แม้ว่า Ryzen 9 3950X จะไม่ฮิตเหมือน 3600, 3700x หรือ 3900X และไม่ทรงพลังเท่า Threadripper 3000 แต่มันคือผู้พลิกโฉมตลาด CPU อย่างแท้จริง ก่อให้เกิดตลาดกลุ่มที่ 3 นั่นคือ semi-professional
2020-03-01 3950x.jpg
--------------------------
(เนื้อหาต่อไปนี้เรียบเรียงจากบทความบนเว็บ nationalinterest.org นะครับ)
ไม่ง่ายจริงๆที่จะพลิกโฉมตลาด CPU แต่นี่ล่ะคือสิ่งที่ AMD ทำได้ด้วย Ryzen 9 3950X ตัวแรง
นับเป็นเวลานานที่ตลาด CPU ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจนนั่นคือ
1. consumer : สำหรับเล่นเกม, เล่นเน็ต, ดูหนัง, ทำเอกสาร ซึ่ง CPU กลุ่มนี้มีราคาตั้งแต่ $49 - $549 เหรียญ
2. high-end desktop (HEDT) : สำหรับงานระดับสตูดิโอ ซึ่ง CPU กลุ่มนี้มีราคาตั้งแต่ $1,500 - $13,000 เหรียญ นี่ยังไม่นับค่าเมนบอร์ดที่แพงกว่าหลายเท่า
ทว่าเส้นแบ่งระหว่าง consumer กับ professional ได้เลือนลางลงเนื่องจากการเติบโตของกลุ่ม prosumer ผู้ซึ่งต้องการสมรรถนะคาบเกี่ยวระหว่าง high-end consumer กับ entry-level HEDT พวกเขาจัดว่าเป็น "กึ่งมืออาชีพ (semi-professional)" ทำตั้งแต่รับจ้างตัดต่อ VDO ไปจนถึงเจ้าของกิจการขนาดเล็ก และพวกเขาต้องการทำงานจริงจัง แต่ไม่ต้องการจ่ายแพงลิบลิ่วให้กับสมรรถนะส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์
เมื่อ Ryzen 9 3950X (16c/32t, Zen2) ได้ก้าวเข้ามาในตลาด มันสามารถย่อยงานมืออาชีพอย่างงานเรนเดอร์ หรือ encode VDO ได้อย่างง่ายดาย และด้วยการดีไซน์ในรูปแบบ chiplet จึงช่วยให้ AMD เพิ่มคอร์ได้ในต้นทุนที่ต่ำจนสามารถขายมันในราคาเพียง $750 เหรียญเท่านั้น ทว่าสมรรถนะของมันกลับโค่น HEDT หลายต่อหลายรุ่นซึ่งล้วนแต่มีราคาแพงกว่ามันมาก (อย่างเช่น Core i9-9980XE ที่มีราคา $2000) และแม้มันจะไม่ใช่ CPU สำหรับเล่นเกม แต่สมรถนะด้านเกมก็จัดว่าดีไม่น้อย ความคุ้มค่ายังไม่จบแค่นั้น 3950X คือขุมพลังระดับ workstation ที่ลงมาอยู่ในเมนบอร์ด consumer อย่าง AM4 ที่ซึ่งประหยัดกว่าบอร์ด HEDT มาก (แล้วไหนจะรองรับ PCI-E gen4 อีก.... ต้นฉบับลืมพูดถึง)
2020-03-01 Blender Hothardware.png
รุปผลทดสอบจาก https://hothardware.com/reviews/inte...-review?page=4
Intel เองก็ได้พยายามไปกับ i9-10980XE แต่ทว่าล้มเหลวเนื่องด้วยราคาที่แพงกว่า ($979) แต่กลับไม่ได้ดีกว่า ดังนั้น AMD จึงเหมือนครองตลาดนี้เพียงผู้เดียว หากคุณคือ semi-professional ที่กำลังมองหา workstation สมรรถนะสูงโดยไม่ต้องการทุ่มงบถึงขั้น HEDT ล่ะก็ คุณเหลือตัวเลือกเดียวนั่นคือ 3950X
อ้างอิง:
Why AMD's Ryzen 9 3950X CPU Is Truly a Game Changer
2020-03-01 3950x.jpg
--------------------------
(เนื้อหาต่อไปนี้เรียบเรียงจากบทความบนเว็บ nationalinterest.org นะครับ)
ไม่ง่ายจริงๆที่จะพลิกโฉมตลาด CPU แต่นี่ล่ะคือสิ่งที่ AMD ทำได้ด้วย Ryzen 9 3950X ตัวแรง
นับเป็นเวลานานที่ตลาด CPU ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจนนั่นคือ
1. consumer : สำหรับเล่นเกม, เล่นเน็ต, ดูหนัง, ทำเอกสาร ซึ่ง CPU กลุ่มนี้มีราคาตั้งแต่ $49 - $549 เหรียญ
2. high-end desktop (HEDT) : สำหรับงานระดับสตูดิโอ ซึ่ง CPU กลุ่มนี้มีราคาตั้งแต่ $1,500 - $13,000 เหรียญ นี่ยังไม่นับค่าเมนบอร์ดที่แพงกว่าหลายเท่า
ทว่าเส้นแบ่งระหว่าง consumer กับ professional ได้เลือนลางลงเนื่องจากการเติบโตของกลุ่ม prosumer ผู้ซึ่งต้องการสมรรถนะคาบเกี่ยวระหว่าง high-end consumer กับ entry-level HEDT พวกเขาจัดว่าเป็น "กึ่งมืออาชีพ (semi-professional)" ทำตั้งแต่รับจ้างตัดต่อ VDO ไปจนถึงเจ้าของกิจการขนาดเล็ก และพวกเขาต้องการทำงานจริงจัง แต่ไม่ต้องการจ่ายแพงลิบลิ่วให้กับสมรรถนะส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์
เมื่อ Ryzen 9 3950X (16c/32t, Zen2) ได้ก้าวเข้ามาในตลาด มันสามารถย่อยงานมืออาชีพอย่างงานเรนเดอร์ หรือ encode VDO ได้อย่างง่ายดาย และด้วยการดีไซน์ในรูปแบบ chiplet จึงช่วยให้ AMD เพิ่มคอร์ได้ในต้นทุนที่ต่ำจนสามารถขายมันในราคาเพียง $750 เหรียญเท่านั้น ทว่าสมรรถนะของมันกลับโค่น HEDT หลายต่อหลายรุ่นซึ่งล้วนแต่มีราคาแพงกว่ามันมาก (อย่างเช่น Core i9-9980XE ที่มีราคา $2000) และแม้มันจะไม่ใช่ CPU สำหรับเล่นเกม แต่สมรถนะด้านเกมก็จัดว่าดีไม่น้อย ความคุ้มค่ายังไม่จบแค่นั้น 3950X คือขุมพลังระดับ workstation ที่ลงมาอยู่ในเมนบอร์ด consumer อย่าง AM4 ที่ซึ่งประหยัดกว่าบอร์ด HEDT มาก (แล้วไหนจะรองรับ PCI-E gen4 อีก.... ต้นฉบับลืมพูดถึง)
2020-03-01 Blender Hothardware.png
รุปผลทดสอบจาก https://hothardware.com/reviews/inte...-review?page=4
Intel เองก็ได้พยายามไปกับ i9-10980XE แต่ทว่าล้มเหลวเนื่องด้วยราคาที่แพงกว่า ($979) แต่กลับไม่ได้ดีกว่า ดังนั้น AMD จึงเหมือนครองตลาดนี้เพียงผู้เดียว หากคุณคือ semi-professional ที่กำลังมองหา workstation สมรรถนะสูงโดยไม่ต้องการทุ่มงบถึงขั้น HEDT ล่ะก็ คุณเหลือตัวเลือกเดียวนั่นคือ 3950X
อ้างอิง:
Why AMD's Ryzen 9 3950X CPU Is Truly a Game Changer
Comment