ทำพรีวิวไว้ แต่ดองเค็มรีวิวไว้ชาตินึง 

Game Data
ผู้ผลิต : Electronic Arts
ผู้พัฒนา : Criterion Games
แพลทฟอร์ม : PC,Xbox360,PS3
แนวเกม : Racing
โหมดเกม : Single Player,Multiplayer
เรตติ้ง(ESRB) : Everyone 10+
ผู้จัดจำหน่ายแผ่นลิขสิทธิ์ในประเทศไทย: Saluzi
ราคาแผ่นลิขสิทธิ์: 799 บาท (Standard Edition Only)
ราคา ณ Steam : $49.99
วันวางจำหน่าย : วางจำหน่ายแล้วตามร้านขายเกมแผ่นแท้ชั้นนำทั่วแผ่นดินไทย!!!!!
Need for Speed เป็นซี่รี่ส์เกมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่ครับ หลังจากเกมในซี่รี่ส์นี้เริ่มถอยลงคลองตั้งแต่ภาค ProStreet ที่ยอมเปลี่ยนขั้วไปแข่งในสนาม แทนที่จะมาซิ่งตามถนน ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นที่ทำให้ Need for Speed ลงคลอง หากแต่เป็นการควบคุมรถที่ห่วยแตกสิ้นดี (เล่นเกมแข่งรถมากี่เกมก็มีไอ้เจ้า ProStreet นี่แหละที่ทำให้สิ้นคิดกับเกมแข่งรถซี่รี่ส์นี้) แม้จะพยายามรื้อฟื้นในภาค Undercover ที่ไปควงดาราสาว Maggie Q มาเป็นตัวแสดงในเกมที่ขับเคลื่อนไปกับเนื้อเรื่อง แต่ก็นั่นแหละ เมื่อพูดถึงระบบการขับก็ไปอีกเกมนึง จน EA ทนไม่ได้กับฝีมือในการพัฒนาเกมของสตูดิโอเดิมนี้ (Black Box Studio ที่รับผิดชอบการพัฒนาตั้งแต่ภาคแรกยันภาค Undercover) จึงขอยืมมือ Slightly Mad Studios มาช่วยในการพัฒนาเกมตระกูล Need for Speed และภาค SHIFT ก็ก่อกำเนิดขึ้น โดยเบนเข็มไปสู่การแข่งขันในสนามแบบสุดขั้ว ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของซี่รี่ส์นี้ที่พาเราๆ ท่านๆ ไปแข่งในสนาม แต่คราวนี้ทำได้ดีที่ระบบการขับที่เป็นกึ่ง Arcade กึ่ง Sim (ภาษาชาวบ้าน: Arcade ก็ไม่ใช่ Sim ก็ไม่เชิง
) และมีองค์ประกอบแห่งความสมจริงในการแข่งรถหลายส่วน ทำให้ซี่รี่ส์นี้เหมือนปั้มหัวใจให้กลับมาเต้นๆๆๆ อีกครั้ง แต่สำหรับคราวนี้ EA ได้ยืมมือสตูดิโอเกมแข่งรถมหาเทพ ที่เคยวาดลวดลายให้โลกรู้กับเกมในซี่รี่ส์ชนแหลกเข้าว่าอย่าง Burnout มาแล้ว! ก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ เขาคือ Criterion Games นี่เอง!!!!! และวันนี้เราก็พิสูจน์แล้ว(เกือบ 6 เดือน) ว่ามันสุดยอดจริงอะไรจริง!
การฟื้นคืนชีพเต็มรูปแบบ
อย่างที่บอกไปว่า ถ้า SHIFT เหมือนกับการปั้มหัวใจให้กลับมาเต้นได้ Hot Pursuit ฉบับใหม่รีเมกสดๆ โดย Criterion ก็คงเหมือนกับการฟื้นคืนชีพเต็มรูปแบบให้กลับมาเดินได้! เกมได้ย้ายจากการแข่งในสนามของ SHIFT มาแข่งกันบนท้องถนนอีกครั้ง แถมคราวนี้ไม่ได้ซิ่งอย่างเดียว ขึ้นชื่อว่า Hot Pursuit มันก็ต้องมีตำรวจสิ!!!!!!!!!
Hot Pursuit ได้ใช้ Concept ในการพัฒนาคือ "นำพา Need for Speed ฉบับดั้งเดิมมารวมกับสิ่งใหม่ๆ" และก็ทำได้ดีทีเดียว แม้ส่วนตัวผมไม่ได้เล่น Need for Speed ตั้งแต่ภาคแรก (เริ่มภาคแรกก็ซัด Underground 2 ก่อนเลย) แต่ก็ขอบอกเลยว่า นี่คือ Need for Speed แบบขนานแท้และดั้งเดิม เกมเพลย์การขับแบบ Arcade สุดๆ และไม่ต้องคิดอะไรมากกับการอัพเกรดรถ จูนรถ ที่สำคัญคือมีฉากการไล่ล่าของนักซิ่งกับตำรวจที่ดุเด็ดเผ็ดจ้านสุดๆ และด้วยเจ้าระบบใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง Autolog ผมคิดว่านี่เป็นเกมเรซซิ่งที่ดีที่สุดของปี 2010 แล้วละครับ (และมันก็เกือบขึ้นชั้นที่ 1 ในดวงใจเกมแข่งรถแล้วด้วย!)

Porsche คว่ำ...
จะล่าหรือจะหนี คุณเลือกได้
Hot Pursuit จะมาพร้อมกับ Career 2 ฝั่ง คือ ตำรวจกับนักซิ่ง โดยทั้ง 2 ฝั่งนี้จะมีภารกิจแตกต่างกันสุดขั้วแน่นอน ตำรวจก็จะมาในแนวของ "เดินหน้า ชนกระจาย!" ส่วนของนักซิ่งก็จะมาในแนวของ "หนีๆๆๆ แล้วก็ชนกระจาย!" คุณสามารถจะเลือก Event ของทั้ง 2 ฝั่งได้แบบ Real-Time คือ คุณจะเล่นเป็นตำรวจติดต่อกัน หรือนักซิ่งติดต่อกัน หรือแม้แต่สลับกันเล่นก็ได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่ได้ผูกว่าคุณจะต้องเป็นตำรวจตลอดชาติจนจบแล้วค่อยไปซิ่ง ทำให้เกมเปิดกว้างในเรื่องของการเลือก Event ในการลงแข่ง

หน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็เป็นเช่นนี้แล
เกมจะมีโหมดการเล่นอยู่หลายโหมดครับ ก็จะมี Race แข่งธรรมดาทั่วไป Hot Pursuit โหมดที่จะมาไล่ล่ากันบนท้องถนนอย่างเต็มสูบ เปิดสงครามระหว่างตำรวจกับนักซิ่ง ภารกิจของตำรวจก็จะเป็นไล่ล่าชนยกฉาก ส่วนของนักซิ่งก็จะเป็นหนีให้ถึง เอาตัวรอดให้ได้ และยังมีโหมดเกมที่สดใหม่อย่าง Interceptor ซึ่งจะพาคุณไปไล่ล่าบนถนนที่เปิดกว้างไม่จำกัดเส้นทาง สู้กันจนสุดใจจนตายกันไปข้างนึง นอกจากนี้ก็มีแข่งจับเวลาอย่าง Rapid Response,Time Trial,Gauntlet และโหมด Preview ที่ต้นเกมจะมีให้คุณเล่นโดยเอารถแรงๆ เด่นๆ คลาสสูงๆ ที่ยังไม่ได้ปลดล็อคมาให้คุณไปควงขับก่อน แม้จะเยอะก็จริง แต่ส่วนใหญ่กว่า 70% มันก็เป็นโหมดจับเวลาทั้งนั้น (ซึ่งมันก็น่าเบื่อ) ผมยังคิดเสียดายเลยว่าโหมดมันๆ อย่าง Hot Pursuit น่าจะเอามาใส่เยอะๆ
เมื่อมีการห้ำหั่นกันระหว่างตำรวจกับนักซิ่ง ทั้ง 2 ฝั่งย่อมต้องมีอุปกรณ์เสริมนอกจากรถยนต์งามๆ ครับ! ฝ่ายตำรวจกับนักซิ่งจะมี EMP ไว้ยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใส่รถให้เสียหาย และ Spike ตะปูเรือใบจอมแสบ เป็นพื้นฐานครับ ฝั่งตำรวจจะมีอุปกรณ์อีก 2 อย่างคือ Helicopter ไว้เรียกฮ.มาปล่อยตะปูเรือใบ หลายครั้งที่มันเป็นประโยชน์มากในโหมดเล่นคนเดียว แต่บางครั้งก็โชคร้ายไม่โดนสักครั้ง (บางครั้งร้ายกว่าอีกที่เราชนมันซะเอง) และก็มี Road Block ไว้เรียกรถตำรวจมากั้นถนนด้วย ส่วนของนักซิ่งก็ไม่น้อยหน้าก็มี Jammer ไว้ปล่อยสัญญาณรบกวนเพื่อไม่ให้ตำรวจเรียกอะไรออกมาได้เลย แถมยังเฉลยด่านตรวจ(ถ้ามี) อีกทั้งยังมี Turbo ช่วยเร่งความเร็วสูงสุดในระยะเวลาสั้นจิ๊ด! อุปกรณ์เหล่านี้จะเพิ่มระดับให้เมื่อใช้งานบ่อยๆ และได้ผล เช่น Road Block จะหนาขึ้นและรถจะถึกขึ้น EMP ยิงเร็วขึ้นไกลขึ้นแรงขึ้น Spike กว้างขึ้น (ระดับสูงสุดปล่อยทีเดียว 2 ดอก) เป็นต้น
ทั้ง 2 ฝั่งจะมีค่า Bounty เข้ามาเกี่ยวครับ โดยค่า Bounty นั้นจะเป็นกุญแจเปิดทางในการอัพเลเวล เลื่อนขั้น จะมีทั้งหมดฝั่งละ 20 เลเวล โดยทั้ง 2 ฝั่งจะใช้ค่า Bounty คนละส่วนกัน การจะได้มากของค่า Bounty นั้นก็เช่นขับรถสวนทางยาวๆ ชนคู่แข่ง พังรถตำรวจ/รถซิ่ง เล่นบรรลุภารกิจตามที่เป้าหมายกำหนดไว้

เก็บเกี่ยวค่า Bounty เพื่อทะยานสู่เลเวล 20!!!!
ในส่วนของระบบการขับนั้น เกมมาใช้ระบบการขับแบบ Arcade เต็มตัว ตอนแรกเราก็กลัวว่า ไอ้เจ้า Hot Pursuit มันจะกลายเป็น Burnout ฉบับตำรวจ VS นักซิ่ง แต่เกมก็พยายามเบนเข็มออกไปจาก Burnout อยู่พอสมควรและก็ทำได้ซะด้วย! และเกมนี้เป็นเกมแรกที่ผมคิดว่าจะจุดประกายความคิด "ดริฟท์เป็นเรื่องง่ายๆ" ต่างจากภาค SHIFT ที่ "ดริฟท์เป็นเรื่องปวดกบาล" ผมเชื่อว่าคุณเล่น Hot Pursuit คุณจะดริฟท์ในเกมแทนการเข้าโค้งปกติกันไปเลย! และระบบ Nitrous ก็กลับมาอีกครั้ง และมันก็เป็นแบบเก่าๆ คือ ชาร์จเมื่อไม่เต็ม ยิงเมื่อไหร่ก็ได้ที่มันยังมี รถทุกคันจะมี Nitrous ในส่วนของนักซิ่ง Nitrous จะเติมยากกว่าแต่ก็มีระยะการยิงที่นานกว่า ส่วนของตำรวจจะเน้นชาร์จเร็วปล่อยไว
รถงาม เมืองสวย
ภาคนี้เกมได้ขนรถมาให้คุณขับกันเยอะแยะมากมาย (50 กว่าคันได้) รถในเกมจะอุดมการณ์ทั้งรถสปอร์ตคาร์ธรรมดา รถญี่ปุ่น (มีอยู่ประมาณไม่กี่คัน) แต่จุดโชว์ออฟอยู่ที่เกมนี้มีซูเปอร์คาร์เพียบครับ แถมมีทั้งฝั่งตำรวจและนักซิ่งอีกด้วย! (ช่วงชีวิตนึงใครจะเห็น Bugatti แต่งตำรวจไปชน Bugatti รถซิ่งจนคว่ำ 5 ตลบกันละครับ) แต่อีกจุดที่คนที่ชื่นชอบในภาค Underground ก็คงจะผิดหวัง เพราะขนาดอัพระบบการขับเกมให้มาเป็น Arcade เรียกพ่อแล้ว แต่ดันไม่มีให้แต่งรถ (แต่งได้ครับ...แต่งสีไง
) แต่ก็อย่างว่าครับผมว่า Criterion คงอยากจะให้เราๆ ท่านๆ เอาเวลาไปถลุงพังรถพวกนี้ให้พังเล่นๆ มากกว่าจะให้ไปแต่งเท่ห์ๆ
ในส่วนของ Location เกมนี้ใช้เมืองที่ชื่อว่า Seacrest County ครับ เมืองนี้มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายจนไม่รู้ว่ามันตั้งบนส่วนไหนของโลก (เหนือหนาวหิมะตก กลางอากาศเย็นสบาย ใต้ร้อนแบบทะเลทราย) มีขนาดใหญ่มากๆ ถนนหนทางส่วนใหญ่ก็จะมีทางตรงยาวๆ (ไม่ตรงแหน่วแต่ก็ตรงแบบพอที่จะเร่งสปีดระดับ 200MPH ได้ง่ายๆ) สลับกับโค้งเล็กน้อย ทำให้เมื่อผสมกับการดริฟท์ที่ง่ายดายกับการไล่ล่าแบบเต็มสูบของตำรวจและนักซิ่ง ผมเชื่อว่าคุณจะสนุกกับการไล่ล่าบนถนนแบบนี้ และสภาพแวดล้อมเกมนี้ก็ทำมาได้ดีมากครับ วิวสวยงามจับใจ จนบางทีต้องวิ่งไปกด Photo Mode มาแฉะรูป ต้องขอบคุณ DICE ที่มาช่วยพัฒนาสภาพแวดล้อมให้กับเกมนี้ครับ อ๋อ เกือบลืมว่าเกมนี้มีโหมด Free Drive คือขับอิสระ แต่มันก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เพราะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากขับรถสำรวจอย่างเดียว (ไม่มีตำรวจมาไล่จับ กับ ไม่มีนักซิ่งให้ไปจับ) นับว่าเป็นจุดเสียอีกประการเพราะทีมงานบอกไว้ก่อนเกมออกว่าเกมนี้ Free Drive จะเจ๋งกว่า Burnout Paradise ซะอีก

ซิ่งด้วยความเร็วสูงกับรถงามๆ
นอกจากเมืองสวยๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าชมคือเสียงครับ เพลงประกอบในเพลงเข้าขั้นสุดยอดดี มีมากมายหลายเพลง เลือกเปลี่ยนได้ แต่ก็น่าเซ็งเหมือนกันที่เขาไม่ยอมให้เราเอาเพลงที่เรามีไปใส่ (ทำได้แต่ Console) เสียงเครื่องยนต์ดูมีพลัง เสียงชนกันสนั่นดังดี
Autolog - ระบบใหม่ล่าสุดที่แจ่มจริงๆ
ระบบ Autolog เหมือนๆ กับ Leaderboard แบบขนาดย่อลงมาติดต่อกับเพื่อนๆ ในเกมโดยเฉพาะ แม้ตอนแรกมีคนคิดว่า Autolog จะมาเป็นตัวถ่วงเกมนี้หรือเปล่า แต่คำตอบคือไม่ใช่เลยครับ Autolog เหมือนกับระบบ Facebook บนเกม Need for Speed ที่คุณสามารถโพสข้อความต่างๆ บน Wall ของคุณ (หรือของเพื่อน) ได้ เช่น "กระผม ชื่อ "ชื่อในเกม" ทำลายสถิติเวลาของเพื่อน "ชื่อเพื่อน" ด้วยเวลา "เวลาที่ทำได้"" รวมถึงโพสรูปได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้ใช้
พระเอกของ Autolog ก็คงจะเป็น Autolog Recommends ครับ ตัว Autolog Recommends จะแนะนำ Event ให้คุณไปแข่ง ซึ่งแรกๆ ก็ไม่น่าจะเวิร์กอะไร แต่หลังๆ พอเคลียร์เกมเกือบหมดแล้ว เจ้า Recommends มีประโยชน์ที่จะช่วยแนะนำ Event ให้คุณไปแข่ง โดยมีเวลาของเพื่อนคุณที่ทำได้ดีกว่าคุณเป็นเป้าหมาย (อารมณ์ประมาณว่า ตูไม่ยอม!!) และมันก็จะบันทึกเวลาที่คุณทำไว้ได้ดีที่สุดไปขึ้น Speedwall เป็นเหมือนการโชว์ออฟไปข่มคนอื่นว่าตูนี่เจ๋ง (ในทำนองเดียวกันก็โชว์ออฟว่าตูนี่กาก เช่นกัน
)
ออนไลน์สนุกเกินคาด
จะบอกว่าในช่วงชีวิตนึง ผมก็ไม่เคยได้สัมผัสสักทีกับไอ้เกมเรซซิ่งฟอร์มยักษ์ในโหมด Multiplayer มาครั้งแรกก็เจ้าเกมนี้แหละครับ ในโหมดมัลตินั้นจะมีการแข่งขันอยู่ 3 ชนิดคือ Race,Hot Pursuit,Interceptor โดยสามารถเล่นได้สูงสุด 8 คนด้วยกัน (น่าเสียดายครับที่โหมด Interceptor ได้แค่ 2 คนน่าจะสัก 8 คนรับรองมันส์+มั่ว) ปกติแล้วการเล่นมัลตินั้นสามารถใช้การหาห้องหรือชวนเพื่อน (หรือจะกระโดดไป Join ตามเพื่อนก็ได้) จากที่ผมเล่นมานั้นการใช้หา Match อัตโนมัตินั้นจะทำได้นาน แถมต้องประสบปัญหาแลคกระจาย (แลคขั้นรถวาร์ป โหมด Hot Pursuit กับ Interceptor แทบไม่ต้องเล่นกันเลยทีเดียว) แต่กระนั้นหากท่านเชื่อมต่อกับคนไทยด้วยกันก็จะไม่เจออาการแลคเลยครับ

เตรียมซิ่งครับ ;D
ในส่วนของการเล่นนั้น ขอบอกได้เลยว่า ลื่นไหลและสนุกมากครับ การห้ำหั่นกันบนโลกออนไลน์สนุก ยิ่งเล่นกับเพื่อนด้วยกันยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ผมจะบอกว่าผมเสียเวลาการเล่นโหมดนี้ไปหลายชม.เลยทีเดียว อีกทั้งค่า Bounty ก็จะได้จากการเล่นทุกครั้งด้วย (ได้ทีก็ได้เยอะพอสมควรถ้ามีฝีมือจนชนะได้) นับเป็นอีกทางเลือกที่คนกำลังเบื่อในการเล่นคนเดียว
อยากแข่งรถแบบดิบๆ เถื่อนๆ ต้องเกมนี้
โดยรวมคือทำได้ดีครับ นับเป็นการฟื้นคืนชีพของ Need for Speed เลยครับ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าขาดนู้นขาดนี่ที่น่าจะมีไป แต่ก็นับได้ว่าเป็นก้าวที่ดีครับ เอาง่ายๆ คือถ้าใครอยากหาเกมแข่งรถแบบ ดิบๆ เถื่อนๆ ชนแหลก รถหรูๆ อยากให้มันพังๆๆๆๆ ก็ต้องเลือกเกมนี้เลยครับ!!
Score : 9.0
The Good
+มันส์ ระห่ำสุดๆ
+ระบบการขับแบบ Arcade เน้นง่ายไม่เอาสมจริง
+ได้เล่นเป็นตำรวจไปจับนักซิ่งเป็นครั้งแรกในซี่รี่ส์ Need for Speed
+ระบบ Autolog ทำได้ดี ระบบออนไลน์ก็แจ่ม
+เสียงประกอบดี
+Seacrest County ทำได้น่าประทับใจ สวยสดงดงาม
+ได้ขับรถแพงๆ ระดับซูเปอร์คาร์
+AI โอเคดี มีความท้าทายในการเล่น
The Bad
-ภาพหยัก ไม่มีให้ปรับ AA
-บั๊กนิดๆ หน่อยๆ
-ระบบฟิสิกส์ที่เว่อร์มากเกิน (เคยชนประสานงานกันในโหมดออนไลน์ รถผมปลิวลอยสูงไปไกลลิบเลย)
-ไม่มี DLC มาเพิ่ม (Console มี)
-Free Drive น่าเบื่อ
ภาพรวม
ก็หลังจากที่เราต่างโหยหา Need for Speed แบบเก่าๆ มานาน คราวนี้ก็ได้สมใจอยากกันไปบ้างแล้วครับ เกมมีบั๊กนิดหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เซ็งไปง่ายๆ สำหรับ Hot Pursuit ผมก็ยกให้เป็น 1 ใน Need for Speed ภาคที่ดีที่สุดของยุคแล้วครับ!!!! ใครที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่อยากเล่นเกมแข่งรถมันส์ๆ ก็ขอให้ลองเกมนี้เลยครับ!!!!
คำเตือน : ขา GT5,Forza 3 โปรดใช้วิจารณญาณในการเล่น
ปล.แอดมาได้นะครับ MicroBenz4903TH (ถ้าผมว่าง ผมก็จะแอด แล้วก็จะเล่นนะครับ
)


Game Data
ผู้ผลิต : Electronic Arts
ผู้พัฒนา : Criterion Games
แพลทฟอร์ม : PC,Xbox360,PS3
แนวเกม : Racing
โหมดเกม : Single Player,Multiplayer
เรตติ้ง(ESRB) : Everyone 10+
ผู้จัดจำหน่ายแผ่นลิขสิทธิ์ในประเทศไทย: Saluzi
ราคาแผ่นลิขสิทธิ์: 799 บาท (Standard Edition Only)
ราคา ณ Steam : $49.99
วันวางจำหน่าย : วางจำหน่ายแล้วตามร้านขายเกมแผ่นแท้ชั้นนำทั่วแผ่นดินไทย!!!!!
Need for Speed เป็นซี่รี่ส์เกมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่ครับ หลังจากเกมในซี่รี่ส์นี้เริ่มถอยลงคลองตั้งแต่ภาค ProStreet ที่ยอมเปลี่ยนขั้วไปแข่งในสนาม แทนที่จะมาซิ่งตามถนน ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นที่ทำให้ Need for Speed ลงคลอง หากแต่เป็นการควบคุมรถที่ห่วยแตกสิ้นดี (เล่นเกมแข่งรถมากี่เกมก็มีไอ้เจ้า ProStreet นี่แหละที่ทำให้สิ้นคิดกับเกมแข่งรถซี่รี่ส์นี้) แม้จะพยายามรื้อฟื้นในภาค Undercover ที่ไปควงดาราสาว Maggie Q มาเป็นตัวแสดงในเกมที่ขับเคลื่อนไปกับเนื้อเรื่อง แต่ก็นั่นแหละ เมื่อพูดถึงระบบการขับก็ไปอีกเกมนึง จน EA ทนไม่ได้กับฝีมือในการพัฒนาเกมของสตูดิโอเดิมนี้ (Black Box Studio ที่รับผิดชอบการพัฒนาตั้งแต่ภาคแรกยันภาค Undercover) จึงขอยืมมือ Slightly Mad Studios มาช่วยในการพัฒนาเกมตระกูล Need for Speed และภาค SHIFT ก็ก่อกำเนิดขึ้น โดยเบนเข็มไปสู่การแข่งขันในสนามแบบสุดขั้ว ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของซี่รี่ส์นี้ที่พาเราๆ ท่านๆ ไปแข่งในสนาม แต่คราวนี้ทำได้ดีที่ระบบการขับที่เป็นกึ่ง Arcade กึ่ง Sim (ภาษาชาวบ้าน: Arcade ก็ไม่ใช่ Sim ก็ไม่เชิง

การฟื้นคืนชีพเต็มรูปแบบ
อย่างที่บอกไปว่า ถ้า SHIFT เหมือนกับการปั้มหัวใจให้กลับมาเต้นได้ Hot Pursuit ฉบับใหม่รีเมกสดๆ โดย Criterion ก็คงเหมือนกับการฟื้นคืนชีพเต็มรูปแบบให้กลับมาเดินได้! เกมได้ย้ายจากการแข่งในสนามของ SHIFT มาแข่งกันบนท้องถนนอีกครั้ง แถมคราวนี้ไม่ได้ซิ่งอย่างเดียว ขึ้นชื่อว่า Hot Pursuit มันก็ต้องมีตำรวจสิ!!!!!!!!!
Hot Pursuit ได้ใช้ Concept ในการพัฒนาคือ "นำพา Need for Speed ฉบับดั้งเดิมมารวมกับสิ่งใหม่ๆ" และก็ทำได้ดีทีเดียว แม้ส่วนตัวผมไม่ได้เล่น Need for Speed ตั้งแต่ภาคแรก (เริ่มภาคแรกก็ซัด Underground 2 ก่อนเลย) แต่ก็ขอบอกเลยว่า นี่คือ Need for Speed แบบขนานแท้และดั้งเดิม เกมเพลย์การขับแบบ Arcade สุดๆ และไม่ต้องคิดอะไรมากกับการอัพเกรดรถ จูนรถ ที่สำคัญคือมีฉากการไล่ล่าของนักซิ่งกับตำรวจที่ดุเด็ดเผ็ดจ้านสุดๆ และด้วยเจ้าระบบใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง Autolog ผมคิดว่านี่เป็นเกมเรซซิ่งที่ดีที่สุดของปี 2010 แล้วละครับ (และมันก็เกือบขึ้นชั้นที่ 1 ในดวงใจเกมแข่งรถแล้วด้วย!)
Porsche คว่ำ...
จะล่าหรือจะหนี คุณเลือกได้
Hot Pursuit จะมาพร้อมกับ Career 2 ฝั่ง คือ ตำรวจกับนักซิ่ง โดยทั้ง 2 ฝั่งนี้จะมีภารกิจแตกต่างกันสุดขั้วแน่นอน ตำรวจก็จะมาในแนวของ "เดินหน้า ชนกระจาย!" ส่วนของนักซิ่งก็จะมาในแนวของ "หนีๆๆๆ แล้วก็ชนกระจาย!" คุณสามารถจะเลือก Event ของทั้ง 2 ฝั่งได้แบบ Real-Time คือ คุณจะเล่นเป็นตำรวจติดต่อกัน หรือนักซิ่งติดต่อกัน หรือแม้แต่สลับกันเล่นก็ได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่ได้ผูกว่าคุณจะต้องเป็นตำรวจตลอดชาติจนจบแล้วค่อยไปซิ่ง ทำให้เกมเปิดกว้างในเรื่องของการเลือก Event ในการลงแข่ง
หน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็เป็นเช่นนี้แล
เกมจะมีโหมดการเล่นอยู่หลายโหมดครับ ก็จะมี Race แข่งธรรมดาทั่วไป Hot Pursuit โหมดที่จะมาไล่ล่ากันบนท้องถนนอย่างเต็มสูบ เปิดสงครามระหว่างตำรวจกับนักซิ่ง ภารกิจของตำรวจก็จะเป็นไล่ล่าชนยกฉาก ส่วนของนักซิ่งก็จะเป็นหนีให้ถึง เอาตัวรอดให้ได้ และยังมีโหมดเกมที่สดใหม่อย่าง Interceptor ซึ่งจะพาคุณไปไล่ล่าบนถนนที่เปิดกว้างไม่จำกัดเส้นทาง สู้กันจนสุดใจจนตายกันไปข้างนึง นอกจากนี้ก็มีแข่งจับเวลาอย่าง Rapid Response,Time Trial,Gauntlet และโหมด Preview ที่ต้นเกมจะมีให้คุณเล่นโดยเอารถแรงๆ เด่นๆ คลาสสูงๆ ที่ยังไม่ได้ปลดล็อคมาให้คุณไปควงขับก่อน แม้จะเยอะก็จริง แต่ส่วนใหญ่กว่า 70% มันก็เป็นโหมดจับเวลาทั้งนั้น (ซึ่งมันก็น่าเบื่อ) ผมยังคิดเสียดายเลยว่าโหมดมันๆ อย่าง Hot Pursuit น่าจะเอามาใส่เยอะๆ
เมื่อมีการห้ำหั่นกันระหว่างตำรวจกับนักซิ่ง ทั้ง 2 ฝั่งย่อมต้องมีอุปกรณ์เสริมนอกจากรถยนต์งามๆ ครับ! ฝ่ายตำรวจกับนักซิ่งจะมี EMP ไว้ยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใส่รถให้เสียหาย และ Spike ตะปูเรือใบจอมแสบ เป็นพื้นฐานครับ ฝั่งตำรวจจะมีอุปกรณ์อีก 2 อย่างคือ Helicopter ไว้เรียกฮ.มาปล่อยตะปูเรือใบ หลายครั้งที่มันเป็นประโยชน์มากในโหมดเล่นคนเดียว แต่บางครั้งก็โชคร้ายไม่โดนสักครั้ง (บางครั้งร้ายกว่าอีกที่เราชนมันซะเอง) และก็มี Road Block ไว้เรียกรถตำรวจมากั้นถนนด้วย ส่วนของนักซิ่งก็ไม่น้อยหน้าก็มี Jammer ไว้ปล่อยสัญญาณรบกวนเพื่อไม่ให้ตำรวจเรียกอะไรออกมาได้เลย แถมยังเฉลยด่านตรวจ(ถ้ามี) อีกทั้งยังมี Turbo ช่วยเร่งความเร็วสูงสุดในระยะเวลาสั้นจิ๊ด! อุปกรณ์เหล่านี้จะเพิ่มระดับให้เมื่อใช้งานบ่อยๆ และได้ผล เช่น Road Block จะหนาขึ้นและรถจะถึกขึ้น EMP ยิงเร็วขึ้นไกลขึ้นแรงขึ้น Spike กว้างขึ้น (ระดับสูงสุดปล่อยทีเดียว 2 ดอก) เป็นต้น
ทั้ง 2 ฝั่งจะมีค่า Bounty เข้ามาเกี่ยวครับ โดยค่า Bounty นั้นจะเป็นกุญแจเปิดทางในการอัพเลเวล เลื่อนขั้น จะมีทั้งหมดฝั่งละ 20 เลเวล โดยทั้ง 2 ฝั่งจะใช้ค่า Bounty คนละส่วนกัน การจะได้มากของค่า Bounty นั้นก็เช่นขับรถสวนทางยาวๆ ชนคู่แข่ง พังรถตำรวจ/รถซิ่ง เล่นบรรลุภารกิจตามที่เป้าหมายกำหนดไว้
เก็บเกี่ยวค่า Bounty เพื่อทะยานสู่เลเวล 20!!!!
ในส่วนของระบบการขับนั้น เกมมาใช้ระบบการขับแบบ Arcade เต็มตัว ตอนแรกเราก็กลัวว่า ไอ้เจ้า Hot Pursuit มันจะกลายเป็น Burnout ฉบับตำรวจ VS นักซิ่ง แต่เกมก็พยายามเบนเข็มออกไปจาก Burnout อยู่พอสมควรและก็ทำได้ซะด้วย! และเกมนี้เป็นเกมแรกที่ผมคิดว่าจะจุดประกายความคิด "ดริฟท์เป็นเรื่องง่ายๆ" ต่างจากภาค SHIFT ที่ "ดริฟท์เป็นเรื่องปวดกบาล" ผมเชื่อว่าคุณเล่น Hot Pursuit คุณจะดริฟท์ในเกมแทนการเข้าโค้งปกติกันไปเลย! และระบบ Nitrous ก็กลับมาอีกครั้ง และมันก็เป็นแบบเก่าๆ คือ ชาร์จเมื่อไม่เต็ม ยิงเมื่อไหร่ก็ได้ที่มันยังมี รถทุกคันจะมี Nitrous ในส่วนของนักซิ่ง Nitrous จะเติมยากกว่าแต่ก็มีระยะการยิงที่นานกว่า ส่วนของตำรวจจะเน้นชาร์จเร็วปล่อยไว
รถงาม เมืองสวย
ภาคนี้เกมได้ขนรถมาให้คุณขับกันเยอะแยะมากมาย (50 กว่าคันได้) รถในเกมจะอุดมการณ์ทั้งรถสปอร์ตคาร์ธรรมดา รถญี่ปุ่น (มีอยู่ประมาณไม่กี่คัน) แต่จุดโชว์ออฟอยู่ที่เกมนี้มีซูเปอร์คาร์เพียบครับ แถมมีทั้งฝั่งตำรวจและนักซิ่งอีกด้วย! (ช่วงชีวิตนึงใครจะเห็น Bugatti แต่งตำรวจไปชน Bugatti รถซิ่งจนคว่ำ 5 ตลบกันละครับ) แต่อีกจุดที่คนที่ชื่นชอบในภาค Underground ก็คงจะผิดหวัง เพราะขนาดอัพระบบการขับเกมให้มาเป็น Arcade เรียกพ่อแล้ว แต่ดันไม่มีให้แต่งรถ (แต่งได้ครับ...แต่งสีไง

ในส่วนของ Location เกมนี้ใช้เมืองที่ชื่อว่า Seacrest County ครับ เมืองนี้มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายจนไม่รู้ว่ามันตั้งบนส่วนไหนของโลก (เหนือหนาวหิมะตก กลางอากาศเย็นสบาย ใต้ร้อนแบบทะเลทราย) มีขนาดใหญ่มากๆ ถนนหนทางส่วนใหญ่ก็จะมีทางตรงยาวๆ (ไม่ตรงแหน่วแต่ก็ตรงแบบพอที่จะเร่งสปีดระดับ 200MPH ได้ง่ายๆ) สลับกับโค้งเล็กน้อย ทำให้เมื่อผสมกับการดริฟท์ที่ง่ายดายกับการไล่ล่าแบบเต็มสูบของตำรวจและนักซิ่ง ผมเชื่อว่าคุณจะสนุกกับการไล่ล่าบนถนนแบบนี้ และสภาพแวดล้อมเกมนี้ก็ทำมาได้ดีมากครับ วิวสวยงามจับใจ จนบางทีต้องวิ่งไปกด Photo Mode มาแฉะรูป ต้องขอบคุณ DICE ที่มาช่วยพัฒนาสภาพแวดล้อมให้กับเกมนี้ครับ อ๋อ เกือบลืมว่าเกมนี้มีโหมด Free Drive คือขับอิสระ แต่มันก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เพราะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากขับรถสำรวจอย่างเดียว (ไม่มีตำรวจมาไล่จับ กับ ไม่มีนักซิ่งให้ไปจับ) นับว่าเป็นจุดเสียอีกประการเพราะทีมงานบอกไว้ก่อนเกมออกว่าเกมนี้ Free Drive จะเจ๋งกว่า Burnout Paradise ซะอีก
ซิ่งด้วยความเร็วสูงกับรถงามๆ
นอกจากเมืองสวยๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าชมคือเสียงครับ เพลงประกอบในเพลงเข้าขั้นสุดยอดดี มีมากมายหลายเพลง เลือกเปลี่ยนได้ แต่ก็น่าเซ็งเหมือนกันที่เขาไม่ยอมให้เราเอาเพลงที่เรามีไปใส่ (ทำได้แต่ Console) เสียงเครื่องยนต์ดูมีพลัง เสียงชนกันสนั่นดังดี
Autolog - ระบบใหม่ล่าสุดที่แจ่มจริงๆ
ระบบ Autolog เหมือนๆ กับ Leaderboard แบบขนาดย่อลงมาติดต่อกับเพื่อนๆ ในเกมโดยเฉพาะ แม้ตอนแรกมีคนคิดว่า Autolog จะมาเป็นตัวถ่วงเกมนี้หรือเปล่า แต่คำตอบคือไม่ใช่เลยครับ Autolog เหมือนกับระบบ Facebook บนเกม Need for Speed ที่คุณสามารถโพสข้อความต่างๆ บน Wall ของคุณ (หรือของเพื่อน) ได้ เช่น "กระผม ชื่อ "ชื่อในเกม" ทำลายสถิติเวลาของเพื่อน "ชื่อเพื่อน" ด้วยเวลา "เวลาที่ทำได้"" รวมถึงโพสรูปได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้ใช้
พระเอกของ Autolog ก็คงจะเป็น Autolog Recommends ครับ ตัว Autolog Recommends จะแนะนำ Event ให้คุณไปแข่ง ซึ่งแรกๆ ก็ไม่น่าจะเวิร์กอะไร แต่หลังๆ พอเคลียร์เกมเกือบหมดแล้ว เจ้า Recommends มีประโยชน์ที่จะช่วยแนะนำ Event ให้คุณไปแข่ง โดยมีเวลาของเพื่อนคุณที่ทำได้ดีกว่าคุณเป็นเป้าหมาย (อารมณ์ประมาณว่า ตูไม่ยอม!!) และมันก็จะบันทึกเวลาที่คุณทำไว้ได้ดีที่สุดไปขึ้น Speedwall เป็นเหมือนการโชว์ออฟไปข่มคนอื่นว่าตูนี่เจ๋ง (ในทำนองเดียวกันก็โชว์ออฟว่าตูนี่กาก เช่นกัน

ออนไลน์สนุกเกินคาด
จะบอกว่าในช่วงชีวิตนึง ผมก็ไม่เคยได้สัมผัสสักทีกับไอ้เกมเรซซิ่งฟอร์มยักษ์ในโหมด Multiplayer มาครั้งแรกก็เจ้าเกมนี้แหละครับ ในโหมดมัลตินั้นจะมีการแข่งขันอยู่ 3 ชนิดคือ Race,Hot Pursuit,Interceptor โดยสามารถเล่นได้สูงสุด 8 คนด้วยกัน (น่าเสียดายครับที่โหมด Interceptor ได้แค่ 2 คนน่าจะสัก 8 คนรับรองมันส์+มั่ว) ปกติแล้วการเล่นมัลตินั้นสามารถใช้การหาห้องหรือชวนเพื่อน (หรือจะกระโดดไป Join ตามเพื่อนก็ได้) จากที่ผมเล่นมานั้นการใช้หา Match อัตโนมัตินั้นจะทำได้นาน แถมต้องประสบปัญหาแลคกระจาย (แลคขั้นรถวาร์ป โหมด Hot Pursuit กับ Interceptor แทบไม่ต้องเล่นกันเลยทีเดียว) แต่กระนั้นหากท่านเชื่อมต่อกับคนไทยด้วยกันก็จะไม่เจออาการแลคเลยครับ
เตรียมซิ่งครับ ;D
ในส่วนของการเล่นนั้น ขอบอกได้เลยว่า ลื่นไหลและสนุกมากครับ การห้ำหั่นกันบนโลกออนไลน์สนุก ยิ่งเล่นกับเพื่อนด้วยกันยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ผมจะบอกว่าผมเสียเวลาการเล่นโหมดนี้ไปหลายชม.เลยทีเดียว อีกทั้งค่า Bounty ก็จะได้จากการเล่นทุกครั้งด้วย (ได้ทีก็ได้เยอะพอสมควรถ้ามีฝีมือจนชนะได้) นับเป็นอีกทางเลือกที่คนกำลังเบื่อในการเล่นคนเดียว
อยากแข่งรถแบบดิบๆ เถื่อนๆ ต้องเกมนี้
โดยรวมคือทำได้ดีครับ นับเป็นการฟื้นคืนชีพของ Need for Speed เลยครับ แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าขาดนู้นขาดนี่ที่น่าจะมีไป แต่ก็นับได้ว่าเป็นก้าวที่ดีครับ เอาง่ายๆ คือถ้าใครอยากหาเกมแข่งรถแบบ ดิบๆ เถื่อนๆ ชนแหลก รถหรูๆ อยากให้มันพังๆๆๆๆ ก็ต้องเลือกเกมนี้เลยครับ!!
Score : 9.0
The Good
+มันส์ ระห่ำสุดๆ
+ระบบการขับแบบ Arcade เน้นง่ายไม่เอาสมจริง
+ได้เล่นเป็นตำรวจไปจับนักซิ่งเป็นครั้งแรกในซี่รี่ส์ Need for Speed
+ระบบ Autolog ทำได้ดี ระบบออนไลน์ก็แจ่ม
+เสียงประกอบดี
+Seacrest County ทำได้น่าประทับใจ สวยสดงดงาม
+ได้ขับรถแพงๆ ระดับซูเปอร์คาร์
+AI โอเคดี มีความท้าทายในการเล่น
The Bad
-ภาพหยัก ไม่มีให้ปรับ AA
-บั๊กนิดๆ หน่อยๆ
-ระบบฟิสิกส์ที่เว่อร์มากเกิน (เคยชนประสานงานกันในโหมดออนไลน์ รถผมปลิวลอยสูงไปไกลลิบเลย)
-ไม่มี DLC มาเพิ่ม (Console มี)
-Free Drive น่าเบื่อ
ภาพรวม
ก็หลังจากที่เราต่างโหยหา Need for Speed แบบเก่าๆ มานาน คราวนี้ก็ได้สมใจอยากกันไปบ้างแล้วครับ เกมมีบั๊กนิดหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เซ็งไปง่ายๆ สำหรับ Hot Pursuit ผมก็ยกให้เป็น 1 ใน Need for Speed ภาคที่ดีที่สุดของยุคแล้วครับ!!!! ใครที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แต่อยากเล่นเกมแข่งรถมันส์ๆ ก็ขอให้ลองเกมนี้เลยครับ!!!!
คำเตือน : ขา GT5,Forza 3 โปรดใช้วิจารณญาณในการเล่น

ปล.แอดมาได้นะครับ MicroBenz4903TH (ถ้าผมว่าง ผมก็จะแอด แล้วก็จะเล่นนะครับ

Comment