Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทำไมผ้าจ่ายไฟของเครื่องผม จึงเสียบ่อย

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    Originally posted by นานาจิตตัง View Post
    ผ้า หรือ ภาค ครับ ช่างบอกว่า ผ้าจ่ายไฟจริงๆเหรอครับ (ผมกลัวว่าท่านจะโดนช่างหลอกเอาครับ)

    ถ้าเป็นที่ ภาคจ่ายไฟ มันอยู่ตรง mainboard นะครับ ไม่ได้เกียวเลยว่าจะใช้ psu 400 หรือ 700 วัต มันก็มีค่าเท่ากัน

    ถ้าบอกว่าไฟไม่เข้า PSU แล้วเชคยังไงครับ ถ้าเปิดเครื่องไม่ติด ไม่ได้แปลว่าไฟไม่เข้า PSU นะครับ


    ผมตั้งข้อสังเกตุว่า ตอนเปิดใช้งานเครื่องมันก็ปกติ เปิดทิ้งข้ามวันก็ไม่มีปัญหา จนกระทั่งปิดเครื่องก็ยังปกติ
    แล้วเครื่องท่านเสียตอนใหน ตอนปิดเครื่องไปแล้วงั้นเหรอ หรือไม่ก็แสดงว่าท่านปิดคอม แล้วไม่ได้ถอดปลั๊ก (ไฟมันเลี้ยง PSU อยู่)
    พอดีระหว่างนั้นมีไฟตก ไฟกระชากเข้ามา มันก็เลยเจ๊ง (ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดเครื่อง) พอตอนเย็นมาเปิดเครื่องถึงได้รู้ว่าพังไปแล้ว
    ไม่ใช่ภาคจ่ายไฟที่บอรด์ แต่เกี่ยวกับแผงไฟบ้าน
    ถ้าม่ายให้ช่างมาทำ ระวังลัดวงจรไฟใหม้บ้านนะจ๊ะ ถ้าแก้แย้ว
    ก็ค่อยหาเปลี่ยนpsuแล้วก็ups
    ><

    Comment


    • #17
      Originally posted by sonkub View Post
      งงด้วยคน
      หรือมันคือนวัตกรรมใหม่ ผลิตกระแสไฟด้วยผ้า !!
      เอาซะผมนั่งตกเก้าอี้เลยครับท่าน..

      Comment


      • #18
        สงสัยต้องแก้ตามที่เรปบนๆบอกล่ะ แก้ที่ระบบไฟในบ้านก่อน

        แล้วอย่าลืมต่อสายดินจากเคสลงดินด้วยนะ

        Comment


        • #19
          ที่เรียก ภาคจ่ายไฟ เป็น ผ้าจ่ายไฟ (?) แสดงว่าไม่ค่อยได้แก้ไขคอมฯ ในส่วนของฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง คงจะได้ยินช่างพูดเบาหรือพูดไม่ค่อยชัด หรือตัวเองหูไม่ดีเองเลยฟังเป็น ผ้าจ่ายไฟ (?)

          ผ้าจ่ายไฟ เอ๊ย ! ภาคจ่ายไฟที่ว่าก็น่าจะเป็นตัวพาวเวอร์ซัพพลายครับ ในส่วนนี้ถ้าจะเปลี่ยน ให้เปลี่ยนเป็นยี่ห้อที่มีคุณภาพ ถึงจะแพงหน่อยแต่คุ้ม เพราะของถูกไม่มีคุณภาพนอกจากตัวมันเองจะเสียง่ายแล้ว ยังจะทำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบรวมกันเป็นคอมฯ เกิดความเสียหายได้ด้วย เพราะจ่ายไฟไม่ตกก็เกิน

          ส่วนเรื่องที่บ้านมีไฟช็อตจนต้องปิดเซฟทีคัทเพื่อไม่ใ้ห้มันตัดไฟ ก็หาสาเหตุเบื้องต้นไปก่อน โดยถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทุกอย่างออกให้หมด แล้วเปิดเซฟทีึคัท ดูว่ายังตัดอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ตัดก็แสดงว่าสาเหตุเกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอันใดอันหนึ่ง ก็ให้ไปไล่หาโดยเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทีละตัว ไล่ไปจนเจอตัวที่ทำให้เซฟทีคัทตัด ส่วนถ้าถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านแล้วเซฟทีคัทยังตัดก็น่าจะเป็นที่สายไฟฟ้าที่เดินภายในบ้านเส้นใดเส้นหนึ่งเกิดลัดวงจรครับ
          Last edited by wcm; 11 Sep 2011, 09:02:11.

          Comment

          Working...
          X