Originally posted by Poeeoe
View Post
Announcement
Collapse
No announcement yet.
ขอเสี่ยงตาย ... ไม่รู้จะไปห้องไหนดี ขอถามเรื่องเรียนมหาลัยในสายคอมพิวเตอร์ครับ > <
Collapse
X
-
อ่านหลายความเห็นละ ค่อนข้างเป็นประโยชน์พอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะไปแนวๆประสบความสำเร็จ และไปทำอะไรกันทั้งนั้น
งั้นผมขอสวนกระแส ผมขอเล่าในแนวๆ คนที่ล้มเหลวอย่างผม จากประสบการณ์ตรงจากผมบ้างนะครับ...
เมื่อก่อน ตอนผมอยู่ ม.ปลาย ผมก็แบบนี้แหละครับ ชอบเล่นเกมส์ แล้วก็มาชอบคอม จากนั้นก็ศึกษา Hardware ไปจนถึง ซ่อมประกอบคอม ลงโปรแกรมได้ อยู่ในระดับที่คนรอบข้างไว้ใจ ตอนนั้นผมก็ชอบคอมแหละครับ
ใครๆก็บอกว่า ผมน่ะเรียนคอมน่าจะรุ่ง เพราะพื้นฐานผมดี... แต่พอผมได้เรียน ปวส. เท่านั้นแหละครับ ได้เรียนพวกภาษา C , เรียน Microprocessor MCS-51 , เรียนวิชา Digital เท่านั้นแหละครับ แทบกรี๊ด... เรียนไม่รู้เรื่องเลย
คือผมชอบเล่นคอทนะครับ ซ่อมประกอบคอมได้ นึกว่าเรียนแล้วจะได้เปรียบ ที่ไหนได้... ไอ่ที่เรียนมามันคนละเรื่องเลย และไอ่เรื่องที่ผมถนัด ผมกลับไม่ได้เข้าใกล้มันเลยแม้แต่น้อย แค่วิชาที่เกี่ยวกับ Network หัวผมก็แทบไม่ไปละครับ
สุดท้ายก็เลิกครับ ไม่เอาละ เรียนแค่ให้มันผ่านๆไป... จากนั้นจึงเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมตัดสินใจแล้วครับว่าจะไม่เรียนอะไรที่เกี่ยวกับคอมอีกเลย
เพราะ แค่วิชาพื้นฐานที่ไม่ได้ลงลึกในระดับ ปวส. ผมก็แทบไปไม่เป็นแล้วครับ ผมจึงเรียนต่อ ป.ตรี โทรคมนาคม
พอได้มาเรียน ป.ตรี โทรคมนาคมเท่านั้นแหละครับ แม่เจ้า... ภาษา C , MCS-51 , Sci Lab มันมาอีกแล้ว เท่ากับว่า วิชาพวกนี้ผมได้เรียนอีกรอบครับ (ผ่าน ปวส. มาแล้ว) แต่เกรตมันก็งั้นๆ อยู่ดี เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องครับ มันยากสำหรับผมนะครับ
แต่ชีวิตการเรียน ป.ตรี ต่อเนื่องของผมตลอด 2 ปี ผมก็ถูไถมันมาเรื่อยๆ จนจบออกมาได้... แต่คนมันไม่มีความรู้ ผลก็คือ จบมาได้ แต่ทำงานไม่ได้ครับ ปริญญาที่ได้มันจึงเป็นแค่กระดาษใบนึงสำหรับผม
ปัจจุบัน... ผมทำงานด้วยวุฒิ ปวส. ครับ แต่ก็เป็นงานที่ไม่ได้ตรงสายกับที่ผมจบมาเลย... ผมจบ ปวส. เครื่องสื่อสาร จบ ป.ตรี โทรคมนาคม แต่ทำงานเป็นช่างซ่อมแอร์
ซึ่งในวันนี้ผมก็ Happy ดีครับ มีความสุขนะ เงินเดือนก็พออยู่ได้ ไม่ได้ถือว่าฟู่ฟ่าอะไร แต่ผมมีเวลาให้ครอบครัวพอสมควร ผมพอใจกับชีวิตของผมแล้วครับ
Comment
-
ตอบในฐานะคนวิทย-คอม และที่เคยคุยกับคนอื่นที่มหาลัยอื่นที่เรียนมาหนักกว่า
ส่วนใหญ่หลักสูตรแทบจะทั้งหมดจะพวกนี้
เขียนโปรแกรม [Programer] (พวกเทคโนสารสนเทศ/Multimedia ยังไงต้องเจอแต่อย่างมากพื้นฐาน เช่น C / Java เพราะยังไงหนีกับทำเว็บไม่พ้น)
ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ C
ส่วนภาษาเก่าๆ อย่าง cobol ไม่มีแล้วแต่ในธนาคารยังใช้อยู่ใครเก่งภาษานี้จะหางานสบายอีกนานจนกว่าธนาคารจะเลิกใช้พวก mainframe (ไทยเราเจ๋งใช้ประเทศแรกๆ จนตอนนี้คนอื่นเลิกในแล้วแต่เราก็ยังใช้อยู่ ฮ่าๆ)
C ยั่งยืนยงตลอดกาล ตราบเท่าที่มี OS อยู่เพราะเป็นภาษาเดียวที่ติดต่อ Hardware ได้ค่อนข้างดีและยึดหยุ่นมาก (แต่จะทำไอที่มันเจ๋งๆ ก็เหนื่อยนะ) ส่วนใหญ่คนที่สายนี้จะไปทำ linux กับ App ระดับไปทาง Hardware เพราะมันเป็นภาษาที่แทรก ASM เข้าไปได้ง่าย complie ได้สะดวก คนทำมีทั่วโลก
ถ้าเป็น high level อีกหน่อย จะเป็น C++ (OOP : Object-orientate Programming ) ซึ่งมันก็ไม่เหมือนเท่าไหร่หรอกแต่มันก้าวข้อจำกัดของ C ได้
เช่นออกให้ network ด้วยภาษา C ทำได้แต่โครตยาก (ถามคนเก่งบอกว่าได้ แต่ไม่เคยเห็นใครทำเหมือนกัน ฮ่าๆ)
Java (OOP : Object-orientate Programming ) (สงสัยกันไหมว่าทำไมหนังสือต้องรูปแก้วกาแฟ ตรงไปอ่านประวัติมันเอาเอง) ตอนนี้ดังมากเพราะมันใช้ใน linux android และฟรีจนกว่า oracle จะฆ่ามันทิ้ง แต่ java มีข้อเสียข้อเดียวคือเรื่องประสิทธิ์ภาพ กับไม่สามารถติดต่อ Hardware โดยตรง เพราะมันต้องรันบน JVM (Java virtual Machine)
จุดเด่นมันคือเขียนครั้งเดียว complie ครั้งเดียวเป็น .class .war .jar แล้วเปิดได้ทุกเครื่อง ทุก OS ที่ติดตั้ง java ไว้(ภาษาอื่นต้องเอา source code มา complie แยกซึ่งปัญหาข้าม OS วุ่นวายมากมาย)
ตัวนี้แนะนำเป็นอย่างมากๆ ว่าต้องเขียนเป็น เพราะจนกว่า windows phone หรือ iOS จะฆ่า android ได้ มันจะเป็นอมตะเหมือน C
นอกจากนี้มันก็ทำเว็บได้นะ ที่เป็น .jsp แถมดีด้วย เพราะใช้แค่ java+javascript+html+css จบ (ที่ทำงานใช้อยู่เพราะมัน control ง่ายกว่าพวก php)
visaul basic (OOP : Object-orientate Programming ) ยังอยู่เพราะ M$ (บอกตามตรงคนทำภาษานี้ถ้าไม่เก่งจริงผมไม่ชอบเท่าไหร่เพราะ tools ของ m$ มันทำให้เขียนง่ายเกินไป ง่ายจนบัคกระจาย เพราะลากๆ วางๆ จบรันได้ไม่ต้องสนใจ code) เป็นภาษาที่พัฒนาเร็วแต่แก้เหนื่อย (จากเพื่อนเล่ามา) แล้วก็แพง
หรือสาย office อาจจะเขียนเป็น (marco ไงที่เอามาทำไวรัสกันสนุกสนาน)
ภาษาที่นี้น่าจะนานเพราะมันทำกับ cystal report ง่าย (สร้าว report จาก database)
ASM : assembly หรือ Microprocessor(ภาษาเครื่องพวก mov ax,bx) จะเจอใน วิทย/วิศวะคอม เพราะมันลงลึกระดับ Hardware
web developer ตรงนี้แล้วแต่หลักสูตรแต่ที่่โดนทุกคนคือ SQL ใช้ติดต่อ database แต่ส่วนใหญ่มักจะสอนแบบธรรมดา ซึ่งทำงานจริงมักจะไปไม่รอด เพราะอะไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ส่วนใหญ่ต้องดูว่ามหาลัยอะไรถ้าอย่างบางที่ contact กับ M$ ก็เจอ all in one M$
ASP.net , silver light (ตายสนิทหาคนใช้งานจริงยากมากนอกจากใช้ใน thesis), sql server ,C# (ถ้าเทพจะรุ่งมากๆ แต่หาข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจาก M$ ลำบาก)
ส่วนใหญ่จะสอน php มากกว่า
แน่นอนการเขียนเว็บต้องตามด้วย
javascript (มันไม่ใช้ Java นะถึงจะชื่อคล้ายๆ กัน ความยากระดับปานกลางแต่ ไล่ debug ปัญหาระดับบรรลัย เพราะเวลา error มันไม่บอกอะไรเลย ถ้าให้ใช้ tool debug ใน browser ช่วย)
VBscript (ถ้าไม่อยู่กับ ASP .net คงไม่มีใครอื่นใช้)
ซึ่งจากที่ไอสองตัวบนมันค่อนข้างอิสระมาก ทำให้มีคนสร้างมาเป็นชุดอีกเพียบเช่น Jquery/dojo อื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งผมไม่ได้ไปสายนี้บอกอะไรมากไม่ได้
และสุดท้าย HTML/XML ซึ่งคนที่อยู๋สายนี้ต้องยอมรับเทพทุกคน เพราะต้องรู้อย่างน้อย 4 ภาษาขั้นต่ำถึงจะสร้าง web สวยๆ ที่ใช้งานได้จริง
(asp.net/php บน server, javascript + plugin พวก Jquery/dojo บน browser, HTML สำหรับข้อมูลเนื้อหาเว็บ, และ CSS ที่ใช้ตกแต่ง)
ซึ่งสาย web นี้ วิศวะคอมจะไม่เรียนกัน ถ้าไม่ลงทางนี้หรือชอบจริง เพราะเนื้อหาเยอะ เปลี่ยนบ่อย ต้องตามตลอดไม่งั้นจะสู้คนอื่นๆ ลำบาก
ส่วน programing+web developer นี้ยกมาแค่คร่าวๆ ที่นิยมใช้กัน จริงมันมีมากกว่านี้อีกทั้งใช้ของ IBM (ซึ่งไม่เห็นว่าจะมีสอน ส่วนใหญ่ที่ไปทำงานก็ต้อง traning กันใหม่อยู่ดี) หรือภาษาสมัยใหม่ TrueScript (คล้ายๆ javascript แต่เป็นของ M$), Dart ((คล้ายๆ javascript แต่เป็นของ Google), Python (Game สมัยใหม่มักจะใช้พวกนี้แล้ว หรือ App ดังๆที่รู้จักกันก็ Dropbox), Perl (web app ที่เป็น .cgi หรือ .pl บน linux)
ตรงนี้จะลงไปที่ network, hardware กับ OS, server ซึ่งเนื้อหากว้างไกลไพศาลมากๆ ถ้าไอบนๆ เยอะแล้ว มาเจออันนี้หนาวนะครับ
แต่ปกติ network ลงไม่ลึกมาก (ถ้ามากจริงต้องสาย NETWORK ถึงปลายทาง class สุดท้ายคือระดับโทรคมนาคม)
ตั้งแต่สาย lan ยัน wireless ทั้งหลาย แต่พวกนี้ใช้จริงไม่ค่อยน่ากลัวเพราะมันไปช้าไม่เร็วเหมือนข้อบน
อีกส่วนคือการทำตั้งแต่ OS/hardware/Security หรือบางที่ก็เหมารวมๆ เป็น It support ตำแหน่งเดียวทำ server ยันลง windows ให้ผู้บริหาร
ตรงนี้ยอมรับเลยว่าเด็กรุ่นปัจจุบันไม่น่าจะรอดแล้ว เพราะโดน M$ / apple ทำให้สบายกับ desktop หรือ GUI หมด เจอ command line ที่ส่ายหน้าอีกหมด
(ของจริงเลยเพื่อนที่มหิดล ICT inter สายนี้เจอ linux หวิดดับ เพราะเรียนมาแต่ M$ ทั้งดุ้นพอเจอ linux ไปถึงกับเกือบไม่รอด)
จริงๆ มันมีหมดทุกเครื่องนะ windows ก็ cmd ใน run (แต่กากที่สุดล่ะถ้าไม่ลง app เสริม)
Mac (เขามาจาก unix ดังนั้นจะคล้ายๆ linux เปิด terminal มาใช้งานได้ทันที)
ปกติสายนี้ต้องรู้ C กับ Perl
ช่างซ่อมคอม ถือเป็นส่วนหนึ่งของสายนี้นะครับแต่ตอนเรียนมันไม่ลงลึกหรอก
Security
อันนี้ผมได้เปิดโลกใหม่จากพี่ที่ทำงาน มันเป็นอีกสายที่เยอะโครตๆ และหินอีกเหมือนกัน (ผมยังรู้แค่พื้นฐาน)
ต้องบอกว่าตอนนี้โลกไอทีน่ากลัวมากครับ แต่ที่มันไม่ดังเพราะมันจะเอาไปทำอะไรมากไม่ได้ พึ่งมีมาใหม่เลยของโทรศัพท์ android ใครเล่น QR code ระวังให้ดี มันมี CODE ที่ยิงแล้วจะสั่ง USSD format ตัวเองได้ (ซึ่งตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แกทำให้ดูเลยต้องเชื่อ แถมเดี่ยวนี้ smart phone มันแรง 4 core 512 MB
มันลง android ได้มันก็ต้องลง linux arm ได้ ซึ่งก็รู้กันว่า linux มันแฮกกับทำอะไรได้ )
เรื่องนี้สำคัญมากนะแต่ไม่ค่อยสอนกัน (คนในวงการบอกมาว่ายังมีคนไดโนเสารปิดตาอยู่ สังเกตจากข่าวเว็บโดนแฮกที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการไม่มองเห็นความสำคัญ)
สรุปง่ายๆ ว่าสายนี้กว้างมากคนเยอะเก่งเยอะแต่ระดับ expert จริงๆ ทั้งประเทศผมรู้จักสองคน ฮา ไม่ได้โม้นะอ่ะนี้อ้างอิงหน่อย ประธาน OWASP Thailand ได้คนนี้ละมาทดสอบระบบโดนทีอยากร้องไห้ ต้องมาแก้ช่องโหว่บาน แต่แกบอกว่ามีเก่งกว่าที่น่าจะที่สุดแล้วในไทย อีกสองคนที่แกฟังรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง (สงสัยถ้าผมไปฟังคงคิดว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว)
ไหนๆ ก็แล้วแนะนำ blog ให้อ่าน สาย It ต้องอ่านผ่านๆ หน่อยเพราะสุดท้ายต้องทำงานจริงมันก็ต้องมาทดสอบเรื่องพวกนี้่อยู่ดี http://foh9.blogspot.com/Last edited by gogogokrit; 27 Jan 2013, 00:18:14.
Comment
-
Originally posted by l2edDevil View Postอ๊ากกกก MCS-51 , Digital ถ้าใครจะคิดเรียนสาย hardware ถ้าเจอตัวนี้ไปแล้วจะเปลี่ยนใจจริง ๆ T T
แค่ความชอบอย่างเดียวไม่พอ ต้องตั้งใจและขยันมาก ๆ สู้ ๆ ครับ
สิ่งที่ผมไม่มีก็คือ... ความตั้งใจ ความพยายาม และความอดทนครับ ผมจบด้วยการไม่เปิดใจกับสิ่งเหล่านั้น จากชอบกลายเป็นไม่ชอบ ผมจึงไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาครับ
Digital เป็นพื้นฐานเด้อ จึงจะไปเรียน MCS-51 ได้
Comment
-
ถ้าเป็นเรื่องการศึกษา ส่วนตัวผม...เต็มที่เลยครับ อยากตั้งห้องไหน พอใจห้องไหน มีเพื่อนห้องไหนเยอะ จัดไป แต่ขอแค่ว่า เลือกตั้งสักห้องพอแล้ว
ไม่ใช่ตั้งมันสี่ห้าห้อง แบบนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน
เรื่องการศึกษาการเรียน ควรได้รับการสนับสนุน ไม่ควรถูกปิดกั้น บางอย่างก็อย่าถือกรอบมากเกินไป แต่ว่าแต่ว่า....
ขอนิดนะครับ เข้าใจว่าห้องนี้คือห้อง AMD แต่อยากให้การ์ดจอ AMD HD ทั้งหลาย ช่วยกันไปถามในห้อง VGA นะครับ ขอความร่วมมือหน่อยล่ะกัน
ปล. ถ้าจู่ๆ AMD ทำเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ของเด็กเล่น แล้วก็มาโพสถามในนี้ทุกอย่าง มันก็ไม่ใช่จริงไหมล่ะครับ ?
ขอบคุณครับ !!!
Comment
-
Originally posted by ZoLKoRn View Postถ้าเป็นเรื่องการศึกษา ส่วนตัวผม...เต็มที่เลยครับ อยากตั้งห้องไหน พอใจห้องไหน มีเพื่อนห้องไหนเยอะ จัดไป แต่ขอแค่ว่า เลือกตั้งสักห้องพอแล้ว
ไม่ใช่ตั้งมันสี่ห้าห้อง แบบนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน
เรื่องการศึกษาการเรียน ควรได้รับการสนับสนุน ไม่ควรถูกปิดกั้น บางอย่างก็อย่าถือกรอบมากเกินไป แต่ว่าแต่ว่า....
ขอนิดนะครับ เข้าใจว่าห้องนี้คือห้อง AMD แต่อยากให้การ์ดจอ AMD HD ทั้งหลาย ช่วยกันไปถามในห้อง VGA นะครับ ขอความร่วมมือหน่อยล่ะกัน
ปล. ถ้าจู่ๆ AMD ทำเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ของเด็กเล่น แล้วก็มาโพสถามในนี้ทุกอย่าง มันก็ไม่ใช่จริงไหมล่ะครับ ?
ขอบคุณครับ !!!
Comment
-
Originally posted by l2edDevil View Post- วิทคอม it วิศวะคอม ตอนเรียนแทบไม่ต่างกันเลยครับ (วิดวะคอมจะเน้นลงไปหน่อยพวกพื้นฐานวิดวะ แต่พวกเขียนโปรแกรม วิดคอม it จะเก่งกว่าด้วยซ้ำ)
แต่จบมาเงินเดือนเริ่มต้นค่อนข้างต่างกันพอสมควร
ตอนนี้งานสาย software จะหางานได้ง่ายกว่า hardware (รวมทั้งอนาคตด้วย)
แล้วด้าน hardware จะเรียนค่อนข้างยากลงลึกถึงถาษาเครื่องเลยทีเดียว แต่ก็แล้วแต่ใจรักเนอะ
- เรื่องมหาลัยทุกทีดีหมดแหละครับ เนื้อหาตอนเรียนไม่ต่างกันหรอก ส่วนมากก็พวก java c c++ ไรงี้
ที่ต่างก็คือตัวเรานี่แหละที่จะศึกษาด้วยตัวเองขนาดไหน ขยันขนาดไหน เพราะตอนนี้ภาษาใหม่ ๆ เยอะมาก เป็นพัน เป็นหมื่นเลยก็ว่าได้
แล้วเรียนสายนี้ต้องค่อนข้างตามเทคโนโลยีพอสมควร เพราะออกใหม่แทบทุกวันเลย
- เรื่องจบมามีงานมั้ย ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า ตราบใดที่ยังมีมือถือ แท็ปเล็ต pc nb internet ใช้ หางานได้ไม่ยากเลย
เท่าที่ผลสำรวจออกมา งานด้านไอทีของไทยยังขาดแคลนคนเข้ามาทำงาน พูดง่าย ๆ คือ งานมากกว่าคน
แต่คนยังไม่มีศักยภาพพอที่จะทำงานได้ คือตอนเรียนไม่ได้สนใจ ไม่ขยัน ไม่ศึกษา จบมาเลยทำไรไม่เป็น
จากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาครับ
ผิดถูกยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ ^^
วิดวะเรียนแต่คำนวน ตรรกะ เอาเค้าจริง ๆ ถ้าไม่ฝึกเองนี้ไปไม่ถูกเหมือนกันนะครับ เรื่องการเขียนโปรแกรม
ส่วนวิทยา คอม เห็นเพื่อนเน้นไปทางการใช้โปรแกรมมากกว่า
แต่ไม่ว่าจะเรียนหรือจบอะไรออกมาถ้ามีความสนใจ ก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้เรื่อย ๆ นะครับ มันไม่มีทีสิ่นสุดหรอก
ยิ่งพอเริ่มทำงาน ไอ้ที่เรียน ๆ มา คิดว่ารู้เยอะแล้ว ยังต้องมาเริ่มเรียนรู้เพิ่มทั้งนั้นเลย
Comment
-
Originally posted by ZoLKoRn View Postถ้าเป็นเรื่องการศึกษา ส่วนตัวผม...เต็มที่เลยครับ อยากตั้งห้องไหน พอใจห้องไหน มีเพื่อนห้องไหนเยอะ จัดไป แต่ขอแค่ว่า เลือกตั้งสักห้องพอแล้ว
ไม่ใช่ตั้งมันสี่ห้าห้อง แบบนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน
เรื่องการศึกษาการเรียน ควรได้รับการสนับสนุน ไม่ควรถูกปิดกั้น บางอย่างก็อย่าถือกรอบมากเกินไป แต่ว่าแต่ว่า....
ขอนิดนะครับ เข้าใจว่าห้องนี้คือห้อง AMD แต่อยากให้การ์ดจอ AMD HD ทั้งหลาย ช่วยกันไปถามในห้อง VGA นะครับ ขอความร่วมมือหน่อยล่ะกัน
ปล. ถ้าจู่ๆ AMD ทำเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ของเด็กเล่น แล้วก็มาโพสถามในนี้ทุกอย่าง มันก็ไม่ใช่จริงไหมล่ะครับ ?
ขอบคุณครับ !!!
(แต่รับทราบตามนั้นนะครับผม)
ปล. แต่ถ้าAMDทำจริงๆ ผมอาจจะลองใช้ดูก็ได้นะ!!55
Comment
-
ของผมอาจจะยุคโบราณ ประมาณ 20ปีก่อน จะมี 2 สายหลักๆ 2คณะที่เกี่ยวกับคอม ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย เดียวนี้แตกไปกี่สายก็ไม่รู้
1.คณะวิศวะ เรียก วิศวะคอมพิวเตอร์ พื้นฐานมาจาก อิเล็กทรอนิค ไฟฟ้า เรียนด้านฮาร์ดแวร์ ออกแบบ ซีพียู จีพียู ชิพเซ็ต ฯ ทุกอย่างที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่จะเน้นที่ซีพียู เป็นหลัก
เรียนด้านซอร์ฟแวร์พอให้รู้ พวกภาษา c++, c, pascal,Asemby สามภาษาหลัก แต่จะเน้นที่ C, C++ เป็นหลัก ซึ่งก็ไม่ได้ลงลึกอะไรแค่พอโปรแกรม ให้อุปกรณ์ทำงานได้เท่านั้น เขียนลง EProm ,หรือที่เรียกว่า Bios นั่นแหละ
วิชาที่ต้องเรียนให้หนักและสำคัญที่สุดเป็นหัวใจเลย และต้องทำความเข้าใจอย่างมากคือ Math คณิตศาสตร์ ตรีโกลนมิติ แคลคูลัส ดิฟ อินทริเกรต ฟังชั่น อนุกรมเทย์เลอร์ อนุกรมแมคคอริน แมตทริก ต้องใช้ตลอดสี่ปี่ ยันทำงาน ไม่ต้องเก่งแต่ต้องมีความเข้าใจ หากไม่ชอบ หรือไม่มีความเข้าใจเลย อย่าเรียนเลยวิศวะคอม โดนรีไทร์ชัวว์ (เพราะมันใช้คณิตศาสตร์ในการออกแบบ เห็นสูตรสมการ ชุดตัวเลข ก็เหมือนเห็น ซีพียู เป็นคณิตศาสตร์เสมือนจริง)
รองลงมาก็คือวิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกษ์ พวก แรง กลศาสตร์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิก ไม่ต้องเก่ง ให้พอเข้าใจเป็นพื้น มักมีเรียนแค่ตอนปีหนึ่ง
อีกอันที่เป็นของแสลง กับชาววิศวะคือ ภาษาอังกฤษ จริงๆ ไม่ต้องรู้ก็ได้อังกฤษ (ก็ตรูมาเรียนวิศวะเพราะหนีอังกฤษนี่แหละ ยังมาเจอะเจออีก -_-") แต่มันก็มีความสำคัญมากๆ หากได้งานที่ต่างประเทศ ซึงเราจะเสียโอกาศทันที หากเราโดนบริษัทต่างประเทศจองตัว ถ้าเราเรียนเก่งนะ ปี3 เขามาจองตัวแล้ว (เงินเดือนสูงมากๆๆๆๆๆ) หากพูดไม่ได้หรือไม่รู้เรื่องเลย ก็ต้องอยู่เมืองไทยนี่หล่ะ ถึงอยู่เมืองไทยไม่รู้อังกฤษ ก็เป็นได้แค่ลูกน้อง เป็นหัวหน้าลำบาก เพราะบริษัทส่วนใหญ่ก็ต่างชาติทั้งนั้น
(สมัยเมื่อ 20ปีก่อน) เงินเดือน และงานไม่ต้องพูดถึง ไม่มีตกงานแน่นอน และ เงินเดือนสตาร์ทสูงมาก พวกเรียนไม่เก่ง เงินเดือนสตาร์ทก็ 12,000 แล้ว พวกกลางๆ สตาร์ท 18,000 พวกเก่งๆ ติดดาว นี่โหดมาก สตาร์ทที 28,000 -30,000 บาท พวกไปต่างประเทศนี่ 50,000+ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นบริษัทอะไร ระดับไหนด้วยนะ หากเรียนเก่งไม่ต้องห่วงเลยสายนี้
และระหว่างเรียน จะมีทุนการศึกษาเยอะมากๆ หากเรียนเก่ง ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอมเลย สารพัดทุนการศึกษาเลย จากมหาลัยบ้าง บริษัทบ้าง มูลนิธิบ้าง รัฐบาลบ้าง (แต่อาจจะไม่เหมือนกันทุกมหาวิทยาลัยนะ)
2. อีกอัน สายวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หรือวิทยาการคอมพิวเตอร์ อันนี้ไม่รู้มากนัก แต่เน้นหนักด้านซอร์ฟแวร์ พวกเขียนโปรแกรม หรือที่เราเรียกกันว่า โปรแกรมเมอร์ แต่จะเรียน 3ภาษาหลักๆ คือ C, C++, Pascal, Assembly นอกนั้นต้องไปหาความรู้เพิ่มเอาเอง
จะเรียนลึกมากเขียนโปรแกรมใช้งานได้เลย วิเคราะห์ออกแบบโปรแกรมใช้งานทุกชนิด ตามที่เราต้องการ
สายนี้ใช้คณิตศาสตร์บ้าง แต่ไม่หนักมากเหมือนวิศวะ แต่ที่ใช้มากคือภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเก่งแค่พอรู้
โปรแกรมเมอร์นี้หลายคนไม่เคยได้เรียน แต่หาความรู้เอาเองจากตำรา ก็เป็นโปรแกรมเมอร์ได้ แต่วิศวะไม่ใช่ หากไม่ได้เรียนมาไม่มีทางเป็นวิศวะได้เลย ขนาดเรียนมายังเป็นไม่ได้เลย เหอๆๆ
งานหาไม่ยาก หากเรียนเก่งติดดาว บริษัทต่างประเทศก็จองตัว แต่ไม่มากเท่าวิศวะ(ในยุคนั้นนะ20ปีก่อน) ฐานเงินเดือนก็สูงพอสมควรจากที่ฟังๆมา 12,000 - 22,000 ไม่เกินนี้ ถ้าไปต่างประเทศก็ 30,000-50,000 แล้วแต่บริษัท
ก็พอๆกันกับวิศวะ แต่ฐานเงินเดือนจะน้อยกว่าหน่อย
ถ้าชอบซ่อมคอมก็ศึกษาเอาเองได้ไม่ต้องไปเรียนวิศวะคอม คนเรียนวิศวะคอมซ่อมคอมไม่เป็นก็มีเยอะแยะ แต่วิศวะคอมจะสอนให้รู้จักการคิดเป็นและคิดอย่างมีระบบ มีเหตุและมีผล วิเคราะห์ระบบต่างๆเป็นกระบวนการ ขั้นตอน
น่าจะพอเป็นแนวทางได้
Comment
-
Originally posted by XP_armor View Postอ่านหลายความเห็นละ ค่อนข้างเป็นประโยชน์พอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะไปแนวๆประสบความสำเร็จ และไปทำอะไรกันทั้งนั้น
งั้นผมขอสวนกระแส ผมขอเล่าในแนวๆ คนที่ล้มเหลวอย่างผม จากประสบการณ์ตรงจากผมบ้างนะครับ...
เมื่อก่อน ตอนผมอยู่ ม.ปลาย ผมก็แบบนี้แหละครับ ชอบเล่นเกมส์ แล้วก็มาชอบคอม จากนั้นก็ศึกษา Hardware ไปจนถึง ซ่อมประกอบคอม ลงโปรแกรมได้ อยู่ในระดับที่คนรอบข้างไว้ใจ ตอนนั้นผมก็ชอบคอมแหละครับ
ใครๆก็บอกว่า ผมน่ะเรียนคอมน่าจะรุ่ง เพราะพื้นฐานผมดี... แต่พอผมได้เรียน ปวส. เท่านั้นแหละครับ ได้เรียนพวกภาษา C , เรียน Microprocessor MCS-51 , เรียนวิชา Digital เท่านั้นแหละครับ แทบกรี๊ด... เรียนไม่รู้เรื่องเลย
คือผมชอบเล่นคอทนะครับ ซ่อมประกอบคอมได้ นึกว่าเรียนแล้วจะได้เปรียบ ที่ไหนได้... ไอ่ที่เรียนมามันคนละเรื่องเลย และไอ่เรื่องที่ผมถนัด ผมกลับไม่ได้เข้าใกล้มันเลยแม้แต่น้อย แค่วิชาที่เกี่ยวกับ Network หัวผมก็แทบไม่ไปละครับ
สุดท้ายก็เลิกครับ ไม่เอาละ เรียนแค่ให้มันผ่านๆไป... จากนั้นจึงเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมตัดสินใจแล้วครับว่าจะไม่เรียนอะไรที่เกี่ยวกับคอมอีกเลย
เพราะ แค่วิชาพื้นฐานที่ไม่ได้ลงลึกในระดับ ปวส. ผมก็แทบไปไม่เป็นแล้วครับ ผมจึงเรียนต่อ ป.ตรี โทรคมนาคม
พอได้มาเรียน ป.ตรี โทรคมนาคมเท่านั้นแหละครับ แม่เจ้า... ภาษา C , MCS-51 , Sci Lab มันมาอีกแล้ว เท่ากับว่า วิชาพวกนี้ผมได้เรียนอีกรอบครับ (ผ่าน ปวส. มาแล้ว) แต่เกรตมันก็งั้นๆ อยู่ดี เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องครับ มันยากสำหรับผมนะครับ
แต่ชีวิตการเรียน ป.ตรี ต่อเนื่องของผมตลอด 2 ปี ผมก็ถูไถมันมาเรื่อยๆ จนจบออกมาได้... แต่คนมันไม่มีความรู้ ผลก็คือ จบมาได้ แต่ทำงานไม่ได้ครับ ปริญญาที่ได้มันจึงเป็นแค่กระดาษใบนึงสำหรับผม
ปัจจุบัน... ผมทำงานด้วยวุฒิ ปวส. ครับ แต่ก็เป็นงานที่ไม่ได้ตรงสายกับที่ผมจบมาเลย... ผมจบ ปวส. เครื่องสื่อสาร จบ ป.ตรี โทรคมนาคม แต่ทำงานเป็นช่างซ่อมแอร์
ซึ่งในวันนี้ผมก็ Happy ดีครับ มีความสุขนะ เงินเดือนก็พออยู่ได้ ไม่ได้ถือว่าฟู่ฟ่าอะไร แต่ผมมีเวลาให้ครอบครัวพอสมควร ผมพอใจกับชีวิตของผมแล้วครับ
เป็นตัวอย่างประสบการณ์ที่ดีมากครับ
เป็นการบอกให้รู้ว่า ชอบคอม ซ่อมคอมได้ ลงโปรแกรมได้ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยในการเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ใหญ่หลายคนเข้าใจผิด เห็นมันเก่งคอมซ่อมคอมได้เลยส่งให้มันเรียนวิศวะคอม
แต่สิ่งที่ช่วยให้เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ได้ดี และรู้เรื่องคือ คณิตศาสตร์ และฟิสิก และพื้นฐานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิค โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ ต้องใช้แทบทุกวิชา ถึงจะมีโปรแกรม Meple, MathLab ช่วยก็เถอะ
บางคนไปเป็นเซลก็มีครับ แต่เป็นเซลเอ็นจิเนียร์ นะครับ ยังอยู่ในสายงาน เพราะตอบปัญหา และให้ความข้อมูลกับลูกค้าได้
ไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ก็มี ก็หลากหลายสายงานเหมือนกัน
เรียกว่าเรียนมาสายนี้นี่ ไปแทนงาน แย่งงานของสายอื่นได้หมด แต่สายอื่นไม่สามารถมาแย่งงานสายวิศวะได้เลย
เวลาไปสมัครงาน ไม่มีใครปฎิเสธหรอกว่าผิดสายงาน มีแต่ถามว่าเรียนวิศวะแต่ทำไมมาสมัครงานที่นี่ ความเป็นวิศวะยังไงเขาก็เชื่อใจว่าเราสามารถเรียนรู้งานได้ (แบบว่าเก่งอะไรงั้นอ่ะ เหมือนกับแพทย์นั่นแหละ)Last edited by have; 27 Jan 2013, 04:42:09.
Comment
-
เห็นเด็กหลายๆคนมันแบบว่า... ชอบไปทับถมคนเรียนจบ วิทย์-คอม , คอม Eng ประมาณว่า ตัวเองซ่อมคอมเป็น แล้วก็ไปทับถมเขา "โหย จบมาได้ไงเนี่ย ซ่อมคอมไม่เป็น" ซึ่งสายงานเขา กับการซ่อมคอม มันคนละเรื่องเลยนะครับขอบอก
แต่ถ้าจบ Com Sci , Com Eng แล้วมือเราฉมังจริงๆ จนมีชื่อเสียง ข้อดีมันก็คือ บ้านเราก็สามารถเป็นที่ทำงานของเราได้ครับ... รับโปรเจคลูกค้ามา งานก็มีเรื่อยๆครับ
ปล. ชอบใจพี่ซอลตรงที่ "การศึกษา อย่าปิดกั้น"
Comment
-
Originally posted by ZoLKoRn View Postถ้าเป็นเรื่องการศึกษา ส่วนตัวผม...เต็มที่เลยครับ อยากตั้งห้องไหน พอใจห้องไหน มีเพื่อนห้องไหนเยอะ จัดไป แต่ขอแค่ว่า เลือกตั้งสักห้องพอแล้ว
ไม่ใช่ตั้งมันสี่ห้าห้อง แบบนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน
เรื่องการศึกษาการเรียน ควรได้รับการสนับสนุน ไม่ควรถูกปิดกั้น บางอย่างก็อย่าถือกรอบมากเกินไป แต่ว่าแต่ว่า....
ขอนิดนะครับ เข้าใจว่าห้องนี้คือห้อง AMD แต่อยากให้การ์ดจอ AMD HD ทั้งหลาย ช่วยกันไปถามในห้อง VGA นะครับ ขอความร่วมมือหน่อยล่ะกัน
ปล. ถ้าจู่ๆ AMD ทำเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ของเด็กเล่น แล้วก็มาโพสถามในนี้ทุกอย่าง มันก็ไม่ใช่จริงไหมล่ะครับ ?
ขอบคุณครับ !!!
กระทู้ การ์ด HD 8XXX ก้ตั้งห้องนี้ เห้นเป้น amd น่ะ
พอดีสิงอยู่ห้องนี้ ผมว่า มาม่ามันน้อยดี(มั้ง) ไปห้องอื่น เดี่ยวโดนรุม อีก 555
รับทราบครับ ผม
AMD คงไม่มั้งฮะ เค้าทำแต่ผลิตภัณ ในกลุ่มนี่แหละ ตู้เย้น เครื่องซักผ้า ของพวกนี้ มันต้องเอเซีย จีน ไทย ยุ่น โรงงานอเมริกา หมดสิทธ์ ค่าแรงแพง คิดว่าแข่งขันยากครับ
เอาขำๆๆ นะครับLast edited by micronz; 27 Jan 2013, 09:51:15.
Comment
Comment