Tweet
หลังจากที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับภาคต่อ (ที่เป็น Prequel หรือภาคต่อในเนื้อเรื่องก่อนภาคแรก) ของเกม Action-RPG ในตำนานอย่าง Deus EX : Human Revolution ซึ่งเกมมีตัวหลุดออกมานั้น ก็อยากจะมาแบ่งปันให้ท่านๆ ได้รู้กัน ว่าเกมเป็นอย่างไรบ้าง
เกมปรับความยากได้ 3ระดับครับ คือ Give Me Story "มอบเนื้อเรื่องให้ฉัน" ก็คือง่ายสุด ยากมาหน่อยนึงก็คือ Give Me Challenge "มอบความท้าทายให้ฉัน" และสุดท้ายยากสวดๆ กับ Give Me Deus EX (ยังไม่ได้ลองอันนี้ครับ ไว้ว่าจะลองว่างๆ)
มุมมองในเกมนี้จะเป็นแบบ FPS ครับ แม้แต่ในฉาก Cutscene ซึ่งเหตุการณ์ดำเนินไปให้นั้นจะไม่ได้มองในมุมมองของ TPS ครับ (มีบางจุดที่เป็นมุมมองแบบ TPS แต่เป็นส่วนน้อยเท่านั้น)
เกมมีการใช้มุมมองแบบ TPS ในการเข้าที่กำบัง ซึ่งเหมือนกับเกม Action เดินหน้ายิงแนว TPS เกมอื่นครับ ซึ่งถามว่ามันเวิร์กไหม ก็ต้องตอบว่าเวิร์กดีครับ เพราะเกมนี้มันไม่เชิงเดินหน้ายิงครับ เพราะตัวเราบอบบางกับลูกตะกั่วมาก เกมใช้ระบบเลือดเป็นแบบนับแต้มครับ (เลือดเต็ม 100 และไปได้สุดที่ 200 เมื่อโด๊ปยา
) และก็จะฟื้นเลือดให้เองเมื่อแต้มน้อยกว่า 100 ครับ ส่วนระบบการยิงนั้น เกมมีการเด้งของปืนสูงมากครับ ทำให้คอขา Action ไม่ค่อยจะมันในจุดนี้เท่าไหร่ แต่เชื่อผมเหอะว่า เกมนี้มันชู RPG ด้วยก็ต้องเป็นยังงี้แหละครับ (จะให้เหมือน Mass Effect ก็จะเร็วเกินไปจนกลายเป็น Action ไปก่อน)
ส่วนนี่คือภาพ CG ครับผม ค่อนข้างดูไม่ชัดอยู่ แต่ในใจยังคิดไว้ว่า "มันตัว Beta Test นะ" เพราะกราฟิกในเกมยังไม่สวยเท่าเกมสมัยนี้อยู่
ระบบถามตอบเป็นสิ่งที่เกมในสมัยนี้มีครับ แต่เกมนี้ดูจะสะดวกกว่าที่มันจะมีคำอธิบายให้ว่าถ้ากดนี่แล้วจะพูดอะไรออกไป ซึ่งก็จะมีตามสูตรครับคือ พูดแบบโน้มน้าว พูดแบบเฉยๆ เหมือนไม่สนใจมัน แล้วก็พูดแบบปากปีจอกันเลยทีเดียว และการเลือกนั้นจะส่งผลต่อตัวเราในฉากนั้นๆ เลย (พูดปากปีจอก็อาจจะโดนด่ากลับมาก็ได้) ที่เน้นคำว่าเดี๋ยวนั้นเลยก็เพราะการเลือกสิ่งต่างๆ มันแสดงออกมาเลยในไม่กี่ฉากต่อมาครับ
การอัพเกรดในเกมนี้นั้น ดูเหมือนจะแบ่งเป็นหลายสายครับ ซึ่งจะมีสายที่จะสนับสนุนในการบู๊ สนับสนุนในการย่องเงียบ หรือสนับสนุนในการ hack ครับ ผมลองใช้ Cheat Engine โกงค่าอัพเกรดในเกม (Praxis Point เจ้า Praxis จะได้มาจากการซื้อใน LIMB Clinic,เก็บเอาตามฉากซึ่งหายาก และเกมค่า XP ไปจนถึงเกณฑ์ที่กำหนด) แล้วลองอัพทุกส่วน พบว่าพระเอกของเราก็ไม่ถึงกับเป็นยอดมนุษย์เหล็ก เดินออกไปบู๊แล้วจะรอดตายได้ทุกครั้งแบบไม่เสียเลือด เพียงแต่ช่วยเพิ่มกลยุทธ์ในการเล่นนั่นเอง ก็การอัพเกรดแนะนำใช้การอัพตามกลยุทธ์ที่เราชอบเล่นดีกว่า
ระบบยอดมนุษย์หลายส่วนนั้นจะมีการใช้งาน "แบตเตอรี่" ซึ่งพวกการ Takedown นั้นไม่ว่าจะอัดให้นอน หรือจะจ้วงให้ตาย ก็จะกินแบตไป 1 ก้อน ที่กำลังงงคือ ทำไมพอแบตไปก้อนนึงมันไม่ชาร์จ แต่พอแบตเกลี้ยงมันถึงจะชาร์จให้แค่ก้อนเดียว
ส่วนอื่นๆ นั้นก็จะมีการบริโภคแบตเป็นอัตราไป เช่นล่องหน,มองทะลุกำแพง,วิ่งเงียบ,ใช้ระเบิด Typhoon โปรยระเบิดรอบตัว 360 องศา แม้แต่การยกของหนักโคตรๆ ก็กินแบตเช่นกัน (รวมถึงการโยนจะกินไปครึ่งก้อน) น่าจะเรียก Adam ว่ามนุษย์แบตเตอรี่จริงๆ นะเนี่ย
ระบบ Hack ในเกมนี้ อาจเข้าใจยากมากในช่วงแรกๆ ครับ แต่หลักๆ คือ ให้เส้นข้อมูลวิ่งผ่านโฟลเดอร์ให้ไปถึงจุดหมายคือวงกลมเขียวๆ นั่นแหละครับ โดยจะมี 4 ลูกเล่นคือการส่งต่อข้อมูล ป้องกันโฟลเดอร์นั้นๆ (ถ้าอัพสาย Hack เยอะๆ ก็จะระบุได้ว่าจะมีโอกาสถูกระบบจับได้และเล่นมาที่ตัวเรากี่ %) รวมถึงตัวช่วยเสริมเช่น Nuke ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบโอกาสจับได้เป็น 0% หรือตัว Stop ซึ่งทำให้ระบบตรวจจับที่กำลังติดนั้นและเริ่มนับถอยหลังเวลานั้นหยุดนิ่งครับ ความยากในการ Hack จะมีอยู่ 5 ระดับ ซึ่งเราต้องอัพเกรด Hack Module ก่อนถึงจะ Hack ได้ (เช่นเรามี Module แค่ระดับ 3 ก็จะ Hack ได้แค่ระดับ 1-3 ระดับ 4-5 อัพไม่ได้) เราสามารถหา XP เสริมได้โดยการส่งข้อมูลไปกล่องลูกบาศก์ครับ ส่วนความยากนั้นผมว่าถ้าเล่นมันไม่ยาก แต่มันจะรวดเร็วและระทึก ลุ้นตลอดเวลา (มีฉากนึงที่ตัวประกันอยู่ในห้องที่ติดระเบิดแก๊สพิษจับเวลา ซึ่งเราต้อง Hack ปิดมันให้ทันก่อนเวลาจะเป็น 0 ซึ่งอันนี้ถ้า Hack ผ่านก็ว่าไป แต่ถ้า Hack ไม่ผ่านคือเวลาหมดก่อนก็ซวยกันยกห้องเลยทีเดียว)
เกมนี้นั้นมีความเป็น Open World อยู่ครับซึ่งเราสามารถเดินสำรวจรอบๆ เมืองได้ (และยังได้ของแถมคือหลงทางอีกต่างหาก
)
ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้นก็คือว่า เกมนี้มี ภารกิจอยู่ประมาณ 6 ฉากครับผม ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า เล่นจบปุ๊ปอารมณ์ค้างปั๊ป อยากหามาเล่นต่อเลย (แต่ก็หาไม่ได้
) กราฟิกยังแข็งกระด้างอยู่ แต่ส่วนที่ผมว่าสมบูรณ์นั้นก็คือแก่นกลางของเกมเพลย์ที่ส่วนตัวผมยกให้เป็นสุดยอดที่สุดและที่ผมเคยเจอในเกมแนวนี้ บวกกับการที่มันเป็น Sci-Fi ด้วยก็ยิ่งชอบไปใหญ่ AI ยังเอ๋อๆ นิดหน่อยและระบบบางส่วนยังดูแหม่งๆ (เช่นการ Mark&Track ซึ่ง Mark ได้แต่พอจะ Unmark ตัวที่ถูกอัดสลบไปนั้นกลับทำไม่ได้) อ๋อ...เกมนี้ลากศพไปซ่อนได้ด้วยนะครับ (ซึ่งเคยเอาไปลากซ่อนในห้องน้ำทีนึง )
สรุปคือ ถ้าไม่ติดในส่วนของกราฟิกที่ยังแปลกๆ คิดคะแนนในส่วน Gameplay ละก็ตอนนี้ผมให้ไป 9/10 แล้วละครับ คือชอบมากที่มากที่สุด!
Note : ลืมบอกไปว่าเกมนี้มันมีหลายทางเลือกจริงๆ ตาม trailer โม้ไว้จริงๆ คือ 3 ทาง บู๊ตรงๆ ลอบเร้น หรือใช้การแฮ็คเข้าช่วยพลิกสถานการณ์ และมีในแทบทุกฉาก ทุกเส้นทาง ทุกภารกิจด้วย ตอนนี้มันกลายเป็น 1 ในเกมในดวงใจผมไปละครับ (แต่ปีนี้จะคว้า RPG of the Year ไหม...ผมว่ามวยเด็ดสาขานี้น่าจะเป็น Skyrim VS The Witcher 2 มากกว่าครับ)
มีอะไรสงสัยในตัวเกม Beta ตัวนี้ลองถามได้นะครับ จะพยายามตอบให้เร็วที่สุด
เกมปรับความยากได้ 3ระดับครับ คือ Give Me Story "มอบเนื้อเรื่องให้ฉัน" ก็คือง่ายสุด ยากมาหน่อยนึงก็คือ Give Me Challenge "มอบความท้าทายให้ฉัน" และสุดท้ายยากสวดๆ กับ Give Me Deus EX (ยังไม่ได้ลองอันนี้ครับ ไว้ว่าจะลองว่างๆ)
มุมมองในเกมนี้จะเป็นแบบ FPS ครับ แม้แต่ในฉาก Cutscene ซึ่งเหตุการณ์ดำเนินไปให้นั้นจะไม่ได้มองในมุมมองของ TPS ครับ (มีบางจุดที่เป็นมุมมองแบบ TPS แต่เป็นส่วนน้อยเท่านั้น)
เกมมีการใช้มุมมองแบบ TPS ในการเข้าที่กำบัง ซึ่งเหมือนกับเกม Action เดินหน้ายิงแนว TPS เกมอื่นครับ ซึ่งถามว่ามันเวิร์กไหม ก็ต้องตอบว่าเวิร์กดีครับ เพราะเกมนี้มันไม่เชิงเดินหน้ายิงครับ เพราะตัวเราบอบบางกับลูกตะกั่วมาก เกมใช้ระบบเลือดเป็นแบบนับแต้มครับ (เลือดเต็ม 100 และไปได้สุดที่ 200 เมื่อโด๊ปยา
) และก็จะฟื้นเลือดให้เองเมื่อแต้มน้อยกว่า 100 ครับ ส่วนระบบการยิงนั้น เกมมีการเด้งของปืนสูงมากครับ ทำให้คอขา Action ไม่ค่อยจะมันในจุดนี้เท่าไหร่ แต่เชื่อผมเหอะว่า เกมนี้มันชู RPG ด้วยก็ต้องเป็นยังงี้แหละครับ (จะให้เหมือน Mass Effect ก็จะเร็วเกินไปจนกลายเป็น Action ไปก่อน)ส่วนนี่คือภาพ CG ครับผม ค่อนข้างดูไม่ชัดอยู่ แต่ในใจยังคิดไว้ว่า "มันตัว Beta Test นะ" เพราะกราฟิกในเกมยังไม่สวยเท่าเกมสมัยนี้อยู่
ระบบถามตอบเป็นสิ่งที่เกมในสมัยนี้มีครับ แต่เกมนี้ดูจะสะดวกกว่าที่มันจะมีคำอธิบายให้ว่าถ้ากดนี่แล้วจะพูดอะไรออกไป ซึ่งก็จะมีตามสูตรครับคือ พูดแบบโน้มน้าว พูดแบบเฉยๆ เหมือนไม่สนใจมัน แล้วก็พูดแบบปากปีจอกันเลยทีเดียว และการเลือกนั้นจะส่งผลต่อตัวเราในฉากนั้นๆ เลย (พูดปากปีจอก็อาจจะโดนด่ากลับมาก็ได้
) ที่เน้นคำว่าเดี๋ยวนั้นเลยก็เพราะการเลือกสิ่งต่างๆ มันแสดงออกมาเลยในไม่กี่ฉากต่อมาครับการอัพเกรดในเกมนี้นั้น ดูเหมือนจะแบ่งเป็นหลายสายครับ ซึ่งจะมีสายที่จะสนับสนุนในการบู๊ สนับสนุนในการย่องเงียบ หรือสนับสนุนในการ hack ครับ ผมลองใช้ Cheat Engine โกงค่าอัพเกรดในเกม (Praxis Point เจ้า Praxis จะได้มาจากการซื้อใน LIMB Clinic,เก็บเอาตามฉากซึ่งหายาก และเกมค่า XP ไปจนถึงเกณฑ์ที่กำหนด) แล้วลองอัพทุกส่วน พบว่าพระเอกของเราก็ไม่ถึงกับเป็นยอดมนุษย์เหล็ก เดินออกไปบู๊แล้วจะรอดตายได้ทุกครั้งแบบไม่เสียเลือด เพียงแต่ช่วยเพิ่มกลยุทธ์ในการเล่นนั่นเอง ก็การอัพเกรดแนะนำใช้การอัพตามกลยุทธ์ที่เราชอบเล่นดีกว่า
ระบบยอดมนุษย์หลายส่วนนั้นจะมีการใช้งาน "แบตเตอรี่" ซึ่งพวกการ Takedown นั้นไม่ว่าจะอัดให้นอน หรือจะจ้วงให้ตาย ก็จะกินแบตไป 1 ก้อน ที่กำลังงงคือ ทำไมพอแบตไปก้อนนึงมันไม่ชาร์จ แต่พอแบตเกลี้ยงมันถึงจะชาร์จให้แค่ก้อนเดียว
ส่วนอื่นๆ นั้นก็จะมีการบริโภคแบตเป็นอัตราไป เช่นล่องหน,มองทะลุกำแพง,วิ่งเงียบ,ใช้ระเบิด Typhoon โปรยระเบิดรอบตัว 360 องศา แม้แต่การยกของหนักโคตรๆ ก็กินแบตเช่นกัน (รวมถึงการโยนจะกินไปครึ่งก้อน) น่าจะเรียก Adam ว่ามนุษย์แบตเตอรี่จริงๆ นะเนี่ยระบบ Hack ในเกมนี้ อาจเข้าใจยากมากในช่วงแรกๆ ครับ แต่หลักๆ คือ ให้เส้นข้อมูลวิ่งผ่านโฟลเดอร์ให้ไปถึงจุดหมายคือวงกลมเขียวๆ นั่นแหละครับ โดยจะมี 4 ลูกเล่นคือการส่งต่อข้อมูล ป้องกันโฟลเดอร์นั้นๆ (ถ้าอัพสาย Hack เยอะๆ ก็จะระบุได้ว่าจะมีโอกาสถูกระบบจับได้และเล่นมาที่ตัวเรากี่ %) รวมถึงตัวช่วยเสริมเช่น Nuke ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลแบบโอกาสจับได้เป็น 0% หรือตัว Stop ซึ่งทำให้ระบบตรวจจับที่กำลังติดนั้นและเริ่มนับถอยหลังเวลานั้นหยุดนิ่งครับ ความยากในการ Hack จะมีอยู่ 5 ระดับ ซึ่งเราต้องอัพเกรด Hack Module ก่อนถึงจะ Hack ได้ (เช่นเรามี Module แค่ระดับ 3 ก็จะ Hack ได้แค่ระดับ 1-3 ระดับ 4-5 อัพไม่ได้) เราสามารถหา XP เสริมได้โดยการส่งข้อมูลไปกล่องลูกบาศก์ครับ ส่วนความยากนั้นผมว่าถ้าเล่นมันไม่ยาก แต่มันจะรวดเร็วและระทึก ลุ้นตลอดเวลา (มีฉากนึงที่ตัวประกันอยู่ในห้องที่ติดระเบิดแก๊สพิษจับเวลา ซึ่งเราต้อง Hack ปิดมันให้ทันก่อนเวลาจะเป็น 0 ซึ่งอันนี้ถ้า Hack ผ่านก็ว่าไป แต่ถ้า Hack ไม่ผ่านคือเวลาหมดก่อนก็ซวยกันยกห้องเลยทีเดียว)
เกมนี้นั้นมีความเป็น Open World อยู่ครับซึ่งเราสามารถเดินสำรวจรอบๆ เมืองได้ (และยังได้ของแถมคือหลงทางอีกต่างหาก
)ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยนั้นก็คือว่า เกมนี้มี ภารกิจอยู่ประมาณ 6 ฉากครับผม ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า เล่นจบปุ๊ปอารมณ์ค้างปั๊ป อยากหามาเล่นต่อเลย (แต่ก็หาไม่ได้
) กราฟิกยังแข็งกระด้างอยู่ แต่ส่วนที่ผมว่าสมบูรณ์นั้นก็คือแก่นกลางของเกมเพลย์ที่ส่วนตัวผมยกให้เป็นสุดยอดที่สุดและที่ผมเคยเจอในเกมแนวนี้ บวกกับการที่มันเป็น Sci-Fi ด้วยก็ยิ่งชอบไปใหญ่ AI ยังเอ๋อๆ นิดหน่อยและระบบบางส่วนยังดูแหม่งๆ (เช่นการ Mark&Track ซึ่ง Mark ได้แต่พอจะ Unmark ตัวที่ถูกอัดสลบไปนั้นกลับทำไม่ได้) อ๋อ...เกมนี้ลากศพไปซ่อนได้ด้วยนะครับ (ซึ่งเคยเอาไปลากซ่อนในห้องน้ำทีนึง )สรุปคือ ถ้าไม่ติดในส่วนของกราฟิกที่ยังแปลกๆ คิดคะแนนในส่วน Gameplay ละก็ตอนนี้ผมให้ไป 9/10 แล้วละครับ คือชอบมากที่มากที่สุด!
Note : ลืมบอกไปว่าเกมนี้มันมีหลายทางเลือกจริงๆ ตาม trailer โม้ไว้จริงๆ คือ 3 ทาง บู๊ตรงๆ ลอบเร้น หรือใช้การแฮ็คเข้าช่วยพลิกสถานการณ์ และมีในแทบทุกฉาก ทุกเส้นทาง ทุกภารกิจด้วย ตอนนี้มันกลายเป็น 1 ในเกมในดวงใจผมไปละครับ (แต่ปีนี้จะคว้า RPG of the Year ไหม...ผมว่ามวยเด็ดสาขานี้น่าจะเป็น Skyrim VS The Witcher 2 มากกว่าครับ)
มีอะไรสงสัยในตัวเกม Beta ตัวนี้ลองถามได้นะครับ จะพยายามตอบให้เร็วที่สุด
Comment