Announcement

Collapse
No announcement yet.

อยากทราบว่า VDSL Router ตอนนี้บ้านเรามีวางขายกันมั้งยังครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • อยากทราบว่า VDSL Router ตอนนี้บ้านเรามีวางขายกันมั้งยังครับ

    อยากทราบว่า VDSL Router ตอนนี้บ้านเรามีวางขายกันมั้งยังครับ

    มีคนฝากถามมาอ่า เพราะที่เห็นๆ มันมีแต่ ADSL อ่ะคับ

    จากเหตุที่ว่าโปร ใหม่ของ 3BB เค้าอะครับ



    แล้วไม่ทราบว่า จะใช้ได้นี่ เฉพาะโหนดที่อับเกรดเป็น VDSL แล้ว หรือว่า ตอนนี้รองรับหมดอยู่แล้วอ่าครับ

  • #2
    • สำหรับลูกค้าเก่า (ไม่มียอดค้างชำระ) ทางบริษัทฯ จะทยอยปรับ Speed จาก 4 Mb เป็น 5 Mb ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม เป็นต้นไป

    +++++++++++++++++++++++++

    เด้วต่อไป ทรูน่าจะปรับจาก 4Mb เป็น 5 Mb ราคาเท่าเดิม 590.- มาแข่งตามแหงม ๆ

    Comment


    • #3
      เย้ๆๆ True ก็จะเป้น 5Mb บ้างแล้วซินะ
      ส่วนผมก็น่าจะได้ประมาน 6Mb เพราะอยู่ใกล้ตู้

      Comment


      • #4
        maxnet มาก่อนทุกทีเลย
        เมื่อไร่ ทรุย จะมา ขั้นต่ำ 10 เมก 590 บ้างหนอ หรือถูกกว่า 100 นึง ก็ดีตอนนี้ ก็ 599+107 เซ็งอยากย้ายไปอยุ่ maxnet ไม่ต้องเสีย 107 จัง

        Comment


        • #5
          ADSL คืออะไร
          xDSL
          DSL ย่อมาจาก Digital Subscriber Line คือเทคโนโลยีโมเด็ม ที่ทำให้คู่สายทองแดงธรรมดา ให้กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิตอล ความเร็วสูง โดยใช้เทคนิคการ เข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation) ในย่านความถี่ที่สูงกว่า การใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป ทำให้เราสามารถส่งข้อมูล ในขณะเดียวกับการใช้งานโทรศัพท์ได้ โดยมีเทคโนโลยีในตระกูล DSL อยู่หลายเทคโนโลยีเช่น
          • HDSL: High bit rate Digital Subscriber Line
          • SDSL: Symmetric Digital Subscriber Line
          • SDSL: Symmetric Digital Subscriber Line
          • IDSL: ISDN Digital Subscriber Line
          • ADSL: Asymmetric Digital Subscriber Line
          • RADSL: Rate Adaptive Digital Subscriber Line
          • VDSL: Very high bit rate Digital Subscriber Line
          โดยแต่ละเทคโนโลยีมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้ (ดูตารางประกอบ)
          Down Up Mode Distance Wire(n) Voice
          HDSL 1.5 Mbps 1.5 Mbps Symmetric 3.6 Km 4 No
          SDSL 1.5 Mbps 1.5 Mbps Symmetric 3 Km 2 No
          IDSL 128 Kbps 128 Kbps Symmetric 4.5 Km 2 No
          ADSL 8 Mbps 1 Mbps Asymmetric 5 Km 2 Yes
          VDSL 52 Mbps 2.3 Mbps Asymmetric 1 Km 2 Yes
          1. ความเร็วในการรับ (Down) และ ส่ง (Up) ข้อมูล แต่ละเทคโนโลยีจะไม่เท่ากัน
          2. Mode ของการรับส่งข้อมูล หากเทคโนโลยีใดมีอัตราความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลเท่ากันจะเรียกว่า Symmetric(ความสมมาตร) หากอัตราความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลไม่เท่ากันจะเรียกว่า Asymmetric(ความสมมาตร) เช่น ADSL มีอัตราเร็วในการรับข้อมูลสูงถึง 8 Mbps และมีอัตราเร็วในการส่งสูงสุดเพียง 1 Mbps แต่โดยทั่วไป เรามักมีการ Download หรือรับข้อมูล มากกว่า Upload หรือส่งข้อมูล ดังนั้น ADSL จึงสามารถรองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี
          3. ระยะทางที่สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูล (Distance) ระยะทางที่สามารถทำงานได้ของแต่ละเทคโนโลยีจะไม่เท่ากัน โดยที่เทคโนโลยีที่มีความเร็วสูงขึ้น มักจะมีระยะสามารถทำงานได้สั้นลง เช่น VDSL ซึ่งมีความเร็วสูงมากคือ 52 Mbps แต่จะสามารถทำงานได้ในระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตรเท่านั้น
          4. จำนวนสายที่ใช้ (Wire) โดยในช่วงต้นของการพัฒนานั้น HDSL ถูกคิดค้นให้ใช้ถึง 2 คู่สายหรือสายทองแดง 4 เส้น แต่ระยะต่อมาสามารถพัฒนาให้สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลได้บนคู่สายทองแดงเพียง 1 คู่เท่านั้น และยังสามารถมีอัตราความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลสูงขึ้นด้วย
          5. ความสามารถในการใช้โทรศัพท์ระหว่าง รับ-ส่ง ข้อมูล (Voice Service) เทคโนโลยี DSL ที่เกิดขึ้นในระยะหลังจะถูกพัฒนาขึ้น ให้สามารถใช้งาน โทรศัพท์ได้ด้วยระหว่างที่มีการ รับ-ส่ง ข้อมูล เช่น ADSL และ VDSL
          โดยในขณะนี้เทคโนโลยี ADSL เป็นเทคโนโลยีที่ผู้ให้บริการเลือกใช้มากที่สุด เพราะเป็นเทคโนโลยีที่มี ความเร็วสูง และระยะทางที่ทำงานได้ค่อนข้างไกล ซึ่งเหมาะสม ที่จะนำมาประยุกต์ใช้งาน ในปัจจุบันมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้เทคโนโลยี VDSL ซึ่งมีความเร็วสูงถึง 52 Mbps ก็อาจจะถูกนำมาใช้งานมากขึ้น



          ADSL Technology
          ADSL ย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscriber Line คือเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง บนข่ายสายทองแดง หรือคู่สายโทรศัพท์ ADSL เป็นเทคโนโลยีในตระกูล xDSL โดยมีลักษณะสำคัญคืออัตราการเร็วในการรับข้อมูล (Downstream) และอัตราการเร็วในการส่งข้อมูล(Upstream) ไม่เท่ากัน โดยมีอัตรารับข้อมูลสูงสุดที่ 8 Mbps. และอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 1Mbps โดยระดับความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลจะขึ้นอยู่กับ ระยะทาง และคุณภาพของคู่สายนั้นๆ
          เทคโนโลยี ADSL มีเทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ ซึ่งจะแบ่งย่านความที่บนคู่สายทองแดง ออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงความถี่โทรศัพท์ (POTS) ช่วงความถี่ของการส่งข้อมูล (Upstream) ช่วงความถี่ในการรับข้อมูล(Downstream) จึงทำให้สามารถส่งข้อมูล และใช้โทรศัพท์ได้ในเวลาเดียวกัน

          เทคโนโลยี ADSL พัฒนาให้ใช้ TCP/IP Protocol เป็นหลัก ซึ่งเป็น Protocol ที่ใช้บนเครือข่าย Internet และพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี ATM ทำให้ ADSL สามารถรองรับ Application ในด้าน Multimedia ได้เป็นอย่างดี

          How ADSL work?
          จากชุมสายโทรศัพท์ถึงบ้านผู้ใช้งาน
          การทำงานของ ADSL โมเด็มจะเกิดขึ้นระหว่างชุมสายโทรศัพท์ (Central Office) โดยผู้ให้บริการ จะต้องติดต้องอุปกรณ์รวมสัญญาณเรียกว่า DSLAM (DSL Access Multiplexer) ในทุกๆ ชุมสายที่ให้บริการ ซึ่งจะทำหน้าที่รวมสัญญาณจากผู้ใช้งาน ในชุมสายโทรศัพท์นั้นๆ จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งผ่าน เครือข่ายดิจิตอลความเร็วสูง ไปยังศูนย์กลางของผู้ให้บริการ (ดูภาพประกอบ) และจากนั้นผู้ให้บริการ ADSL ก็จะเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการข้อมูล (Service Provider) เช่น ISPs หรือเครือข่ายขององค์กร

          Pots Splitter
          อุปกรณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ ADSL สามารถส่งข้อมูลไปได้พร้อมๆ กับการใช้งานโทรศัพท์ ก็คือ Pots Splitter โดยมันจะมีหน้าที่ในการกรองสัญญาณที่มีความถี่สูงออกจาก สัญญาณย่านที่มีย่านความถี่ต่ำ โดยถูกติดตั้งอยู่ทั้งที่ผู้ใช้งาน และที่ชุมสายโทรศัพท์ (ดูภาพด้านบนประกอบ) นั่นคือหากมีการใช้งานโทรศัพท์ สัญญาณโทรศัพท์จะถูกส่งผ่านสายทองแดง ไปยังชุมสายโทรศัพท์ (Central Office) และสัญญาณโทรศัพท์ จะถูกส่งผ่านไปยังเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ (PSTN: Public switch telephone netowok) เพื่อเชื่อมต่อไปยังเลขหมายปลายทางต่อไป ส่วนสัญญาณข้อมูล (DATA) จะถูกส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ DSLAM
          เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ (Modulation Technique)
          การที่ ADSL สามารถส่งข้อมูลพร้อมกับการใช้งานโทรศัพท์ได้นั้น เนื่องจาก ADSL ใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ (Modulation) บนย่านความถี่ที่สูงกว่าการใช้งานโทรศัพท์ โดยทั่วไป ซึ่งปกติการใช้งานโทรศัพท์จะใช้ย่านความถี่ที่ 0 - 4 KHertz และการใช้งาน 56K Analog โมเด็ม ก็ทำการเข้ารหัสสัญญาณ บนย่านความถี่นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นย่านเดียวกับการใช้งานโทรศัท์ ทำให้เมื่อใช้งานโมเด็มจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ ในขณะที่ ADSL จะเข้ารหัสสัญญาณที่ย่านความถี่ที่สูงกว่า 4 KHertz ขึ้นไป คือตั้งแต่ 30 KHertz ไปจนถึง 1.1 MHertz โดย ADSL มีเทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณ 2 วิธี คือ CAP และ DMT (ดูภาพประกอบ) ซึ่งด้วยเทคนิคนี้เอง ทำให้ การรับ-ส่งข้อมูลด้วย ADSL จึงสามารถใช้โทรศัพท์ได้เป็นปกติ โดยไม่รบกวนกันแต่อย่างใด โดยมีอุปกรณ์ Pots Splitter ที่ช่วยในการแยกย่านความถี่ของข้อมูลและ ความถี่ในการใช้โทรศัพท์ออกจากกัน



          CAP เป็นเทคนิคที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วงแรกๆ ซึ่งจะแบ่งย่านความถี่ออกเป็น 3 ช่วงกว้างๆ คือ Uplink(ส่งข้อมูล) Downlink(รับข้อมูล) และ Pots(ย่านความถี่โทรศัพท์) ในขณะที่ DMT จะมีการแบ่งแต่ละช่วงความถี่ ออกเป็นช่วงเล็กๆ อีกโดยเรียกว่า Bin ซึ่งแต่ละบินจะถูกแบ่งออกเป็น Bin ละ 4 KHertz ซึ่งเทคนิคนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษคือ มันจะสามารถเลือกย่านความถี่ที่เหมาะสม กับสภาพแวดล้อมและคุณภาพสายในขณะนั้นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีมาตรฐานในการเข้ารหัสสัญญาณของ ADSL
          Application

          เนื่องจาก ADSL เป็นเทคโนโลยีที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลสูง การใช้งานสะดวกสบายและประหยัด ADSL จากตารางจะเห็นว่า ADSL สามารถรองรับการทำงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารข้อมูลธรรมดา เช่น การใช้งานอินเตอร์เน็ต, การทำงานทางไกล, จนกระทั่ง ข้อมูลที่เต็มไปด้วยภาพและเสียง ซึ่งมักจะต้องการความเร็วสูงๆ เช่น การประชุมทางไกลกลุ่มผ่านจอภาพ, Video on Demand หรือ Video Catalog ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจจะต้องการความเร็วถึง 1.5 - 6 Mbps. หรือแม้กระทั่ง การใช้งานเป็นวงจรเชื่อมโยงสำนักงานสาขา หรือเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์จากที่บ้านเข้ามาที่สำนักงาน หรือที่เรียกว่า Work at Home ก็เป็นได้
          Professional Telecommuting, Corporate Lan Access, Work @ Home, Home Business, Video Conference
          Entertainment Video on Demand, Games, Internet Surfing, Video Chat Groups, Gambling, Photography
          Consumer Shopping, Video Catalogs, Education, Medical, Information, Public Services
          การประยุกต์ใช้งาน ADSL ที่ให้บริการในปัจจุบัน
          1. Internet Access ในปัจจุบันผู้ให้บริการ ADSL ในประเทศไทยจะเน้นการให้บริการ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นหลัก หรือที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยผู้ใช้งานสามารถท่อง อินเตอร์เน็ตได้ที่ระดับความเร็วตั้งแต่ 64 Kbps ขึ้นไป ซึ่งอาจจะถึง 8Mbps. (ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่ความเร็วสูงสุดที่ 1Mbps.) ซึ่งผู้ให้บริการ จะคิดค่าบริการตามระดับความเร็ว ยิ่งความเร็วสูงขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นด้วย และบางที่อาจจะมีการจำกัดชั่วโมงการใช้งาน หรือจำนวนข้อมูลที่รับ-ส่ง

          การใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงด้วย ADSL นอกจากความเร็วที่ผู้ใช้งานจะได้รับแล้ว การใช้งานในแต่ละครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องหมุนโทรศัพท์จึงไม่เสียค่าโทรศัพท์ ไม่มีปัญหาสายหลุด และปัญหาสายไม่ว่างอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้งานได้รับทั้งความสะดวก และประหยัด เป็นอย่างมาก
          2. Lan Interworking คือการเชื่อมต่อจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยผ่านเครือข่าย ADSL เช่น บริษัทที่อนุญาติให้ พนักงานสามารถเชื่อมต่อ เข้าสู่เครือข่ายภายในของบริษัท (Lan) จากที่บ้าน หรือ เชื่อมต่อสำนักงานใหญ่ กับสำนักงานสาขา โดยผ่านเครือข่าย ADSL ซึ่งการใช้บริการใช้บริการในลักษณะนี้ จะสามารถทดแทนระบบ Remote Access แบบ Dial-up ได้ และลักษณะการใช้งานจะคล้ายกับการใช้วงจรเช่า Leased Line หรือ Frame Relay แต่ ADSL จะมีต้นทุนต่ำกว่ามาก โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกระดับความเร็วได้ ตามต้องการ แต่ก็ต้องยอมรับว่า วงจรเข่าอาจจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า


          Benefit
          • "High Speed"
          ADSL มีอัตราความเร็วในการรับสูงสุดที่ 1 Mbps. และ อัตราในการส่งสูงสุดที่ 8 Mbps. ซึ่งสามารถปรับระดับความเร็วได้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ดังนั้น ADSL จึงสามารถรองรับ Application ในวันนี้และในอนาคต ได้เป็นอย่างด ี
          • "Always On"
          การใช้งาน ADSL จะไม่จำเป็นต้องมีการหมุนโทรศัพท์ (Dial) เหมือน Analog Modem หรือ ISDN นั่นก็หมายความว่า การใช้งาน ADSL จะไม่มีปัญหาสายไม่ว่าง เนื่องจากคู่สายที่ผู้ให้บริการเตรียมไว้ไม่เพียงพอ ปัญหาสายหลุด นอกจากนั้น การเชื่อมต่อแต่ละครั้งก็ไม่เสียค่าโทรศัพท์อีกด้วย
          • "ใช้โทรศัพท์ได้พร้อมกับ รับ-ส่ง ข้อมูล"
          ระหว่างที่ใช้งาน ADSL รับ-ส่ง ข้อมูลอยู่ สายโทรศัพท์ก็ยังสามารถใช้คุยโทรศัพท์ หรือ รับ-ส่ง แฟกซ์ ได้เป็นเป็นปกติ ซึ่งแตกต่างจาก Analog Modem ซึ่งเมื่อใช้งาน โมเด็ม สายโทรศัพท์ก็ไม่สามารถใช้งานได้
          Installation
          การติดตั้งโมเด็ม ADSL และระบบสายโทรศัพท์ภายใน
          1. การติดตั้งอุปกรณ์ โมเด็ม ADSL นั้นมีขั้นตอนการติดตั้งเฉพาะตัว โดยการติดตั้งจะแตกต่างจาก โมเด็ม Analog อยู่พอสมควร ซึ่งการติดตั้งโมเด็ม ADSL มีข้อจำกัดและวิธีการดังนี้

          1. หากต้องการใช้งานโทรศัพท์ได้พร้อมกับการ รับ-ส่ง ข้อมูล (หมายความว่า หากไม่ต้องการใช้โทรศัพท์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Pots Splitter ก็ได้) จะต้องติด Pots Splitter เพื่อกรองย่านความถี่ของข้อมูล และสัญญาณโทรศัพท์ออกจากกัน จากนั้นจะต้องลากคู่สายใหม่ สำหรับ โมเด็ม ADSL ซึ่งสายใหม่นี้ จะไม่สามารถนำเครื่องโทรศัพท์ หรือแฟกซ์มาต่อพ่วงได้ ส่วนอีกคู่สายหนึ่ง ก็ลากไปยังเครื่องโทรศัพท์หรือแฟกซ์ตามปกติ
          ในกรณีที่มีตู้สาขา (PABX) จะต้องติด Pots Splitter ก่อนแยกสายเข้าสู่ตู้สาขา เพื่อแยกคู่สายออก โดยคู่สายหนึ่งลากเข้าตู้สาขา ส่วนอีกคู่สายหนึ่งก็ลากไปยังโมเด็ม ADSL
          ADSL Modem
          สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ ADSL Modem
          1. ความเข้ากันได้กับเครือข่ายของผู้ให้บริการ
          จากที่ผู้เขียนได้สำรวจข้อมูลของอุปกรณ์ DSLAM ของผู้ให้บริการต่างๆ พบว่าทุกรายในขณะนี้ใช้ Chip Set ที่เป็น Alcatel Compatible นั่นหมายความว่าก่อนที่จะเลือกซื้อโมเด็มต้องดูก่อนว่า มันใช้ Chip Set อะไร แต่ก็ใช่ว่า Chip Set เป็น Alcatel Compatible แล้วจะซื้อได้เลยนะครับ ทางที่ควรถามผู้ขายก่อนดีกว่าได้ทดสอบกับผู้ให้บริการ ADSL รายนั้นๆ แล้วหรือยังครับ
          2. Interface ของโมเด็ม
          Interface ก็คือประเภทของอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อโมเด็มไปยัง PC ของเรา โดยทั่วไป ADSL Modem จะมี Interface อยู่ 3 ชนิดคือ PCI, USB และ Ethernet สำหรับ PCI และ USB นั้นเราคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะอุปกร์ต่อพ่วงส่วนใหญ่เช่น Internal Modem หรือ กล้องดิจิตอลใช้ Interface นี้อยู่แล้ว ส่วน Ethernet นั้นบางคนอาจจะไม่คุ้นเคย Ethernet คือ Interface ที่เป็นมาตรฐานของเครือข่าย LAN โดยอุปกรณ์จะเชื่อมกันด้วยแจ็ค RJ-45 (ลักษณะคล้ายๆ หัวแจ็คของโทรศัพท์ แต่จะใหญ่กว่า)
          ข้อควรพิจารณาสำหรับเรื่อง Interface ของโมเด็มก็คือ PC ของเรามี Port หรือ Slot สำหรับ Interface ดังกล่าวหรือเปล่า แต่โดยส่วนใหญ่ PC ของเราจะมี Slot PCI และ Port USB บนเมนบอร์ด อยู่แล้วเราเพียงแต่ตรวจสอบดูว่า Slot หรือ Port บนเ PC ของเรานั้น มีเหลืออยู่หรือเปล่า ส่วนการใช้งาน Ethernet นั้นบน PC ของเราจะต้องมี Lan Card โดยโมเด็มอาจจะต่อโดยตรงกับ PC หรือต่อผ่าน Hub ก่อนก็ได้
          3. ความยากง่ายในการติดตั้ง และ ความมีเสถียรภาพของอุปกรณ์
          โมเด็มที่มี Interface แบบ Ethernet มักจะติดตั้งง่ายกว่า PCI และ USB มาก เพราะโมเด็ม Ethernet นั้นตอนติดตั้งจะไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Driver ของโมเด็ม เพียงแต่ต่อสาย Lan จาก โมเด็มเข้ามาที่ Lan Card ของ PC เท่านั้นก็สามารถใช้งานได้ ส่วน PCI และ USB นั้นจะต้องลง Driver ก่อนเสมอ และเนื่องจากการทำงานของ PCI และ USB จะต้องใช้ทรัพยากรของ PC ค่อนข้างมากดังนั้น อาจจะส่งผลให้ความเสียรภาพ ของการทำงาน ลดลงด้วย
          4. โมเด็มสำหรับเครือข่าย Lan
          หากเราต้องการนำ ADSL Modem มาใช้ร่วมกันในเครือข่าย Lan เพื่อต้องการ แชร์อินเตอร์เน็ตนั้น เราควรเลือกโมเด็มที่มี Interface แบบ Ethernet ซึ่งโมเด็ม Ethernet จะรองรับการทำงานหนักได้ดีกว่า และยังง่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเช่น Router,IP Sharer หรือ Firewall ต่างๆ ส่วนโมเด็ม USB และ PCI นั้นเหมาะสมกับการใช้งานกับเครื่อง PC เครื่องเดียวมากกว่า
          5. โมเด็มที่เป็น Router ในตัว
          อุปกรณ์ประเภทนี้ถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานในเครือข่าย Lan เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับ Internet Account และมักจะมี Features ต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าน่าใช้ที่สุดครับ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าโมเด็มธรรมดาพอสมควรครับ
          สรุปง่ายๆ ว่าสำหรับผู้ที่คาดว่าจะใช้ ADSL สำหรับ PC เครื่องเดียว ก็ใช้แบบ PCI หรือ USB ครับเพราะจะประหยัดกว่า ส่วนถ้าหากว่าต้องการใช้กับเครือข่าย LAN ก็ควรเลือกแบบ Ethernet ครับเพราะสามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่าแต่ก็คุ้มค่าครับ..

          Comment


          • #6
            10M จะอัพเป็น 12M เปล่าหว่า..

            Comment


            • #7
              3BB เปิดนำ True วิ่งตาม TOT...(ตื่นรึยัง) เหอๆ

              Comment


              • #8
                แข่งกันเยอะๆ ลดราคา เพิ่ม speed

                Comment


                • #9
                  เท่าที่ดูมันเพิ่มหมดทุก Package เลยนี่ครับ

                  Comment

                  Working...
                  X