ดราม่าแสนสนุก (แต่ผมว่ามันจริงนั่นแหละ) ความคิดเห็นส่วนตัวนะ

[KAYAZUDA]

งานงอกเลยตู ผมเขียนเอาฮาครับ พี่น้อง ดูจะมีคนเครียดๆจริงไปบานเลย

ผัวเมียตีกัน ไม่กล้าลงเลยเนี่ย(อินเทลตัดสัมพันธ์ เอ็นวิเดีย งอลล์ อินเทลยอมโอ๋ เลยไม่กล้าเขียนเลย)

ใจเย็นๆครับ แหม๋ ผมก็มีเรื่องที่ เขียวทำไม่แรง แต่แดงแซงหน้าจะเขียนเหมือนกันน่า ใจเย็นๆ

[hinosuke]

ดีนะที่ไม่ได้อัฟ skill สายตาเทพมา ไม่งั้นการ์ดที่ใช้อยู่คงไม่พอ อุอุ

skill ดูดเงินเลยนะนี่

[ottomato]

skill ดูดเงินเลยนะนี่

เพื่อนผมมันอัฟ skill สายหูเทพมา มันเลยต้องซื้อหูฟัง i pod อันละ 8000 มาใช้

[wiroon]

--"

[Vibrato]

เอามารวมกันเลย ได้ใช้ทั้งคู่ อิอิ อย่าไปคิดมาก

[KAYAZUDA]

เพื่อนผมมันอัฟ skill สายหูเทพมา มันเลยต้องซื้อหูฟัง i pod อันละ 8000 มาใช้

ผมก็มีสกิลนั้นนะ ครบเลย ทั้ง สายตาเทพ สายหูเทพ สายนิ้วเทพ อ๋อ สายสัมผัสเทพอีก(แบบ ไออุ่นเครื่องทำให้เสียว อุอุ)
แต่ สายตังค์ ยังอัพไม่เทพพอ เก็บเลเวลสกิลก่อน ตอนนี้ กดใช้ที มานา แทบหมด ถ้าเอาตอนนี้ มีสิทธิ สายตัวได้ขาดเอาง่ายๆ อิอิ

[Cal2Toon]

พวกทื่เอาเวลามาคิดเรื่องนีั้เป็นตุเป็นตะ ลองกดย้อนหาประวัติของ FX5500 , 6800GTX หรือไม่ก็ X1950XT ดูนะ

แล้วจะรู้ว่า เพ้อเจ้อเหมือนๆกัน แค่ต่างคน ต่างเวลา ในอดีต ก็มีกลุ่มคนที่เคยเพ้อ เรื่องความแรงของ directx9 ที่เจ๋งกว่า directx 7 (ทั้งๆที่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็เป็นแค่ภาพลวงของเทคโนโลยี ที่หลอกให้คนเชื่อและวิ่งไล่ตามแค่นั้น)

ความเป็นจริง มันเป็นแค่แผ่นวงจรอิเลคทรอนิคส์ ที่มีชิพเซทวางไว้ตรงกลาง ตกแต่งด้วยการออกแบบรูปทรง ก็แค่นั้น สำหรับการ์ดจอ มันเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว

เทคโนโลยีต่างๆที่เพ้อกันในตอนนี้ มันก็เป็นแค่สิ่งสมมติ ที่ในอนาคตข้างหน้าก็จะมีที่เหนือกว่าไปอีกเรื่อยๆ ไอ้ที่ว่าดีในตอนนี้ อีกหน่อยก็ล้าสมัย ก็ไม่มีใครสนใจ จะไปอะไรกับมันมากทำไม ไล่ตามเทคโนโลยีได้แค่ช่วงนึงของชีวิตเท่านั้นแหละ

ใช้เท่าที่ัตัวเองจำเป็นก็พอ จะไปรู้ทำไมว่า physx ต้องมีหรือไม่มี จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้


ซื้อมาแล้วขายทิ้งกันเพราะหาเหตผลไม่เจอว่า เกินความจำเป็นหรือเปล่า กี่คนละล่ะ


ผมชื่นชมคนที่ใช้ของแล้วจบ แล้วพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ตอบสนองการใช้งานจริงได้พอดีๆ โดยไม่ต้องอิงทฤษฏีมากมายมากกว่าเยอะ

อ่านคุณ โพสมาหลายทู้ แต่ถูกใจ คอมเมนต์ นี้มาก เอาไป5กะโหลก ^^

เสริมอีกนิดเข้าเรื่อง [เอาให้ฮาลึกไปอีก]

480 VS 5870+250

480 ได้ Bit มากกว่า Ram มากกว่า ก็จริง

แล้วไงละ !!!!

ทุกวันนี้ ความละเอียด 1080P RAm 1 GB มันไม่พอหรืออย่างไร

Bit มากกว่าแล้วแรงกว่า หรือ แค่เป็นถนนโล่งๆที่ทำมาไว้แล้วมันก็ดันไปคอขวดที่อื่น ใครคำนวณอัตราทดการส่งข้อมูล VGA ได้น่าจะเข้าใจว่า กี่ Bit ก็พอแล้ว ^^

แถม

ท่านๆที่ใช้รู้กันดีว่า

การ์ด 1 ใบ ประมวลผลหลัก + ประมวล Physx

กับ

การ์ด 1 ใบประมวลหลัก + การ์ดใบที่ 2 ประมวล Physx

อะไรจะแจ่มกว่า

เชิญเสพ ต่อ..... ^^

[Striken]

พวกทื่เอาเวลามาคิดเรื่องนีั้เป็นตุเป็นตะ ลองกดย้อนหาประวัติของ FX5500 , 6800GTX หรือไม่ก็ X1950XT ดูนะ

แล้วจะรู้ว่า เพ้อเจ้อเหมือนๆกัน แค่ต่างคน ต่างเวลา ในอดีต ก็มีกลุ่มคนที่เคยเพ้อ เรื่องความแรงของ directx9 ที่เจ๋งกว่า directx 7 (ทั้งๆที่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็เป็นแค่ภาพลวงของเทคโนโลยี ที่หลอกให้คนเชื่อและวิ่งไล่ตามแค่นั้น)

ความเป็นจริง มันเป็นแค่แผ่นวงจรอิเลคทรอนิคส์ ที่มีชิพเซทวางไว้ตรงกลาง ตกแต่งด้วยการออกแบบรูปทรง ก็แค่นั้น สำหรับการ์ดจอ มันเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว

เทคโนโลยีต่างๆที่เพ้อกันในตอนนี้ มันก็เป็นแค่สิ่งสมมติ ที่ในอนาคตข้างหน้าก็จะมีที่เหนือกว่าไปอีกเรื่อยๆ ไอ้ที่ว่าดีในตอนนี้ อีกหน่อยก็ล้าสมัย ก็ไม่มีใครสนใจ จะไปอะไรกับมันมากทำไม ไล่ตามเทคโนโลยีได้แค่ช่วงนึงของชีวิตเท่านั้นแหละ

ใช้เท่าที่ัตัวเองจำเป็นก็พอ จะไปรู้ทำไมว่า physx ต้องมีหรือไม่มี จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้


ซื้อมาแล้วขายทิ้งกันเพราะหาเหตผลไม่เจอว่า เกินความจำเป็นหรือเปล่า กี่คนละล่ะ


ผมชื่นชมคนที่ใช้ของแล้วจบ แล้วพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ตอบสนองการใช้งานจริงได้พอดีๆ โดยไม่ต้องอิงทฤษฏีมากมายมากกว่าเยอะ

+10 ครับ


เน้นที่ตัวเองใช้งานจริง เป็นตัวชี้วัดความจำเป็น

[StevieGerd]

ไม่เห็นฮาเลยอ่ะครับ
เรื่องเดิมๆ
มีเรื่องอื่นๆอีกป่ะ เอาให้ฮาอุจจาระแตกเลยนะ

[Some1]

พวกทื่เอาเวลามาคิดเรื่องนีั้เป็นตุเป็นตะ ลองกดย้อนหาประวัติของ FX5500 , 6800GTX หรือไม่ก็ X1950XT ดูนะ

แล้วจะรู้ว่า เพ้อเจ้อเหมือนๆกัน แค่ต่างคน ต่างเวลา ในอดีต ก็มีกลุ่มคนที่เคยเพ้อ เรื่องความแรงของ directx9 ที่เจ๋งกว่า directx 7 (ทั้งๆที่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็เป็นแค่ภาพลวงของเทคโนโลยี ที่หลอกให้คนเชื่อและวิ่งไล่ตามแค่นั้น)

ความเป็นจริง มันเป็นแค่แผ่นวงจรอิเลคทรอนิคส์ ที่มีชิพเซทวางไว้ตรงกลาง ตกแต่งด้วยการออกแบบรูปทรง ก็แค่นั้น สำหรับการ์ดจอ มันเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว

เทคโนโลยีต่างๆที่เพ้อกันในตอนนี้ มันก็เป็นแค่สิ่งสมมติ ที่ในอนาคตข้างหน้าก็จะมีที่เหนือกว่าไปอีกเรื่อยๆ ไอ้ที่ว่าดีในตอนนี้ อีกหน่อยก็ล้าสมัย ก็ไม่มีใครสนใจ จะไปอะไรกับมันมากทำไม ไล่ตามเทคโนโลยีได้แค่ช่วงนึงของชีวิตเท่านั้นแหละ

ใช้เท่าที่ัตัวเองจำเป็นก็พอ จะไปรู้ทำไมว่า physx ต้องมีหรือไม่มี จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้


ซื้อมาแล้วขายทิ้งกันเพราะหาเหตผลไม่เจอว่า เกินความจำเป็นหรือเปล่า กี่คนละล่ะ


ผมชื่นชมคนที่ใช้ของแล้วจบ แล้วพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ตอบสนองการใช้งานจริงได้พอดีๆ โดยไม่ต้องอิงทฤษฏีมากมายมากกว่าเยอะ

ถ้าจะขุดย้อนจริงแค่ย้อนไปถึงยุค FX มันไม่พอหรอกครับ ดราม่าพวกนี้มีอยู่ทุกยุคทุกสมัยแหละ อย่าง Physx ที่หลาย ๆ คนบูชา (ใครจะนับผมรวมไปด้วยก็ได้ แต่ด้วยสัตย์จริง จากที่ลองสัมผัสมา ผมชอบ Physx แต่ผมไม่ได้บูชา เพราะมันแทบจะหาเกมที่ใช้ Physx ได้ดีและสมเหตุสมผลไม่ได้เลย รวมถึงการที่มันยังผูกขาดตัวมันเองอยู่ด้วย กับความผันแปรของเทคโนโลยีที่มีอยู่ตลอดก็ไม่รู้จะไปเชื่อมั่นก่ะมันทำไม) อนาคตจะเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้ และอีกอย่างกรณีที่คล้าย ๆ Physx เคยเกิดขึ้นมาแล้วสมัยยุค VooDoo ทีกราฟิก 3 มิติกำลังเริ่ม ๆ คลาน 3DFX มี API ของตัวเองชื่อว่า GLID (นึกถึง DirectX และ OpenGL ไว้ เป็นอะไรอย่างเดียวกันแต่ยี่ห้อนึง คล้าย ๆ เป๊บซี่ก่ะโค้ก) ซึ่ง 3DFX ใช้เจ้า API นี้เป็นอาวุธในการแข่งขัน ๆ คล้าย ๆ กับที่ Nvidia ใช้ CUDA และ Physx เป็นเครื่องมืออยู่ในปัจจุบัน และพยายามผลักดันมันให้แพร่หลายโดยร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมและได้เกมชื่อดังอย่าง Tomb Raider มาใช้งาน API ตัวนี้เป็นเกมแรก แต่สุดท้ายแล้วก็เจ๊ง แม้ตอนนั้นตอนนี้ปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ มันอาจจะแตกต่างกัน แต่ของพวกนี้เราไปยึดติดกับมันมากไม่ได้หรอกครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเดี๋ยวมันเดี๋ยวมันก็ไปอย่างเดียว เราไม่รู้ด้วยว่าบริษัทที่มันผลิตคิดค้นเทคโนโลยีเหล่านี้จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของมันอีกนานแค่ไหน เอาใก้ล ๆ ตัวเร็ว ๆ นี้เลยก็เจ้าการ์ด Physx นี่แหละ ตอน Nvidia เข้าควบรวมกิจการกับ Agiea ก็บอกว่าจะยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ Agiea ต่อ พร้อม ๆ กับพัฒนา Physx ให้มาใช้งานร่วมกับ GPU ของ Nvidia ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว Nvidia ก็ตัดหางปล่อยวัดการ์ด Physx ในเวลาไม่นาน แล้วก็สุดท้าย ใครไม่ชอบดราม่าก็ไม่ต้องมาปวดหัวกับดราม่าของคนอื่นเขาครับ ตามเทคโนโลยีเราก็ตามของเราสนุก ๆ ไป ใครสามารถมีเวลามีพื้นที่ในสมองเหลือเฟือพอจะเกาะจะตามได้ตลอดก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคนครับ อย่างผมเองผมก็ตามเฉพาะแค่ตอนอยากจะซื้อ พอไม่ได้ซื้อหรือหมดความอยากซื้อผมก็เลิกตามไปพักนึง กิเลสจับค่อยว่ากันใหม่ อยากแจมก็แจม หมั่นไส้เบื่อก็ไม่ต้องสน ไม่เวลาพอใจอยากจะโพสต์ก็ ไม่มีเวลาไม่พอใจก็ไม่ต้อง อยากจะมาเตือนสติก็เอา แต่สุดท้ายแล้วเราจะโพสต์อะไรมันก็ได้แค่พูดออกไปเฉย ๆ แหละ ไม่ได้สำคัญอะไรกับใครเท่าไหร่นักหรอก เวลาผ่านไปทุกคนก็ตัดสินใจของตัวเองได้เองแหละว่าจะเชื่อยังไง

[XP_armor]

ไม่ขอนอกประเด็นละกันนะ

เท่าที่ผมอ่านๆ มา ที่เจ้าของกระทู้ว่ามา มันก็จริงครับ

แต่ตรรกะแบบนี้ มันเอาไปใช้ไม่ได้กับทุกคนหรอกครับ

ลองมาเจอคนที่มีงบแบบจำกัดจริงๆ ก็ต้องมีการเลือกค่ายที่คิดว่าใช่ที่สุดแล้วหละครับ

หรือกับคนที่งบไม่อั้นจริงๆ ก็ยังมี HD5970 อยู่นะ

ทีนี้ก็ต้องเลือกละครับว่า

12000 ต้นๆ จับ HD5870

หรือเพิ่มอีก 5000 จับ GTX480

หรือจะต่อยอดจาก GTX480 ด้วยเงินอีก 5000 เล่น Dual GPU อย่าง HD5970 ไปเลยดีล่ะ

ว่าไงดี

หรือคิดว่า เราลงทุนกับ Graphic Card ด้วยราคาที่เกิน 15000 ถือว่าแพงไปแล้ว กับแค่เอามาเล่นเกมส์

ตัดปัญหา เล่น HD5870 พอ แต่ไม่ต้องไปเปิด Physic X อะไรมันละ

ไม่มีมันก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นเกมส์ไม่จบ...

[boyd_747]

เออ ฮาก็ฮา...ฮิ ฮิ

[KAYAZUDA]

ไปไกลแล้วตู โอ้ว จุดประเด็น ใจเย็นครับ ผมแค่ป่วนๆกวนๆ เล็กๆ ใจเย็นครับพี่น้อง (ตกใจมาก โผล่มาได้ 5 ดาว)

[Nawinza]

คุณจะเลือกข้อไหนครับ ชิวๆเหมือนกัน ระหว่าง 2 ข้อนี้

1. ปรับสุดไม่ลื่น เฟรมเรทไม่ถึง 35 เลย ไม่เป็นไร ชิวๆ ปรับลดอีกหน่อยดีกว่า
2. 5 พันกว่าบาทเอง เพื่อเฟรมเรทที่ 50-60 ชิวๆ


เป็นผมเลือกผมขอข้อหนึ่งดีกว่าครับ อิอิ แต่ กรณีที่มีตัง แล้วเครื่องตัวเองห่วยเอามากๆ ผมยอมอัพเกรด กลางๆนะ cpu ซัก 4 หัว การ์ดจอไม่เกิน 5 พัน จากนั้นอยู่ยาวครับ 2 - 3 ปียังได้ แค่นี้ก็ลื่นแล้ว

[PeaceB]

เขียนดีมาก 555+ จะรอเสพเรื่องอื่นต่อนะ

แต่ก้จริงๆนะ เมมการ์ดจอ 1GB ก้เหลือเฟือแล้ว แค่ 512 ก้เพียงพอกะระดับ mainstream แล้ว