Announcement

Collapse
No announcement yet.

ความแตกต่างระหว่างของถูกและของแพง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ความแตกต่างระหว่างของถูกและของแพง

    แต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ระหว่างการใช้ Mechanical Keyboard, Mouse แพงๆ, Mouse Pad แพงๆ, Head Phone แพงๆ

    ตัวละหลายๆพันขึ้นไป เทียบกับตัวละไม่กี่ร้อย ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ด้านไหนบ้าง

    ปล.อยากได้ความรู้จากผู้ใช้งานจริงๆว่าคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ

    บอกยี่ห้อ บอกรุ่น ด้วยก็ดีนะครับ

    แสดงความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ ขอบคุณสมาชิก Overclockzone ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

  • #2
    ความสุขทางใจ ความรู้สึกแล้วแต่บุคคล ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล
    หยิบของเกมมิ่งมาอัน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบก็เป็นได้ สุดแต่คนใช้ครับ

    Comment


    • #3
      ผมใช้เกือบทุกอย่างเลยครับ ที่ว่ามา
      Keyboard : Mechanical Ducky Zero blue SW
      Mouse : KANA
      Mouse PAD : QCK+
      HEADSET : hyperxcloud

      อยากบอกว่า แตกต่างกับของทั่วๆไปมากครับ เพราะเคยใช้เหมือนกัน
      ต่างกันอย่างแรกเลยคือ คุณภาพที่หาในของธรรมดาไม่ได้ครับ และความทนทาน โดยเฉพาะคีย์บอร์ด
      ถ้าเป็น Mechanical Keyboard มันคือเป็นปุ่มคีย์ๆ แยกกันแต่ละปุ่ม จะให้ความคงทนต่อปุ่มมาก
      ส่วนเมาส์ ให้ sensor ที่นิ่งกว่าครับ ลากเมาส์แล้วไม่หลอน เป็นเส้นตรง
      ส่วน Mouse pad ผมว่า พอๆกับธรรมดาครับ แต่ที่ผมใช้ได้ความใหญ่ และหนาครับ ชอบตรงนี้
      และ Headset แน่นอน ใครเล่นหูฟัง จะรู้ครับ การฟังเพลง หรือใช้เล่นเกมส์ ต้องใช้หูฟังที่เหมาะสมกัน ให้เสียงที่แตกต่างกันมากๆครับ

      ปล.ทั้งเซ็ตใช้มา 2-3ปีแล้ว ยกเว้นหูฟัง พึ่งเปลี่ยน
      ปล2. พวกนี้เขาเรียก Gaming Gear ครับ ต้องลองแล้วจะไม่อยากกลับใช้แบบธรรมดาครับ

      Comment


      • #4
        Originally posted by good11 View Post
        ความสุขทางใจ ความรู้สึกแล้วแต่บุคคล ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล
        หยิบของเกมมิ่งมาอัน บางคนชอบ บางคนไม่ชอบก็เป็นได้ สุดแต่คนใช้ครับ
        เห็นด้วยครับ

        ผมใช้เกือบทุกอย่างเลยครับ ที่ว่ามา
        Keyboard : Mechanical Ducky Zero blue SW
        Mouse : KANA
        Mouse PAD : QCK+
        HEADSET : hyperxcloud

        อยากบอกว่า แตกต่างกับของทั่วๆไปมากครับ เพราะเคยใช้เหมือนกัน
        ต่างกันอย่างแรกเลยคือ คุณภาพที่หาในของธรรมดาไม่ได้ครับ และความทนทาน โดยเฉพาะคีย์บอร์ด
        ถ้าเป็น Mechanical Keyboard มันคือเป็นปุ่มคีย์ๆ แยกกันแต่ละปุ่ม จะให้ความคงทนต่อปุ่มมาก
        ส่วนเมาส์ ให้ sensor ที่นิ่งกว่าครับ ลากเมาส์แล้วไม่หลอน เป็นเส้นตรง
        ส่วน Mouse pad ผมว่า พอๆกับธรรมดาครับ แต่ที่ผมใช้ได้ความใหญ่ และหนาครับ ชอบตรงนี้
        และ Headset แน่นอน ใครเล่นหูฟัง จะรู้ครับ การฟังเพลง หรือใช้เล่นเกมส์ ต้องใช้หูฟังที่เหมาะสมกัน ให้เสียงที่แตกต่างกันมากๆครับ

        ปล.ทั้งเซ็ตใช้มา 2-3ปีแล้ว ยกเว้นหูฟัง พึ่งเปลี่ยน
        ปล2. พวกนี้เขาเรียก Gaming Gear ครับ ต้องลองแล้วจะไม่อยากกลับใช้แบบธรรมดาครับ
        เอาจริงๆเลยผมว่าพวกที่เค้าจัดของแพงๆมาหลักๆก็เพื่อเพิ่มอรรถรส+ประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ให้ดีขึ้น ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้ใช้ของ CM Strom Devastrator อยู่ ผมเล็งๆของ Razor ไว้อยู่ ว่าจะจัดทั้ง Keyboard, Mouse+Pad ด้วยเลย ทั้ง 3 อย่างเลย มีงบอยู่ 6000-7000 ไม่รู้พอป่าวครับ อยากมีประสบการณ์ซักครั้ง

        Comment


        • #5
          เอาเท่าที่ได้ลองใช้งานจริงๆของ Mouse+Keyboard ล่ะกันครับ

          Mouse ผมมองว่าค่อนข้างจำเป็นมากและแตกต่างพอสมควรนะ ทั้งใช้งาน+เล่นเกมส์ ตัว Gaming Mouse เองจะมีความแม่นยำกว่ามาก ยิ่งตอนเวลาทำงานเขียนงานพวกโปรแกรม SAI,Manga studio,PhotoShop, งานพวก 2D เมาส์ที่มี DPI สูงๆจะมีความละเอียดของเส้นที่ดีกว่า ปุ่มพิเศษที่มีให้เยอะ ทำให้แทบจะไม่ต้องปล่อยมือออกจากเมาส์แล้วมากดปุ่มอื่นๆที่คีย์บอร์ดเลย

          ส่วนเวลาเล่นเกมส์ ถ้าเจอรุ่นที่จับถนัดมือจะช่วยทำให้ไม่ปวดมือเวลาเล่นได้ตามความถนัดของแต่ล่ะคนนะ ใช้คู่กับแผ่นรองเมาส์ดีๆซักอันทำให้ลากเมาส์ดีขึ้นเยอะ

          Keyboard ในมุมมองผมนะ ถ้าเล่นเกมส์อย่างเดียว อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยในความรู้สึก แต่ถ้าเอามานั่งพิมพ์งานเยอะๆมากๆ แบบที่ผมทำประจำ ขอบอกว่าแล้วจะลืม+ไม่ชอบคีย์บอร์ดปุ่มยางไปเลย คีย์บอร์ดปุ่มยางมันมีข้อจำกัดหลายๆอย่างเช่น ต้องกดลงจนสุดมันถึงจะทำงานพิมพ์ตัวอักษรนั้นๆ แต่ในณะที่ Mechanical แต่ละสวิตซ์จะมีจุดทำงานที่ต่างกัน

          ถ้าเอาพวก Black switch หรือ Red switch มาก็ใช้พิมพ์งานได้นะ มีจุดทำงานที่ไม่จำเป็นต้องกดสุดด้วย แต่จะลึกและคล้ายๆกับคีย์บอร์ดปุ่มยางมากกว่า แต่ถ้าใช้พวก Blue switch หรือ Borwn switch พวกนี้บอกเลยพิมพ์มันส์มือมากๆและตอบสนองไวเช่นกัน คุณแทบจะไม่ต้องกดลงไปจะสุด แค่สัมผัสกดลงไปนิดหน่อยเอง แล้วยกนิ้วไปกดปุ่มอื่นๆได้เลย
          *ผมไม่ค่อยชอบคีย์บอร์ดที่เป็นอลูมิเนียมเท่าไหร่เพราะ ไฟดูดบ่อยมากยิ่งในห้องแอร์หรือคอมที่ไม่ได้ต่อสายดินมานี่ โดนประจำ

          ส่วนพวกมาโครอะไรนั้นผมแทบไม่ได้ใช้บนคีย์บอร์ดเท่าไหร่เลย ตั้งค่าบนเมาส์ซะมากกว่าครับ

          Comment


          • #6
            Originally posted by Marionet View Post
            เอาเท่าที่ได้ลองใช้งานจริงๆของ Mouse+Keyboard ล่ะกันครับ

            Mouse ผมมองว่าค่อนข้างจำเป็นมากและแตกต่างพอสมควรนะ ทั้งใช้งาน+เล่นเกมส์ ตัว Gaming Mouse เองจะมีความแม่นยำกว่ามาก ยิ่งตอนเวลาทำงานเขียนงานพวกโปรแกรม SAI,Manga studio,PhotoShop, งานพวก 2D เมาส์ที่มี DPI สูงๆจะมีความละเอียดของเส้นที่ดีกว่า ปุ่มพิเศษที่มีให้เยอะ ทำให้แทบจะไม่ต้องปล่อยมือออกจากเมาส์แล้วมากดปุ่มอื่นๆที่คีย์บอร์ดเลย

            ส่วนเวลาเล่นเกมส์ ถ้าเจอรุ่นที่จับถนัดมือจะช่วยทำให้ไม่ปวดมือเวลาเล่นได้ตามความถนัดของแต่ล่ะคนนะ ใช้คู่กับแผ่นรองเมาส์ดีๆซักอันทำให้ลากเมาส์ดีขึ้นเยอะ

            Keyboard ในมุมมองผมนะ ถ้าเล่นเกมส์อย่างเดียว อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยในความรู้สึก แต่ถ้าเอามานั่งพิมพ์งานเยอะๆมากๆ แบบที่ผมทำประจำ ขอบอกว่าแล้วจะลืม+ไม่ชอบคีย์บอร์ดปุ่มยางไปเลย คีย์บอร์ดปุ่มยางมันมีข้อจำกัดหลายๆอย่างเช่น ต้องกดลงจนสุดมันถึงจะทำงานพิมพ์ตัวอักษรนั้นๆ แต่ในณะที่ Mechanical แต่ละสวิตซ์จะมีจุดทำงานที่ต่างกัน

            ถ้าเอาพวก Black switch หรือ Red switch มาก็ใช้พิมพ์งานได้นะ มีจุดทำงานที่ไม่จำเป็นต้องกดสุดด้วย แต่จะลึกและคล้ายๆกับคีย์บอร์ดปุ่มยางมากกว่า แต่ถ้าใช้พวก Blue switch หรือ Borwn switch พวกนี้บอกเลยพิมพ์มันส์มือมากๆและตอบสนองไวเช่นกัน คุณแทบจะไม่ต้องกดลงไปจะสุด แค่สัมผัสกดลงไปนิดหน่อยเอง แล้วยกนิ้วไปกดปุ่มอื่นๆได้เลย
            *ผมไม่ค่อยชอบคีย์บอร์ดที่เป็นอลูมิเนียมเท่าไหร่เพราะ ไฟดูดบ่อยมากยิ่งในห้องแอร์หรือคอมที่ไม่ได้ต่อสายดินมานี่ โดนประจำ

            ส่วนพวกมาโครอะไรนั้นผมแทบไม่ได้ใช้บนคีย์บอร์ดเท่าไหร่เลย ตั้งค่าบนเมาส์ซะมากกว่าครับ
            เพื่อนๆที่เล่นเกมส์ด้วยกันเค้าแนะนำให้เปลี่ยนครับ สิบกว่าคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย เปลี่ยนแล้วเล่นดีขึ้นกว่าเดิม (FPS, MOBA ฯลฯ) แบบรู้สึกได้ จนไม่อยากกลับไปเล่นของถูกๆอีกเลย

            สงสัยได้เสียตังอีกละคราวนี้

            Comment


            • #7
              Keyboard ถ้าแบบยาง vs Mechanical Keyboard(ส่วนตัวใช้ Blue) นี่ต่างชัดเจนเลยครับ เวลาพิมพ์งานนานๆ เวลากดสัมผัส คนละอารมณ์

              Mouse แพงส่วนตัวเอาคลิกไม่ต่างกันมาก แต่ที่ต่างคือจำนวนปุ่ม และตั้งมาโครได้ และทนกว่ามาก 2 ปี อยากซื้อใหม่ มันไม่ยอมพังซักที T T(ส่วนตัวใช้ logitech g500s)

              Mouse Pad ใช้razer goliathus ทั้ง speedกับcontrol ส่วนตัวบอกเลยไม่ได้ช่วยความเร็วหรือแม่นเลย มันแค่เราชอบความรู้สึกแบบไหนเวลาที่อุ้งมือ ข้อมือเราไปโดนเท่านั้น ว่ารู้สึกดีกับแบบไหนมากกว่ากัน

              Head Phone ต่างกันชัดเจนที่สุด เคยใช้ตั้งแต่ ของที่แถม มากับมือถือ แล้วมา razer electra ใช้จนหนังเปื่อย เลยซื้อ razer hammerhead pro มา(พวกหูฟังเล่นเกมเบสจะหนักกว่าชัดเจน เวลาเสียงปืนเสียงระเบิดมันมาก)
              ต่อมาตอนนี้มาใช้ sony mdr-1a (เอามาฟังเพลง) รายละเอียดเสียงดีมาก เสียงที่เคยไม่ได้ยินในเพลงเดียวกันก็ได้ยิน เบสลึกแต่ไม่กระแทก ฟินมาก
              ส่วนตัวตอนนี้ใช้แยกกันของฟังเพลง(sony mdr-1a)แระเล่นเกม(razer hammerhead) แค่นี้ยังมีความแตกต่างเล่นครับ เอามาฟังเพลง เพลงเดียวกันก็รู้สึกถึงแตกต่าง

              Comment


              • #8
                เฉพาะที่ใช้ส่วนตัวนะ

                Keyboard แบบ Mechanical เคยใช้หลายปีช่วงสามสิบปีก่อน หลังจากนั้น ใช้แบบยางราคาต่ำกว่าสามร้อยบาทตลอด
                แบบยางที่ใช้อยู่ตอนนี้สี่ตัว อายุ 7-17 ปี ยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไรครับ

                Mouse เคยใช้ ibm ตัวละพันกว่า(เมื่อยี่สิบปีก่อน) ปลดประจำการไปนานละ
                หลังจากนั้น ใช้ตัวละ 100-500 ยี่สิบตัวได้ เกือบทั้งหมดคลิ๊กไม่ค่อยติด+ดับเบิ้ลคลิ๊ก ภายในปีแรก
                มี oker ตัวละสองร้อยตัวเดียว ที่ใช้มา 6 ปีละ ตัวนี้ใช้เล่นเกมส์ประจำ ถ้านับคลิ๊กก็คงหลายแสนคลิ๊กละ
                ทำหล่นพื้นก็หลายครั้ง แต่ก็ยังใช้ได้ดีจนทุกวันนี้ครับ

                Mouse Pad เคยใช้แบบถูกๆ ราคาต่ำกว่าร้อย ก็โอเคนะ แต่มันเสียเร็วเหมือนกัน
                หลายปีมานี้ ก็เลยใช้กระดาษเอสี่ธรรมดา หรือกระดาษลูกฟูกที่ตัดจากกล่อง
                สกปรกมาก ก็เปลี่ยนแผ่นใหม่ครับ

                Head Phone ชอบ sony MDR-E484 ตัวเดียว
                ฟังแล้วหูเสีย ฟังลำโพงคู่ต่ำกว่าแสน ยังชอบ sony MDR-E484 มากกว่าครับ

                Comment


                • #9
                  Originally posted by Marionet View Post
                  เอาเท่าที่ได้ลองใช้งานจริงๆของ Mouse+Keyboard ล่ะกันครับ

                  Mouse ผมมองว่าค่อนข้างจำเป็นมากและแตกต่างพอสมควรนะ ทั้งใช้งาน+เล่นเกมส์ ตัว Gaming Mouse เองจะมีความแม่นยำกว่ามาก ยิ่งตอนเวลาทำงานเขียนงานพวกโปรแกรม SAI,Manga studio,PhotoShop, งานพวก 2D เมาส์ที่มี DPI สูงๆจะมีความละเอียดของเส้นที่ดีกว่า ปุ่มพิเศษที่มีให้เยอะ ทำให้แทบจะไม่ต้องปล่อยมือออกจากเมาส์แล้วมากดปุ่มอื่นๆที่คีย์บอร์ดเลย

                  ส่วนเวลาเล่นเกมส์ ถ้าเจอรุ่นที่จับถนัดมือจะช่วยทำให้ไม่ปวดมือเวลาเล่นได้ตามความถนัดของแต่ล่ะคนนะ ใช้คู่กับแผ่นรองเมาส์ดีๆซักอันทำให้ลากเมาส์ดีขึ้นเยอะ

                  Keyboard ในมุมมองผมนะ ถ้าเล่นเกมส์อย่างเดียว อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยในความรู้สึก แต่ถ้าเอามานั่งพิมพ์งานเยอะๆมากๆ แบบที่ผมทำประจำ ขอบอกว่าแล้วจะลืม+ไม่ชอบคีย์บอร์ดปุ่มยางไปเลย คีย์บอร์ดปุ่มยางมันมีข้อจำกัดหลายๆอย่างเช่น ต้องกดลงจนสุดมันถึงจะทำงานพิมพ์ตัวอักษรนั้นๆ แต่ในณะที่ Mechanical แต่ละสวิตซ์จะมีจุดทำงานที่ต่างกัน

                  ถ้าเอาพวก Black switch หรือ Red switch มาก็ใช้พิมพ์งานได้นะ มีจุดทำงานที่ไม่จำเป็นต้องกดสุดด้วย แต่จะลึกและคล้ายๆกับคีย์บอร์ดปุ่มยางมากกว่า แต่ถ้าใช้พวก Blue switch หรือ Borwn switch พวกนี้บอกเลยพิมพ์มันส์มือมากๆและตอบสนองไวเช่นกัน คุณแทบจะไม่ต้องกดลงไปจะสุด แค่สัมผัสกดลงไปนิดหน่อยเอง แล้วยกนิ้วไปกดปุ่มอื่นๆได้เลย
                  *ผมไม่ค่อยชอบคีย์บอร์ดที่เป็นอลูมิเนียมเท่าไหร่เพราะ ไฟดูดบ่อยมากยิ่งในห้องแอร์หรือคอมที่ไม่ได้ต่อสายดินมานี่ โดนประจำ

                  ส่วนพวกมาโครอะไรนั้นผมแทบไม่ได้ใช้บนคีย์บอร์ดเท่าไหร่เลย ตั้งค่าบนเมาส์ซะมากกว่าครับ
                  DPI มันไม่ใช่ Dot per Inch(จุดต่อนิ้ว) เหรอครับ? ประมาณว่าเราเลื่อนเม้าไปนิ้วนึง เคอร์เซอร์บนจอเลื่อนไป 800 จุดประมาณนี้ ผมว่ามันคือความเร็วของเคอร์เซอร์นะครับ
                  เพราะผมเคยเห็นเขาว่ายิ่งปรับเยอะยิ่งละเอียดนะ ผมจัดเลยครับ 3000 DPI ปรากฎว่าเลื่อนจึ๋งเดียวไหลไปหลบขอบจอแล้วครับ แล้วแบบนี้ถ้าผมอยากจะวาดรูปใน paint เม้าส์ก็คงจะหมุนติ้วไปทั่วแล้วล่ะครับ และแถมพอเวลาเล่นเกมบางเกมเวลาซูมกล้องสโคปจะทำให้หมุนหัวเร็วกว่าตอนไม่ได้ซูม ผมก็ต้องปรับให้ค่า DPI มันต่ำลงด้วยปุ่มปรับที่มีมาให้เป็นฟีเจอร์ของเม้าส์ใช่มั้ยล่ะครับ
                  เพราะงั้น DPI ความหมายง่ายๆจริงๆของมันคือ"ความเร็ว"มากกว่านะครับผมว่า

                  ส่วนคีย์บอร์ด... Red switch ไม่ได้กดลึกขนาดนั้นนะครับ กดครึ่งเดียวก็ติดแล้วไม่เหมาะกับการพิมพ์(ที่ผมกำลังทำอยู่ เพราะสะกิดนิดเดียวก็ติดแล้ว) ส่วนสีอื่นไม่เคยใช้ครับ แต่การเล่นเกม Red switch โดยส่วนตัวผมแล้วถือว่าเหมาะกับเล่มเกมที่สุดครับเพราะตอบสนองไว(กดครึ่งเดียวติด)
                  *ที่ผมใช้อยู่คือ CM Strom TriggerZ(Red sw) ครับ ชอบเพราะมีที่รองข้อมือกว้างมาก

                  Comment


                  • #10
                    ส่วนตัวมีผลแตกต่างชัดเจนหมดครับ ตามราคาเลย
                    ยกเว้น แผ่นรองเม้าส์นี่แหละ บางอันราคาราวฟ้ากับเหว แต่ความรู้สึกแทบไม่ต่างเลย

                    Comment


                    • #11
                      ฟีลลิงต่างกันเยอะ เมาซจากใช้เมาซธรรมกาไปลอง x6 ไวกว่าเยอะเลยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนวันนี้ใช้g 600 จับเมาซถูกถูกแล้วทำใจยาก

                      Comment


                      • #12
                        Keyboard : ต่างมากครับระหว่างเมคานิคอลกับยาง จากที่ใช้ตอนแรกรู้สึกแข็งๆไม่ชิน พอใช้ไปนานๆจะชินไปเอง พอกลับไปใช้ยางจะรู้ว่ามันยางมันหนืดๆแข็งๆมากเลย ผมใช้Brown swครับ
                        พิมพ์งานมันส์มาก เล่นเกมก็สนุกไปอีกแบบ (ชอบมากกว่าBlue เพราะนิ่มกว่า และรู้สึกถึงสองจังหวะมากกว่า)

                        Mouse : ใช้แล้วรู้สึกแม่นขึ้นเยอะ ความทน จำนวนปุ่ม ขนาดที่จับได้ถนัดๆ ก็ดีกว่าแบบถูกๆมาก พอกลับไปใช้แบบถูกๆจะรู้สึกว่ามันเซนเซอร์หลอน หรือแย่

                        Mouse Pad : ผมใช้ของถูกๆ แบบผ้าใหญ่ๆหน่อย หนาๆนิ่มๆดี แผ่นละ80บาทใช้ได้ยาว

                        อันนี้ของที่ผมใช้นะครับ
                        Mouse : Logitech g700s
                        Keyboard : Corsair K70 RGB Brown sw

                        Comment


                        • #13
                          Originally posted by Jupajups View Post
                          DPI มันไม่ใช่ Dot per Inch(จุดต่อนิ้ว) เหรอครับ? ประมาณว่าเราเลื่อนเม้าไปนิ้วนึง เคอร์เซอร์บนจอเลื่อนไป 800 จุดประมาณนี้ ผมว่ามันคือความเร็วของเคอร์เซอร์นะครับ
                          เพราะผมเคยเห็นเขาว่ายิ่งปรับเยอะยิ่งละเอียดนะ ผมจัดเลยครับ 3000 DPI ปรากฎว่าเลื่อนจึ๋งเดียวไหลไปหลบขอบจอแล้วครับ แล้วแบบนี้ถ้าผมอยากจะวาดรูปใน paint เม้าส์ก็คงจะหมุนติ้วไปทั่วแล้วล่ะครับ และแถมพอเวลาเล่นเกมบางเกมเวลาซูมกล้องสโคปจะทำให้หมุนหัวเร็วกว่าตอนไม่ได้ซูม ผมก็ต้องปรับให้ค่า DPI มันต่ำลงด้วยปุ่มปรับที่มีมาให้เป็นฟีเจอร์ของเม้าส์ใช่มั้ยล่ะครับ
                          เพราะงั้น DPI ความหมายง่ายๆจริงๆของมันคือ"ความเร็ว"มากกว่านะครับผมว่า

                          ส่วนคีย์บอร์ด... Red switch ไม่ได้กดลึกขนาดนั้นนะครับ กดครึ่งเดียวก็ติดแล้วไม่เหมาะกับการพิมพ์(ที่ผมกำลังทำอยู่ เพราะสะกิดนิดเดียวก็ติดแล้ว) ส่วนสีอื่นไม่เคยใช้ครับ แต่การเล่นเกม Red switch โดยส่วนตัวผมแล้วถือว่าเหมาะกับเล่มเกมที่สุดครับเพราะตอบสนองไว(กดครึ่งเดียวติด)
                          *ที่ผมใช้อยู่คือ CM Strom TriggerZ(Red sw) ครับ ชอบเพราะมีที่รองข้อมือกว้างมาก
                          ขออภัยท่านด้วยครับ ที่อธิบายไม่ชัดเจนคือ DPI ที่ผมอยากเปรียบเทียบคือ ความแตกต่างของเมาส์ธรรมดากับ Gaming คือ ของ Gaming มันจะมีให้ปรับค่าต่างๆในตัวเองโดยที่ไม่ได้ยุ่งอะไรกับตัววินโดว์เอง ทำให้เซ็ตค่าได้ โดยเฉพาะเวลาใช้เมาส์วาดเส้นเฉียงๆ เป็นเส้นยักๆที่ละเอียดกว่ามาก

                          ส่วนคีย์บอร์ด ผมขอเทียบเฉพาะ Red กับ Blue Switch นะครับ

                          ของ Blue Switch จะมีค่า operating point ที่ 1.5 mm. และระยะ reset point ที่ 2.5 mm. ใช้แรงกด 50cN
                          ของ Red Switch จะมีค่า operating point ที่ 2.0 mm. และระยะ reset point ที่ 2.2 mm. ใช้แรงกด 45cN

                          จะเห็นว่า ฺBlue switch มีจุดที่ตื้นกว่า red กว่า 0.5 มิล ทำให้กดและทำงานได้ไวกว่า แต้เนื่องจากค่า reset มีระยะมากกว่า ข้อดีคือ Red ทำให้เวลากดซ้ำๆ รัวๆโดยเฉพาะเวลาเล่นเกมส์จะรวดเร็วกว่า ส่วน Blue จะได้เปรียบเวลาพิมพ์งานที่กดแล้วปล่อยได้ไวกว่า เพราะตัว Blue จะมี Pressure point หรือที่บ้านๆเรียกกันว่ามีเสียง "คลิ๊กกี๊" นั้นเอง แต่ผมสังเกตุว่าถ้าพิมพ์สัมผัสได้ มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสวิตซ์เพราะใช้แล้วพิมพ์เร็วเหมือนกันหมดเลย ส่วนผมพิมพ์แบบนั้นไม่ได้ครับ ฮา

                          ส่วนตัวผมใช้ Ducky Shine 4 Blue switch ครับ ส่วน Red สวิตซ์น้องชายผมซื้อมาใช้เล่นเกมส์กดนิ่มดีครับ
                          Last edited by Marionet; 15 May 2015, 21:40:59.

                          Comment


                          • #14
                            Originally posted by Marionet View Post
                            ขออภัยท่านด้วยครับ ที่อธิบายไม่ชัดเจนคือ DPI ที่ผมอยากเปรียบเทียบคือ ความแตกต่างของเมาส์ธรรมดากับ Gaming คือ ของ Gaming มันจะมีให้ปรับค่าต่างๆในตัวเองโดยที่ไม่ได้ยุ่งอะไรกับตัววินโดว์เอง ทำให้เซ็ตค่าได้ โดยเฉพาะเวลาใช้เมาส์วาดเส้นเฉียงๆ เป็นเส้นยักๆที่ละเอียดกว่ามาก

                            ส่วนคีย์บอร์ด ผมขอเทียบเฉพาะ Red กับ Blue Switch นะครับ

                            ของ Blue Switch จะมีค่า operating point ที่ 1.5 mm. และระยะ reset point ที่ 2.5 mm. ใช้แรงกด 50cN
                            ของ Red Switch จะมีค่า operating point ที่ 2.0 mm. และระยะ reset point ที่ 2.2 mm. ใช้แรงกด 45cN

                            จะเห็นว่า ฺBlue switch มีจุดที่ตื้นกว่า red กว่า 0.5 มิล ทำให้กดและทำงานได้ไวกว่า แต้เนื่องจากค่า reset มีระยะมากกว่า ข้อดีคือ Red ทำให้เวลากดซ้ำๆ รัวๆโดยเฉพาะเวลาเล่นเกมส์จะรวดเร็วกว่า ส่วน Blue จะได้เปรียบเวลาพิมพ์งานที่กดแล้วปล่อยได้ไวกว่า เพราะตัว Blue จะมี Pressure point หรือที่บ้านๆเรียกกันว่ามีเสียง "คลิ๊กกี๊" นั้นเอง แต่ผมสังเกตุว่าถ้าพิมพ์สัมผัสได้ มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสวิตซ์เพราะใช้แล้วพิมพ์เร็วเหมือนกันหมดเลย ส่วนผมพิมพ์แบบนั้นไม่ได้ครับ ฮา

                            ส่วนตัวผมใช้ Ducky Shine 4 Blue switch ครับ ส่วน Red สวิตซ์น้องชายผมซื้อมาใช้เล่นเกมส์กดนิ่มดีครับ
                            อ๋อแบบนี้นี่เอง สุดยอดครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว

                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by Jupajups View Post
                              อ๋อแบบนี้นี่เอง สุดยอดครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว
                              ขอบคุณท่านเช่นกันที่ท้วงติงมาเช่นกัน อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิดได้เลยครับ เพราะผมก็เพิ่งจะลองๆศึกษามาไม่มากด้วย ฮา

                              ส่วนสวิตซ์ของ Mechanical นี่ไม่มีอะไรไหนผิดหรือถูก แบบที่สำนักรีวิวล์ทั้งไทยและเทศบอกเลยล่ะครับ เพราะต่างคนชอบ+ถนัดไม่เหมือนกันจริงๆครับ

                              Comment

                              Working...
                              X