Originally posted by Marionet
View Post
นายสุภาพไม่ได้ขาย8เล่มนะครับ แต่ขายเป็นตู้คอนเทนเนอร์ 8ปกแต่เป็นหมื่นเล่มครับ จากคำสารภาพของนายสุภาพเองตอบว่าได้กำไรหลักหมื่นเหรียญ (เป็นล้านบาทครับ) เกือบแสนเหรียญแต่ไม่ได้หลายแสนเหรียญอย่างที่โดนฟ้อง
หนังสือ1เล่มกำไรแค่หลัก10เหรียญ จะขายให้ได้กำไร เกือบแสนต้องขายกี่เล่มครับ
มันเอาหลัก first sell doctrine มาหัวหมอใช้ คือแกไปกว้านซื้อหนังสือมาจากสิงค์โปร มาทีเป็นตันๆ แล้วนำเข้ามาขายครับ
คนเดือดร้อนคือสำนักพิมพ์ เขาขายหนังสือไม่ได้ หนังสือที่อเมริกาแม้จะเป็นมือ2 ขายกันเองเนี่ยต้องเป็นขายในประเทศครับแต่นายสุภาพขนหนังสือมือ2เป็นตันๆจากที่อื่นนำเข้ามาขายครับ
สิ่งที่นายสุภาพทำต่อไปจะทำให้การขายหนังสือเป็นราคาเดียวกันทั่วโลกหรือขายเฉพาะ version ที่แปลแล้ว เช่นในไทยจะมีขายแค่ version แปลภาษาไทย
และจะไม่มี asia version ในราคาถูกขายครับ
สรุปนายสุภาพรวยคนเดียว แต่อาจารย์ทั้งมหาลัยซวยครับ
ที่นายสุภาพชนะคดีเพราะมันเอาห้องสมุดเป็นตัวประกันครับ ถ้าบริษัทชนะห้องสมุดซวยครับนำเข้าหนังสือทีต้องขออนุญาต
สิ่งที่นายสุภาพทำทนั้นำลายระบบการศึกษาของอเมริกาครับ แค่นี้ค่าหนังสือก็แพงจะตายอยู่แล้วไปหาเรื่องให้มันแพงกว่าเดิมอีก
ผมซื้อหนังสือเรียนเจอเต็มๆ มือ 2 ถุกกว่ามือ1แค่ 3เหรียญ หลังจากมีคดีนายสุภาพ เพราะบริษัทมันก็กดดันร้านหนังสือครับ หนักกว่าเดิมอีก
กรณี HDD นั้นเป็นการแก้ไขเงื่อนไขรับประกันภายหลังครับมันมัดมือชก
Comment