ผมใช้ Coolermaster Real power 450W อยู่อ่ะคับ แต่มันมี 2 รุ่น คือ มีไฟที่พัดลม กะ ไม่มี แล้วตัวมีมัน active ส่วนธรรมดามันไม่active ประสิทธิภาพจะต่างกันมากไหมคับ เพราะราคาเท่ากันเลย(อาจต่างแต่คงไม่เกิน200หรอก)
Announcement
Collapse
No announcement yet.
PFC กะ Non-PFC ต่างกันมากมั้ย
Collapse
X
-
pfc ไม่ใช่ power fan control
มันคือPower Factor Correction
ไม่ได้เกี่ยวกับพัดลมเลยครับ มันคือระบบปรับค่าสัมปสิทกำลังของกระแสสลับให้เหมาะสมตามอุปกรณ์ที่ใช้ครับ ส่งผลให้PSUสามารถทำงานได้เต็มกำลังมากขึ้นครับ เรื่องรายละเอียดผมไม่ค่อยถนัดนักเพราะไม่ได้จบไฟฟ้ามา ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับพัดลมครับ
Comment
-
ท่าทางจะเป็นตามนั้น เพิ่งเจอใน google เหมือนกันOriginally posted by fedora038 View Postpfc ไม่ใช่ power fan control
มันคือPower Factor Correction
ไม่ได้เกี่ยวกับพัดลมเลยครับ มันคือระบบปรับค่าสัมปสิทกำลังของกระแสสลับให้เหมาะสมตามอุปกรณ์ที่ใช้ครับ ส่งผลให้PSUสามารถทำงานได้เต็มกำลังมากขึ้นครับ เรื่องรายละเอียดผมไม่ค่อยถนัดนักเพราะไม่ได้จบไฟฟ้ามา ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับพัดลมครับ
With real dual-12V rail output providing separate power consumption for the processor and peripherals such as hard drives, optical drives, graphics cards etc., the Atlas-55GA enables stable power source to all parts of the system. The Atlas-55GA offers Active PFC (power factor correction) to raise power factor to 98%.
Comment
-
Power Factor
คือ อัตราส่วน ระหว่างกำลังไฟฟ้าที่ใช้จริง (วัตต์) กับ กำลังไฟฟ้าปรากฏ หรือกำลังไฟฟ้าเสมือน (VA) ซึ่ง ค่าที่ดีที่สุด คือ มีอัตราส่วนที่เท่ากัน จะมีค่าเป็นหนึ่ง แต่ในทางเป็นจริงไม่สามารถทำได้ ซึ่งค่า Power Factor เปลี่ยนแปลงไปตามการใช้ LOAD ซึ่ง Load ทางไฟฟ้ามีอยู่ 3 ลักษณะ คือ
1. Load ประเภท Resistive หรือ ความต้าน จะมีค่า Power Factor เป็นหนึ่ง อันได้แก่ หลอดไฟฟ้าแบบใส้ เตารีดไฟฟ้า หม้อหุงข้าว
เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น ถ้าหน่วยงานหรือองค์กร มี Load ประเภทนี้เป็นจำนวนมาก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงค่า Power Factor
2. Load ประเภท Inductive หรือ ความเหนี่ยวนำ จะมีค่า Power Factor ไม่เป็นหนึ่ง อันได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ขดลวด เช่น มอเตอร์
บาลาสก์ของหลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดแกสดิสชาร์จ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าหน่วยงานหรือองค์กรส่วนใหญ่ จะหลีกเลี่ยง
Load ประเภทนี้ไม่ได้ และมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ ค่า Power Factor ไม่เป็นหนึ่ง และ Load ประเภทนี้จะทำให้ค่า Power Factor
ล้าหลัง ( Lagging ) จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงค่า Power Factor โดยการนำ Load ประเภทให้ค่า Power Factor นำหน้า ( Leading )
มาต่อเข้าในวงจรไฟฟ้าของระบบ เช่น การต่อชุด Capacitor Bank เข้าไปในชุดควบคุมไฟฟ้า
3. Load ประเภท Capacitive หรือ Load ที่มีตัวเก็บประจุ (Capacitor) เป็นองค์ประกอบ Load ประเภทนี้จะมีใช้น้อยมาก จะมีค่า Power Factor
ไม่เป็นหนึ่ง Load ประเภทนี้จะทำให้ค่า Power Factor นำหน้า ( Leading ) คือกระแสจะนำหน้าแรงดัน จึงนิยมนำ Load ประเภทนี้
มาปรับปรุงค่า Power Factor ของระบบที่มีค่า Power Factor ล้าหลัง เพื่อให้ค่า Power Factor มีค่าใกล้เคียงหนึ่ง
ข้อดี ของการปรับปรุง ค่า Power Factor
- กระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรไฟฟ้าลดลง
- หม้อแปลง และสายเมนไฟฟ้า สามารถรับ Load เพิ่มได้มากขึ้น
- ลดกำลังงานสูญเสียในสายไฟฟ้าลง
- ลดแรงดันไฟฟ้าตก
- เพิ่มประสิทธิภาพระบบไฟฟ้าทั้งระบบ
อ้างอิงจากลิ้งอันนี้นะครับ http://homepage.eng.psu.ac.th/adm/ak...tric-basic.htm
Comment
Comment