BIpolar Disoder

[zakeya]

ใครaddict คอมจนเป็นโรคนี้บ้างยกมือขึ้น

สวัสดีชาว sick people SRITHANYA CAFE

http://www.bloggang.com/viewblog.php...oup=11&gblog=5

หาหมอ.....เริ่มต้นการรักษา... Bipolar Disoder



บีนัดพบคุณหมอวันพุธ
มาตามนัด วันแรกก็เห็นคนจิตผิดปรกติแล้ว
เห็นคนโวยวายด่าไฟแลบ
เห็นคนแปลกๆมากมายมานั่งข้างๆ
แต่ก็เห็นคนที่ดูปกติมากมายที่ดูเหมือนไมไ่ด้ป่วยอะไรเลย

คุณหมอเป็นผู้ชาย ต่างจากท่านก่อนที่เป็นผู้หญิง
และเปลี่ยนโรงพยาบาลด้วย เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
คุณหมอถามว่า
"ทำไมถึงเปลี่ยนโรงพยาบาลล่ะ ทำไมไม่รักษาต่อให้ดีก่อน"
คือเปลี่ยนที่เรียนคะ เมื่อก่อนเรียนแถวนั้นเลยหาแถวนั้น
ตอนนี้เรียนแถวนี้เลยย้ายโรงพยาบาลมาแถวนี้

คุณหมอก็โอเค รับรักษาแต่คุณหมอก็บอกว่า อยากให้ไปเอา
แฟ้มประวัติเก่ามาให้ดูด้วยว่าเมื่อครั้งแรกนั้นเป็นยังไงบ้าง

คุณหมอให้เล่า เกี่ยวกับประวัติของตัวเอง
สาเหตุทำไมถึงรู้สึกว่าตนเองป่วย
บีก็เล่าไปว่า
"ตั้งแต่จำความได้ ใครๆก็บอกว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน
ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงคะ อารมณ์จะชุนเชียวมาก เวลาใครทำให้เราไม่พอใจ
และจะรู้สึกน้อยใจมากๆ เวลาเราเสียใจ
หรือความรู้สึกได้ความรักจากพ่อแม่น้อยกว่าพี่และน้อง
พ่อมีปัญหา กับที่บ้าน โดยเฉพาะพี่น้องจะมีลงไม้ลงมือเสมอ
และจบปัญหาด้วยการถูกแม่ตี
คิดมาก คิดฆ่าตัวตาย
คิดจนมีภาพหลอนอีกแล้ว
อยากตายๆไปให้จบสิ้นเรื่องสิ้นราว

มันเจ็บปวดมากที่เราคิดแต่ว่าเรานั้นแหละถูก
แต่ทำไมคนอื่นมองว่าเราผิด
บีจะหนีขึ้นมาห้องนอนร้องไห้ดังๆ แล้วก็เขียนบรรยายความรู้สึกตอนนั้น
ให้ตัวเองได้ปลดปล่อย
แต่พอระยะเวลาผานได้ได้พักนึง
มันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก็สุขสบายดี รู้สึกโลกนี้ก็น่าอยู่ดี
ความคิดบางช่วงมีแรงที่จะทำโน้นทำนี่เต็มไปหมด
มีแผนวางไว้เยอะ ว่าจะทำไรบ้าง
ตั้งแต่ไปเมืองนอก
อยากเที่ยวBagpackerคนเดียว
อยากไปศูนย์เลี้ยงช้างที่เชียงใหม่
ไปเป็นประสบการณ์แต่แม่เค้าก็ไม่ให้ไปอีก กลัวเราแพ้โน้นนี่
บางทีก็ไปเต้นหน้าเวทีคอนเสิร์ท โดยไม่ได้อายใครเล้ย
ยิ่งเวลาช้อปด้วยแล้ว ยิ่งเอาไม่อยู่
มีเงินเท่าไหร่ ช้อปจนเหลือเงินพอแค่กลับรถเมล์กลับบ้านเป๊ะ

ข้าวของมากมาย วุ้่นวายไปหมด
ชีวิตยุ่งเหยิง แต่ก็เดียวดายเหมือนขาดไรไปสักอย่าง"

คุณหมอก็พยายามเสริม แบบนี้ใช่ไหม
"อืม เพื่อนรังเกียจเราเหรอ"
"อืม" ให้กำลังใจ "ไม่หรอก อย่าคิดแบบนั้น"

แล้วคุณหมอก็บอก เอาล่ะ หมอจะบอกโรคที่หนูเป็นนะ
หนูเป็น2โรค คือ intermittent explosive Disorder โรคที่ระเบิดออกมาเป็นช่วงๆ Bipolar Disorderโรค 2 ขั้ว หรืออารมณ์แปรปรวน

บีนั่งอึ้งอยู่แป๊ปนึงก่อนจะถามว่า
"แล้วมันคือโรคร้ายแรงไหมคะ"
คุณหมอ "เอาล่ะ ฟังหมอดีๆนะ โรคที่หนูเป็น
ไม่ใช่โรคร้ายแรง ไม่ใช่โรคติดต่อ
เป็นโรคทางสมอง ซึ่งเกิดจาก สารสื่อนำสมองของคนเรามันไม่เท่ากัน
ทำให้เราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้
เปรียบเสมือนเราเป็นรถยนต์ที่ไม่มีเบรค หรือเบรคมาช้า
เมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆมากระตุ้น
มันก็ทำให้เกิดอารมณ์นั้นขึ้นรุนแรงกว่าคนอื่นๆ
และมีอาการสลับไปมา ระหว่าง ด้านซึมเศร้า และด้าน มาเนีย(คึกคัก)

บี "หมอคะ มันเกิดจากอะไรเหรอคะ ทำไมหนูถึงเป็น
คุณหมอ" ยังไม่มีผลการทดลองที่แน่ชัด แต่ที่เค้าวิจัยกัน
น่าจะมาจากรรมพันธุ์ซะเป็นส่วนมาก"

"หมออยากให้หนูเข้าใจว่า หนูเป็นแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหนูไม่ดี
แต่เป็นเพราะโรคที่หนูเป็น หนูป่วยหนูก็ต้องรักษา"

บี "แล้วการปฏิบัติธรรม กับ นั่งสมาธิช่วยรักษาได้ไหมคะ"
คุณหมอ "ไม่ได้ครับ แต่เราสามารถใช้ควบคู่กับการรักษาไปด้วย
ก็จะเห็นผลดีมากขึ้น"

"ครั้งหน้าหมอขอเชิญคุณพ่อ คุณแม่ หรือญาติๆ ใครมาก็ได้มาด้วยนะ
บอกแม่ว่าหมออยากคุยด้วย"
บี"หนูไม่อยากให้แม่ัรับรู้เรื่องที่หนูป่วยเลยคะ กลัวแม่คิดมาก"
คุณหมอ" ไม่ต้องกลัว หมอมีวิธรพูดของหมอที่จะไม่ทำให้แย่ลง
การรักษาที่ดีจะต้องได้รับความร่วมมือจากครอบครัว
ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องเข้าใจในสิ่งที่หนูเป็น"

บี"หมอคะหนูเป็นโรคนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
คุณหมอ"เป็นตั้งแต่เกิดแล้ว เป็นกรรมพันธุ์
แต่เรารักษาได้ และกลับไปใช้ชีวิตกับคนอื่นๆในสังคมได้เหมือนคนปกติ
มีนักการเมืองทั่วไปยังเป็นเลย
ล่าสุดก็ รู้จักติวเตอร์ดังๆที่สอนฟิสิกส์ แล้วมีคดีกันอยู่จำได้ไหม
นั้นแหละ เค้าก็เป็น ก็ต้องรักษา เค้าไมไ่ด้บ้า"

คุณหมอ "แล้วการเรียนละเป็นยังไงบ้าง"
บี "ก็เกรดปานกลางคะ ก็3.1-3.2"

คุณหมอ "โชคดี ที่โรคนี้ไม่มีผลความฉลาดของผู้ป่วยหน่ะ
สามารถเรียนหนังสือได้ตามปกติ และดีซะด้วยในบางครั้ง"

บี"หมอคะ หนูกลัวคนอื่นจะหาว่าหนูเป็นโรคจิต"
คุณหมอ "เห็นคนบ้าเดินไปเดินมารึเปล่า
พวกนี้เค้าสามารถรักษาให้หายได้นะ
แต่เค้าไม่มีญาติพามารักษา
เดี่ยวนี้การแพทย์ไปไกลสามารถรักษาได้มากแล้ว
ไม่ต้องกังวล หมอมีหน้าที่ที่จะอธิบายให้่ญาติพีน้องได้เข้า
ว่าเราเป็นอะไร ไม่ใช่ความผิดของเราที่เราเป็น"

บี"ขอบคุณมากคะหมอ"
น้ำตาไหลอาบแก้มซะอื้นตลอดเวลาจนตาบวมมาก

"ยาที่หมอจัดให้ จะมีผลข้างเคียงนะ
ทานแล้วจะง่วงนอน มือสั่น และเสียดท้อง
จะทำให้ทานอาหารมากขึ้น คนส่วนใหญ้ท้อที่จะรักษา
เพราะกลัวอ้วนเลยทำให้กลับมาเป็นอีก"

คุณหมอจัดยามาให้2อย่าง แคบซุลสีเขียวเหลืองกินเช้า
เม็ดขาวๆก่อนนอน อีก1สัปดาห์ต้องมาพร้อมแม่

ไม่อยากให้แม่ไปด้วยเลย แม่ต้องเสียน้ำตากับบีแน่ๆ สงสารแม่จัง



Create Date : 19 ตุลาคม 2551
Last Update : 22 ตุลาคม 2551 1632 น.

Counter : 141 Pageviews.

thanks B

[zakeya]

ใครเป็น เมลล์มาคุยกับเรานะ

Zakena_vs@yahoo.com