Announcement
Collapse
No announcement yet.
ดูกันชัดๆ คุณรู้หรือไม่ ใช้ใส่ ram 32 GB ช่วยการ์ดจอvramไม่พอใช้ ในการเล่นเกมมากขึ้น
Collapse
X
-
ของผมใช้ 8x8GB นะ หาง่ายกว่า
ใช้กับ MB Rampage IV Extream
ผมใช้มานานละ คือซื้อมาใช้ทำงาน
เล่นเกมเลยได้อานิสงค์ไปด้วย
ต้องท้าวความสักหน่อยว่า Engine เกมเนี่ยมันจะมีอยู่ 3 ประเภท
1.ประเภทที่โหลด Asset ทั้งหมดลง VRAM
2.ประเภทที่ใช้การ Streaming ข้อมูลลง VRAM
3.ประเภท 1+2 (Next Gen)
ประเภทที่ 1 ก็เป็น Engine ส่วนใหญ่ที่ใช้กัน เพราะมันเขียนโปรแกรมง่าย ค่ายเกมทำกันเองได้
เหมาะกับเกมที่มี ขนาดด่านไม่ใหญ่ไปกว่า VRAM ปัญหาก็คือ กว่าจะเริ่มด่านแต่ละที
รอโหลดเกมกันนานมาก ใครเล่นเกมรุ่นเก่าๆมาคงรู้ดี
ประเภทที่ 2 มันทำมาเพื่อ Console ยุคก่อนหน้าที่มี VRAM น้อยมาก (PS3 256MB , XBOX360 ประมาณ 450MB)
Engine ที่ Support เต็มๆก็คือ Unreal Engine พวกนี้มันจะเล่นไปโหลดไป (Asynchronous Loading) เวลาเข้าเกมเร็วมาก
Framerate ก็ไม่ค่อยตก เพราะการ Render แต่ละเฟรม มันจะไม่มีการรอว่า Texture พร้อมหรือไม่ มีเท่าไหร่ก็แสดงเท่านั้นเลย
ถ้าใครมี HDD ช้าก็จะมีปัญหา Texture เบลอ หรือ ผลุบๆโผล่ๆ (ใหลด Texture ไม่ทัน) คงจำกันได้
ประเภทที่ 3 คือพวกพัฒนาแล้ว คือมันจะไม่โหลดเกมทั้งด่านลง VRAM เหมือนประเภทแรก แต่มันจะเป็น Load On-demand คือโหลดเท่าที่จำเป็นก่อน จากนั้นเล่นไปโหลดไป
แล้วก็จะใช้ VRAM ทั้งหมดที่มี นั่นคือยิ่งเล่นไป ยิ่งกิน VRAM มากขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะเต็ม พอเต็มแล้วค่อยทำ Cache Replacement
เพราะฉะนั้น ที่เราเห็นว่าเกมรุ่นใหม่มันกิน VRAM เยอะมากแต่ว่าภาพไม่ค่อยจะสวยต่างจาก Gen เก่ามากนัก ก็เพราะเหตุนี้
คือเกมมันจะใช้ทรัพยากรณ์ทุกอย่างที่มีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ที่เห็นมันกินเยอะๆ มันเอาไปพักไว้ซึ่งบางทีก็ไม่ได้ใช้ แต่ขอเก็บไว้ก่อน เผื่อใช้
อันนี้มันมีเทคนิคการทำ Cache Raplacement หลายแบบ Least Recently Used (LRU),Most Recently Used (MRU),Random Replacement (RR) ฯลฯ
ประมาณว่ามีให้มัน 2GB มันก็ใช้ 2GB มีให้มัน 4GB มันก็ใช้ 4GB เป็นที่งงงวยกันว่าเอ๊ะทำไมเกมเดียวกันแต่กิน VRAM ไม่เท่ากัน 555
พวกที่มี VRAM เยอะๆ ก็คือไม่ต้องทำ Cache Raplacement บ่อยนั่นเอง ใครมีน้อยก็ทำบ่อยๆ ซึ่งอาจจะกระทบกับ Framerate บ้างถ้า Bandwidth ของระบบน้อย
เท่าที่ใช้มา ที่เห็นต่างๆเลย ก็คือเวลาเราเอา RAM ไปทำ Disk Cache ตอนเข้าเกมนี่มันจะโหลดเร็วสุดๆเลย
แล้วถ้าเราทำขนาดของ Cache เท่ากับหรือใหญ่กว่าขนาดของตัวเกมเอง ก็การันตีได้ว่า เกมจะอยู่ใน Cache 100%
โดยไม่สนใจว่า เกมนั้นจะเขียนมารองรับให้เอา RAM ไปทำ Cache หรือไม่ นั่นคือรองรับทุกเกม 100% เพราะเราทำ Cache ระดับ OS เลย
เพราะไม่ว่ามันจะเรียกข้อมูลเกมจาก Preload หรือจะ Stream ข้อมูลจาก HDD โดยตรง มันก็เรียกจาก RAM ทั้งหมด
ไอ้ปัญหา Texture ผลุบๆโผล่ๆนี่ไม่มีเลย หายห่วง
โปรแกรมที่ผมใช้คือ SuperSpeed SuperCache ครับ
คือถ้ามีเยอะๆอย่าง 64 GB เนี่ย พวกเกมเดี๋ยวนี้ขนาด 20-30GB ทำ Cache 100% ได้สบายๆ
แต่เท่าที่ดูจากโหลด เวลาเกมๆนึงมันดึงข้อมูลต่อฉากจริง จะไม่ถึงขนาดเกมอ่ะครับ จะน้อยกว่ามาก
16GB ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันนะผมว่า
ทีนี้ตัวเกมแทนที่จะอ่านเกมจาก HDD มันจะอ่านจาก RAM แทน แล้วเพรมตกหนักๆแบบอาการ VRAM ไม่พอแบบที่เค้า Upload ขึ้น Youtube ก็ไม่มี
แต่โอกาสที่ FPS ไม่นิ่งนี่ยังมีอยู่ครับ ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าใช้การ์ดจอ VRAM เยอะๆ (6-8GB) ยังไงก็ดีกว่า เอา RAM มาทำ Cache คือมันช่วยได้ แต่ช่วยได้ไม่สุดหนะ
เพราะถึงจะเอาข้อมูลไปไว้ใน RAM แล้วก็ตามเวลาใช้งาน มันก็ยังต้องเสียเวลา Copy จาก RAM ไป VRAM อยู่ดี นี่เป็นข้อเสียของ PC เลย
ยิ่งถ้าใช้ SLI หรือ Crossfire นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะต้อง Copy ข้อมูลสองเท่า (ถ้าใช้การ์ด 2 ใบอ่ะนะ) พวกที่ใช้ Multi GPU เลยมีปัญหา Microstutter กันเยอะด้วยเหตุนี้
ของ Console ไม่มีปัญหานี้เพราะมันออกแบบ Hardware เป็น Unified Memory คือ CPU กับ GPU ใช้ RAM ก้อนเดียวกันเลย ไม่ต้อง Copy กันไปมา Overhead ส่วนนี้จึงไม่มี
นี่เป็นเหตุผลนึงว่าทำไม Console Spec อย่างกาก แต่ทำไมทำเกมดีๆออกมาได้Last edited by kaitom; 1 Dec 2014, 10:00:17.
Comment
-
Originally posted by kaitom View Postของผมใช้ 8x8GB นะ หาง่ายกว่า
ใช้กับ MB Rampage IV Extream
ผมใช้มานานละ คือซื้อมาใช้ทำงาน
เล่นเกมเลยได้อานิสงค์ไปด้วย
ต้องท้าวความสักหน่อยว่า Engine เกมเนี่ยมันจะมีอยู่ 3 ประเภท
1.ประเภทที่โหลด Asset ทั้งหมดลง VRAM
2.ประเภทที่ใช้การ Streaming ข้อมูลลง VRAM
3.ประเภท 1+2 (Next Gen)
ประเภทที่ 1 ก็เป็น Engine ส่วนใหญ่ที่ใช้กัน เพราะมันเขียนโปรแกรมง่าย ค่ายเกมทำกันเองได้
เหมาะกับเกมที่มี ขนาดด่านไม่ใหญ่ไปกว่า VRAM ปัญหาก็คือ กว่าจะเริ่มด่านแต่ละที
รอโหลดเกมกันนานมาก ใครเล่นเกมรุ่นเก่าๆมาคงรู้ดี
ประเภทที่ 2 มันทำมาเพื่อ Console ยุคก่อนหน้าที่มี VRAM น้อยมาก (PS3 256MB , XBOX360 ประมาณ 450MB)
Engine ที่ Support เต็มๆก็คือ Unreal Engine พวกนี้มันจะเล่นไปโหลดไป เวลาเข้าเกมเร็วมา Framerate ก็ไม่ค่อยตก
แต่ถ้าใครมี HDD ช้าก็จะมีปัญหา Texture ผลุบๆโผล่ๆ (ใหลด Texture ไม่ทัน) คงจำกันได้
ประเภทที่ 3 คือพวกพัฒนาแล้ว คือมันจะไม่โหลดเกมทั้งด่านลง VRAM เหมือนประเภทแรก แต่มันจะเป็น Load On-demand คือโหลดเท่าที่จำเป็นก่อน จากนั้นเล่นไปโหลดไป
แล้วก็จะใช้ VRAM ทั้งหมดที่มี นั่นคือยิ่งเล่นไป ยิ่งกิน VRAM มากขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะเต็ม พอเต็มแล้วค่อยทำ Cache Replacement
เพราะฉะนั้น ที่เราเห็นว่าเกมรุ่นใหม่มันกิน VRAM เยอะมากแต่ว่าภาพไม่ค่อยจะสวยต่างจาก Gen เก่ามากนัก ก็เพราะเหตุนี้
คือเกมมันจะใช้ทรัพยากรณ์ทุกอย่างที่มีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ที่เห็นมันกินเยอะๆ มันเอาไปพักไว้ซึ่งบางทีก็ไม่ได้ใช้ แต่ขอเก็บไว้ก่อน เผื่อใช้
อันนี้มันมีเทคนิคการทำ Cache Raplacement หลายแบบ Least Recently Used (LRU),Most Recently Used (MRU),Random Replacement (RR) ฯลฯ
เท่าที่ใช้มา ที่เห็นต่างๆเลย ก็คือเวลาเราเอา RAM ไปทำ Disk Cache ตอนเข้าเกมนี่มันจะโหลดเร็วสุดๆเลย
แล้วถ้าเราทำขนาดของ Cache เท่ากับหรือใหญ่กว่าขนาดของตัวเกมเอง ก็การันตีได้ว่า เกมจะอยู่ใน Cache 100%
โดยไม่สนใจว่า เกมนั้นจะเขียนมารองรับให้เอา RAM ไปทำ Cache หรือไม่ นั่นคือรองรับทุกเกม 100% เพราะเราทำ Cache ระดับ OS เลย
เพราะไม่ว่ามันจะเรียกข้อมูลเกมจาก Preload หรือจะ Stream ข้อมูลจาก HDD โดยตรง มันก็เรียกจาก RAM ทั้งหมด
ไอ้ปัญหา Texture ผลุบๆโผล่ๆนี่ไม่มีเลย หายห่วง
โปรแกรมที่ผมใช้คือ SuperSpeed SuperCache ครับ
คือถ้ามีเยอะๆอย่าง 64 GB เนี่ย พวกเกมเดี๋ยวนี้ขนาด 20-30GB ทำ Cache 100% ได้สบายๆ
แต่เท่าที่ดูจากโหลด เวลาเกมๆนึงมันดึงข้อมูลต่อฉากจริง จะไม่ถึงขนาดเกมอ่ะครับ จะน้อยกว่ามาก
16GB ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันนะผมว่า
ทีนี้ตัวเกมแทนที่จะอ่านเกมจาก HDD มันจะอ่านจาก RAM แทน แล้วเพรมตกหนักๆแบบอาการ VRAM ไม่พอแบบที่เค้า Upload ขึ้น Youtube ก็ไม่มี
แต่โอกาสที่ FPS ไม่นิ่งนี่ยังมีอยู่ครับ ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าใช้การ์ดจอ VRAM เยอะๆ (6-8GB) ยังไงก็ดีกว่า เอา RAM มาทำ Cache คือมันช่วยได้ แต่ช่วยได้ไม่สุดหนะ
เพราะถึงจะเอาข้อมูลไปไว้ใน RAM แล้วก็ตามเวลาใช้งาน มันก็ยังต้องเสียเวลา Copy จาก RAM ไป VRAM อยู่ดี นี่เป็นข้อเสียของ PC เลย
ยิ่งถ้าใช้ SLI หรือ Crossfire นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะต้อง Copy ข้อมูลสองเท่า (ถ้าใช้การ์ด 2 ใบอ่ะนะ) พวกที่ใช้ Multi GPU เลยมีปัญหา Microstutter กันเยอะด้วยเหตุนี้
ของ Console ไม่มีปัญหานี้เพราะมันออกแบบ Hardware เป็น Unified Memory คือ CPU กับ GPU ใช้ RAM ก้อนเดียวกันเลย ไม่ต้อง Copy กันไปมา Overhead ส่วนนี้จึงไม่มี
นี่เป็นเหตุผลนึงว่าทำไม Console Spec อย่างกาก แต่ทำไมทำเกมดีๆออกมาได้
Comment
-
ข้อมูลของคุณ kaitom สุดยอดมากครับ ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลย ขอบคุณครับ ^__^
ขออนุญาติซักหนึ่งคำถามนะครับ
ในกรณีที่มี 8G bus 1600 อยู่แล้ว ผมควรไปเพิ่มเป็น 16G bus 1600 หรือว่าเปลี่ยนจาก 8G bus 1600 เป็น 8G เหมือนเดิมแต่ bus 2400
แบบไหนที่มีผลกับเฟรมเรท หรือ การทำ cache replacement มากกว่ากันครับ
Comment
-
สำหรับผมผมเล่นเกม ขอแค่ 1080P ปรับภาพสวยๆ 60FPS นิ่งๆก็พอแล้วคร้าบ
ก็ใช้เท่าที่มีแหละ มีอะไรใช้ได้ หรือประยุกต์ใช้ได้ก็เอามาใช้ให้มันดีขึ้น ดีกว่าทิ้งไว้เฉยๆ
ตอนนี้รอ GTX980 รุ่น 8GB อยู่ไม่ออกมาสักที ถ้าได้มาคงใช้ไปยาวเลยกว่าจะจบ Gen
Comment
-
Originally posted by aun002 View Postนี่จะเล่นเกมส์เพื่อไปแข่งระดับจักรวาลกันรึไง ฮ่าๆ
แค่โหลดเกมมาดูตัวเลข ผลทดสอบ เห็นตัวเลข 60 นิ่งๆ
กับเกมที่เค้าว่าโหดๆ แล้วก็ยิ้มในใจว่า "เสปคเราเอาอยู่ว่ะ"
อาจจะมีอัดเกมมาอวดนิดหน่อย รึไม่มีก็ว่ากันไป
ส่วนเกมน่ะเหรอ เล่นไม่จบซักเกมหร๊อกกก
เสพย์ตัวเลขกับผลทดสอบอย่างเดียว
ปล บางคนนะะ > <
Comment
Comment