Login or Sign Up
Logging in...
Remember me
Log in
Forgot password or user name?
or
Sign Up
Log in with
Forums
Articles
Today's Posts
PHOTO
Forum
Game Forums
Game Talk
Announcement
Collapse
No announcement yet.
ถามประวัติตัวละครใน DMC 4 ครับ
Collapse
X
Collapse
Posts
Latest Activity
Photos
Search
Page
of
4
Filter
Time
All Time
Today
Last Week
Last Month
Show
All
Discussions only
Photos only
Videos only
Links only
Polls only
Events only
Filtered by:
Clear All
new posts
Previous
1
2
3
4
template
Next
ฺBIOHAZARD
OverclockZone Member
Join Date:
20 Jan 2009
Posts:
870
Share
Tweet
#46
24 Dec 2009, 18:44:57
ปริศนาทุกอย่างจะถูกเฉลยในภาคที่ห้าครับ
Comment
Post
Cancel
DemonDusk
OverclockZone Member
Join Date:
15 Jan 2009
Posts:
2016
Share
Tweet
#47
24 Dec 2009, 18:56:55
จิงๆแล้วผมเล่นครบทุกภาคนะ1-4เลยผมว่ามันก็ไม่งงนะ
แต่พอมาอ่านในนี้หลายความเห็นจัดชักเริ่มงงๆละ
Comment
Post
Cancel
pongnarak
OverclockZone Member
Join Date:
27 Jan 2009
Posts:
1793
Share
Tweet
#48
24 Dec 2009, 20:47:19
MISSION ONE :: BIRDS OF A FEATHER
แซงค์ทัส: 2,000 ปีมาแล้ว อัศวินแห่งรัตติกาล นาม สปาด้า ได้ต่อต้านเผ่าพันธุ์ปีศาจพี่น้องของเขาเอง
และใช้ดาบของเขา ปกป้องประโยชน์ของมวลมนุษย์ อย่างไรก็ตามความพยายามอันกล้าหาญนี้จะอยู่ในใจของพวกเรา บางครั้งชั้นกลัวว่า เราจะลืมความจริงอันยิ่งใหญ่ของการเสียสละของเขา เพื่อไม่ให้เวลาแห่งความน่ากลัวนั้นต้องกลับมาอีกครั้ง นั่นก็คือการถูกรวมเป็นอาณาจักรเดียวกับปีศาจและอาณจักรมนุษย์ ,พวกเรา เป็นมนุษย์ผู้อ่อนแอ แต่เราจะไม่ยอมจำนนและก้มหัวให้ใครเด็ดขาด....
<เนโร่ หงุดหงิดในความเบื่อหน่าย เลยฟังเพลง กระทั่งไครี่เข้ามาหาเขา เขาจึงให้ของขวัญที่เขาซื้อมาให้เธอ เธอยิ้มและนั่งลงข้างๆเขา>
แซงค์ทัส: และชั้นขอให้พวกเราทั้งหมด จงภาวนาสวดมนต์ แม้ว่าเวลาแห่งความน่ากลัวและสับสนวุ่นวายจะมาเยื่อนพวกเรา แต่ผู้กอบกู้ของพวกเราจะเป็นกำบังปัดเป่า พายุร้ายทั้งปวง ขอให้พวกเราจงภาวนา....
<ทุกคนในโบสถ์กุมมือภาวนากัน แต่เนโร่เขายืนขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ>
ไครี่: เนโร่....มีอะไรหรอ?
เนโร่: ชั้นจะออกจากที่นี้
ไครี่: แต่ พีธียังไม่เสร็จเลยนะ?
เนโร่: การเทศนี้จะทำให้ชั้น หลับพอดีนะสิ
<ไครี่เลยเดินตามเนโร่ไป, แต่เขาต้องหยุดเดิน เพราะ แขนขวาของเขา ร้อนแผ่วขึ้น เขามองไปรอบๆ สักพัก
ดันเต้ก็กระโดดลงมาจากหลังคาด้านบน ลงมาหน้าต่อหน้าแซงค์ทัส,และยิงชายแก่เข้าที่หัว,ดันเต้มองไปรอบๆ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ทุกคนเริ่มตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกยามจึงถือดาบตรงเข้าไปที่เขา>
???: ท่านประมุข!
<ดันเต้จัดการกับพวกยามอย่างง่ายดาย เนโร่และไครี่จึงออกมาจากที่นั่น เธอจะทำของขวัญตก พวกยามจะถูกฆ่าตายกันหมด เหมือนกับแซงค์ทัส อย่างโหดเหื้ยม>
???: ไม่!
<ดันเต้ ฆ่าพวกยามเสร็จ ก็เดินมาข้างหน้า ไครี่มองเขาด้วยความหวาดกลัว>
ไครี่: เครโด!
เนโร่: ไครี่!
<ไครี่จะรีบวิ่งไปหาเครโด แต่เธอจะล้มลง เธอมองขึ้นไปที่ดันเต้ด้วยความกลัว เนโร่เลยกระโดดถีบดันเต้ เข้าที่หน้าของเขาอย่างจัง และกระหน่ำกระสุนปืนกัน จนมาหยุดยืนเผชิญหน้ากันที่รูปของสปาด้า ในมือมีปืนถือไว้ทั้งคู่>
ไครี่: เนโร่!
เนโร่: ไครี่! ไปกับพี่ของเธอ แล้วออกไปจากที่นี้ซะ!
เครโด: ชั้นจะกลับมาช่วย! นายถ่วงเวลาเขาเอาไว้!
เนโร่: ชั้นคงไม่หายใจแล้วมั้ง.
<เนโร่กับดันเต้ จะเริ่มต่อสู้กัน>
เนโร่: นายได้แรงบันดาลใจในการฆ่าคนมาสินะ,นายจะทำได้อีกก็ต่อเมื่อ นายข้ามศพชั้นไปก่อน
<เนโร่ หมุนตัวเปลี่ยนกระสุนยิงใส่ดันเต้อีกครั้ง>
เนโร่: ชั้นเดาว่านาย...คงตัดมันไม่ได้
<พรางหยิบดาบ>
เนโร่: อะไรก้าน....ดาบนั่น ถืออยู่แต่ไม่คิดจะใช้มันหรือไง?
<ดันเต้มองที่ดาบของเขา แล้วล้อเลียนท่าทางของเนโร่ เนโร่โมโห ทั้งสองจึงแลกดาบกัน แต่ดันเต้จะปัดดาบของเนโร่กระเด็น และแทงเข้าที่เนโร่ เนโร่จึงใช้แขนอสูรของเขารับการโจมตี>
ดันเต้: นายมีลูกเล่นอะไร ในปลอกแขนนั่นสินะ
เนโร่: ชั้นคิดว่า นายนี้มันลิ้นแมว จริงๆวะ ก็ดูเอาถ้านายคิดว่ามันเป็นลูกเล่น
ดันเต้: ดูเหมือนว่า นายจะเป็น....
<เนโร่ใช้แขนอสูร ยกแท่งกางเขงยักษ์ขว้างใส่ดันเต้ แต่ดันเต้หลบได้เพียงแค่ขยับหัวไปนิดหน่อย>
เนโร่: ชั้นเกลียดการขัดจังหวะ, แล้วชั้นอยากจะจัดการให้มันเสร็จๆ ก่อนเหล่าทหารม้าจะมาถึงนะ!
ดันเต้: เอาเถอะ, นายอยากจะเล่นแล้วงั้นหรือ? ฮือ? ก็ได้, ชั้นเดาว่า ได้เวลาที่ชั้นจะฆ่าแล้ว...
เนโร่: ยากวะ พวก, ฮือ? แหม... ชั้นว่า ชั้นจะลงรอยบากหน้าให้ลุงหน่อย.
ดันเต้: ขอให้เป็นอย่างที่พูดละกัน, ไอ้หนู.
<เนโร่จับดาบของดันเต้ และเหวี่ยงดันเต้ไปพร้อมกับดาบของเขา เนโร่วิ่งตามร่างของดันเต้ที่ลอยไปจับขาของเขาแล้วต่อยเข้าที่หน้าดันเต้ 10 กว่าที ก่อนเหวี่ยงร่างดันเต้ไปติดที่รูปปั้นแล้วดึงดาบปาไปปักร่างดันเต้คารูปปั้นของสปาด้า>
ดันเต้: ค่อยดีขึ้นหน่อย...
<เนโร่ หันกลับไปมอง.>
ดันเต้: ชั้นว่า ยัง***งไกลเลยละที่จะให้ชั้นพูดว่า ชั้นประเมินความสามารถนายต่ำไป
เนโร่: นายไม่ใช่มนุษย์งั้นหรือ?
<ดันเต้ดึงดาบที่ปักร่างตัวเองออก.>
ดันเต้: เราก็เหมือนกันน่ะแหล่ะ...นายและชั้น...และก็พวกเขา
<เนโร่มองไปที่ศพของยามที่ดันเต้ฆ่าไป ซึ่งกลายเป็นปีศาจ>
ดันเต้: ชั้นสงสัยในตัวนาย มีบางอย่างที่แตกต่างจากพวกเขาคนอื่น.
เนโร่: นายพูดเรื่องอะไรของนาย ?
ดันเต้ : แล้วนายจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร เร็วนี้ละ, แต่มีธุระต้องไปทำก่อน.
เนโร่: เดี๋ยว!
ดันเต้ : อาดิออส , ไอ้หนู (*อาดิออส ภาษาสเปน หมายถึง โชคดี)
<สักพัก ทหารก็มาถึงพอดี>
MISSION TWO :: LA PORTE DE L'ENFER
<เหล่าทหารม้า จะเข้ามาตรวจสอบสถานที่ในโบสถ์ ไครี่เธอจะเข้ามาที่นี้ เนโร่เห็นเธอพอดี จึงเข้าไปหาเธอ>
เนโร่: เธอพาคนพวกนี้มาช่วยชั้นที่นี้หรอ?
ไครี่: เครโด ขอร้องให้พามาแทนน่ะ
เนโร่: ขอบใจนะ. ดาบนี้ ใช้ได้ดีในการต่อสู้แฮะ....ช่วยได้มากเลย
<เขาเก็บดาบของเขา, ไครี่เปิดกล่องของขวัญ และหยิบสร้อยมาสวมที่คอพร้อมกับรอยยิ้ม>
เนโร่: ปราสาท ฟอลทูน่า,หรือ?
เครโด: นั่นเป็นสิ่งที่พยานพูดมาน่ะ.
เนโร่: ถ้าเขาเพิ่งมาจากนรกละก็ ,เขาต้องมาโจมตีเราเป็นระยะๆ แน่
เครโด: นายเพิ่งทำให้สถานการณ์ที่ตรึงเครียด เบาบางไม่ใช่หรือ? เพราะงั้นนายต้องเป็นคนไปจับเขา.
เนโร่: เชื่อมือได้เลย, ชั้นคิดว่า ชั้นพอจะทำได้.
ไครี่: ระวังตัวด้วยนะ. เธอยังไม่หายดีเลย
เนโร่: ไม่มีเวลาแล้วละ แถม ต้องทำตามหน้าที่อีก.
<เนโร่ มองที่สร้อยคอของเขาที่ให้เป็นของขวัญกับ ไครี่ พรางยิ้มให้>
เนโร่: ชั้นไม่สามารถละเลยกับเรื่องฉุกเฉินนี้ได้หรอก ,ไครี่
เครโด: ชั้นต้องกลับไปที่สำนักงานใหญ่ เพื่อรายงานสถานการณ์ก่อนนะ
< ทันใดนั้น, โบสถ์ก็สั่นสะเทือน,ขณะที่พวกเขายืนอยู่ข้างนอก>
ชาวบ้าน: ใครก็ได้ ช่วยชั้นด้วย!
<ชาวบ้านคนนึง เดินกระเผกๆมาที่ลานน้ำพุ, แต่แล้วร่างของเขาก็ถูกเสียบด้วยขาของปีศาจและถูกโยนลอยข้ามลานน้ำพุไป ผู้คนพากันตกใจกลัว วิ่งหนีกันเจ้าละหวั่น ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยปีศาจแล้ว>
เนโร่: นั่นใช่พวกเขาไหม?
เครโด: ชะ....ชั้นไม่แน่ใจ.
เนโร่: เครโด, ฝากดูแลไครี่ด้วย. ชั้นจัดการเอง!
เครโด: เราต้องอพยพผู้คนไปที่สำนักงานใหญ่ก่อน. นายต้องกลับมารายงานสถานการณ์และ ระวังตัวด้วย!!
เนโร่: ชั้นรู้แล้วน่า!!
เครโด: ไครี่, ไปเร็วเข้า หนีไปพร้อมกับคนอื่นๆเร็ว!!
<ไครี่ เริ่มที่จะหนี, แต่เธอเห็นเด็กร้องไห้และกำลังจะถูกปีศาจทำร้าย เธอจะเอาตัวเธอปกป้องเด็กไว้ แต่เนโร่จะกระโดดมารับการโจมตีของปีศาจพอดี>
เนโร่: ไปเร็ว!! ออกไปจากที่นี้!
ไครี่: เนโร่!
<เธอรีบหนีออกไป, เนโร่จึงจับปีศาจเหวี่ยงไป>
เนโร่: ไม่ค่อยเร็วเท่าไรนิ....
<เนโร่จัดการพวกปีศาจด้วยดาบราชินีแดง และแขนอสูรของเขาอย่างง่ายดาย>
เนโร่: แค่นี้ยังถือว่า เด็กๆ
<เนโร่ไปตามทางของเขา จนเจอเรื่องยุ่งๆจนได้.>
เนโร่: นี้มันอะไรละนิ?
<เนโร่พยายามกดปุ่มให้แผงเครื่องยนต์ให้ทำงาน,แต่ดูถ้ามันจะไม่ตอบสนองอะไรเลย.>
เนโร่: บ้าจริง!!
<เนโร่เอาปืนยิงเข้าที่แผงเครื่องยนต์ 2 ครั้ง จนมันทำงานในที่สุด ,ในไม่ช้าเนโร่ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านร้างและเห็นประตูนรก ซึ่งมีจอมปีศาจบริชออกมาจากประตูนรก>
เนโร่: ให้ชั้นเดาได้เลยว่า, มันต้องเป็นมากกว่าปีศาจธรรมดาแน่ๆ?
<สักพักนึง,หมู่บ้านก็สั่นสะเทือน พร้อมมีเปลวไฟลุกโชติขึ้นทั้งหมู่บ้าน>
???: อ๊ากกก, โลกมนุษย์. มันจะต้องกลายเป็นแค่เรื่องในวันวาน...
<เนโร่ เดินผ่านจอมปีศาจบริชไป แล้วตวัดดาบของเขาใส่จอมปีศาจบริช>
???: อะไรของแก....
เนโร่: ไฟของแกน่ะไม่เลวอยู่หรอก. แต่คงจะเผาชั้นไม่ได้ง่ายๆวะ,เพราะชั้นไม่ใช่เปลือกไม้ซะด้วยสิ
???: 2,000 ปีมาแล้ว,ที่ข้าไม่ได้เจอมนุษย์อวดดีแบบแก
เนโร่: ทำอะไร 2,000 คนนะ ? ( เนโร่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกวนตีนบริช)
???: หุบปากซะ!
<จอมปีศาจบรีสใช้ดาบที่แขนฟันใส่ เนโร่, แต่เนโร่ก็สามารถรับการโจมตีได้ด้วยปลายดาบของเขา>
???: พวกสัตว์ชั้นต่ำที่มันกล้า หาเรื่องกับข้า ข้าจอมปีศาจบริช จะเผามันด้วยไฟนรกเอง!!!
<เนโร่จะต่อสู้กับบริช แล้วจัดการบริชได้>
บริช: แขนแก....แกไม่ใช่มนุษย์!!
เนโร่: อย่าถามน่า. ก็แค่แขนต้องสาป ที่จะทำให้ชั้นเป็นบ้าอยู่แล้ว.
บริช: แกนี้เหมือนกับเขาจริงๆ
เนโร่: และ “เขา” ที่ว่านี้ใคร ?
บริช: ข้าจะไปฟื้นฟูพลังของข้าล่ะ....
เนโร่: เดี๋ยว!
<แล้วจอมปีศาจบริชก็เข้าประตูนรกกลับไป>
MISSION THREE :: THE WHITE WING
<หลังจากเนโร่ผ่านทางภูเขาน้ำแข็งมา, เนโร่จะข้ามสะพานและจะมีพวกปีศาจโผล่ลงมาจากด้านบน แต่ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาฆ่า ปีศาจที่โผล่ออกมาเกลี้ยง...และจะมีปีศาจหนึ่งตัวจะทำร้ายเธอจากข้างหลัง ,เนโร่จึงใช้ปืนของเขายิงเพื่อช่วยเธอ.>
???: ชั้นเป็นหนี้เธอซะแล้ว ขอบใจนะที่ช่วย.
เนโร่: เธอได้รับคำสั่งมาจากภาคีหรือ...? ชั้นไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน.
???: ชั้นมาใหม่น่ะ. ชั้น กลอเรีย.
<กลอเรียจะยื่นมือมาลูบหน้าเนโร่, แต่เนโร่เมินหน้าหนี.>
กลอเรีย: เธอคือ เนโร่,สินะ? ชั้นได้ยินข่าวลือมา.
เนโร่: คงไม่ใช่ทุกคนสินะ?
กลอเรีย: อยากจะบอกนะ, ว่าชั้นไม่ได้ประจบประแจงใคร แม้แต่น้อย.
เนโร่: เอาเถอะ แล้วแผนการพวกเขาละ? พวกเขามาจากไหนกันแน่? (ประโยคนี้เนโร่คงพูดถึงดันเต้)
กลอเรีย: ไม่ต้องสนใจหรอก. มันไม่ได้สำคัญไปกว่าปีศาจที่เธอฆ่าไปหรอก,มีบางอย่างที่มากกว่านั้น.
<เธอเลื่อนมือลงไปจับมีดที่ขาอ่อนของเธอ และเนโร่ก็มองตาม>
เนโร่: งั้นชั้นให้เธอทำงานเล็กๆน้อยๆไปละกัน. เพราะชั้นต้องตามล่าใครบางคนอยู่.
กลอเรีย: งั้นชั้นก็ไปทำอย่างอื่นละกัน, แล้วชั้นจะเอ็นดูพวกเขาเอง
<กลอเรียปามีดจัดการกับปีศาจตัวนึงที่ยังมีชีวิตอยู่.>
กลอเรีย: บางที เธออาจจะเป็นผู้กอบกู้ในการเดินทางครั้งนี้ก็ได้.
เนโร่: ผู้กอบกู้....
<เนโร่เข้าไปในปราสาทฟอลทูน่า และเข้าไปในห้องนึงที่มีหนังสือมากมายบนโต๊ะ.>
เนโร่: ไม่คิดเลยแฮะ ว่าพวกนี้จะเป็นพวกหนอนหนังสือ...
<เนโร่ได้ยินเสียงบางอย่างรอบๆ ห้อง, และพบกับปืนที่อยู่ในมือของชุดเกราะนักรบ.>
เนโร่: นายจะยิงชั้นหรอก. ชั้นนึกว่าจะได้มาไล่จับปีศาจที่นี้ซะอีก?
<ชุดเกราะนักรบ เดินเข้ามาหาเนโร่ โดยไม่พูดอะไรเลย.>
เนโร่: เป็นพวกไม่ค่อยพูดหรือ, ฮือ? แหม....มันคงน่ารำคาญสินะ.
<ชุดเกราะ แทงหอกเข้าใส่เนโร่ , เนโร่จะหลบได้>
เนโร่: อยากมีเรื่องหรอกเพื่อน! ได้เลยถ้าอยากสู้นักละก็,เข้ามาเลยพวก!
<เนโร่จัดการชุดเกราะได้ หมวกของชุดเกราะกลิ้งมาที่ขาของเนโร่ ซึ่งข้างในมีแต่ความว่างเปล่า>
เนโร่: ว่างเปล่า....พวกปีศาจมันเป็นคนสั่งพวกเกราะพวกนี้สินะ...ถ้าจะไม่ดีซะล่ะ.
<เนโร่ก็เข้าประตูและเดินต่อไป.>
MISSION FOUR :: COLD BLOODED
<เนโร่ จะเดินมาถึงที่ลานหิมะ, เขาสังเกตุเห็นทูตน้ำแข็ง 2 ตัวข้างหน้าประตูนรก>
เนโร่: พวกหิมะพวกนี้ก็คงเป็นปีศาจสินะ.
< เนโร่สู้ไปได้สักพัก,ก็มีบอสเบ็ต คางคกยักษ์น้ำแข็งโผล่มา.>
เนโร่: อะไรกันนี้ แกดูเหมือนตัว.....
เบ็ต: แกเก่งกว่าที่เห็นนี้หว่า, เพราะงั้นข้าจะเคี้ยวแกให้เป็นชิ้นๆเอง.
เนโร่: จะเคี้ยวชั้นหรอ? ยากวะ เจ้าคางคกยักษ์.
เบ็ต: งี่เง่าสิ้นดี! แกมั่นใจในสิ่งที่แกพูดหรือไง?!
เนโร่: เอาเถอะ รีบๆทำให้มันจบๆไป, ไม่งั้นชั้นตายตาไม่หลับวะ.
เบ็ต: ข้าจะขยี้แกซะ!
<เนโร่ชนะเบ็ต.>
เบ็ต: แก...ชนะหรือ....ชนะข้างั้นหรือ?! ไม่มีทาง! มนุษย์อย่างแก....
เนโร่: เป็นอย่างที่ชั้นพูดไหมล่ะ.
เบ็ต: เหล่าพี่น้องของข้า...กำลังจะมา! แก....
<เนโร่ต่อยใส่เบ็ต จนมันหยุดพูด.>
เนโร่: มาสิ, ยังเละไม่พออีกหรือไง. เดี๋ยวสิ.....เมื่อกี้แกพูดว่า “ พี่น้อง” งั้นหรือ?
<เนโร่มองไปที่ประตูนรกที่เปิดอยู่ เขาเห็นฝูงคางคกยักษ์กำลังเดินตรงมาหาเขา>
เนโร่: โอ้ ให้ตายเถอะ! นี้ชั้นต้องมาสู้กับฝูงสัตว์อีกหรือไงนี้?
<เนโร่ต่อยประตูนรก เพื่อปิดมันโดยเร็ว>
เนโร่: โทดทีวะ เพื่อน, พวกแกโดนปิดตายแล้ว!!
MISSION FIVE :: TRISAGION
<เครโดยืนอยู่ข้างเตียงที่แซงค์ทัสนอนอยู่. เมื่อแซงค์ทัสลืมตา ตาของเขามีสีแดงฉานราวปีศาจ เมื่อเขากระพริบตาอีกครั้ง ตาของเขาก็เป็นเหมือนเดิม คล้ายตาคนตามปกติ>
เครโด: ท่านตื่นขึ้นเสียที.
แซงค์ทัส: เครโด.
เครโด: คนของข้าได้ติดตามสถานการณ์ของดันเต้อย่างใกล้ชิด. ขึ้นอยู่กับเวลา เราจะได้ตัวเขาแน่นอน.
แซงค์ทัส: มันมาหาพวกเรา....ชั่งโชคดีจริงๆ ที่มันได้มีส่วนร่วมในพิธีกรรมอันสูงส่งของชั้น.
???: ท่านประมุข...! ท่านดู ทรงอำนาจอีกครั้ง!
<ชายผิวดำใส่แว่นตาข้างเดินพร้อมเดินเข้าไปใกล้แซงค์ทัส,แต่เครโดมาขวางไม่ให้เขาเข้าใกล้>
???: แกส่งเจ้าเด็กอวดดีที่ชื่อ เนโร่ ไปจับดันเต้งั้นหรือ?
เครโด: นายข้องใจกับคำสั่งชั้นหรือไง?
???: ใช่ ! มันไม่ คะ..คะ..คะ..ควร มายุ่งกับผลงานวิจัยของชั้น?
เครโด: หน้าที่ของชั้นก็แค่จับดันเต้ให้ได้เท่านั้น.
???: ทำไม แก ถะ..ถะ..ถะ..ถึง
แซงค์ทัส: เครโด
เครโด: ครับ, ท่านประมุข.
แซงค์ทัส: จัดการกับทุกคน. ชั้นต้องการความแน่ใจในเรื่องนี้ว่าไม่มีตัวกวน.
เครโด: แน่นอนครับท่าน.
MISSION SIX :: RESURRECTION
<เนโร่จะเข้ามาอยู่ที่ห้องวิจัยใต้ดิน ทันใดนั้นแขนขวาของเขาก็ร้อนแผ่วอีกครั้ง เขามองไปรอบๆ จนเห็นดาบหักอยู่ในห้องแล็บอันหนึ่ง ,ซึ่งดูเมื่อว่า มีใครอีกคนอยู่ในห้องแล็บกับเนโร่ด้วย>
???: ชั้นคิดไม่มีผิดว่า แกต้องมาที่นี้.
เนโร่: แกเป็นใครน่ะ?
???: ชั้นแอ็กนัส. ชอบทำวิจัยอย่างลับๆ, ชั้นชอบที่จะทำงานวิจัยเป็นการ สะ..สะ..สะ ส่วนตัว
เนโร่: ตลกดีนี้, แทนที่จะไปวาดรูปไม่ก็ไปเดินเล่น กับชอบทำงานในสถานที่ที่คล้าย รูนรก แบบนี้
แอ็กนัส: “รูนรก” !? ดูแกพูด! ชั่งเป็นคำพูดที่โสโครกที่สุด รู้สึกว่าข่าวลือของแกที่ชั้นได้ยินมาจะจริงนะ. แกอย่าหวังจะขอความเมตตาจากชั้นเลย แก ตะ..ตะ..ตะ..ตาย!
เนโร่: นายไม่ได้คิดว่ามันเป็นคำหยาบคายแค่นิดหน่อยหรอ? จะฆ่าชั้น เพราะ ชั้นแค่มา พะ..พะ..พะ..พูดแบบนี้ นี้นะ?
< เนโร่พูดล้อเลียนแอ็กนัสที่ชอบพูดติดอ่าง แอ็กนัสโมโหเลยกลายร่างเป็นปีศาจ.>
เนโร่: เจ๋ง. กลายเป็นปีศาจอีกคนและ.
แอ็กนัส: นี้ละ, เป็นสิ่งที่เครโดทำอยู่
<เนโร่เข้าสู้กับแอ็กนัสที่เป็นปีศาจแล้วแอ็กนัสก็พูดต่อขณะที่สู้กัน.>
แอ็กนัส: ที่เครโดสั่งให้แกตามจับดันเต้...ก็เพราะเครโดมันอยากให้แกอยู่ที่นี้ไงละ!
เนโร่: ดันเต้...? แกหมายถึง คนที่ฆ่าท่านประมุขหรือ? มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี้!?
แอ็กนัส: ชั้นจะไม่ตอบแกหรอกนะ. สำหรับแกแค่นี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว ตะ..ตะ..ตะ ตายซะ.
เนโร่: ชั้นจะทำให้แกพูดเอง.
<เนโร่จะสู้กับแอ็กนัสและใช้พลังปีศาจของเขา กระโดดขึ้นไปบนหลอดทดลอง.>
แอ็กนัส: นะ..นะ..นะ..นั่นมันพลังของปีศาจนี้! มันเป็นไปได้ยังไง...?
เนโร่: ดูให้ดีหน่อยว่าใครพูดอยู่,ไอ้ทึ่ม. ตอบคำถามชั้นมา, เกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี้?
<เนโร่ใช้ดาบจ่อคอของแอ็กนัส, แต่แอ็กนัสสนใจแขนอสูรของเนโร่มากกว่าดาบที่จ่อคอเขาอยู่>
แอ็กนัส: ไม่น่าเชื่อ....มันมีพลังมหาศาล!
<แอ็กนัสจะพุ่งเข้าหาแขนอสูรของเนโร่,เนโร่จึงถอยหลังออกมา>
เนโร่: เอาละ,แกคงได้ยินที่ชั้นพูดนะ?
แอ็กนัส: ถ้าแกอยากจะได้คำตอบละก็, แกต้องมาเป็นพวกเราเท่านั้น.
<แอ็กนัสจะไล่สู้กับเนโร่ต่อ>
แอ็กนัส: อีกแค่ปีเดียวผลงานวิจัยของชั้นก็จะเสร็จสมบูรณ์...เราจะใช้พลังของปีศาจครอบครองโลกนี้!
และนี้เป็นความประสงค์ของท่านประมุข!
เนโร่: แกพูด...อะไรของแก, เพราะท่านประมุขน่ะตายไปแล้ว.
แอ็กนัส: อา.., แต่ท่านประมุขจะเกิดใหม่.และเป็นพระเจ้าของโลกใหม่!
เนโร่: พระเจ้าของโลกใหม่...?
แอ็กนัส: และในไม่ช้านี้แหละ, เพราะงั้นชั้น.
<เนโร่จะโดน อัศวินเกราะเหล็ก แทงติดกำแพง>
แอ็กนัส: ดูสิ เหยื่อทดลองงานวิจัยของชั้นยอมจำนนซะแล้ว? ดูนี้ซะ! อัศวินเกราะสีขาวที่แข็งแกร่ง!
แกไม่มีปัญญาสร้างมันได้หรอกต่อให้ใช้ทั้งชีวิตของแก. ชั้นต้องค้นคว้าและควบคุมพวกมัน.
อัญเชิญพวกมันออกมาและจะไม่มีใครเอาชนะมันได้!
เนโร่: อัญเชิญงั้นรึ...? แกเองสินะ...ใครเป็นสร้างประตูนรกนั่น!?
แอ็กนัส: ใช่,ใช่แล้ว ประตูนรก! ชั้นเป็นคนสร้างมันขึ้นมาโดยอ้างอิงจากประตูนรกของจริงมากที่สุด,
แต่ถ้าจะให้เกิดประโยชน์จริงๆ คงต้องเอาแขนปีศาจของแก, มาพิสูจน์ต่อ...
เนโร่: แกพูดเรื่องบ้าอะไรของแก?
แอ็กนัส: แกควรจะพักผ่อนได้แล้วนะ.
<เนโร่จะโดนเอาดาบแทงที่มืออสูร >
แอ็กนัส: ไม่นานแกจะการเป็นงานวิจัยคราวหน้าของชั้น,ชั้นจะได้ชำแหละตัวแก...และก็แขนของแก.
เนโร่: ไม่มีทาง...!
<เนโร่ ถุยน้ำลายที่ปนด้วยเลือดใส่หน้าแอ็กนัส,แอ็กนัสจึงดึงดาบออก.>
แอ็กนัส: อะ..อะ..อะ..เอามันออกไป!
<อัควินเกราะเหล็ก เอาตัวเนโร่ไป.>
เนโร่: ไครี่, หนีไป!
<ไครี่กรีดร้อง.>
ไครี่: เนโร่!
เนโร่:ไครี่!ไครี่!!
< เนโร่ฝันร้าย. เมื่อเขาตื่นมา ดวงตาของเขาเป็นสีแดงฉาด ดาบยามาโตะค่อยๆ เชื่อมต่อกัน และมันก็มาอยู่ในมือของเนโร่แล้ว ร่างเงาของปีศาจสีฟ้า โผล่ออกมาจากร่างของเนโร่พร้อมกับดวงตาอันแดงฉานของเนโร่ราวกับปีศาจ.>
แอ็กนัส: เป็นไปได้ยังไง...ชั้นไม่ค่อยซ่อมแซมมันได้เลยนี้... !
เนโร่: จากวันนั้นมา...แขนของชั้นก็เปลี่ยนไป...พร้อมกับเสียงสะท้อนในหัวว่า... "พลัง..."
"ให้พลังชั้นมากกว่านี้!"
แอ็กนัส: อะไรกัน...?
เนโร่: แม้ว่าชั้นต้องกลายเป็นปีศาจ,แม้ว่าชั้นจะต้องถูกรังเกลียด. ทุกอย่างก็เพื่อปกป้องเธอ.
<เนโร่ใช้พลังทำลายห้องทดลองอย่างราบคาบ.>
แอ็กนัส: เป็นไปไม่ได้! นี้มันเป็นไปไม่ได้!
<เนโร่จะหนีออกมาห้องแล็บ. เขาตกใจกับพลังของดาบยามาโตะที่ทำให้บาดแผลของเขา หายไป>
เนโร่: ชั้นต้องกลับไปที่สำนักงานใหญ่. เกี่ยวกับความจริงของแอ็กนัส...เครโดต้องไม่รู้เรื่องนี้แน่.
<เนโร่เดินไปตามทางจนเข้าไปในป่าแห่งหนึ่ง.>
เนโร่: ป่างั้นหรือ...?
<เนโร่ได้ยินเสียงใครบางคนข้างหลังเขา,เขามองไปรอบๆก็เจอดันเต้ยืนสังเกตุการอยู่บนหน้าผา.>
ดันเต้: นี้มันบ้าอะไรกันนี้?
<เนโร่ถือปืนเล็งไปที่เขา>
ดันเต้: นี้คงเป็นผลมาจากประตูนรกแน่ๆ...เสียใจด้วยนะ ไอ้หนู ถ้าจะเล่นกันคงต้องรออีกหน่อย.
<ดันเต้จะกระโดดลงไปจากหน้าผา .>
เนโร่: บางทีเขาอาจจะรู้ความจริงก็ได้?
MISSION SEVEN :: THE SHE-VIPER
<ที่สำนักงานใหญ่...>
เครโด: ...และนั่นเป็นเรื่องที่ยังอีกไกลเลยทีเดียวครับ.
<เครโดนั่งคุยอยู่ข้างแซงค์ทัส สักพักประตูห้องก็เปิดออก.>
แอ็กนัส: เครโด! แกต้องรู้เรื่องทั้งหมด!
เครโด: แกกล้าขึ้นเสียงต่อหน้าท่านประมุขหรือ!
แอ็กนัส: เจ้าเด็กหยิ่งยโสนัก มันมีพลังปีศาจ!
เครโด: เหลวไหล.
แอ็กนัส: เหลวไหลงั้นหรือ!? อย่ามาทำโง่ๆกับชั้นดีกว่า. มันเป็นคนของแกไม่ใช่หรือ? ,มันซ่อมแซมดาบยามาโตะ! และเอามันไป มันเป็นความผิดของแก! แกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้! ,มะ..มะ..มะ..มัน
แซงค์ทัส: เครโด.
เครโด: ครับ, ท่านประมุข.
แซงค์ทัส: เจ้าสามารถจับเด็กคนนั้นมาขังไว้ได้ไหม?
เครโด: ตามที่ท่านต้องการ...แต่ใครจะเป็นคนไปจับดันเต้ละครับ?
กลอเรีย: ชั้นจะจับเขาเอง
แซงค์ทัส: เธอคิดว่าจะจับเขาได้หรือ?
กลอเรีย: แน่นอน.
<เธอยืนขึ้นและโค้งคำนับแซงค์ทัส.>
กลอเรีย: ยินดีด้วย ที่ท่านประมุขหายดี.
<เธอเดินออกจากห้องไป.>
เครโด: เธอไว้ใจได้หรือ?
แซงค์ทัส: เธอเป็นคนเอาดาบแห่งสปาด้ามาให้พวกเรา...
เครโด: แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกเราอยู่ดี...
<กลอเรียจะแอบฟังการสนทนาอยู่ .>
แซงค์ทัส: ดูจากสถานการณ์.เรายังต้องใช้เธอก่อน,ชั้นสืบเรื่องของเธอมาแล้ว...แต่ตอนนี้ เครโด, หาเนโร่กับดาบยาโมโตะ แล้วพาเขามาหาชั้น.
เครโด: ตามที่ท่านต้องการครับ, ท่านประมุข.
แอ็กนัส: ดูเหมือนว่า ของรักของห่วงของมันจะเป็นน้องสาวของเคนโด,ที่ชื่อไครี่นะ ท่าน
มันพูดถึงชื่อเธอตลอด...
<แซงค์ทัสสนใจในสิ่งที่แอ็กนัสบอกมา. กลับไปที่ป่า,เนโร่ได้เจอประตูนรก เจอกับปีศาจหนอนยักษ์
อีชิทน่า ที่ออกมาเล่นงานเนโร่>
อีชิทน่า: พยายามไปก็เปล่าประโยชน์น่า!
<เนโร่จะยิงใส่ลูกน้องของมัน.>
อีชีทน่า: ลูกๆของข้า! แก!
<ดอกไม้ที่หัวปีศาจเปิดออกเป็นร่างผู้หญิงอยู่ข้างใน. เนโร่กระโดดลงบนต้นไม้>
เนโร่: เสียใจด้วยนะ,แต่มีเวลาเล่นกับเธอนิดหน่อย.
อิชิทน่า: คำพูดของแกข้าไม่สนใจหรอก. เพราะข้ากำลังจะฉีกเนื้อแกเป็นชิ้นๆอยู่แล้ว!
< เนโร่สู้กับเธอแล้วจัดการเธอได้. เธอจะพยายามบินหนีเข้าประตูนรก,แต่เนโร่จะจับหางเธอไว้.>
เนโร่: อย่าแม้แต่จะคิดเชียว.
อิชิทน่า: นี้ข้าถูกมนุษย์ที่น่าสังเวช ดูขนาดนี้เชียวหรือ...!
<เธอจะพยายามดิ้นให้หลุดจากมืออสูรของเนโร่. จนเธอหนีเข้าไปในประตูนรกได้,ประตูนรกปิดแต่จะมีลูกผลไม้ตกอยู่ .>
เนโร่: เฮ้, ถ้าไม่อย่าเจ็บตัวก็อย่ามาที่นี้อีกละ.
<เนโร่เก็บผลไม้ที่ตกอยู่.>
เนโร่: แม่ที่ไหน เขาทึ้งลูกไว้อย่างนี้เนี้ย?
<เนโร่จะดูดผลไม้เข้าไปในมืออสูรและไปจากที่นี้.>
MISSION EIGHT :: PROFESSION OF FAITH
<เนโร่กลับมาที่สำนักงานใหญ่ของภาคีแห่งดาบ.
เขาเห็นใครบางคนเดินออกมาจากที่นั้น, แล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นเครโดเป็นคนเดินออกมา.>
เนโร่: นั่นนายกำลังไปยิงศัตรูของนายอยู่หรือไง.
<เครโดได้ยินที่เนโร่พูด จึงเดินไปหาเนโร่.>
เนโร่: เอาละ, ชั้นอยากจะถามนายอยู่พอดี... ภาคีแห่งดาบต้องการทำอะไรกันแน่? และใครคือ ดันเต้?
เครโด: นายไม่ต้องการคำตอบจากชั้นหรอก!
<เครโดจะชักดาบฟันใส่เนโร่, แต่เนโร่จะป้องกันคมดาบด้วยแขนอสูรของเขา.>
เครโด: นายมีพลังของปีศาจ...
เนโร่: เดี๋ยวก่อน! ชั้นไม่ได้จะมาทำร้ายนายนะ. แล้วก็ไม่ได้จะมาทำร้ายไครี่ด้วย!
เครโด: "ทำร้ายชั้นงั้นหรือ"? นายแน่ใจหรือว่า,นายจะไม่ทำอย่างนั้น?
<เครโดจะเริ่มกลายร่างเป็นปีศาจ.>
เนโร่: นายก็...
<เครโดกลายร่างเป็นปีศาจที่มีดาบสีทอง. และปีกสีขาว>
เครโด: ชั้นได้รับการวิวัฒนาการแล้ว,เป็นอะไรที่มากกว่ามนุษย์. ชั้นคือผู้พิทักษ์ของพระเจ้า!
เนโร่: ผิดแล้ว, เครโด. นั่นมันก็แค่ทำให้นายกลายเป็นปีศาจตัวหนึ่งเท่านั้น.
เครโด: ชั้นหัวหน้าของเหล่าอัศวินศักสิทธ์, นายต้องถูกจับ. และนี้เป็นความประสงค์ของท่านประมุข!
< เนโร่จะสู้กับเครโด. แล้วชนะเขา, ในที่สุดเครโดก็กลับกลายเป็นร่างมนุษย์เหมือนเดิม>
เครโด: มะ...ไม่! งานของชั้นยังไม่จบ!
<เครโดจะพยายามเอาดาบฟันเนโร่,แต่เนโร่ก็ป้องกันได้ง่ายๆ.>
เครโด: นายแข็งแกร่งขึ้น!
<เนโร่ได้ยินเสียงของใครบางคนดังข้างหลังเขา. แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาคือไครี่.>
เนโร่: ไครี่...
<ไครี่เธอมองไปที่แขนอสูรของเนโร่, เนโร่จะพยายามซ่อมแขนอสูรของเขา.ไครี่มองไปที่เครโดพี่ชายของเธอที่นอนอยู่ที่พื้น, และเดินถอยหนีจากเนโร่.>
เนโร่: เดี๋ยวก่อน... มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ...
ไครี่: ทำไม...? ทำไมเธอถึงทำแบบนี้...?
< เนโร่จะพยายามเดินเข้ามาหาเธอ, แต่แอ็กนัสจะปรากกฎตัวมายืนอยู่ข้างๆ ไครี่ พร้อมรอยยิ้ม.>
แอ็กนัส: พวกเราจะปกป้องเธอ. จากแกที่เป็นปีศาจเอง.
เนโร่: แก....
ไครี่: เนโร่.
แอ็กนัส: ไม่ต้องห่วง. ชั้นจะไม่ทำร้ายเธอ...หรอก. เพื่อเห็นแก่มิตรภาพอันแสนหวานของพวกแก...
<แอ็กนัสจะล็อคคอไครี่ แล้วเอาดาบจ่อคอเธอไว้.>
เนโร่: เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้... ปล่อยเธอไปซะ!
เครโด: แอ็กนัส! แกกล้าใช้น้องสาวชั้นงั้นหรือ! นี้เป็นการต่อสู้ของชั้น ชั้นจะจบเรื่องด้วยตัวชั้นเอง! ปล่อยเธอไปซะ!
แอ็กนัส: ท่านประมุข คิดไว้อยู่แล้วว่า แกจะต้องแพ้ ก็เลยว่าจะใช้น้องสาวของแกให้เป็นประโยชน์หน่อย.
เครโด: อะไรนะ...?
<แอ็กนัสจะแปรงร่างเป็นปีศาจบิน,โดยจับตัวไครี่ไปด้วย .>
แอ็กนัส: ถ้าอยากได้ตัวเธอคืน, แกต้องหามาพวกเรา, สำหรับชั้นแล้ว ชั้นจะไม่รับประกันชีวิตเธอนะ.
<แอ็กนัสหัวเราะ ก่อนบินจากไป.>
เครโด: ท่านประมุข... ท่านคิดจะใช้ไครี่งั้นหรือ...?
เนโร่: มันจะเอาเธอไปที่ไหน? กลับไปที่สำนักงานใหญ่ใช่ไหม?
<เนโร่ดึงคอเสื้อเครโดขึ้น.>
เครโด: ชั้นคิดว่าอย่างนั้นล่ะ.เนโร่, เราสองคนต้องช่วยกัน ชั้นจะไปหาความจริงกับเรื่องนี้เอง.
<เครโดจะกลายร่างเป็นปีศาจอีกครั้งและบินจากไป.>
MISSION NINE :: FOR YOU
< เนโร่จะกลับมาที่สำนักงานใหญ่ของภาคี และได้เห็นไครี่ถูกจับอยู่ในหลอดทดลองแก้วสีแดง,เขาพยายามจะเข้าไปช่วยเธอ, แต่แอ็กนัสจะโผล่มาพอดี>
แอ็กนัส: ในที่สุด, แกก็มา.
เนโร่: แกทำอะไรไครี่?
แอ็กนัส: ทำไมแกไม่แหกตาของแกดูเอาเองละ. แต่อย่าคิดว่าจะจัดการชั้นได้ง่ายๆนะ มันหมดเวลาของแกแล้ว.
เนโร่: งั้นชั้นก็จะฆ่าแก เพื่อช่วยไครี่, ก็เท่านั้น.
<เนโร่จะสู้กับแอ็กนัสจนชนะ.>
แอ็กนัส: ไอ้สารเลว! ไอ้บัดซบ! ชั้นจะฆ่าแก! ชั้นจะฆ่าแก!
เนโร่: ขอคืนคำพูดของแกให้แกหมดเลยละกัน? ชั้นคิดว่าแกคงหายข้องใจแล้วสินะ.
<แอ็กนัสจะสั่งพวก อัศวินเกราะเหล็ก ให้เข้าจัดการกับเนโร่. แต่แซงค์ทัสในร่างปีศาจก็โผล่ออกมา>
แอ็กนัส: ท่านประมุข!
แซงค์ทัส: พอแค่นั้นแหล่ะ, แอ็กนัส. รีบไปเตรียมการให้เรียบร้อยซะ.
แอ็กนัส: ตามพระประสงค์ครับ.
<แอ็กนัสจะพยายามบินหนีไปโดยเอาตัวไครี่ไปด้วย,เนโร่เห็นไครี่จะโดนเอาตัวไป. เขาจึงวิ่งฝ่าวงล้อมของอัศวินเกราะเหล็กเข้าไปหาไครี่ ที่แอ็กนัสจับตัวไป>
เนโร่: ปล่อยเธอไปซะ! ไครี่!
ไครี่: เนโร่...
< เนโร่ฝ่าวงล้อมอัศวินเกราะเหล็กแล้วกระโดดขึ้นไป ใช้มืออสูรของเขาคว้าตัวไครี่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไปไม่ถึง คว้าได้เพียงแค่สร้อยคอที่เขาให้กับเธอไว้เท่านั้น.>
แซงค์ทัส: เจ้าเป็นผู้สืบทอดพลังของสปาด้าสินะ.
<แล้วแซงค์ทัสจะหนีไป, เนโร่จะระเบิดพลังของเขาออกมา จัดการพวกอัศวินเกราะเหล็ก เสร็จแล้วเขาจะมองไปที่ท้องฟ้า และก้มลงมองสร้อยคอที่เขาคว้าได้จากไครี่ เขาจะทุบพื้น และกรีดร้องในความผิดหวังของเขาเอง.>
MISSION TEN :: WRAPPED IN GLORY
<เนโร่จะเข้ามาในห้องๆหนึ่งในสำนักงานใหญ่ของภาคี, และได้พบกับดันเต้.>
ดันเต้: ไม่ได้เห็นนายนานเลยนะ?
เนโร่: นาย...นายมาทำอะไรที่นี้? เอ่อ..ชั่งมันเถอะ, ชั้นมีเวลาไม่ค่อยมากเท่าไร.
ดันเต้: ชั้นว่า ไม่ใช่ทั้งสองอย่างแหละ.
<ดันเต้จะแตะบ่าของเนโร่ ขณะที่เนโร่กำลังเดินจากไป,แต่เนโร่จะหันมาต่อยด้วยความรวดเร็ว, ซึ่งดันเต้จะหลบได้อย่างง่ายดาย. และจับแขนเขาไว้>
ดันเต้: เดี๋ยวชั้นตัดมันออกซะเลยนี้.
<ดันเต้จะจับเนโร่มาที่กำแพง.>
ดันเต้: ชั้นมาที่นี้ เพราะดาบนั่น.
เนโร่: นี้คือ แผนการนายสินะ?
<เนโร่จะระเบิดพลังของดาบยามาโตะออกมาเป็นร่างปีศาจ.ดันเต้ซึ่งดูอยู่ก็สนใจไม่น้อย.>
ดันเต้: นั่นมันของพี่ชายชั้น...เอามันมาให้ชั้นและชั้นจะปล่อยนายไป,เจ้าหนู
เนโร่: เจ้าหนูงั้นหรือ? แหม...ชั้นเห็นหน้านายทีไร นายคงจะขายขึ้หน้า น่าดูเลย ถ้าชั้นเตะก้นนายได้.
<เนโร่ ฟันดาบใส่ดันเต้ >
ดันเต้: อ่า, นั่นเป็นคำพูดของนาย, ที่พูดกับคนที่แก่กว่าหรือไง...
<เนโร่จะสู้กับดันเต้ เมื่อชนะ จะตัดเป็นฉากที่เนโร่ใช้ดาบยามาโตะฟันใส่ดันเต้จนดาบของดันเต้กระเด็นหลุดจากมือ เนโร่เห็นโอกาสชนะจึงใช้ดาบหมายแทงคอหอยดันเต้ แต่ดันเต้จะเอียงตัวหลบ พร้อมผลักเนโร่จนล้มลง เนโร่พยายามลุกขึ้น แต่ดันเต้จะเอาขายืนแขนที่ถือดาบของเนโร่และเอาดาบจ่อคอไว้.>
ดันเต้: แกเก่งมาก,ไอ้หนู? แล้วไงต่อ? ไงนลงไปนอนอย่างนั้นละ?
เนโร่: ดูเหมือนว่า นายกับชั้นเพิ่งจะเริ่มเล่นกันเท่านั้น.
<ดันเต้จะเอาดาบและเท้าออกจากเนโร่, เนโร่จะยืนขึ้น>
ดันเต้: ดาบนั่น...สามารถใช้แยกโลกมนุษย์กับโลกปีศาจได้. ชั้นไม่รู้ว่ามันมีพลังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร? นับจากมันได้มาอยู่กับคนในครอบครัวของชั้น..
เนโร่: ชั้นต้องการมัน...
ดันเต้: งั้นเก็บไว้
<เนโร่หันมามองหน้าดันเต้.>
ดันเต้: เมื่อนายใจเย็นลงและเสร็จเรื่องแล้ว...ค่อยเอาคืน.
<เนโร่จะถือดาบยามาโตะและเดินผ่านหลังดันเต้ไป.>
ดันเต้: เฮ้! นายชื่ออะไร?
เนโร่: เนโร่. นายดันเต้, สินะ? ชื่อไม่เลวนิ...
ดันเต้: อาจจะไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก.
<เนโร่เดินจากดันเต้ไป, แต่กลอเรียจะโผล่มาหาดันเต้แทน.>
ดันเต้: ชุดสวยดีนิ.
กลอเรีย: ชั้นประทับใจจริงๆ.
<เธอจะดึงเสื้อผ้าออก. ซึ่งตัวจริงของเธอก็คือ ทริช ที่มาสืบข่าวให้ดันเต้นั่นเอง>
ทริช: เธอแน่ใจหรือ ที่จะปล่อยเขาไป?
ดันเต้: ใช่, ชั้นคิดว่าเขารับภาระนี้ไหวนะ.
ทริช: ชั้นรู้นะ ว่ามันไม่ใช่ธุระของชั้น, แต่ว่าแบบนี้มันไม่ดู น่าเกลียดไปหน่อยหรอ.
ดันเต้: ก็แหม, ถ้าเด็กนั่นคุมไม่อยู่, ชั้นก็แค่ไล่เตะก้นเขาแทน ก็เท่านั้น.
MISSION ELEVEN :: THE NINTH CIRCLE
<เนโร่ได้ขึ้นมาบนหอคอยแห่งหนึ่ง,แล้วได้พบกับแซงค์ทัสประมุขแห่งภาคี.>
เนโร่: อะไรกันนิ...
<เนโร่เล็งปืนไปที่แซงค์ทัส.>
แซงค์ทัส: แบบนี้คงไม่สวยมั้ง?
เนโร่: ชั้นคิดว่า เรามีความข้อเห็นที่ต่างกันวะ.
แซงค์ทัส: ชั่งโชคร้ายดีแท้.
<เนโร่ยกปืนไปที่ผนึกคล้ายเพชร.และได้เห็นไครี่ไม่ได้สติอยู่ในผนึก.>
เนโร่: ไครี่!
<ไครี่ลืมตามองมาที่เขา.>
แซงค์ทัส: เจ้าไม่อยากเป็นหนึ่งเดียวกับเธอหรือ? ตายด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวภายในร่างของพระเจ้า, และใช้ความบริสุทธ์นั้น,เป็นพลังให้แก่ข้า
เนโร่: แกก็ไปคนเดียวซิวะ.
<ไครี่จะยิ้มให้เนโร่,เนโร่จะลดปืนลงแล้วพูดกับเธอ.>
เนโร่: ชั้นมาที่นี้เพื่อช่วยเธอ... ได้โปรดเชื่อใจชั้น.
<เมื่อเนโร่พูดจบ,ไครี่ก็โดยดึงเข้าไปในผนึก.>
แซงค์ทัส: ชั้นเสียใจด้วยนะ สายไปเสียแล้ว. แม้ว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์, แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีของเจ้า ที่จะได้เห็นพลังที่แท้จริงของพระเจ้า!
<เนโร่จะเข้าต่อสู้กับแซงค์ทัสและรูปปั้นเทพเจ้า, แซงค์ทัสจะแพ้ในการต่อสู้กับเนโร่. เขาจึงบินหนีขึ้นไป, ไครี่จะถูกปล่อยตัวออกมาจากผนึกอีกครั้ง, เนโร่จะล้มลง. แซงค์ทัสเห็นโอกาสชนะจึงโจมตีเนโร่ทันที.>
แซงค์ทัส: เพื่อความรักงั้นหรือ. น่าสมเพชยิ่งนัก. แต่อย่างไรก็ตาม,ชั้นต้องการคนที่มีพลังผู้สืบทอดจาก
สปาด้า. เจ้าเองก็ไม่ใช่พวกเดียวกับดันเต้,แล้วเจ้ายังคิดที่จะต่อสู้กับข้างั้นหรือ.
เนโร่: ดันเต้...?
แซงค์ทัส: ความจริง ชั้นอยากจะดูดเจ้าให้เป็นส่วนหนึ่งของรูปปั้นเทพเจ้า, แต่เจ้ามีบางสิ่งที่น่าสนใจ,
แล้วมันจะทำให้แผนการของชั้นสำเร็จอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น.
<แซงค์ทัสจะใช้รูปปั้นเทพเจ้าจับเนโร่ไว้อยู่.ซึ่งตอนนี้ดาบยามาโตะก็ได้ไปอยู่กับแซงค์ทัสแล้ว.>
แซงค์ทัส: เมื่อใดที่เลือดของเจ้ากับดาบแห่งยามาโตะ หลอมรวมกัน, เราจะสามารถเปิดประตูอัญเชิญบานสุดท้ายได้ในที่สุด.
<ทันใดนั้น, เครโดจะโผล่ออกมาช่วยเนโร่จากแซงค์ทัส.>
เครโด: เนโร่! หนีไปซะ!
<เนโร่จะหนีออกจากกำปั้นของรูปปั้นเทพเจ้าได้สำเร็จ, และเครโดจะถูกแซงค์ทัสแทงด้วย
ดาบยามาโตะ.>
เนโร่: เครโด!
แซงค์ทัส: เจ้าทรยศพวกเรา. ทำไมกัน?
เครโด: ข้าคิดถึงโลกในอุดมคติของท่านมาตลอด, โลกใหม่ที่มีพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดเสมอ...แต่ท่านใช้น้องสาวของข้า, ไครี่, เธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้, และนี้ล่ะ ที่ข้ายกโทษให้ไม่ได้.
แซงค์ทัส: เพราะความรักงั้นหรือ...? เพื่อพี่น้องงั้นหรือ...? ชั่งโง่เขลานัก.
<แซงค์ทัสดึงดาบออกจากร่างของเครโด, ร่างของเขาร่วงลงจากรูปปั้นเทพเจ้า สู่พื้นข้างล่าง.>
แซงค์ทัส: พลังที่แท้จริง คือความถูกต้องของทั้งหมด!
<ก่อนที่เครโดจะร่วงลงสู่พื้น,ดันเต้ได้โผล่มารับเครโดที่กำลังตกลงมาเอาไว้ได้ทัน,โดยมีทริชยืนอยู่ข้างๆ เขา.>
แซงค์ทัส: โอ้, นั่นเจ้าเองสินะ... กลอเรีย. ชั่งโรคร้ายนัก ข้าได้เลือดจากผู้สืบทอดพลังของสปาด้าแล้ว,เพราะ เจ้าเด็กนี้, แกเลยไม่มีความจำเป็นต่อชั้นอีกแล้ว! รูปปั้นเทพเจ้า ฟื้นคืนชีพแล้ว!
ดันเต้: ชั้นไม่สนใจหรอก, ชั้นพนัน ได้ว่าเจ้าหนูนั่น เขาสามารถจัดการปัญหาชีวิตได้ด้วยตัวเขาเอง.
<ขณะที่แซงค์ทัส เผลอ, เนโร่จะใช้แขนอสูรยืดออกไปที่กำแพง. แต่แล้วแขนอสูรของเนโร่ก็โดนดาบยามาโตะแทง.>
แซงค์ทัส: เจ้ามันโง่เขลานัก! จะหนีทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้งั้นหรือ! พีธีกรรมยังไม่จบแค่นี้หรอก!
<เนโร่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด, และแสงจากแขนอสูรของเขากค่อยๆ จางลงไป.>
ดันเต้: เฮ้, เจ้าหนู! นายจะยอมแพ้แค่นี้หรือไง?
เนโร่: ชั้นก็มีทางเลือก...ของชั้นเอง...
ดันเต้: เหมือนละครน้ำเน่าไม่มีผิดเลย. เอาเถอะ, นายจะต้องตายด้วยดาบของชั้นเท่านั้น, ชั้นอยากจะให้มันจบๆ เรื่องซะที!
<เนโร่จะโดนดูดเข้าไปในรูปปั้นเทพเจ้า.>
เนโร่: แล้วจะกลับมาเช็คบิล.
ดันเต้: อะไรก้าน...
MISSION TWELVE :: A NEW BEGINNING
<ในรูปปั้นเทพเจ้า, เนโร่จะเห็นไครี่อยู่ข้างหน้าเขา.>
เนโร่: ไครี่. ชั้นช่วยเธอไว้ไม่ได้.
<ไครี่เธอส่งยิ้มพร้อมยื่นมือของเธอไปที่เขา, เนโร่พร้อมจะคว้างมือเธอไว้. แต่แล้ว,
เมื่อเขาสัมผัสมือเธอ,ร่างกายของเธอก็ค่อยๆกลายเป็นละอองอากาศสีทองไป.>
เนโร่: ไครี่...
ไครี่: เนโร่... ขอบคุณมากนะ.
เนโร่: ไครี่! ไครี่! ชั้นสาบานเอาไว้! ชั้นสาบานไว้ ว่าเราจะออกไปจากที่นี้ด้วยกัน!
ไปด้วยกันเถอะ! ไครี่! ไครี่!
<เนโร่ได้แต่จมปักอยู่ในความสิ้นหวัง ตัดออกมาที่ข้างนอกรูปปั้นเทพเจ้า. รูปปั้นเทพเจ้าได้มีปีกสีทองออกมาจากด้านหลัง, ดันเต้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ.>
ดันเต้: ดูมันสิ ! มันมีปีกด้วยวะ!
ทริช: ก็ออกแบบได้น่ากลัวดีนิ.
< เครโดค่อยยืนขึ้นข้างๆ พวกเขา, ดันเต้และทริชเลยหันมามองเครโดที่กำลังยืนขึ้น.>
ดันเต้: นิ, พวกมันกำลังไปที่ไหน? มันคงยังไม่สมบูรณ์สินะ?
เครโด: มันกำลังไปที่ใจกลางของโลกแห่งความวุ่นวาย...เขาจะเริ่มจากควบคุมให้มันออกมา.
ทริช: ตอนนี้ พวกเขาอยากได้ดาบยามาโตะไป...ทำไม.
เครโด: สปาด้าเคยใช้มันปิดประตูนรกจากโลกของปีศาจ, ดาบนั่นเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้เปิดประตูนรก.
ประตูนรกที่แท้...ซึ่งมันอยู่ใต้เมืองแห่งนี้...
ดันเต้: ดาบนั่นสามารถใช้เชื่อมต่อและแยกโลกมนุษย์กับโลกปีศาจได้จริงสินะ...
เครโด: ข้าคิดว่า ท่าน, ซึ่งเป็นลูกชายของอัศวินรัตติกาลสปาด้า, คงเป็นคนเดียวที่จะสามารถหยุดรูปปั้นเทพเจ้าในตอนนี้ได้. ดันเต้...
ทริช: ดูเหมือนว่า เธอจะได้เลื่อนตำแหน่งอีกแล้วนะ.
ดันเต้: ดูท่าจะเป็นอย่างนั้น.
เครโด: ได้โปรด...ฟังคำขอร้องสุดท้ายจากข้า...ช่วยพวกเขาด้วย...ไครี่...และเนโร่...
<ดันเต้ประคองเครโดที่ล้มลง และร่างกายของเขาก็กลายเป็นละอองอากาศสีทองหายไป.>
ดันเต้: ชั้นทำแน่. ชั้นไม่ปฎิเสธคำขอของคนตายหรอก.
ทริช: ชั้นจะกลับไปที่เมืองและอพยพผู้คนนะ.
ดันเต้: เฮ้ ! ถ้าทางที่เธอกลับไปเป็นทางที่ทึ้งขยะละก็ ที่นั้นมีคนอยากร่วมโต๊ะด้วยคน
ทริช: เธอต้องการตัวช่วยหรือไง?
ดันเต้: ก็เจ๋งดีนิ. ทำตามแผนกันเลย.
MISSION THIRTEEN :: THE DEVIL RETURNS
<ระหว่างนั้น, ข้างในหอคอยพิธีกรรม, แอ็กนัสเดินเข้ามาที่ฐานที่พื้นวงกลมสีแดงซึ่งมีรูสำหรับเสียบดาบ โดยแอ็กนัสได้ถือดาบยามาโตะมาด้วยในมือ.>
แอ็กนัส: จงให้ข้ายืมหูและเขี้ยว.
<กลางห้องจะมีผนึกสีแดงอยู่ตรงกลาง.>
แอ็กนัส: จงทำลายโลกนี้เพื่อให้โลกในอุดมคติ จงบังเกิด!!!
<แอ็กนัสแทงดาบยามาโตะลงไปที่ผนึกสีแดง,จนมันแตกกระจายไปรอบห้อง.>
แอ็กนัส: วันแห่งการพิพากษาได้มาถึงแล้ว!
<ผู้คนในเมือง,ต่างตกใจกับประตูนรกที่แตกออกมาจากหอคอยพิธีกรรม,ปีศาจมากมายออกมาเป็นสายสีดำทมึฬ. คนบางกลุ่มบางแอบหลบอยู่ในซอกซอยเล็กๆบางก็ถูกปีศาจฆ่าตาย, เมื่ออัศวินเกราะเหล็กมาถึง ก็เข้าต่อสู้กับพวกปีศาจทันที.แล้วรูปปั้นเทพเจ้าก็มาถึงที่เมือง พวกอัศวินเกราะเหล็กก็ยังคงต่อสู้กับปีศาจต่อไป.>
แซงค์ทัส: จงอย่ากลัว! พระผู้ช่วยให้รอดมาถึงเราแล้ว, เพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติทั้งปวง พวกเราจงสำนึกผิดและจงดีใจกับโลกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นเถิด!
<ผู้คนในเมืองต่างมองดูรูปปั้นเทพเจ้าซึ่งตอนนี้มีปีศาจไปเรียงรายโดยรอบ,แซงค์ทัสจะหัวเราะในความสำเร็จของตน,ดันเต้ซึ่งยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของเมืองยืนดูเหตุการณ์และตบมือให้.>
ดันเต้: นั่นคงเป็นแผนการเหมือนตดคนแก่ อย่างแกสินะ.
<ดันเต้จะไปตามทางของเขาผ่านทางสำนักงานใหญ่ของภาคีแห่งดาบ,และกำจัดศัตรูตามทางที่เขาเจอ. แล้วเกมส์จะตัดเป็นฉากย้อนหลัง,ของดันเต้,ทริชและเลดี้ที่ร้านเดวิลเมย์คราย, ซึ่งดันเต้กับทริชกำลังนั่งกินพิซซ่าอยู่.>
ดันเต้: ภาคีแห่งดาบงั้นหรือ, หือ?
เลดี้: ใช่. นายเป็นพวกเดียวกับเขาหรือไง?
ดันเต้: ขอโทดทีเถอะ, ถ้าเรื่องของพวกคลั่งศาสนาละก็อย่าเอาชั้นไปรวมเลย.
เลดี้: มันเป็นการชุมนุมเล็กๆในปราสาทฟอทูน่า. ชั้นเดาว่า มีใครบ้างคน กำลังหาสิ่งที่น่าสนใจอะไร ที่นั้นสักอย่าง.
ดันเต้: เหมือนเธองั้นหรือ?
เลดี้: แน่นอน. นายรู้เรื่องเกี่ยวกับสปาด้าดีแค่ไหนหันเชียว?
ดันเต้: ก็แหม, อะไรที่ชั้นนึกว่ามันเป็นสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย นั้นก็คือทั้งหมดของเขานั่นแหละ.
เลดี้: เรื่องราวของสปาด้าและสถานที่ที่สปาด้าเคยอยู่มานานแล้วหลายทศวรรต. ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นต่างนับถือและบูชาเขา...ดั่งพระเจ้า.
ดันเต้: พวกเขาบูชาปีศาจเป็นพระเจ้างั้นหรือ?
เลดี้: ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการบูชาหรอก, แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ คำสั่งของพวกเขาที่สั่งไล่ล่า,จับปีศาจและนั่นมันก็สะเทือนถึงงานของชั้นด้วย.
ดันเต้: บางที พวกเขาอาจจะกำลังสวนสัตว์อยู่ก็ได้.
เลดี้: ไม่ใช่เรื่องปีศาจนั่น. เป้าหมายของพวกเขาคือแขนอสูร,เหมือนกับที่นายมีอยู่.
ดันเต้: โอเค งั้นก็, พวกเขาจะเปิดพิพิธภัณฑ์ ละมั้ง. แล้วไงล่ะ?
เลดี้: ฟังนะ ถ้าความตั้งใจของพวกเขาคือการวางแผนชั่วร้ายอยู่ละก็ ระหว่างนั้นจะปล่อยให้มัน
ผ่านไปหรือไง?
ดันเต้: ก็ดี ชั้นเอาก็มีบางอย่างที่ต้องเก็บคืนมาเป็นของชั้นเอง และ- ทริช!
<ดันเต้มองไปด้านหลังที่ทริชอยู่,แต่เธอได้หายตัวไปแล้ว.โดยที่กำแพงมีดาบของสปาด้าหายไปพร้อมกับข้อความว่า: "เจอกันที่นั่น." ตัดมาที่อยู่ปัจจุบันของดันเต้,ซึ่งตอนนี้เขากำลังเดินอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง.>
ดันเต้: ทุกอย่างเริ่มจะวุ่นวายซะแล้ว...
<ดันเต้จะเข้ามาในป่าแล้วเจอประตูนรก ที่เนโร่ได้เจอมาก่อนหน้านี้,และได้พบกับปีศาจอีชิทน่าอีกครั้งหนึ่งจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น>
อิชิทน่า: อะไรอยู่ใน- โอ้ว! แกเป็นใครไม่ทราบ?
ดันเต้: ดูเหมือนว่า เธอจะเอาใจใส่ชั้นเหลือเกินนะ. แต่ชั้นเริ่มที่จะไม่ค่อยสนใจแล้วสิ.
อิชิทน่า: แกคงจะพูดเล่นได้แค่นี้แหละ, เพราะชั้นคิดว่าแกจะต้องเสร็จ ลูกๆของข้า!
<อีชิทน่าซ่อนตัวในช่อดอกไม้และไล่กัดดันเต้,ดันเต้จะโดนกัดเข้าที่ขา แล้วถูกกลืนเข้าไปในปาก
สักพัก ดันเต้ก็งัดปากอิชิน่าออกมา.>
ดันเต้: ฟังดูไม่เลวนิ, ชั้นคิดแค่ว่า ชั้นจะผ่านมาเฉยๆ. กลับได้สู้ซะงั้น และมันก็เป็นสิ่งที่ชั้นสนใจซะด้วยสิ. เธอก็คิดอย่างนั้นใช่มั๊ย?
<ดันเต้สู้กับอิชิทน่า.>
อีชิทน่า: ป่าของข้า...! ลูกๆของข้า...!
<ดันเต้ยิงอีชิทน่าจนตัวมันระเบิด.>
ดันเต้: ชั้นคิดว่าชุดเธอสวยดีนิ.
<ดันเต้เห็นออบสีเขียวและเก็บมันมา.>
ดันเต้: เสร็จไปหนึ่ง...
<หลังจากดันเต้ได้ออบสีเขียวมา เขาก็ได้อาวุธใหม่เป็นชุดเกราะที่มีชื่อว่า กิลกาเม แล้วเขาก็ทดลองใช้มันกับประตูนรก.>
ดันเต้: ...เหลืออีกสอง
MISSION FOURTEEN :: FOREST OF RUIN
(ไม่มีบทพูดในฉากนี้.)
MISSION FIFTEEN :: FORTUNA CASTLE
<ดันเต้ได้เข้ามาในปราสาทฟอทูน่าจนถึงส่วนที่เป็นลานหิมะ เขาได้ยินเสียงผู้หญิง.เขามองไปรอบๆก็เห็นไฟสองดวงลอยอยู่บนอากาศ.>
ดันเต้: ไงที่รัก! ใช่เลย! ต้องงี้สิ! ดีมาก! หวานไม่บ่อยนิ!
<ดันเต้จะเดินมาลงพร้อมกับสนุกในสิ่งที่เห็น, และจะมีคางคกกระโดดขึ้นมากพยายามที่จะกัดเขา.แต่ดันเต้กระโดดหนีทัน.>
ดาก้อน: อะไรกัน...? แกรู้ตัวได้ไง !?
ดันเต้: แกซ่อนตัวอยู่ก็จริง,แต่กลิ่นเหม็นมันโชยวะ...ฮู้! ไงนก็ปิดไม่มิดวะ!
ดาก้อน: แกดูถูกข้างั้นหรือ และแกจะต้องโดนทรมานอย่างสาสม.
ดันเต้: แล้วชั้นจะรอดูว่าแกทำได้จริงหรือเปล่า!
<ดันเต้สู้ชนะดาก้อน.>
ดาก้อน: อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้...พวกของข้ายังมีมากกว่านี้อีก.
<ดันเต้จะกระโดดขึ้นไปจัดการมันที่หัว,ตัวของมันก็จะกลับกลายเป็นน้ำแข็งและแตกกระจายไปในที่สุด.แล้วดันเต้จะได้อาวุธใหม่เป็นกระเป๋าที่มีชื่อว่า แพนโดร่า.>
ดันเต้: ดูเหมือนว่าแกจะไม่ได้พูดเล่นสินะ... พวกแกคง-อยาก-จะ-กิน บุพเพ่กันแล้วใช่มั๊ย.
<ดันเต้พูดขึ้นมาหลังจากที่มีฝูงคางคกมากมายตรงมายังเขา,และเขาก็ใช้อาวุธใหม่ที่ชื่อว่า
กล่องแพนโดร่า จัดการกับศัตรูทั้งหมดได้อย่างงายดาย, แล้วดันเต้จะร่วงลงไปในห้องเครื่องยนต์.>
MISSION SIXTEEN :: INFERNO
<ข้างในห้อง...>
ดันเต้: โอ้ เจ๋ง.
<เมื่อดันเต้เข้ามาที่นี้ เขาจะเจอควันพิษเล่นงานทันที ถ้าเราเล่นในเกมส์มันจะทำให้พลังชีวิตของเราลดลงเรื่อยๆ ต้องรีบออกไปจากที่นี้.>
ดันเต้: นี้ชั้นยังเจออุปสรรคมาไม่พอหรือไงหว่า...
<ดันเต้จะไปตามทางของเขา จนเขาออกมาจากปราสาทฟอทูน่า, เขาจะมาถึงที่ที่เป็นลานหิมะ. เมื่อเขามุ่งหน้าลงไปตามทางด้านล่างของแผ่นที่ผ่านอุโมงค์ไป ,เขาก็ได้เห็นจอมปีศาจบริชยืนดูรูปปั้นเทพเจ้าที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอยู่.>
บริช: มนุษย์นั่นจะวางท่าเป็นพระเจ้างั้นหรือ...? ไม่มีทาง!
ดันเต้: นายไม่ต้องพูดเลย...
<บริชจะมองรอบๆจนเห็นดันเต้ จับหางของบริชอยู่.>
บริช: อะไรของแก...
<บริชจะสะบัดหางของมันให้หลุดจากดันเต้ไปรอบๆ,แล้วไฟก็ไปเผาโดนเสื้อคลุมของดันเต้เข้าให้.>
ดันเต้: นายน่าจะเห็นชั้นตั้งนานแล้วนะ...ดูสิ เสื้อคลุมของชั้นไหม้เกรียนเลย.
บริช: ลูกชายชื่อเหม็นที่สุดของสปาด้านี้เอง... ข้าจะแก้แค้นให้พวกของข้าที่แกฆ่าไปด้วยดาบของแก!
<ดันเต้สู้กับบริช และชนะ.>
บริช: แกเก่งกว่าข้างั้นหรือ... แกจะดูถูกข้ามากไปแล้ว!
ดันเต้: ชั้นให้นายเลือกนะว่า นายจะตายอยู่ตรงนี้ ไม่ก็ย้ายก้นน่าเกลียดๆของนายกลับเข้าประตูนั้น.
ที่มันเรียกนายมาซะ,เลือกเอานะเพื่อน.
บริช: ข้าจะไม่ทำอย่างนั้นอีกครั้งแน่.
<บริชจะยิงลูกไฟใส่ดันเต้, แต่ดันเต้ก็หยุดลูกไฟได้ด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว.>
ดันเต้: นั่นไม่ดีเลยนะ... ชั้นว่าชั้นจะให้เวลานายทำตามสิ่งที่ชั้นพูดเหมือนกี้นี้แล้วเชียว...
<ดันเต้จะได้อาวุธใหม่ที่มีชื่อว่า ลูซิเฟอร์ ซึ่งเป็นดาบแสงสีแดงรอบตัวเขากับหัวแมลงเกาะที่บ่าของเขา.>
ดันเต้: ตอนแรกชั้นว่าจะเอามันออก! แต่ว่ามัน! เจ๋งดีแฮ่ะ! ทุกสิ่งทุกอย่าง... ! มันแทงทะลุได้หมด! แล้วมันก็... ! แข็งแกร่งซะด้วยสิ... ! ชั้น...ชักจะติดใจซะแล้ว!
<ดันเต้คาบดอกกุหลาบไว้ที่ปาก,พร้อมแอ็กท่าโชว์รูปหัวใจที่เขาทำไว้บนประตูนรก.>
ดันเต้: มันจบแล้ว...
<ดันเต้ดีดนิ้วของเขา และมันก็ระเบิด,ประตูนรกจนพง.>
ดันเต้: พวกเราทั้งหมดคงพอใจกันนะ...และนายก็เป็นอิสระแล้ว... !
<ดันเต้จะโยนดอกกุหลาบทึ้ง,และมองไปที่รูปปั้นเทพเจ้าที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า.เขายกแขนของเขาขึ้นมา.>
ดันเต้: แกไม่ได้ดูเจ๋งไปกว่านี้หรอก เมื่อชั้นยืนอยู่ต่อหน้าแก. ตอนนี้ เหลือแกกับชั้นแล้ว,
คุณรูปปั้นเทพเจ้า.
MISSION SEVENTEEN :: ADAGIO FOR STRINGS
<ดันเต้ได้กลับมาที่โรงละคร,แล้วได้เจอแอ็กนัสระหว่างทางจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น.>
แอ็กนัส: มันเป็นการสันนิฐานของชั้น ที่ว่าปีศาจพวกนั้นยังด้อยไป...ถ้าจะสู้กับแก.
ดันเต้: แกอัญเชิญพวกมันมาแล้วก็ฆ่า...อัญเชิญมาแล้วก็ฆ่า...ชั้นก็เพิ่งได้เห็นคนวิปริตที่นี้.
นี้เป็นราคาที่จ่ายให้กับพลังที่ได้มาหรือไง!?
แอ็กนัส: มนุษย์งั้นหรือ... พวกมันหัวรั้นและโง่เขลาที่สุด. พวกมันต้องลงนรกไปไม่ก็ยอมรับและสรรเสริญพระเจ้าของพวกเราเท่านั้น. ซึ่งมันก็เป็นจริงในวันแห่งการพิพากษานี้.
ดันเต้: การพิพากษาอะไรนั่นของแกก็น่าสนใจไม่เลวนิ. แต่สำหรับชั้นแล้ว ที่นี้...มันต้องปรับปรุงใหม่วะ...อะไรที่มันเคยเป็นของชั้น.
<แอ็กนัสจะแปรงร่างเป็นปีศาจ.>
แอ็กนัส: ดาบแห่งยามาโตะ! แกกำลังหามันอยู่สินะ. และชั้นก็รอให้แกมาติดกับ!
ดันเต้: งั้นแกก็เป็นตัวขัดขวางในสิ่งที่ชั้นต้องการสินะ.
<ดันเต้จะยิงปืนใส่แอ็กนัส.>
ดันเต้: ชั้นส่งเสริมเลย! สำหรับเรื่องการต่อสู้ แต่แกคิดผิดอย่างแรงเลยวะ ที่เจอกับชั้น, จากนี้ฟอทูน่าได้หนาวกันแน่!
<ดันเต้สู้กับแอ็กนัส ชนะแล้ว, แอ็กนัสก็กลับเป็นร่างมนุษย์เหมือนเดิม.>
แอ็กนัส: ทำไม... ถึงแตกต่างกัน ระ-ระ-ระ-ระหว่างแกกับข้าทำไมถึงต่างกันนักวะ?
ดันเต้: แกลืมตัวตนที่เป็นมนุษย์ของแก. นั่นละเหตุผล.
แอ็กนัส: แต่แกเองก็ไม่ใช่มนุษย์...! แล้วทำไมข้าถึงด้อยกว่าแก !?
ดันเต้: แกสันนิษฐานว่ามนุษย์นั้นอ่อนแองั้นหรือ...เออ ใช่, แม้ว่าร่างกายของมนุษย์จะไม่มีความสามารถเหมือนปีศาจ,แต่มนุษย์ได้มีบางสิ่งที่ปีศาจไม่มี.
<แอ็กนัสจะจดบันทึกคำที่ดันเต้พูด.>
แอ็กนัส: อะไร...? อะไรคือสิ่งที่ปีศาจ มะ-มะ-ไม่มี? ได้โปรด, เห็นแก่งานวิจัยของข้า! ได้โปรด! บอกข้า!
<ดันเต้จะยิงกระดานบอร์ดที่จดบันทึกของแอ็กนัสซะกระจาย.>
แอ็กนัส: ไม่! ไม่, ไม่! โอ้ ไม่, ไม่ ไม่ ไม่ ไม่...
ดันเต้: ชั้นว่าแกไปทำงานวิจัยต่อในโลกหน้าก็แล้วกัน...
<แอ็กนัสพยายามเก็บรวบรวมเศษกระดานที่กระจาย,แล้วมองไปที่ดันเต้ที่มีปืนจ่อมาที่เขา.>
ดันเต้: อย่าลืมทำการบ้านเป็นอย่างแรกละ...
<ดันเต้ยิง,ใส่แอ็กนัสจนมันลงไปนอนตาย.>
ดันเต้: การพักผ่อนน่ะ ต้องอาศัยความเงียบนะ.
<แล้วดันเต้ก็ออกเดินทางต่อไป.>
MISSION EIGHTEEN :: THE DESTROYER
<ดันเต้มาถึงหอคอยพิธีกรรมที่มีดาบยามาโตะปักอยู่ เขาดึงมันออกมาจากผนึกสีแดง.และลงมาที่เมืองด้านล่าง.>
ดันเต้: ชั้นรู้ว่านี้คือสิ่งประดิษฐ์ที่เจ๋งมาก...แต่มันคงจะไม่ดีแน่ถ้าหากอยู่กับพวกกบฎ.
< ดันเต้จะเดินถือเอาดาบยามาโตะไว้บนบ่า และได้เจอทริชที่เดินมาหาเขา.>
ทริช: เธอได้มันคืนมาแล้วหรือ?
<ดันเต้จะแบกดาบยามาโตะไว้และมองไปที่รูปปั้นเทพเจ้า.>
ดันเต้: นั่นอีกดาบนึง...
ทริช: เธอจะไปคนเดียวหรอ. ต้องการพนักงานช่วยไหม?
ดันเต้: ชั้นคิดว่าเธอคอยช่วยเหลือชาวบ้านคนอื่นดีกว่า. ถ้าเป็นไปได้พาพวกเขาออกจากที่นี้ซะ.
ทริช: รับทราบ.
<ดันเต้จะไปหารูปปั้นเทพเจ้าเพียงลำพัง.>
แซงค์ทัส: แกทำลายประตูนรก!
ดันเต้: ใช่... วิวไม่สวยหรือไงกัน. เอาเถอะ... แกพร้อมจะสู้กับชั้นตอนนี้หรือยังละ?
แซงค์ทัส: แกยัง***งไกลนักที่จะสู้กับชั้น!? แกไม่สามารถทำอะไรพลังของเทพเจ้าได้หรอก!
ดันเต้: พูดเหมือนกับว่าแกจะชนะงั้นละ...ถ้าอย่างนั้น, ชั้นก็ไม่ได้ยินเสียงแอ๊ดในคอของแกและมองชั้นจากพื้นสิ.
แซงค์ทัส: หุบปากซะ! ก่อนจะพูดอะไร ชั้นว่าแกควรจะดูสถานการณ์ให้ดีก่อนนะ?
ดันเต้: อยากตายแล้วงั้นหรือ?
<ดันเต้ต่อสู้กับอัศวินเกราะเหล็ก และกระโดดบินไป,จนถึงแท่นยืนหน้ารูปปั้นเทพเจ้า.>
ดันเต้: แล้ว, แกพร้อมที่จะกินคำพูดของแกหรือยังละ?
แซงค์ทัส: อยากจะบอกเลยนะ, ว่าความพยายามของแกมันเปล่าประโยชน์สิ้นดี.
<ดันเต้จะเข้าสู้กับรูปปั้นเทพเจ้า,โดยเขาจะต้องทำลายผนึกสีฟ้าตามร่างกายของรูปปั้นเทพเจ้า.>
ดันเต้: รู้สึกว่าของจริงจะอยู่ข้างในนั้นสินะ...ดูเหมือนว่าชั้นจะต้องขอดูใกล้ๆซะแล้ว!
<ดันเต้จะกระโดดไปมาและยิงผนึกสีฟ้าตามจุดต่างๆ แล้วจุดสุดท้ายที่อก,แต่เขาทำลายมันไม่ได้ด้วยดาบยามาโตะ.>
แซงค์ทัส: แม้จะเป็นดาบยามาโตะก็ตาม มันใช้ไม่ได้ผลกับพระเจ้าหรอก!
ดันเต้: ถ้ามันแข็งนักละก็...
<ดันเต้จะใช้ปืนยิงใส่ดาบยามาโตะให้มันพุ่งไปทะลุผนึกตรงอกเข้าไป.>
ดันเต้: ..แล้วแกก็ต้องออกมาจากข้างใน.
<รูปปั้นเทพเจ้าจะล้มลง.>
แซงค์ทัส: ไม่...! แกทำได้ยังไง!?
ดันเต้: ได้เวลาตื่นแล้ว เจ้าหนู, นายพลาดตอนสนุกๆหมดเลย.เนโร่!
<ข้างในรูปปั้นเทพเจ้า, แขนของเนโร่ออกมาจากรังไหมและหยิบดาบยามาโตะมาเปิดรังไหมออกไป.เขาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงของดันเต้ข้างนอก.>
ดันเต้: ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายแล้ว, เจ้าหนู!โอกาสที่จะช่วยโลกน่ะ ไม่ได้มีทุกวันนะโว้ย นายรู้ไหม!
จงรับรู้รสชาติของมันซะ.
เนโร่: นี้ละรสชาติของชั้น... งั้นก็มาทำเริ่มการเก็บกวาดกันเลย!
MISSION NINETEEN :: THE SUCCESSOR
ดันเต้: แล้วจะทำไงต่อละ เจ้าหนู, ชั้นว่าได้เวลาส่งใครคนนึงกลับนรกได้แล้ว!
เนโร่: อย่าห่วงเลย.
<ข้างนอก,ดันเต้จะยังสู้อยู่กับรูปปั้นเทพเจ้า.>
เนโร่: ชั้นจะไปทำสิ่งที่ควรจะทำละ!
ดันเต้: โชคดี,เจ้าหนู!
<เนโร่จะไปตามทางของเขา แล้วเขาจะต้องเล่นเกมส์ทอยเต๋าซึ่งจะมีปีศาจและบอสแต่ละตัวโผล่ออกมาให้จัดการ,ส่วนดันเต้ก็ยังคงสู้อยู่ข้างนอกกับรูปปั้นเทพเจ้า.>
เนโร่: บอกชั้นหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้นที่นี้บ้าง... !
ดันเต้: เฮ้, เจ้าหนู! นายน่าจะมาเห็นนะว่าชั้นกำลังทำอะไรอยู่!
เนโร่: ให้เดานะ คิดว่าเราลงเรื่อลำเดียวกันแล้วละ.
MISSION TWENTY :: LA VITA NVOVA
<เนโร่ไปตามทางของเขาแล้วเห็นไครี่อยู่ข้างใน.ขณะเดี๋ยวกัน,แซงค์ทัสก็ปรากฎตัวออกมา.>
แซงค์ทัส: ความจริงแล้วข้าอยากให้ดันเต้เป็นส่วนหนึ่งของรูปปั้นเทพมากกว่า.
บางทีนี้คงเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้ว.
เนโร่: สายไปแล้ว. ตอนนี้ ปล่อยไครี่ซะ!
แซงค์ทัส: ทำไมถึงขัดคำสั่งข้า? ข้ารู้ว่าเจ้าเริ่มที่จะอ่อนแรงแล้ว,แต่ข้าช่วยเจ้าได้นะ.
เนโร่: แกเลวมามากพอแล้ว แกโกหก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อฆ่าชั้น...แต่พอจัดการชั้นไม่ได้ แกก็ใช้ไครี่.
แซงค์ทัส: นั่นอะไรกัน? ความรักงั้นหรือ?
<ไครี่จะถูกดูดเข้าไปในแกนกลางของหัวใจ.>
เนโร่: ดูแกทำ.
<เนโร่จะยิงลูกพลังใส่แซงค์ทัส,แต่แซงค์ทัสหายตัวหลบได้.>
ดันเต้: เร็วเข้า, เจ้าหนู! จัดการมันซะที!
เนโร่: ชั้นจะจบมันเดี๋ยวนี้แหละ.
แซงค์ทัส: แกแน่ใจหรือ, เจ้าหนู!
<แซงค์ทัสจะโผล่มาอยู่ข้างหลังเนโร่.>
แซงค์ทัส: แม้ว่าจะมีรอยร้าวของพลัง, แต่พลังของพระเจ้าแค่นี้ก็สามารถจัดการแกได้.
<เนโร่กับแซงค์ทัสจะสู้กัน และเนโร่ชนะในที่สุด.>
แซงค์ทัส: พลังของสปาด้า...ทำไมแกไม่ให้ความแข็งแกร่งแก่ข้า!? ข้าไม่มีคุณสมบัติหรือไงกัน!?
เนโร่: อย่าเอามาเทียบกันดีกว่า. แต่ชั้นรู้ สปาด้านั้นมีหัวใจ. หัวใจที่รักคนอื่น,และเพื่อนมนุษย์. นั่นคือสิ่งที่แกไม่มีไงล่ะ.
<แซงค์ทัสจะจี้คอไครี่ไว้,เธอร้องครางในลำคอเพราะกลัว.>
เนโร่: ตอนนี้ละ ชั้นจะช่วยเธอให้ได้. อดทนไว้ก่อนนะ...
แซงค์ทัส: อย่าขยับไม่งั้น ข้าจะ...
<เนโร่จะเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ และขว้างดาบยามาโตะ. ใส่แซงค์ทัสที่มัวแต่มองดาบยามาโตะ เนโร่จึงใช้แขนอสูรจับเขากระแทกกับแกนหัวใจ.เนโร่คว้าดาบยามาโตะที่ลอยอยู่ตัดเยื่อที่พันไครี่ไว้,แล้วใช้มันแทงเข้าที่ท้องของแซงทัส. แซงค์ทัสจะค่อยๆล้มลง,ไครี่จะร่วงลงมาจากแกนหัวใจ
เนโร่จะรับเธอไว้ได้พอดี. >
เนโร่: ขอโทดนะ ที่ชั้นมาช้าไปหน่อย. ไครี่...?
<ไครี่มองมาที่เนโร่ และกอดกัน. ขณะเดียวกัน,ดันเต้ซึ่งอยู่ข้างนอก,รูปปั้นเทพเจ้าจะต่อยเขา,ดันเต้จะพยายามใช้ดาบของเขาป้องกัน แต่ดูเมื่อการต่อสู้จะเสร็จสิ้นแล้ว.>
ดันเต้: มันจบแล้ว.
<ดันเต้มองไปที่ผนึกตรงอก.สักพักหนึ่ง,เนโร่ก็กระโดดลงมาพร้อมกับไครี่ในอ้อมกอดของเขา.>
ดันเต้: ทันเวลาพอดีเลย.
เนโร่: อะไรกัน, ดูเหมือนนายอยากจะแก้ตัวน้ำขุ่นๆหรือไง?
ดันเต้: ก็ดี, คงอีกยาวเลยละ และชั้นก็รอคอยเวลานี้อยู่ด้วยสิ?
<ข้างหลังพวกเขา,รูปปั้นเทพเจ้าจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง,โดยที่หน้าของมันเป็นแซงค์ทัส.>
ดันเต้: เจ้านั่นอีกแล้ว อย่าให้มันหนีไปละ!
เนโร่: เมื่อมันมีเริ่มมันก็ต้องมีจบ และชั้นจะจบมัน... ด้วยมือของชั้นเอง.
ดันเต้: ตามสบายเลย...
<เนโร่จะดึงพลังจากแขนอสูร.>
ดันเต้: ไปเก็บมันซะ, เจ้าหนู.
<เนโร่จะหันมามองไครี่.>
เนโร่: คอยชั้นก่อนนะ...
<ไครี่เธอยิ้มให้และเนโร่ก็เดินไปหารูปปั้นเทพเจ้า.>
เนโร่: แกรู้ไหม ไอ้พระเจ้า, ชั้นเกลียดเหลือเกินที่แกทำให้แขนชั้นเป็นแบบนี้...แต่ตอนนี้ กับมันแล้ว,
ชั้นสามารถทำลายได้ทุกอย่าง.แล้วทุกสิ่งที่แกคิด...
<เนโร่จะใช้แขนอสูรของเขาจัดการรูปปั้นเทพเจ้าได้ในพริบตาเดียว,และมันก็ล้มลง.>
เนโร่: ตอนนี้ ชั้นรู้แล้ว...
<เนโร่จะใช้แขนอสูร,กับหน้าของรูปปั้นเทพเจ้า.>
เนโร่: แขนข้างนี้เอาไว้ส่งพวกแกกลับนรกไงละ! และ...ตอนนี้...แก...ตาย!!!
<รูปปั้นเทพเจ้าล้มลงกับพื้นหลังจากถูกการโจมตีครั้งสุดท้ายของเนโร่,และเนโร่ได้ปกป้องเมืองให้สงบสุขอีกครั้ง.>.>
เนโร่: ใช่เลย!
บทส่งท้าย
<เนโร่เดินมาหาดันเต้,ที่รออยู่ที่ลานน้ำพุ.>
เนโร่: ชั้นคิดว่า ชั้นควรจะขอบคุณนายนะ.
ดันเต้: แต่นั่นไม่สมเป็นนายเลยแฮะ. เพราะเดิมที่นายเอาแต่กวนประสาทชั้นน่ะ.
เนโร่: ใช่, พูดได้ดีนี้. แต่ยังไง,ชั้นก็ยังเป็นหนี้นายอยู่.
ดันเต้: อย่าพูดให้เหงื่อออกเลย.ชั้นมีเหตุผลของชั้นที่ช่วย...ดูแลตัวเองด้วยละ.
<ดันเต้ตบบ่าเนโร่,แล้วเดินจากไป.>
เนโร่: เดี๋ยว, นายลืมไอ้นี้.
<พรางยื่นดาบยามาโตะให้ดันเต้.>
ดันเต้: เก็บไว้.
เนโร่: อะไรนะ...?ชั้นคิดว่า มันมีความหมายต่อนายมากไม่ใช่หรอ...?
ดันเต้: คิดว่ามันเป็นของขวัญที่ชั้นให้ก็แล้วกัน. ชั้นอยากให้หมอนั่นเชื่อใจนาย และชั้นอย่างที่เป็นอยู่,
ทุกอย่างที่นายทำที่นี้น่ะ เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจของนาย.
เนโร่: เฮ้, ดันเต้!เราจะได้พบกันใหม่ใช่ไหม?
<ดันเต้ไม่หันมามองและยังคงเดินต่อไปพรางทำมือบอกลา, เนโร่ก็ดูดดาบของเวอร์จิลเข้าไปในแขนอสูร.>
ไครี่: ทุกอย่างจบลงแล้ว ใช่ไหม?
เนโร่: อาจจะนะ...อาจจะ.
ไครี่: บ้านเมืองเหลือแต่ซากปรักหักพังหมดเลย.
เนโร่:ใช่.
ไครี่: ชะ...ชั้นยังมีชีวิตอยู่, ใช่ไหม?
เนโร่:ใช่. เราทั้งคู่.ไครี่...ชั้นมันปีศาจ,ชั้นอาจจะไม่เหลือความเป็นคนไปมากกว่านี้... แล้วเธอยังต้องการอีกหรือ?
ไครี่: รีบเข้ามากุมมือเนโร่ไว้ที่อกแล้วพูด: เนโร่,เธอคือเธอ.และเป็นเธอที่ชั้นต้องการอยู่ด้วย... ชั้นไม่สนใจว่า เธอจะเป็นมนุษย์หรือเป็นอะไรก็ตาม.
<เนโร่อึ้งนิดๆ ก่อนเอาสร้อยคอของเขาสวมให้เธอ พร้อมกับก้มลงจะจูบเธอ แต่เนโร่จะหยิบปืนมายิงปีศาจที่ยืนอยู่ข้างๆ ทันควัน มันมากันเป็นฝูง.>
เนโร่: ดูเหมือนว่าเราจะถูกขัดจังหวะนะ, จูบนั่นรอก่อนได้ไหม?
ไครี่: ได้สิ... ชั้นจะรอ.
เนโร่: ขอบใจนะ. งั้นก็...มาระห่ำกัน!
< หลังจากสู้เสร็จ เนโร่จะมายืนคู่กับไครี่ดูแสงตะวันตกดิน ไครี่จับมืออสูรของเนโร่ไว้แน่น เนโร่เขินอายนิดๆ ท่ามกลางซากปรักหักพังกับขนนกที่โปรยปราย ตัดมาที่ร้าน Devil May Cry เลดี้จาที่ร้านพร้อมถือกระเป๋าเงินมาให้ดันเต้ .>
เลดี้: ชีวิตนายนี้มันเคว้งคว้างจริงๆนะ. ต้องนี้ชั้นก็ได้ทำสิ่งสุดท้ายในงานของชั้นซะที.
<เลดี้วางกระเป๋าเงินไว้บนโต๊ะ,ดันเต้ยังคงอ่านนิตยสารดาราต่อไป ทริชจะมานั่งบนโต๊ะและเปิดกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินอยู่แค่ม้วนเดียว.>
ทริช: นี้ก็คงเป็นเงินแบบเคว้งคว้างสินะ เธอไม่คิดว่ามันจะต้องมากกว่านี้หรอ? เธอเรียก...
ไอ้นี้ว่า เงินค่าจ้างหรือ?
เลดี้: มากกว่านี้หรือ? นั่นคงไม่รวมความผิดที่พวกเธอ ทำตัวเป็นบันไดเลื่อน เลื่อนระดับตำนวนสปาด้าให้เป็นได้แค่เรื่องของไฟฉายสินะ?
< ทริชกับเลดี้มองสบตากันมาที่ดันเต้ ซึ่งมองตอบพวกเธอ และทำทีเป็นอ่านนิตยสารต่อ,ทริชเลยดึงนิตยสารจากมือดันเต้มาวางไว้บนโต๊ะ.>
ดันเต้:เฮ้! นี้ไม่ใช่การแตกคอกันที่ดีเลยนะ!
ทริช: นี้มันเรื่องของเธอนะ,ดันเต้.
ดันเต้:ใช่...แต่แหม เราก็จัดการได้เรียบร้อยดี, ไม่ใช่หรือ?
เลดี้: แหม...งั้นจัดการกันเองละกัน.
<เลดี้จะเดินจากไป มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี ทริชเป็นคนรับสาย เลดี้เลยยืนรอฟัง.>
ทริช: " ร้าน เดวิล เมย์ คราย".
< เมื่อคุยได้สักพัก ทริชก็หันมามองดันเต้.>
ทริช: เป็นลูกค้ากับคำใบ้ปริศนา. พวกเขาอยู่ใกล้ๆนี้เอง. เราจะเอายังไงดีละ?
<ดันเต้ปิดนิยสาร ยิ้มพรางทุบโต๊ะ>
ดันเต้: เธอต้องถามด้วยหรือ?
< ดันเต้เตรียมดาบและถือปืนเดินไปที่ประตู.>
เลดี้: จะไปคนเดียวหรอ? ชั้นไปด้วยได้ไหม?
ดันเต้: อยากทำอะไรก็ทำ, แต่อย่าหวังว่าจะได้แจมเชียว.
เลดี้: ไม่มีเรื่องไหนตื่นเต้นเร้าใจเท่าเรื่องนี้แน่... ! เธอก็ว่างั้น,ใช่ไหม?
ทริช: ชั้นไม่อย่าโกหกเท่าไร.
ดันเต้: โอเค, พวกเธอพร้อมกันหรือยัง?
<ดันเต้ถีบประตู.>
ดันเต้:เข้ามาเลย,พวก!
ทุกคนพูดพร้อมกัน: มาระห่ำกัน!
The End
http://www.gconsole.com/forum/show.p...ge=15&id=33128
Comment
Post
Cancel
miixer
OverclockZone Member
Join Date:
26 Nov 2007
Posts:
2623
Share
Tweet
#49
24 Dec 2009, 22:09:28
สนุกๆ กว่าจะอ่านจบ อิอิ
Comment
Post
Cancel
interpower
OverclockZone Member
Join Date:
29 Sep 2007
Posts:
1953
Share
Tweet
#50
24 Dec 2009, 22:34:41
เป้นเกมที่ผมชอบที่สุดแล้วละมั่งครับ
DMC กะ RE
ค่ายCAPCOMนี่เทพจริงๆ
Comment
Post
Cancel
Lawlight
OverclockZone Member
Join Date:
2 Jan 2007
Posts:
1988
Share
Tweet
#51
26 Dec 2009, 13:26:50
เนื้อเรื่องเจ๋งมากๆ
ขอให้ภาค 5 ลง PC สาธุ
Comment
Post
Cancel
oho-k
OverclockZone Member
Join Date:
25 Aug 2009
Posts:
309
Share
Tweet
#52
26 Dec 2009, 19:10:17
Originally posted by
phol
View Post
คุณ แล้วลองเล่นภาค 3 นะครับ
แล้วจะรู้ว่า มันเหมือนที่มาของเรื่องนะครับ
Devil Never Cry
เล่นจบหมดแล้วครับบบ เนื้อเรื่องไม่ ค่อย รู้ เอา มัน อย่างเดียว อะครับ
Comment
Post
Cancel
Khow
OverclockZone Member
Join Date:
14 Feb 2007
Posts:
19290
Share
Tweet
#53
26 Dec 2009, 19:26:27
ชื่อแฟนของ นีโร ไม่ได้อ่านว่า "ไครี่" แต่อ่านว่า "คีรีเอ" หรือ "กีรีเอ"
ถ้าใครนับถือคริสต์จะรู้วิธีอ่านครับ ผมเองก็เคยเผลออ่านว่า "ไครี่"เหมือนกัน
Comment
Post
Cancel
nutzaa12
OverclockZone Member
Join Date:
27 Dec 2008
Posts:
462
Share
Tweet
#54
27 Dec 2009, 00:00:40
Originally posted by
Khow
View Post
ชื่อแฟนของ นีโร ไม่ได้อ่านว่า "ไครี่" แต่อ่านว่า "คีรีเอ" หรือ "กีรีเอ"
ถ้าใครนับถือคริสต์จะรู้วิธีอ่านครับ ผมเองก็เคยเผลออ่านว่า "ไครี่"เหมือนกัน
ฉากในเกม ตอนโดนจับตัว nero โว้ยวายว่า "ขี้ ขี้ ขี้ " อย่างเดียวเลยอะ
ปล. สาวก เดวิลจงเจริญ
แค่ขำๆนะอย่าว่ากันเลย เพื่อนผมมาเล่นยังตกใจว่า ทำไมมันร้อง ขี้ๆๆๆ - -
เวลาสวยมั้ยละ 00.00
Comment
Post
Cancel
flyingdual
OverclockZone Member
Join Date:
3 Nov 2009
Posts:
153
Share
Tweet
#55
5 Jan 2010, 22:19:59
เอ้อใครรุ้ชื่อเพลง OST
ที่ นีโร สู้กะ ดันเต้ ครั้งที่ 2 มั่ง หาย๊ากยาก
เห็นฝรั่งเขาบอก ว่า ชื่อเพลง Force of Destiny หรือ Forza del Destino เซริทไปแล้ว
เจอแต่ La Forza del Destino เพลง ออคเคสตร้าซะงั้น ร็อคๆหายากมาก
Comment
Post
Cancel
Previous
1
2
3
4
template
Next
Working...
Yes
No
OK
OK
Cancel
X
Comment