได้จากการเลเวลอัพตัวละคร
>> เพราะฉะนั้นคุณจึงไม่สามารถอัพให้เต็มได้ทุกสกิล (เลเวลสูงสุดของเกมคือเลเวล 60 แต่ปลดล็อกช่องใส่สกิลทุกช่องที่เลเวล 50)
>> The Witcher 3 มีขนาด 136 ตารางกิโลเมตร (รวมกัน 3 พื้นที่ ประกอบด้วย Novegrad, No Man?s Land และหมู่เกาะ Skellige) พื้นที่นี้ยังไม่รวม White Orchard (เล่นช่วงอารัมภบท) และ Royal Palace of Vizima (เมืองขนาดใหญ่อีกเมือง).
>> GTA: San Andreas มีขนาดพื้นที่ในเกม 36 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง The Witcher 3 มีขนาดใหญ่กว่า 3.7 เท่า
>> GTA 5 มีขนาดพื้นที่ในเกม 81 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง The Witcher 3 มีขนาดใหญ่กว่า 1.5 เท่า
>> Red Dead Redemption มีขนาดพื้นที่ในเกม 41 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง The Witcher 3 มีขนาดใหญ่กว่า 3.3 เท่า
>> Far Cry 4 มีขนาดพื้นที่ในเกม 46 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง The Witcher 3 มีขนาดใหญ่กว่า 3 เท่า
>> Skyrim มีขนาดพื้นที่ในเกม 39 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง The Witcher 3 มีขนาดใหญ่กว่า 3.5 เท่า.
...........
https://www.facebook.com/notes/474845909335057/Last edited by pisnu; 18 May 2015, 20:36:29.
Comment
-
Originally posted by Gen3Fake View Post^
^
ว่าจะเอามาโพสเองอยู่เหมือนกัน แต่ลืม
ขอบคุณครับ ที่เอามาให้เพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ ได้อ่าน
ครับ ผมว่าเพจนี้ข้อมมูลแน่นดี น่าตามครับ เห้นรีวิวตรง เล่นไป2-3 ชม. เวลขึ้นแค่ 2 เอง อืมม........สงสัย 100 กว่าชม.คงไม่พอปั๊มเวลล่ะ ภาคนี้สงสัยกะทำมาวัดกะสกายริม gta 5 fc3 กันไปข้างหนึ่งครับ
Comment
Comment