ชอบ4GBโดยส่วนตัว ใครจะว่าอืดก็ช่างมันปลัย พอใจซะอย่าง กากไม่กากก็ใช้เงินส่วนตัวซื้อไม่ได้ขอใครซะกะหน่อย
Announcement
Collapse
No announcement yet.
ใส่แรม2Gกะ4G ต่างไหม
Collapse
X
-
-
ผมสงสัย ว่า วิสต้ามันไม่เห็นหรอ 4GB เนี่ย
ผมว่ามันต้องเห็นสิ Ms ยังเคยออกมาบอกเลยว่า รับแรมได้เยอะมาก (128GB เลยนะ คิดว่ากี่เท่าของ 4GB ละ)
คุณ Artemis พูดก็พอเข้าใจ
หลายๆคนที่บอกว่า 4GB มันเยอะเกิน
ผมว่าพวกเขามองไปที่ XP มั้ง
ลองไปใช้วิสต้าดูบ้างก็ได้นะ ผมเองก็ไม่เคยใช้หรอกวิสต้า
เพราะสเปคไม่ถึง แต่ก็อยากใช้มากๆ
หรือไม่ก็รอ ก.พ. 2551 วินโดวส์ server 2008 ก็มาแล้ว
นั่นแหละ สเปคเทพ มากๆ
แล้วสงสัย
dreamscence (เขียนถูกมั้ย)
มันคืออะไร
ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
ขอบคุณLast edited by kengz; 7 Aug 2007, 16:42:10.
Comment
-
แรมมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอครับ ต่างแต่ว่าเราอยู่ในช่วงเวลาไหนเท่านั้นเอง
สมัย Windows 98
สัก 32M ก็ Run ได้ 64M ก็แจ๋ว ใครมี 128M ก็มีคนถามว่าเอาไปทำอะไรเยอะแยะ
สมัย Windows ME - Windows 2000
128M กำลังพอดี ใครมี 256M ก็มีคนถามว่าเอาไปทำอะไร
สมัย WinXP ยุคต้นๆ ผมว่าช่วงนี้นานหน่อยนะ
แรกๆก็แนะนำที่ 256M หลังๆก็ 512M ใช้งานทั่วๆไปได้หมด ทุกวันนี้ถ้าเครื่องไหนมี 512M มันก็ยังโอเคอยู่นะ แต่ในเมื่อมีโปรแกรมใหม่ๆที่แอบขอแบ่ง Ram มากขึ้นๆ และเมื่อจ่ายเท่าเดิมและได้ Ram เพิ่มขึ้น ความต้องการพื้นฐานก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ
สมัย WinXP ช่วงหลังๆ(หลังมี SP2-ปัจจุบัน)
พอแรมราคาถูกลงแน่นอนครับก็แนะนำที่ 1G จนมาถึง 2G
ถ้า Vista เริ่มมีคนหันมาใช้กันมากขึ้นแน่นอนครับเดี๋ยวก็แนะนำกันมากกว่านี้อีก แต่ต้องเป็น Vista 64 Bit ครับ เพราะ Vista 32Bit ก็เห็นได้ 3G กว่าๆเช่นเดียวกับ WinXP และ OS 32Bit ทั้ง XP และ Vista โปรแกรมแต่ละโปรแกรมสามารถใช้ Ram ได้มากสุด 2G ครับ ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง OS ใช้ครับ และถ้าจะให้ใช้ได้มากกว่านี้บน 32 Bit ก็ต้องเขียน Code กันแบบพิเศษ (อันนี้จากที่เคยอ่านคร่าวๆในเว็บ Anandtech ครับ)
ร่ายเสียยาว ที่ผมอยากจะบอกคือช่วงนี้ถ้าใส่ 4G อาจเห็นผลกับบางงานครับแต่ไม่มากเพราะ
1. มันเห็น 3G กว่าๆ สมมุติว่า 3.5G แล้วกัน
2. โปรแกรมที่ทำมาสำหรับ 32Bit ส่วนมากแล้วมันจะใช้ Ram ไม่เกิน 2G ครับ สมมุติว่าใช้เต็มที่ 2G WinXP ใช้อีก 500M มันก็คือประมาณ 2.5G ครับ ซึ่งเท่ากับว่ามีอีก 1.5G ที่ยังไม่ได้ใช้
แต่ถามว่า Up แล้วผิดไหมผมว่าไม่ผิดครับ ผมก็ซื้อเครื่องไม่นานนี้ผมก็ใส่ไว้ 3G ครับ อย่างที่เขียนไปข้างบนว่ายังไง Ram ก็ไม่เคยพอ แต่มันอยู่กับช่วงเวลาเท่านั้นเอง ถ้าซื้อพร้อมกัน Ram Chip เดียวกันมันก็เสถียรกว่าที่จะต้องมาเสียเวลาส่อง Ram ทีหลังถ้าต้องการหลังจากตอนนี้อีก 1 ปี และอย่างที่รู้กันว่าเดี๋ยวราคาพี่แกก็ขึ้นไปดื้อๆ บางทีตอนที่ต้องการใช้ก็กลับซื้อไม่ลง
ผมว่าคอมหลายๆเครื่องพร้อมลง Vista นะครับถ้าไม่ติดที่ Ram น้อยไปและก็ไม่อยากเพิ่มเพราะ DDR1 มันราคากระโดดขึ้นไปเสียแล้ว
สรุปอีกรอบ เพิ่มแล้วน่าจะต่างถ้าโปรแกรมเขียนมาเพื่อ 64bit และใช้ OS ที่เป็น 64bit ครับ
Comment
-
ผมใส่ 4 กิ๊ก ไม่ค่อยเห้นความแตกต่าง ถ้าใช้งานทั่วๆไป
แต่
ผมต้องรันงานที่มันกินแรมมากๆ (งานนึง ใช้แรมเกือบ 600 เมก) แล้วเปิดพร้อมๆกันหลายงานเพื่อลิ้งค์งานกันอีก อันนี้เห็นผลแน่ครับ ใส่ 4 แถว ลื่นกว่าหน่อยนึง และไม่ต้องรำคาญกับคำเตือนเรื่องวิชชวลเมมต่ำอีกด้วย
Comment
-
เอานี่ไปดูครับ จะได้หายข้อข้องใจกันไปนะ --->> http://www.pcstats.com/articleview.c...id=2128&page=1
Comment
-
Originally posted by kengz View Postผมสงสัย ว่า วิสต้ามันไม่เห็นหรอ 4GB เนี่ย
แล้วสงสัย
dreamscence (เขียนถูกมั้ย)
มันคืออะไร
ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
ขอบคุณ
ทำให้คอม(ที่สเปกแรง) ดูน่าใช้ขึ้นอีกเยอะ
ทางเทคนิค จะต้องลงอัพเดท(ไม่ได้ติดมากับแผ่น)ของms จะอยู่ในหมวดของ Extras
ติดตั้งเหมือนวินโดวส์อัพเดททำมะดาๆ เสดแล้วหน้าจอเปลี่ยนเดสท้อป(Personalized) จะมีเพิ่มตรงส่วนที่เป็น Windows Dream scene แล้วเราสามารถBrowse ไฟล์วิดีโอ หลายๆ ชนิดในเครื่องเรา มาเป็นภาพวอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหวได้
จริงๆ โปรแกรม VLC ก็ทำได้ครับ คงมีคนเคยลองกันบ้างแล้ว แต่ตัว Dream Scene มันแจ่วกว่าตรงที่เวลาเราขยาย Windows ใดๆ ก็ตามเต็มจอ(ทำให้ไม่เห็นวอลเปอร์ที่เดสท้อป) มันก็จะหยุดอัตโนมัติ เมื่อเราปิดหน้าต่าง/ย่อลง วิดีโอวอลเปเปอร์ถึงจะเห็นเล่นต่อ ทำให้ไม่เปลืองซ๊พียูขณะทำงาน และสะดวกในการตั้งไฟล์วิดีโอนั้นๆ เป็นDream Scene แค่คลิกขวาที่ไฟล์วิดีโอก็จะมีคำสั่งย่อยให้ตั้งไฟล์นั้นเป็น DreamScene (คล้ายคำสั่ง Set as Desktop Background เมื่อเราคลิกบนไฟล์รูปภาพทำมะดา)
อีกทั้งเมื่อตั้งแล้วหากเป็นไฟล์วิดีโอที่มีเสียง เช่น หนัง ,MV ก็จะมีการ Mute เสียงให้โดยอัตโนมัติ และไม่ต้องการโปรแกรมใดๆ เพิ่มอีก แต่เราก็ยังสามารถไปเปิดเสียงจากวิดีโอDream Sceneนั้นๆ ได้จาก volume Mixer ของวิสต้า(คนใช้วิสต้าคงรู้แล้ว ว่ามันสามารถปิด/ปรับเสียง เฉพาะโปรแกรมใครโปรแกรมมันได้จาก Volume Mixer เลย) อีกทั้งเมื่อชัตดาวน์แล้วรีสตาร์ทใหม่ ไฟล์วิดีโอที่ทำ DreamScene ที่เดสท้อป ก็จะยังคง Play เหมือนเดิม(ในขณะที่ VLC ต้องมากด Play เพื่อเล่น Video File เมือเปิดเครื่องใหม่)
จากที่ทดลองคือมันสูบแรมมากกก หน่วงการ์ดจอ(โดยเฉพาะออนบอร์ด บางครั้งถึงขั้น Aero ล่มไปหลายนาที) กินซีพียู(ถึงได้บอกไว้แต่ต้นว่าเหมาะกับเครื่องแรงๆ) แต่สวย โดยเฉพาะถ้าเป็นไฟล์ความละเอียดสูงๆ เนียนๆ เชน Aura , น้ำตก สวยๆ
Comment
Comment