Announcement

Collapse
No announcement yet.

[Review] Dark 2013 เกมแวมไพร์ + ลอบเร้น ที่นานๆจะมีให้เห็นใน PC

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • [Review] Dark 2013 เกมแวมไพร์ + ลอบเร้น ที่นานๆจะมีให้เห็นใน PC

    เป็นอีก 1 เกมที่กระแสรีวิวมาในทางลบเอามากๆ แต่ด้วยความชอบเกมที่ใช้ธีมแวมไพร์ แถมเป็นเกมสไตล์ลอบเร้น

    จึงลองซื้อมาเล่นดู เพราะอยากรู้ว่ามันจะห่วยอย่างที่รีวิวหลายๆสำนักรวมทั้งผู้เล่นบางส่วนกล่าวไว้จริงหรือไม่

    เล่นจนจบพบว่า มันก็ไม่ถึงกับแย่ขนาดต้องปาแผ่นทิ้งซะทีเดียว รายละเอียดอยู่ข้างล่างครับ (หากน้ำเยอะไป ขออภัย)


    เนื้อเรื่อง

    ถ้าให้เปรียบเทียบกับหนังก็อารมณ์ประมาณหนังแผ่นเกรดบี ประเภททุนน้อย เน้นพล็อตสำเร็จรูป บทพูดน้อยๆ เน้นกระชับ ไว ไม่ยืดเยื้อ

    ตัวเกมนี้ก็เช่นกัน การดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงมากกก จะมีแค่บางจุดที่มีเหตุการณ์ให้เลือกตัดสินใจ ซึ่งส่งผลต่อฉากจบ (ต่างกันนิดๆ)

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เนื้อเรื่องลำดับอารมณ์ได้ต่อเนื่องดี เปิดเรื่องด้วยอารมณ์สับสน งุนงง และค่อยๆเพิ่มความตื่นเต้น จนมาเฉลยปมในตอนท้าย

    นอกจากนี้ยังมีไอเทมลับในฉาก(คืออะไรไม่บอก ) ที่ผู้สร้างต้องการเสริมเนื้อเรื่องให้สมเหตุสมผลมากขึ้น ในส่วนนี้ผู้เล่นจะต้องค้นหาเอาเอง

    แต่ถ้าหาไม่เจอก็ไม่เป็นไร เพราะบทสนทนาในเนื้อเรื่องแต่ละช่วงนั้นเพียงพอต่อการทำความเข้าใจเนื้อเรื่องโดยรวมอยู่แล้ว


    แต่ถึงจะมีความน่าสนใจอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ในเนื้อเรื่องส่วนเดียวกันนี้กลับมีข้อเสียที่ไม่ค่อยน่าให้อภัยคือ ฉากสุดท้ายตอน last boss

    ผู้สร้างทำออกมาได้น่าผิดหวัง เพราะหลังจากดำเนินเรื่องมาถึงจุดพีคสุดๆแล้ว อารมณ์ที่ต่อเนื่องมาตลอดทั้งเกม แทบจะหายไปหมด

    เกือบจะไม่มีความตื่นเต้นเลย สำหรับ last boss ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะความสนุกตลอดทั้งเกม ดันถูกทำลายด้วยบอสซะอย่างนั้น

    เนื้อเรื่องในส่วนนี้ ขอให้ลองเล่นกันดูครับ ไม่สปอยล์เด้อ เพราะคุณเล่นแล้วอาจไม่รู้สึกเหมือนผมก็ได้ -0-


    ระบบการเล่น

    เล่นได้หลายสไตล์ เดินหน้าฆ่ามัน / ลอบเร้น / หลบหลีก แต่เหมือนเกมจะเน้นไปที่การลอบสังหารมากกว่าเดินหน้าฆ่ามันตรงๆ ...เหตุเพราะ

    - หากลอบสังหารโดยศัตรูไม่รู้ตัวจะได้ exp มากกว่าสังหารซึ่งๆหน้า (หากศัตรูรู้ตัว โดนหัก exp ด้วย *0*)

    - หากผ่านฉากโดยสัญญานเตือนไม่ดัง จะได้ โบนัส exp พิเศษอีกเพียบ

    - พระเอกตัวนิ่มมาก แม้จะอัพสกิลถึกจนเต็ม แต่ถึงเวลาโดนยิงไม่กี่ทีก็ตายเหมือนเดิม - - q

    - แต่ละฉากถูกออกแบบให้มีซอกมุมสำหรับการแอบและเดินหลบหลีก


    ระบบสกิลหรือความสามารถพิเศษของแวมไพร์ที่ต้องปลดล็อค มีความหลากหลายและใช้งานได้จริง (แต่ใช้ยาก)

    ดังนั้น ช่วงแรกๆจะต้องฝึกใช้ให้คล่อง เพราะบางสกิลต้องอาศัยการกดใช้ให้ถูกตำแหน่งและถูกจังหวะ (เพื่อไม่ให้ศัตรูจับได้)

    พอเริ่มใช้สกิลคล่อง เมื่อนั้นถึงจะเริ่มสนุกกับการเป็นแวมไพร์ (หายตัว บินไปบินมา ฆ่าคนดูดเลือดเป็นว่าเล่น อิอิ)

    skill point ให้มาค่อนข้างเยอะ ผมอัพเต็มทุกอันช่วง chapter 5 หลังจบเกมยังเหลือเกือบ 20 point (แต่เล่นแบบลอบสังหารทุกตัวนะ)


    กระนั้นระบบเกมก็ไม่ได้เอื้อให้คุณฆ่าคนได้อย่างเพลิดเพลินนัก เนื่องจากการใช้สกิล ต้องอาศัยขีดเลือด (มีจำกัด)

    ศัตรูมีทั้งที่เราดูดเลือดได้ และดูดเลือดไม่ได้ ดังนั้นต้องวางแผนการเล่น ตัวไหนควรใช้สกิล ตัวไหนฆ่าธรรมดา ตัวไหนต้องดูดเลือด

    ตรงส่วนนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่สนุกที่สุดของเกมนั่นเอง โดยเฉพาะหากคุณต้องการจะลอบสังหารศัตรูทุกตัวที่พบในเกมเพื่อเก็บ exp ให้มากที่สุด

    หรือจะลองเล่นแบบฆ่าให้น้อยที่สุดก็สนุก เพราะการวางแผนจะเปลี่ยนไปอีกแบบ ซึ่งเท่าที่ลองหนีอย่างเดียวในฉากสุดท้าย (ยากกว่าลอบสังหารอีก)

    นอกจากโหมด single แล้ว ผู้ที่รู้สึกว่าเกมง่ายไป สามารถลุยต่อในโหมด challenge ซึ่งมีเวลาและอัพสกิลได้จำกัด ท้าทายความสามารถได้ดีทีเดียว


    ว่ากันที่ข้อเสียบ้าง หลักๆเลยคือเรื่องบั๊กซึ่งมีเยอะพอสมควร และทำให้เสียอารมณ์ในบางครั้ง เช่น

    - บั๊กฉาก (เทเลพอร์ตจากชั้นล่างขึ้นบน บางครั้งหล่นมาจ๊ะเอ๋ AI - - )

    - บั๊ก AI (ศัตรูตัวเดิม ฉากเดิม เล่นแบบเดิม บางทีก็เดินผ่าน บางทีก็เดินไม่ผ่าน - -a )

    - บั๊กสกิล (แสดงผลผิดพลาด จุดอันตรายดันบอกปลอดภัย เทเลพอร์ตไปโดนยิง -*- )

    บั๊กเหล่านี้แม้นานๆจะเจอซักที แต่บางจังหวะมันสามารถทำให้คุณพลาดและกลับ checkpoint เอาง่ายๆ (แบบ hard เป็น auto safe ครั้งเดียว)


    กราฟฟิค

    ภาพสไตล์ cell shade ดูสวยดี แต่ด้วยความที่เป็นเกมธีมแวมไพร์ ดังนั้น

    บรรยากาศในเกมรวมทั้งการออกแบบสถานที่และตัวละครจึงออกไปทาง หม่นมืด ทึมๆ ดูอึดอัด

    พอไปรวมกับการเคลื่อนไหวของตัวละครในบางจุดที่ทำได้ไม่ค่อยดี ดูขัดๆแข็งๆ เลยดูไม่ค่อยสมจริง

    ใครชอบเกมแนวนี้คงพออภัย ใครไม่ชอบก็คงไม่ชอบ - -a (ผมมันเกมเมอร์ยุค 80s เรื่องกราฟฟิคเลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่)


    เสียง

    เสียงเพลงประกอบฉาก ไม่ค่อยสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้เล่นมากนัก ฉากในผับ เปิดเพลงชวนหลับมาก - -

    ยกเว้นเพลงช่วงที่ถูกศัตรูกำลังตามล่าตัวเรา หรือ ฉากสำคัญๆในเกม ถึงจะพอรู้สึกตื่นเต้นขึ้น(บ้าง)

    เสียงเอฟเฟคต่างๆ เสียงปืน ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เสียงเอฟเฟคการใช้ความสามารถพิเศษ ฯลฯ ทำได้ละเอียดกว่า

    แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะระบบเกมที่เป็นลอบเร้น ต้องอาศัยความเงียบ และการฟังเสียงเดิน(ในบางครั้ง)

    จุดนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมผู้สร้างถึงไม่ค่อยเน้นเรื่อง เพลงประกอบฉาก ส่วนเสียงพากษ์กับปากตัวละครไม่ตรงกัน

    อันนี้แล้วแต่คนชอบ ผมไม่ซีเรียสกับส่วนนี้ เพราะบทสทนาเกมนี้ค่อนข้างน้อย ตรงนี้เลยไม่ได้ให้ความสำคัญนัก



    ถ้าให้สรุปสั้นๆก็ตามนี้

    ข้อดี

    - เนื้อเรื่องกระชับ และไล่ลำดับอารมณ์ได้ต่อเนื่องดี

    - สกิลหลากหลายและใช้งานได้จริง ทำให้สามารถเปลี่ยนสไตล์การเล่นได้หลายรูปแบบ ในการเล่นครั้งใหม่

    - การบริหารขีดเลือด วางแผนใช้สกิล และการสังหารศัตรู ในแต่ละจุด ทำได้อิสระ ทำให้วางแผนการเล่นได้ไม่ซ้ำแบบ

    - โหมด challenge ทำออกมาท้าทายความสามารถได้ดีทีเดียว

    ข้อเสีย

    - บั๊กเยอะ (รายละเอียดอ่านที่ ระบบการเล่น) ณ วันที่เขียนรีวิว ยังมีบั๊กหลายจุด

    - โหมดเนื้อเรื่องค่อนข้างสั้น และง่าย แม้จะเล่นในระดับยากสุด ผมเล่นแบบลอบสังหารทุกตัว (ยกเว้นฉากสุดท้าย)

    ใช้เวลาประมาณ 7 ชม. (เล่นไม่ค่อยระวัง เผลอตายไปเพียบ) ถ้าเป็นผู้เล่นที่คุ้นกับเกมลอบเร้น น่าจะจบได้ภายใน 3 - 5 ชม.

    - การเคลื่อนไหวบางส่วนดูขัดๆ แข็งๆ ไม่สมจริง

    - เสียงเพลงประกอบฉากทำได้ไม่ดีนัก

    - ตกม้าตายตอน Last Boss จริงๆ


    โดยรวมแล้ว ถึงจะไม่ใช่เกมอลังการงานสร้าง แต่ถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้เพลินและสนุกทีเดียว

    ยิ่งถ้าคุณชอบเกมที่ใช้ธีมแวมไพร์ + ลอบเร้น น่าลองดูครับ เผื่อจะติดใจนะเออ -0-


    *EDIT* เพิ่มรีวิวอัพเดทในส่วน DLC Cult of the Dead

    เป็น DLC เพิ่มเนื้อเรื่องหลังจากจบจากเนื้อเรื่องหลัก คราวนี้ตัวเอกต้องไปเกี่ยวข้องกับลัทธิลึกลับซึ่ง....(เล่นเอง)

    ระบบ ภาพ เสียง ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มศัตรูใหม่ 2 ตัว คือมือสไนเปอร์และคนในกลุ่มลัทธิ + เพิ่มฉากใหม่

    แต่เนื้อเรื่องที่เพิ่มมาสั้นมากๆ สามารถจบได้ใน 30 - 50 นาที ถ้าอยากลองแนะนำให้กดตอนลดราคาจะดีกว่า


    ปล.ฉากจบของ DLC คลุมเคลือไปนิด เมื่อเทียบกับฉากจบของเนื้อเรื่องเกมหลัก

    เชื่อว่าหากผู้พัฒนาไม่พับโปรเจคนี้ไปซะก่อน ในอนาคตน่าจะมี DLC ที่จะขยายเนื้อเรื่องต่อไปได้อีก
    Last edited by Remagredle; 24 Aug 2014, 20:56:47.

  • #2
    น่าสนใจดีครับ

    Comment

    Working...
    X