เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง
ประวัติเกรียน ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน[1] ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอมในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล และได้มีการกล่าววลีหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ
คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน (ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่) ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู) ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา
เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งแผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี แต่ไทยอ่าน นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น
บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ
# มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
# มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ
# ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
# ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
# ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
# มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
กฏแห่งเกรียน
ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า เกรียน หากเปิดหาคำนี้ใน พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 141 จะพบว่าถูกนิยามความหมายไว้ 3 ความหมายด้วยกันดังนี้
เกรียน ๑ [เกรียน] ว. สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือ พื้นที่ เช่น ผมเกรียน หมาขนเกรียน หญ้าเกรียน
เกรียน ๒ [เกรียน] ดู เลี่ยน ๑.
เกรียน ๓ [เกรียน] น. แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วไม่น่ายเป็นเม็ดปนอยู่ เม็ดนั้นเรียกว่า เกรียน; เรียกปลายข้าวขนาดเล็กว่า ข้าวปลายเรียน
แต่วันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงคำนี้ตามที่พจนานุกรรมให้นิยามไว้หรอกนะครับ แต่ผมขอพูดถึงมันในแง่มุมของมนุษย์ Cyber กันดีกว่าเราจะมาค้นหาความหมายของมันกันและเมื่อรู้ความหมายแล้วอย่าลืมสำรวจตัวเองด้วยนะว่าคุณ “เกรียนหรือเปล่า”
ต้นกำเนิดแห่ง เกรียน
เกรียน คำนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดไม่มีหลักฐานระบุชี้ชัดได้ แต่ที่แน่ๆ บนศิลาจารึก หลักไหนๆ ก็คงไม่มีคำๆ นี้ปรากฏอยู่เป็นแน่ ผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์เกมบางคนบอกว่า พบเห็นคำนี้ครั้งแรกมาจากเกมออนไลน์ที่มีผู้นิยมเล่นสูงสุดเกมหนึ่ง ส่วนผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์บอร์ดบอกว่าเห็นครั้งแรกในเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่ง ผมจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามันมีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่ รู้แต่เพียงว่าวันนี้มันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
การขยายตัวของ เกรียน
เกรียน ไม่ใช่คำด่าพร่ำเพรื่อเหมือนอย่างคำด่าอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแห่ง แต่เป็นคำที่ใช้ เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มคนประเภทหนึ่ง กลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนพิเศษนักวิชาการบางท่านบอกว่า เป็นอาการของคนที่เสพหญ้ามากเกินไป จนคอโรฟิวในหญ้าไปอุดตันสมอง จนส่งผลให้การทำงานของสมองซีกขวา ซึ่งเป็นสมองด้านของเหตุผลและการเรียนรู้ หดตัวลง ในขณะที่สมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ขยายตัวใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผลและการวิเคราะห์ไตร่ตรอง ดังจะพบพฤติกรรมดังกล่าวได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์ หรือตามเว็บบอร์ดทั่วไป สาเหตุที่ทำให้คำนี้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นไม่ใช่เพราะมันถูกนำมาใช้เป็นคำแฟชั่นหากแต่กลุ่มคนประเภทดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็วจนยากที่จะหยุดยั้งได้ต่างหาก
กลุ่มที่อยู่ในสภาวะ เกรียน
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดจนเหมารวมไปเลยว่า เกรียน คือ กลุ่มเด็ก ตั้งแต่ ป.1 จนถึง มัธยมปลาย ที่ตัดผมสั้นเกรียน สาเหตุที่หลายคนตีความแบบนั้นอาจจะเป็นด้วยลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นคือทรงผมที่เลี่ยนเกรียนติดหนังหัว ซึ่งความจริงแล้วตาม “กฎของ เกรียน” หรือ “เกรียน Law” นั้นลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงรากศัพท์ของคำว่า เกรียน เท่านั้นเอง หากแต่ในความเป็นจริง ตามหลักของ “เกรียน Law” คือ “ความเกรียนไม่จำกัด ทรงผม อายุ เพศ หรือ ฐานะ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในความเกรียนเหมือนกันหมด” ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า สภาวะเกรียน เป็นสภาวะของพฤติกรรม ทางความคิด หาใช่ลักษณะทางกายภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจกันไม่
ทำไมต้อง เกรียน
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเป็นเวลาหลายวันผมได้พบว่า คำเหยียดสติปัญญาคำนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า กลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะเกรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์ อาจจะด้วยเพราะเกมออนไลน์ในบ้านเรา เปิดกว้างมากจนเกินไป จนเกิดการกระจุกตัวทางการแสดงออกในสถานที่เดียวกัน จนเมื่อเด็กๆ เกิดการคลุกคลีกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่อยๆ จึงดูดซึมพฤติกรรมเลวร้ายเหล่านั้นมาใช้โดยไม่มีคนคอยให้คำแนะนำ โดยพฤติกรรที่เราจะพบเห็นได้จากเด็กที่อยู่ในสภาวะเกรียนก็คือ การกระทำที่ไร้ความคิด พฤติกรรมไร้เหตุผล พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด เมื่อเข้าสู่สภาวะเกรียนสมองซีกซ้ายจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเข้าระงับสติด้วยการ เบิร์ดกระบาล ซีกซ้ายซะหนึ่งที ก่อนที่อาการจะลุกลามถึงขั้น “โคบ้า” ถ้าเป็นพวกวิกฤติหนักๆ ก็อาจจะกลายเป็น “กระบือบ้า” ได้เหมือนกัน
อาการที่เรียกว่า เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม อยากเทพแต่ทำตัวถ่อย เกรียนประเภทนี้มีคนให้นิยามจำแนกออกมาเป็น กลุ่ม เทพเกรียน หรือ King of เกรียน หรือ เกรียน เหนือ เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ มักแสดงออกทางคำพูด มากกว่าทางความคิด หรือทีเรียกว่า “พูดโดยไม่คิด” ในบางรายจะชอบด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผล โดยเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกเสมอ จนบางครั้งก้าวล่วงไปถึงบุพการีของผู้อื่น
- ชาวเกรียนจะมีความสุขไปกับการ ด่าคนแบบไร้ เหตุผล และอดีนาลีนของชาวเกรียนจะสูบฉีดรุนแรงขึ้นเมื่อถูกด่าตอบ ชาวเกรียนมีพฤติกรรมที่ชอบเรียกร้องความสนใจ ดังจะพบได้ตามเว็บบอร์ด ในกระทู้ดักควายต่างๆ พอเห็นคนเข้ามาด่าก็นั่งยิ้มชื่นใจ จนกลายเป็นค่านิยมเสพติดของพวกเค้าไปแล้ว
-อาการหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก กลุ่มเกรียนคือจะเป็นกลุ่มคนที่มี IQ และ EQ ต่ำ เนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์ สมองไม่สามารถดูดซึมเหตุผลเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปลุกเร้าอารมณ์ก้าวร้าวจะตื่นตัวในทันที
จะหลีกเลี่ยงสภาวะ เกรียน อย่างไร
สภาวะเกรียนสามารถป้องกันได้โดยการสร้าง “ภูมิคุ้มกันโรคเกรียน” การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเกรียน การอ่านหนังสือ สะสมความรู้ ใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ คิดวิเคราะห์ต่างๆ รู้จักระงับอารมณ์ การเป็นคนมีเหตุผล เปิดโอกาสในการรับฟังผู้อื่น เหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้ นักวิชากรหลายท่านบอกว่า สภาวะเกรียนในเด็กจะหมดไปเมื่อพวกเค้าบรรลุนิติภาวะ แต่ในทัศนะของผมแล้ว การจะหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้คุณจะต้องบรรลุนิติภาวะทางความคิด ไม่ใช่อายุ เพราะอย่าลืมว่า ความเกรียนมีอิสระเสรี สามารถเข้าสู่ทุกคนได้ หากคุณมีพฤติกรรมต่างๆ ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นโปรดระลึกว่า สภาวะเกรียนได้ย่างกรายมาสู่คุณแล้ว อย่าปล่อยให้มันฝังรากเข้าสู่กมลสันดารของเราได้ รีบสะบัดมันให้หลุดพ้น ก่อนที่ชื่อของเราจะถูกเปลี่ยนเป็น “ไอ้เกรียน”
เอาหละ ท่านคงเบื่อกับคำว่าเกรียนแล้วใช่ไหมครับ เอาเป็นว่าสรุปกันเลยดีกว่า (แล้วก็ตัดบทโดยไม่รีรอความคิดเห็นจากใครอีกครั้ง)
เกรียนมาจากคำว่า
ติดหนังหัว สั้นมาก
...............................
แต่ในคำที่คนชอบใช้กันหมายถึง . . . (ทำท่าทีว่าอยากรู้หน่อยนะครับ ท่านผู้ชมทั้งหลาย
)
พวกอวดฉลาด โง่แต่ชอบโชว์พาวแล้วแป๊ก (ถ้าคิดว่าไม่ใช่ อยากเจอของจริงก็บอกนะครับ ยินดีสนอง)
เด็กที่อายุไม่เกิน18แล้วมาทำนิสัยโง่ เถียงคำไม่ตกฟาก (แต่บางครั้งเราก็พบคนแก่หัวใจเกรียนได้ !?)
รู้ไม่จริงแล้วยังมาพูดพวกมั่วซุยปัญญาอ่อนสมองเท่าหางอึ่ง ทำเปนกระแดะอวดภูมิ (อย่างเช่นข้อความแรกสุด)
และอย่างท่านข้างบน ทางห้องวิจัยเกรียนของนาย bUsTErKiNG ก็ได้วิเคราะห์ออกมาแล้ว
ซึ่งผลก็ออกมาแล้วครับว่า . . มาว่า . . . "เกรียน 100% โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น"
สาเหตุที่ทางห้องวิจัยวิเคราะห์ออกมา ได้ผลเป็นเช่นนี้ ซึ่งทางนักวิจัยเห็นตรงกันทั้งหมดเกี่ยวกับนายคนนี้คือ
# เสพหญ้าสดเป็นอาหารเช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ และดื่มน้ำคั้นหญ้าสดตลอดทั้งวัน
# เมื่อเสพหญ้าสดเป็นจำนวณมากๆ จึงให้ผลเกิดการ "ดีดหญ้า" ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการหญ้าอุดตันสมองทำให้เหตุผลหายไป
# เมื่อเหตุผลหายไป ก็เกิดมีความมั่นใจในตัวเองสูง
# เมื่อมีความมั่นใจสูงก็เริ่มที่จะคิดว่าตัวเองนั้นเป็นเทพขึ้นมาทันทีทันใด
# เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นเทพก็เริ่มอยากจะทำอะไรบางสิ่งบางอย่างเพื่อโชว์ความเทพของตัวเอง
# เมื่อความรู้สึกอยากโชว์ความเทพหลั่งออกมา แต่เนื่องด้วยความสามารถของสมองลดลง เนื่องจากมีหญ้าเข้าไปอุดตันเกินขนาด
# ซึ่งถึงจะมีหรือไม่มีอาการนี้ ก็ไม่สามารถที่จะมีความสามารถพอ ที่จะโชว์ความเทพของตัวเองได้ เนื่องจากไม่มีอะไรจะมาโชว์ใครเค้าได้
# แต่ครั้นที่จะโชว์ให้คนรอบข้างตัวเองเห็น ก็เกิดอาการไม่กล้า หรือถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ "ปอดแหกชุบแป้งทอด" (อย่าสงสัยว่าชุบแป้งทอดมายังไง มันก็คือใหญ่กว่าปอดแหกธรรมดา)
# แต่ถึงจะกลัวก็ยังมีอาการอยากโชว์เทพอยู่ เมื่อหมดหนทางเลยเริ่มที่จะเอาเข้าโลกที่ไม่เห็นตัวตนจริงๆ
(เพราะจะโชว์เทพแค่ไหนก็ได้ แต่อย่าไปท้าเลยครับเพราะท่านจะไม่มีโอกาสเจอแน่ๆ เนื่องจากเหตุผลข้อก่อนหน้านี้)
# เมื่อเข้ามาโลกแห่งนี้แล้วก็จึงรีบเริ่มแผนปฏิบัติการที่เรียกว่า "แผนเกรียนครองโลก" โดยการเริ่มคนอื่น ทำให้เกิดความแตกแยกของหมู่คณะ
# เมื่อโดนผู้คนด่าประนาณเยอะๆก็เริ่มเกิดความดีใจ (เป็นอาการของโรคนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยในโลกออนไลน์)
# เมื่อดีใจมากๆก็เริ่ม "แผนการเกรียนครองโลก" ขั้นต่อไปโดยเริ่มสร้างแตกแยกเพิ่มขึ้นอีกจากเดิม
# แต่ครั้นจะใช้ศัพท์ที่เรียกว่า "ภาษามนุษย์ที่มีการศึกษา" ตอบโต้แต่ความสามารถสมองของตนเองไม่สามารถพอ (อันนี้เป็นทั้งตอนมีอาการและไม่มีอาการ) จึงเริ่มใช้คำหยาบ
# เมื่อคำหยาบเริ่มออกมาแต่ก็ยังอยากที่จะรักษาหน้าตาไว้ก่อนจึงเริ่มแผนการขั้นต่อไป โดยการเริ่ม PM ด่าเป็นรายบุคคล เพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองให้ยังพอดูได้
# แต่เมื่อมีบุลคลเอามันมาประจาญ ทำให้หลักฐานมัดตัวไม่สามารถจะกลบเกลื่อนได้แล้ว จึ่งเริ่มเอาคำหยาบออกมาข้างนอก
# แต่คนั้นก็ยังไม่สามารถตอบโต้ได้อีกเนื่องจากความสามารถของสติปัญญาจึงเริ่มมีการท้าบุคคลอื่น เช่น การท้าดวล (ซึ่งก็ได้แค่ปาก เนื่องจากอาการ "ปอดแหกชุบแป้งทอด")
# ฯลฯ ที่นักวิจัยของนาย bUsTErKiNG เหนื่อยแล้ว ขี้เกียจสาธยาย เนื่องจากเหตุผลข้างบนก็เพียงพอที่จะบ่งบอกแล้ว (ซึ่งจริงๆแล้วแค่ข้อแรกมันก็เพียงพอแล้ว แต่ทางทีมงานยังมีสปีริต ไม่ทำงานชุ่ยๆ !?)
# แต่ก็ยังไม่อยากหยุดเดี๋ยวจะเป็นการ "เสียหมา" จึงเริ่มไร้ เหตุผลอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นได้ด้วยการมองผ่านๆเท่านั้น
แต่ทว่าเจอนาย bUsTErKiNG ที่ชอบพิมพ์อะไรยาวๆ (ถ้าคุณเห็นข้อความนี้แล้วยังไม่มั่นใจก็ไม่รู้จะพูดเช่นไรแล้ว)
แต่เนื่องด้วยอาการหญ้าอุดตันมีมากเกินไปบวกกับพลังสมองที่ใช้การอะไรไม่ได้ จึงทำให้ไม่สามารถอ่านข้อความของนาย bUsTErKiNG ได้
แต่ก็ยังอยากจะตอบเลยส่งผลให้เกิดข้อความก่อนหน้านี้ขึ้นมา แต่ต้องแสดงความเสียใจกับท่านเกรียนอย่างสุด เพราะว่านาย bUsTErKiNG ไม่หลงไปตามคำพูดของเกรียนหรอก (อันนี้ทางนักวิจัยระบุมา ไม่ใช่ผมนะ :-D)
ซึ่งเกรียนสายพันธุ์นี้ ได้โดนความเกรียนครอบงำ จนไม่สามารถขุดความเกรียนให้ออกจากชั้นใต้นิสัยได้แล้ว
ทางนักวิจัยจึงเสนอว่า ให้ลืมบุคคลเกรียนไปเถิด ในเมื่อมันไม่อยากโผล่พ้นน้ำ อยากจะอยู่แต่ในตม ในดงฝูงของมัน ก็ปล่อยไปเถิด
จบรายงานของเหล่านักวิจัย พักชมสิ่งที่น่าสนใจสักโดยการกระพริบตา แล้วกลับมาพบกับนาย bUsTErKiNG กันต่อ (เอ่อ . . . !?)
ยินที่ท่านผู้ชมกลับมาพบกับนาย bUsTErKiNG กันต่อนะครับ (มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา แล้วนาย bUsTErKiNG ก็หายตัวไป)
จึงทำให้ทางทีมงานต้องหาบุคคลมาดำเนินรายงานต่อ (ซึ่งบุคคลที่ทีมงานส่งออกมา หน้าคล้ายนาย bUsTErKiNG ยิ่งกว่าฝาแฝดซะอีก)
"เนื่องจากอุบัติเหตุบางประการ ทำให้นาย bUsTErKiNG ไม่สามารถดำเนินรายการต่อได้ ทางทีมงานจึงต้องตัดสินใจหยุดการออกอากาศแต่เพียงเท่านี้ โชคดี ราตรีสวัสดิ์"
(แล้วก็ตัดบทไปเลยทิ้งไว้เพียงข้อความที่ว่า "โอกาสหน้าขอเชิญพบกับศึกประทะ Troll Vs เกรียน ดุเด็ดเผ็ดมัน ถึงพริกถึงเผือก อย่าลืมติดตามชมกันให้ได้นะครับ")
ท่านผู้ชม : (มึนงงกันสักพักใหญ่ แต่มีบุคคลหนึ่งหายจากอาการนี้ขึ้นมาคนแรก)
บุคคลนั้น : อ้าว เฮ้ยย !! ก็***ไม่ใช่หรอ bUsTErKiNG มาต่อรายการให้จบสิวะ แล้วตอนต่อไปจะมีเมื่อไรบอกด้วยสิวะ
(แล้วผู้ชมแต่ละท่านก็เริ่มฟื้นจากความมึนงง แล้วก็เริ่มใส่อารมณ์กันใหญ่ เนื่องจากนาย bUsTErKiNG ทำรายการสนุกมาก ยังอยากดูต่อ !!?)
แต่ทว่า . . . นาย bUsTErKiNG ทีมงานดำเนินรายการ และนักวิจัยทุกคน ได้หายสาบสูญไปทั้งคณะ ~
-----------------------------
เป็นบทความจาก ท่าน bUsTErKiNG ที่สั่งสอนเกรียนในเวบน่ะครับ
อ่านกันหนุกๆนะครับ
Comment