Tweet
Originally posted by KarnRedsun
View Post
ถ้าเป็นชิพอินเทล เท่าที่รู้ก็จะเป็น
P = Performance คือทั่วๆไป
G = Graphic มีออนบอร์ด
Q = สำหรับออฟฟิศ
X = Extreme ประสิทธิภาพสูง
H = Home ใช้ตามบ้าน
Z = อันนี้ไม่แน่ใจ แต่นะจะความหมายเดียวกับ P ที่เปิดให้ใช้ iGPU ได้
B = ???
ตัวอักษรพวกนี้มันจะตามด้วยเลขรุ่นชิพเซ็ตครับ เช่น P35 G41 H55 Q77 X79 เป็นต้นครับ ทั้งหมดนี้เป็นชิพหลัก รุ่นเก่าใช้ตัวอักษรพวกนี้ตามหลัง เช่น 945P 955X แต่ถ้าตามหลังด้วยสองตัวเช่น 946GZ อันนี้ไม่แน่ใจความหมายครับ
ค่าย AMD ชื่อชิพเซ็ตจะตามหลังด้วยรหัสบ่งรุ่นเช่นกัน เช่น
FX = ต่อการ์ดจอหลายตัววิ่งเลนเต็มที่ 32x (x16+x16) เช่น 790FX 990FX
X = ต่อการ์ดจอหลายตัว แต่เลนวิ่งแค่ x16 (x8+x8) เช่น 990X
GX = มีกราฟฟิกออนบอร์ด Hybrid Crossfire ได้ เช่น 790GX 890GX
G = มีกราฟฟิกออนบอร์ด เช่น 785G 880G
ไม่มีรหัสต่อท้าย = ต่อการ์ดจอได้ตัวเดียว ไม่มีกราฟฟิกออนบอร์ด เช่น 770 970
รหัสรุ่นหลังชื่อเมนบอร์ดเป็นตัวบอกเกรด
ถ้าเป็นยี่ห้อ Asus จะตั้งชื่อเป็นตัวอักษรผสมตัวเลข เช่น P8P67 Deluxe หรือ M4A89TD Pro
ตัวอักษรหน้า P มาจาก Pentium เป็นบอร์ดรับซีพียูอินเทล โดยเลขตามหลัง 4,5,6,7,8,9 แทนซ็อคเกตต่างๆ
ถ้าเป็น A คือ AMD รุ่นเก่า เช่น A7 A8 แต่ถ้าเป็น M คือ AMD ตั้งแต่ AM2 เป็นต้นมา ถ้าเป็น F คือบอร์ดของ APU
ต่อจากนั้น ถ้าเป็นรุ่นหลังๆ จะตามด้วย ชื่อชิพเซ็ต แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่า จะตั้งสัญลักษณ์สมมติแทนชื่อชิพเซต หรือตระกูลของชิพเซต แล้วอาจมีคำตามหลังเพื่อให้รู้ว่าตัวไหนใช้แรม DDR1 DDR2 DDR3 ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านยุคของแรมด้วย
เช่น P5GD1 Pro เป็นชิพ Grantsdale (915P) แรม DDR1 P5WD2 Premium เป็นชิพ Glenwood (955X) แรม DDR2 P5Q3 Deluxe เป็นชิพ Eaglelake (P45) แรม DDR3 เป็นต้น
รหัสห้อยท้ายบอกเกรด มี M เป็น mATX มี V แสดงว่าต่อจอออนบอร์ดได้ มี E แสดงว่าเป็นรุ่นปรับปรุง (Extend) มี T อาจจะหมายถึงแรม DDR3 หรือ เกี่ยวกับการจัดการพลังงาน (ส่วนมากมักจะเป็น TD) ถ้ารหัส I คือ ITX
ตัวท้ายสุดบอกเกรด โดย LX<LE<ไม่มีต่อท้าย<Pro<Deluxe<Premium ถ้ามีรหัส WS แสดงว่าเป็นรุ่นใช้ในเวิร์คสเตชั่น
ถ้ามี / ข้อความหลัง / เป็นคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมาจากรุ่นปกติ เช่น P5K Deluxe/WiFi-AP หรือ P5KPL/1600 เป็นต้น
P = Performance คือทั่วๆไป
G = Graphic มีออนบอร์ด
Q = สำหรับออฟฟิศ
X = Extreme ประสิทธิภาพสูง
H = Home ใช้ตามบ้าน
Z = อันนี้ไม่แน่ใจ แต่นะจะความหมายเดียวกับ P ที่เปิดให้ใช้ iGPU ได้
B = ???
ตัวอักษรพวกนี้มันจะตามด้วยเลขรุ่นชิพเซ็ตครับ เช่น P35 G41 H55 Q77 X79 เป็นต้นครับ ทั้งหมดนี้เป็นชิพหลัก รุ่นเก่าใช้ตัวอักษรพวกนี้ตามหลัง เช่น 945P 955X แต่ถ้าตามหลังด้วยสองตัวเช่น 946GZ อันนี้ไม่แน่ใจความหมายครับ
ค่าย AMD ชื่อชิพเซ็ตจะตามหลังด้วยรหัสบ่งรุ่นเช่นกัน เช่น
FX = ต่อการ์ดจอหลายตัววิ่งเลนเต็มที่ 32x (x16+x16) เช่น 790FX 990FX
X = ต่อการ์ดจอหลายตัว แต่เลนวิ่งแค่ x16 (x8+x8) เช่น 990X
GX = มีกราฟฟิกออนบอร์ด Hybrid Crossfire ได้ เช่น 790GX 890GX
G = มีกราฟฟิกออนบอร์ด เช่น 785G 880G
ไม่มีรหัสต่อท้าย = ต่อการ์ดจอได้ตัวเดียว ไม่มีกราฟฟิกออนบอร์ด เช่น 770 970
รหัสรุ่นหลังชื่อเมนบอร์ดเป็นตัวบอกเกรด
ถ้าเป็นยี่ห้อ Asus จะตั้งชื่อเป็นตัวอักษรผสมตัวเลข เช่น P8P67 Deluxe หรือ M4A89TD Pro
ตัวอักษรหน้า P มาจาก Pentium เป็นบอร์ดรับซีพียูอินเทล โดยเลขตามหลัง 4,5,6,7,8,9 แทนซ็อคเกตต่างๆ
ถ้าเป็น A คือ AMD รุ่นเก่า เช่น A7 A8 แต่ถ้าเป็น M คือ AMD ตั้งแต่ AM2 เป็นต้นมา ถ้าเป็น F คือบอร์ดของ APU
ต่อจากนั้น ถ้าเป็นรุ่นหลังๆ จะตามด้วย ชื่อชิพเซ็ต แต่ถ้าเป็นรุ่นเก่า จะตั้งสัญลักษณ์สมมติแทนชื่อชิพเซต หรือตระกูลของชิพเซต แล้วอาจมีคำตามหลังเพื่อให้รู้ว่าตัวไหนใช้แรม DDR1 DDR2 DDR3 ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านยุคของแรมด้วย
เช่น P5GD1 Pro เป็นชิพ Grantsdale (915P) แรม DDR1 P5WD2 Premium เป็นชิพ Glenwood (955X) แรม DDR2 P5Q3 Deluxe เป็นชิพ Eaglelake (P45) แรม DDR3 เป็นต้น
รหัสห้อยท้ายบอกเกรด มี M เป็น mATX มี V แสดงว่าต่อจอออนบอร์ดได้ มี E แสดงว่าเป็นรุ่นปรับปรุง (Extend) มี T อาจจะหมายถึงแรม DDR3 หรือ เกี่ยวกับการจัดการพลังงาน (ส่วนมากมักจะเป็น TD) ถ้ารหัส I คือ ITX
ตัวท้ายสุดบอกเกรด โดย LX<LE<ไม่มีต่อท้าย<Pro<Deluxe<Premium ถ้ามีรหัส WS แสดงว่าเป็นรุ่นใช้ในเวิร์คสเตชั่น
ถ้ามี / ข้อความหลัง / เป็นคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมาจากรุ่นปกติ เช่น P5K Deluxe/WiFi-AP หรือ P5KPL/1600 เป็นต้น
Comment