เห็น Tesla ไม่มีช่องต่อ Output เลย เลยอยากทราบว่ามันทำงานยังไง
Announcement
Collapse
No announcement yet.
Quadro กับ Tesla แตกต่างกันยังไงครับ
Collapse
X
-
เอาไว้ช่วย CPU ประมวลผล (ในงาน 3d หรืองานทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น)
http://www.overclockzone.com/forums/...d.php/926741#4
http://www.nvidia.com/object/tesla-s...solutions.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Nvidia_Tesla
-
Quadro กับ Tesla เหมือนกันที่ใช้แรม ECC (Geforce RAM ธรรมดา)
Quadro กับ Tesla ต่างกันที่ Double Precision (64bits) กับ Single Precision (32bit) ความละเอียดในการประมวลผลทศนิยม โดยปกติ Quadro จะใช้ CUDA เรนเดอร์ภาพไม่เน้นความละเอียด ข้อมูลมีค่าทศนิยมสูงสุดประมาณ 8 ตำแหน่ง แต่ Tesla ต้องการความละเอียดมีค่าทศนิยมสูงสุดประมาณ 16 ตำแหน่ง
โปรแกรมที่ต้องการ Double Precision ได้แก่ Financial, Mechanical Dynamics, Molecular Dynamics, 3D Progaming etc.
โปรแกรมที่ต้องการ Single Precion ได้แก่ Adobe suite, Autodesk, Solid Work etc.
Comment
-
Originally posted by THEFOOL View Post
Quadro กับ Tesla ต่างกันที่ Double Precision (64bits) กับ Single Precision (32bit) ความละเอียดในการประมวลผลทศนิยม โดยปกติ Quadro จะใช้ CUDA เรนเดอร์ภาพไม่เน้นความละเอียด ข้อมูลมีค่าทศนิยมสูงสุดประมาณ 8 ตำแหน่ง แต่ Tesla ต้องการความละเอียดมีค่าทศนิยมสูงสุดประมาณ 16 ตำแหน่ง
สรุปคือมันต่างกันไอ้ตรงบรรทัดแรกนั่นครับ มันใช้งานคำนวนคนละแบบ ต้องบอกว่า Teslaทำได้มากกว่า
Quadro = GPU
Tesla = Coprocessor แบบ Intel Xeon Phi
^
อันนี้ถูกสุด
QUADRO = ใช้ในการแสดงผล = Graphic / Viewport หนักไปทาง OpenGL
TESLA = ใช้ในการช่วยประมวล =จุดเด่น Render/Simulate/Compute
ส่วนไอ้คำว่าRENDER (คำนี้ส่วนใหญ่ใช้กับประเภทกราฟฟิคหรือพวก Visualizer/CG) = เนี่ยมันคือการประมวลผลออกมาเป็นภาพ
นั่นหมายความว่า ถ้าเราRenderด้วย CUDA เรียงตามความแรงก็จะเป็น
QUADRO - GTX - TESLA
CUDA เยอะกว่าชนะ
Comment
-
Originally posted by umbrella View Postอันนี้มันผิดนะ มันไม่ใช่ภาพตอนเล่นเกมครับ มันเป็น SDK เป็นตอนEngineเหมือนทำงานพวก 3d ทั่วไป เฟรมเรตมันจะพุ่งแบบนั้นนั่นแหล่ะครับ
อันนี้ก็ไม่ถูกไปทั้งหมดถ้าจะบอก Quadro ใช้เรนเดอร์ภาพด้วย CUDA เพราะการ์ดเกมก็ใช้ และTesla ก็มี ซึ่งมันคือหน่วยวัดค่า คล้ายๆ Core แบบCPU
สรุปคือมันต่างกันไอ้ตรงบรรทัดแรกนั่นครับ มันใช้งานคำนวนคนละแบบ ต้องบอกว่า Teslaทำได้มากกว่า
Quadro = GPU
Tesla = Coprocessor แบบ Intel Xeon Phi
^
อันนี้ถูกสุด
QUADRO = ใช้ในการแสดงผล = Graphic / Viewport หนักไปทาง OpenGL
TESLA = ใช้ในการช่วยประมวล =จุดเด่น Render/Simulate/Compute
ส่วนไอ้คำว่าRENDER (คำนี้ส่วนใหญ่ใช้กับประเภทกราฟฟิคหรือพวก Visualizer/CG) = เนี่ยมันคือการประมวลผลออกมาเป็นภาพ
นั่นหมายความว่า ถ้าเราRenderด้วย CUDA เรียงตามความแรงก็จะเป็น
QUADRO - GTX - TESLA
CUDA เยอะกว่าชนะouble = 2:1 เช่น C2050 มีั 448 CUDA มี SP=1030.4 , DP=515.2
ส่วนใน สถาปัตยกรรม Maxwell จะเน้นค่า SP ซึ่งจะสูงมาก และมี CUDA สูงกว่า เช่น Quadro M4000 มี 1664 CUDA , SP=2662.4 แต่ DP=83.2 ซึ่ง DP น้อยจึงไม่สามารถประมวลผลทาง Physics ขั้นสูงได้ มาเน้นประมวลผลที่ใช้ CUDA แทน เช่น งานเรนเดอร์ เป็นต้น ส่วนประมวลผล DP เช่น คำนวณข้อมูลที่มีทศนิยมเยอะๆ สมัยก่อนจะนิยมใช้มาก ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมเนื่องจากช้ามาก นิยมใช้แค่ SP ทำให้ Tesla ในสถาปัตยกรรม Maxwell ก็มี DP ต่ำด้วยเช่นกัน Tesla M40 มี 3072 CUDA , SP=5825 , DP=182.0 ดังนั้นต้องเลือกด้วยว่า งานที่เราทำจะใช้ DP หรือ SP ส่วนชุดคำสั่งบางอย่างมีแบบ hybrid precision (SPDP) ซึ่งเหมาะกับการ์ดใหม่ๆ เร็วกว่ามาก แต่ความแม่นยำปานกลาง สรุปคือ การ์ดทุกตัวเรนเดอร์ได้ แต่จะประมวลผล SP DP ต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรม และ Tesla ไม่จำกัดจำนวนการ์ดในการใส่ เพราะคำสั่งในการเรียกใช้เป็นแบบ Parallel ใส่ได้เต็มทุกช่อง PCIe
Comment
-
ก่อนอื่นเรามาพูดถึงความแตกต่างระหว่างการ์ดจอเล่นเกม และการ์ดจอทำงานกันก่อน เราขอหยิบยกการ์ดจอตระกูล GeForce มาเปรียบเทียบกับการ์ดจอ Quadro ซึ่งการ์ดจอทั้ง 2 รูปแบบนี้แตกต่างกันตัั้งแต่งานประกอบ และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งการ์ดจอในตระกูล Quadro จะเลือกใช้อุปกรณ์เกรด Server ที่ทนทาน เช่น ภาคจ่ายไฟ ตัวเก็บประจุ ซึ่งเน้นความเสถียรภาพในการเปิดใช้งานระยะยาว ซึ่งแตกต่างไปจากการ์ดจอ GeForce ทั่วไป กล่าวคือ การ์ดจอ GeForce เน้นความแรงที่เพียงพอสำหรับการประมวลผลกราฟิก เช่น การเล่นเกมความละเอียดสูง ในขณะที่การ์ดจอ Quadro จะเน้นความแรงเพียงอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องมีความเสถียรภาพในการใช้งาน สามารถทนทานต่อกราฟิกหนักๆ สามารถเปิดใช้งานในแบบ 24/7 ได้อย่างไรปัญหานั่นเอง รวมถึงเทคโนโลยีการประมวลผลที่เรียกว่า CUDA ที่จะรองรับชุดคำสั่งในการทำงานที่แตกต่างกัน เพื่อแยก Section การทำงานกันอย่างชัดเจน คือ เล่นเกมต้อง GeForce และทำงานต้อง Quadro ซึ่งหากนำการ์ดจอมาใช้งานผิดประเภท เช่น นำ Quadro มาเล่นเกมยามพักผ่อน หรือนำ GeForce มาทำงานเบื้องต้น ก็ยังสามารถทำงานด้วยกันได้ แต่ถือว่าไม่เต็มประสิทธิภาพ และไม่ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งานครับ
ต่อมาเป็นความแตกต่างระหว่างการ์ดจอทำงานในตระกูล Quadro และ Tesla ที่แม้จะเป็นการ์ดจอ WorkStation เหมือนๆกัน อยู่ในสายการผลิตที่เสถียรและทนทานเหมือนๆกัน แต่ลักษณะการใช้งานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ การ์ดจอ Quadro มีไว้สำหรับใช้ในการประมวลผลกราฟิก เช่น งานออกแบบ งานวิดีโอ งานแอนิเมชั่น และการแสดงผลออกมาตามที่เราต้องการ ในขณะที่การ์ดจอ Tesla มีไว้สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพในการคำนวณโดยเฉพาะเท่านั้น กล่าวคือ Quadro คือการ์ดแสดงผล / Tesla คือการ์ดคำนวณ โดยการ์ดจอ Tesla นั้นจะใช้เทคโนโลยี CUDA เข้ามาช่วยการทำงานให้กับ CPU อธิบายง่ายๆคือ Tesla มีการคิดวิเคราะห์ รับคำสั่ง ประมวลผลแบบเดียวกับ CPU แต่มีความเร็วเหนือกว่า CPU หลายร้อยเท่า เพราะฉะนั้นงานประเภทไหนที่ต้องใช้พลังของ CPU ในการประมวลผล การคิดคำนวณ การจำลองต่างๆ หากเรานำการ์ดจอ Tesla มาช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างการทดสอบของเราในโปรแกรมคำนวณอย่าง ANSYS ที่หากใช้ CPU ทำงานเพียงอย่างเดียวจะใช้เวลาในการคำนวณที่นานกว่า 8 ชั่วโมง ในขณะที่เรานำ Tesla K20 มาใช้งานด้วยกลับใช้เวลาในการคำนวณเสร็จสิ้นในเวลาไม่ถึง 10 นาที เชื่อว่าวิดีโอ/ บทความนี้ จะทำให้เพื่อนๆได้รู้จักกับการ์ดจอด้านการทำงานประเภทคำนวณอย่าง NVIDIA Tesla มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากธุรกิจหรือองค์กรของคุณ มีความต้องการประสิทธิภาพในการคำนวณระดับสูง รวดเร็วและแม่นยำ สามารถติดต่อขอรายละเอียด หรือทำการทดสอบสินค้าได้ที่ เดวาส์ เนเชอรัล ครับ
Last edited by Lovelynest; 13 Jan 2016, 08:59:04.
Comment
-
Originally posted by nonvapon View PostCUDA เท่ากัน แต่ประมวลผล ความละเอียดต่างกันครับ คือสถาปัตยกรรม Fermi จะให้ค่า Singleouble = 2:1 เช่น C2050 มีั 448 CUDA มี SP=1030.4 , DP=515.2
ส่วนใน สถาปัตยกรรม Maxwell จะเน้นค่า SP ซึ่งจะสูงมาก และมี CUDA สูงกว่า เช่น Quadro M4000 มี 1664 CUDA , SP=2662.4 แต่ DP=83.2 ซึ่ง DP น้อยจึงไม่สามารถประมวลผลทาง Physics ขั้นสูงได้ มาเน้นประมวลผลที่ใช้ CUDA แทน เช่น งานเรนเดอร์ เป็นต้น ส่วนประมวลผล DP เช่น คำนวณข้อมูลที่มีทศนิยมเยอะๆ สมัยก่อนจะนิยมใช้มาก ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมเนื่องจากช้ามาก นิยมใช้แค่ SP ทำให้ Tesla ในสถาปัตยกรรม Maxwell ก็มี DP ต่ำด้วยเช่นกัน Tesla M40 มี 3072 CUDA , SP=5825 , DP=182.0 ดังนั้นต้องเลือกด้วยว่า งานที่เราทำจะใช้ DP หรือ SP ส่วนชุดคำสั่งบางอย่างมีแบบ hybrid precision (SPDP) ซึ่งเหมาะกับการ์ดใหม่ๆ เร็วกว่ามาก แต่ความแม่นยำปานกลาง สรุปคือ การ์ดทุกตัวเรนเดอร์ได้ แต่จะประมวลผล SP DP ต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรม และ Tesla ไม่จำกัดจำนวนการ์ดในการใส่ เพราะคำสั่งในการเรียกใช้เป็นแบบ Parallel ใส่ได้เต็มทุกช่อง PCIe
คือผมจะถนัดอธิบายพวก Visualizer มากกว่าพวก Analysis Simulator เพราะกรณีหลัง เป็นเรื่องระบบสถาปัตยกรรมการ์ดจอที่นอกเหนือกว่าที่ผมเข้าใจ
Comment
Comment