Announcement

Collapse
No announcement yet.

เปิดกระทู้ ตอบปัญหา สำหรับผุ้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ ORICO

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • กลับมาแล้วครับ หลังจากน้องน้ำได้จากเราไป
    ตอนนี้เราพร้อมกลับมาตอบคำถาม และให้คำปรึกษา แล้วครับ
    ถ้าใครมีคำถามเกี่ยวกับ orico เชิญได้เลยน๊ะครับ

    Comment


    • ใครมีปัญหาในการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ ORICO สามารถสอบถาม และจะรีบตอบให้ทันทีครับ

      Comment


      • http://www.stopfinger.com/goods_c3BlY19pZAk2MTg0.html

        Comment


        • 8618sus มี อแดพเตอร์ขายที่ไหนบ้างครับ มันจมน้ำไปตอนน้ำท่วม

          Comment


          • ต้องลองติดต่อกับ dealer ที่ซื้อครับ
            หรือไม่ก็ลองโทรไปที่ตัวแทนจำหน่าย orico ครับ 0-2615-7792

            แต่ถ้าไม่มีขายจริงๆแนะนำให้หา adapter ทั่วไปก็ใช้ได้ครับ ขอให้จำนวน Votage เท่ากับของเดิม
            ก็น่าจะใช้ได้
            Last edited by piyaphi; 8 Dec 2011, 18:23:27.

            Comment


            • มีคำถามจากผู้สนใจสินค้า orico



              ถาม : "อยากทราบว่า docking รุ่น 8628sus3 ตัวนี้ใช้ chipset ของอะไร รุ่นไหน"
              ตอบ : ใช้ Chipset 2 ตัวครับ
              Jmicron : JMB352U
              Jmicron : JMS539
              Last edited by piyaphi; 13 Dec 2011, 00:36:22.

              Comment


              • มีคำถามจากลูกค้าหลายราย
                ถามว่า : ใช้งาน usb2.0 แล้วถ้าเอา docking หรือ encloser ที่มี usb3.0 ต่อแล้วจะใช้งานได้หรือไม่
                คำถอบ : สามารถใช้ได้อย่างแน่นอนครับ แค่ความเร็วที่จะได้ก็คือ เท่ากับ usb2.0(ประมาณตามทฤษฎี 480 Kbps) ซึ่งความสามารถของ usb3.0(ประมาณตามทฤษฎี 5Gbps) เพือให้เห็นภาพ เปรียบเทียบสายส่งของเราเหมือนกับท่อน้ำประปา ถ้าเราใช้ usb2.0 ก็เหมือนกับท่อภายในบ้าน ส่วน usb3.0 เหมือนกับท่อ main ปากซอย
                ถ้าอยากได้เร็วก็ต้องมีท่อที่ใหญ่ขึ้น

                สรุปคือใช้งานได้ แต่ความเร็วจะเท่ากับส่วนที่ช้าที่สุด(คอขวด)

                ไม่รู้จะงงหรือเปล่าครับ
                Last edited by piyaphi; 18 Dec 2011, 08:16:31.

                Comment


                • รู้จักกับ Solid State Drive (SSD)

                  SSD ย่อมาจาก Solid State Drive
                  SSD เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการประยุกต์ใช้ Flash Memory มาทำเป็น Harddisk
                  ประโยชน์ที่ได้รับที่เห็นกันอยู่ ก็จะพบว่าความไวในการ เข้าถึงข้อมูลจะทำได้ไวกว่า Harddisk ที่ใช้กันอยู่
                  ในท้องตลาดซึ่งเป็น Harddisk แบบที่ใช้จานแม่เหล็ก ที่เวลาเข้าถึงข้อมูลจะต้องให้ Harddisk หมุนไปแล้ว
                  จึงหาสืบค้นข้อมูลที่ถูกเก็บใน harddisk ได้ โดยวิธีนี้ทำให้ เกิดความร้อนขึ้น ในตัวของ Harddisk เอง
                  ยิ่งมีความไวของมอเตอร์ ที่ใช้ในการหมุนตัว จานแม่เหล็ก มากเท่าไรก็จะ ทำให้ มีความร้อนสูงมากขึ้นด้วย
                  ดังนั้นการออกแบบจึงต้องมีการเพิ่ม พื้นที่ในการระบายความร้อนให้มากขึ้น

                  เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทำงานของ Server ได้ การพัฒนาเทคโนโลยีของ Harddisk นั้นก็ พัฒนา มาหลายปี
                  แต่ยังคงเป็นเทคโนโลยี่ที่ใช้มอเตอร์และจานแม่เหล็ก จนถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านนี้
                  โดยการนำ meomory หรือ การนำ Solid State มาทำเป็น Harddisk ด้วยเหตุผลที่ว่า การเข้าถึงข้อมูล การเขียนข้อมูล
                  ลงไปบนตัว Harddisk การคำนึงถึงความร้อนที่เกิดขึ้นบนตัว Harddisk เสียงที่เกิดจากการหมุนของมอเตอร์บนตัว Harddisk

                  ดังนั้น ปัญหาพวกนี้จะหมดไปถ้าเรานำเทคโนโลยี Solid State มาใช้ ถ้านำไปใส่ใน Notebook
                  จะช่วยทำให้ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Notebook ทำงานได้ดีขึ้น เพราะจะกินพลังงานต่ำ เมื่อเทียบกับ harddisk แบบเดิม



                  ภาพภายในตัว HDD และ SDD

                  SSD เป็นการใช้ชิปหน่วยความจำเก็บข้อมูลแทนจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์
                  พูดง่ายๆก็เหมือนกับ FlashDrive ขนาดของ SSD นี้จะมีขนาดเล็กประมาณ 1.8 - 2.5 นิ้ว

                  มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือชิปหน่วยความจำ
                  กับชิปคอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุมการทำงานของ SSD

                  SSD นั้นผลิตได้่ 2 แบบ คือ
                  1. NOR Flash (หน่วยความจำจะถูกเชื่อมต่อกันแบบขนาน ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระ อ่านข้อมูลเร็วมาก
                  แต่ มีความจุต่ำ และราคาแพงมาก)



                  2. NAND Flash (เป็นแบบเข้าถึงข้อมูลทีละบล๊อก ทำให้มีความจุสูง ราคาถูก)
                  FlashDrive ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้จึงเป็นแบบ NAND Flash เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท

                  2.1 Single-Level Cell (SLC) : ในแต่ละเซลเก็บข้อมูลได้ 1 บิต ทำงานเร็ว กินพลังน้อย และมีอายุการใช้งานนาน (เขียนได้ 1 แสนครั้งโดยประมาณ) แต่ราคาสูง
                  2.2 Multi-Level Cell (MLC) : 1 เซลเก็บข้อมูลได้มากกว่า 1 บิต ปัจจุบัน เซลเก็บได้ 2 บิต และอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้เก็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วต่ำกว่า ใช้พลังงานมากกว่า SLC เขียนได้ ไม่เกิน 1 หมื่นครั้ง แต่มีราคาถูก


                  สรุปข้อดีของ SSD
                  - ใช้เวลาเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ เพราะไม่มีหัวอ่าน ไม่มีจานแม่เหล็ก ไม่ต้องหมุน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เลย
                  ปัจจุบัน SSD มีความเร็วในการอ่านถึง 500+ MB/s และเขียนที่ 500+MB/s และสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล
                  - เงียบ เพราะไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้เหมือนอาร์ดดิสก์
                  - ทนแรงกระแทก การสั่นสะเทือน และอุณหภูมิที่สูงกว่า
                  - น้ำหนักเบา
                  - กินไฟต่ำทำให้ประหยัดพลังงานลดความร้อนลงได้มาก
                  - ที่สำคัญ ปัญหาเรื่อง การกระจายของไฟล์ (File Fragmentation) ไม่มีผลต่อ ความเร็วของ SSD อีก (เพราะอะไรเดียวจะเข้าใจ) เพราะฉะนั้นโปรแกรม Defrag จึงไม่จำเป็นต่อ SSD

                  สรุปข้อเสียของ SSD
                  - ราคาแพงมาก เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์
                  - ความจุต่ำ
                  - ความคงทนในการใช้งาน อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า เขียนได้แบบจำกัดจำนวนครั้งต่อ 1 บล๊อก ส่วนอ่านไม่มีปัญหา
                  จึงได้มีการพัฒนา เทคนิค "Wear-Leveling" ขึ้นมาเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานหน่วยความจำแบบ Flash หลักการทำงาน
                  คือ ทำการกระจายการเขียนข้อมูลไปยังทุกๆบล๊อกของหน่วยความจำ เพื่อไม่ให้มีการเขียนข้อมูลซ้ำที่ตำแน่งเดิมบ่อย
                  ซึ่งจะทำให้เสียเร็วกว่าตำเหน่งอื่นๆแบ่งเป็น 2 ประเภท
                  1. Static Wear-Leveling เป็นการค้นหาเนื้อที่หน่วยความจำทั้งหมดโดยจะย้ายไฟล์ในบล๊อกที่ใช้งานบ่อย ไปบล๊อกที่ใช้งานน้อยที่สุด โดยจะย้ายทั้งไฟล์ระบบ หรือไฟล์ที่ปกติไม่มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่
                  2. Dynamic Wear-Leveling คล้ายกับประเภทแรก แต่จะไม่ยุ่งกับพวกไฟล์ระบบ การย้ายและเขียนข้อมูลใหม่จึงทำในส่วนบล๊อคที่เป็นข้อมูลทั่วไป และบล๊อกที่ว่างอยู่ (กระจายแต่ไม่ทั่วทั้งความจุ)
                  ถึงแม้ว่าผู้ผลิตจะมีเทคนิคดังกล่าว แต่ความคงทนในการใช้งานก็ยังมีความคลุมเครืออยู่พอสมควร ผู้ผลิตบางที่บอก แสน บางที่บอกล้านครั้ง

                  ส่วนการดูแลรักษาก็ไม่มีไรมาก ถึกกว่า HDD เสียอีก ที่สำคัญ
                  ต้องย้ำเลยนะครับว่า ไม่มีความจำเป็นต้อง Defreg ข้อมูลเลย เพราะจะทำให้ SSD เสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร

                  ขอบคุณ แหล่งอ้างอิงข้อมูล
                  1. หนังสือ Shopping Computer
                  2. www.it.co.th
                  3. arip

                  Comment


                  • ดูแลทุกคำถามสำหรับคนใช้ orico
                    ใครมีคำถามอะไร หรือคำแนะนำ เชิญได้ครับ

                    Comment


                    • ผมใช้ ตัว PCI-E แปลงเป็น USB3.0 อยู่ครับ รู้สึกเหมือนพอเสียบ HDD 2ตัวแล้วมันจ่ายไฟไม่พอรึยังไงเนี่ยแหละ - -""

                      Comment


                      • Originally posted by UnknownID View Post
                        ผมใช้ ตัว PCI-E แปลงเป็น USB3.0 อยู่ครับ รู้สึกเหมือนพอเสียบ HDD 2ตัวแล้วมันจ่ายไฟไม่พอรึยังไงเนี่ยแหละ - -""

                        ORICO PVU3-4P 4ports USB3.0 PCI-E express card

                        หมายถึงตัวนี้หรือเปล่าครับ มันจะมีช่องเสียบ power แบบ 4 pin ได้เสียบไ้ว้หรือเปล่าครับ
                        และได้ลง driver ที่ให้ไปพร้อมกับ card หรือยังครับ ลองดูครับ

                        Comment


                        • ลองหมดแล้วครับ เสียบไฟครบแล้ว หรืออาจเป็นที่ตัว HDD เองก็ไม่รู้

                          Comment


                          • พอเสียบกับ 2.0 ที่ mb เลยดันใช้ได้ เป็นที่ตัว adapter ละครับ - -

                            Comment


                            • Originally posted by UnknownID View Post
                              พอเสียบกับ 2.0 ที่ mb เลยดันใช้ได้ เป็นที่ตัว adapter ละครับ - -
                              รบกวนคุณ unknowID โทรไปปรึกษาผู้ที่นำเข้าเลยครับ
                              เผื่อจะมี คำแนะนำครับ แต่ขอเป็นช่วงบ่ายๆน๊ะครับ
                              ที่เบอร์ 0-2615-7792 บ.back-n

                              Comment


                              • ครับ ขอบคุณมากครับ

                                Comment

                                Working...
                                X