
วันนี้กระผมจะมารีวิว Crysis 2 "Demo" กันนะฮ๊าฟฟฟฟฟ (Demo นะฮ๊าฟ ขอย้ำ!)
Game Data
ผู้ผลิต : Electronic Arts
ผู้พัฒนา : Crytek
แพลทฟอร์ม : PC,Xbox360,PS3
แนวเกม : Action First Person Shooter
โหมดเกม : Single Player,Multiplayer
เรตติ้ง(ESRB) : Mature 17+
ผู้จัดจำหน่ายแผ่นลิขสิทธิ์ในประเทศไทย: Saluzi
ราคาแผ่นลิขสิทธิ์: 799 บาท (ตัวปกติ),990 บาท (Limited Edition)
ราคา ณ Steam : $59.99 (ช่วง Pre-Purchase จะได้รับเป็นตัว Limited Edition ทุกคนที่ซื้อบน Steam)
วันวางจำหน่าย : 26 มีนาคม 2011
ถึงจะเป็น Demo...แต่ก็แหล่ม!
ผมขอสารภาพเลยว่า ผมลองไปหา Crysis 2 ตัวเวอร์ชั่น Beta มาลองเล่นดูครับ (ตัวที่หลุดกันออกมาก่อนเกมออกตั้ง 40 กว่าวันนั้นแหละครับ) ปรากฏว่าผมรู้สึกเฉยๆ กับมัน คือเกมมันสนุกจริง แต่ก็เฉยๆ กับมัน แล้วก็ลบมันออกจาก HDD พร้อมทั้งความตั้งใจที่ว่าจะซื้อเกมนี้แผ่นแท้ก็เพราะว่าเกมมันสนุกดี และก็คิดว่า Multiplayer น่าจะสนุก จน ณ วันนี้ ผมขอการันตีเลยว่า "Multiplayer" เกมนี้นั้น ไม่ใช่ขี้ๆ เหมือน Crysis ภาคแรกเลยครับ!!!!!!
ตัว Demo นี้มีขนาดราวๆ ประมาณ 1GB นิดๆ ครับ มีทั้งให้โหลดตรงกับ EA เอง หรือจะโหลดผ่าน Steam ก็ทำได้ เมื่อโหลดเสร็จ ติดตั้งเสร็จแล้วเข้าเล่นเกม ใครมี ID Crysis ภาคแรก แนะนำให้ลองใช้ดูครับ หากไม่ติดให้สมัครใหม่เลยครับ (ณ วันนี้ Patch ออกมาจากทาง Crytek แล้วการันตีว่าสามารถสมัครเกมใหม่ได้ทุกคน!) เมื่อสมัครเสร็จแล้วเราก็ไปรบกันครับ!!!!!!
อีนี่โหลดผิดเกมป่าวฟะเนี่ย???
ที่ผมจั่วหัวว่าผมโหลดผิดกว่ามาป่าวเนี่ย คือ จะบอกว่า อารมณ์การเล่นในโหมด Multiplayer พาให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ผมได้สัมผัสกับเกม Modern Warfare 2 Multiplayer เป็นครั้งแรกไม่มีผิด! เกมเพลย์รวดเร็วฉับไว แผนที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ความสมดุลในเกมมีเยอะมาก แถมยังมี Nanosuit เพื่อเพิ่มความสามารถ และความหลากหลายในการเล่นอีกด้วย!
ใครที่เคยเล่น Crysis Wars ผมคิดว่าท่านคงรู้ดีว่า โหมด Multiplayer ของ Crysis Wars นั้นอยู่ในขั้นน่าเบื่อสักเพียงไร ในเมื่อทหารทุกคนใส่ Nanosuit เปิด Armor Mode กันเต็มที่ แถมยิงหมดแม็กกว่าจะตาย (บางทีไม่ตาย) ไหนจะแมพขนาดมโหฬารอีกละ? กว่าจะวิ่งไปถึง พอวิ่งไปถึงโดนยิงตายอารมณ์เสีย เลิกเล่น แต่สำหรับ Crysis 2 ไม่ใช่ครับ เกมเพลย์ถูกยกระดับให้มีความรวดเร็วฉับไวในระดับใกล้เคียง (หรืออาจระดับเดียวกัน) กับเกมอย่าง Modern Warfare 2 หรือ Black Ops เลยก็ว่าได้
คิลกันมันหยดติ่งกันทั้งเกมเลยครับพี่น้องครับ!!!!
จุดที่สามารถนำมาประชันกับเกมอย่าง Modern Warfare 2 หรือ Black Ops ได้อีกจุดคือ Nanosuit ครับ แต่ยังไม่พูดถึงภาพรวมของการใช้ Nanosuit ในการบู๊สนั่นกันในเกมนะครับ ผมจะมาพูดถึงการอัพเกรด Nanosuit ครับ ความจริงไม่น่าจะเรียกว่าการอัพเกรดครับ ผมอยากจะเรียกว่า "การปรับแต่ง" มากกว่า คุณสามารถเลือกการปรับแต่ง Nanosuit ได้ 3 อัน โดยจะแบ่งเป็น 3 Modules คือ Armor Power และ Stealth ครับ
Armor Modules จะช่วยเพิ่มความสามารถเมื่อเปิดโหมด Armor หรือพลังเกราะสูงสุด เช่น ให้ Armor Mode มีความทนทานกว่าปกติ ใช้พลัง Air Stomp หรือหมัดเทวดาทะลวงโลก เป็นต้น
Power Modules จะช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวทั้งหลาย เช่น บรรจุกระสุนเร็วขึ้น หรือดูดกระสุนจากปืนกระบอกอื่นได้ หรือจะช่วยให้เล็งปืนได้โดยเป้าปืนไม่สั่นมาก แม้จะโดนรุมถล่มก็ตามที
Stealth Modules จะช่วยในเรื่องการล่องหนย่องเงียบ เช่น สลับโหมดชุดไปสู่โหมด Stealth หรือออกจากโหมดได้เร็วขึ้น ไม่ก็คุณอาจจะเลือกที่จะใช้ Cloak Tracker ไว้ตรวจจับการล่องหนได้ เจ้า Modules ทั้ง 3 นี้ดูไปดูมา มันก็คลับคล้ายคลับคลากับ Perk ของเกมตระกูล CoD นั้นแหละครับ โดยที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นน้ำจิ้มจากตัว Demo นะครับ ตัวเต็มคาดว่าจะมีพวก Modules เหล่านี้รวมๆ กันกว่า 30-40 ชนิดเลยครับ!!!!
Nanosuit's War...สงครามนาโนสูท
Crysis 2 Demo นั้นจะมีโหมดให้เล่น 2 โหมด (จาก 6 โหมด) คือ Team Instant Action ก็คือโหมด Team Deathmatch ธรรมดา กับโหมด Crash Site คล้ายๆ กับโหมดชิงธง แต่มาเป็นชิงพื้นที่ที่กระสวยของเอเลี่ยนตกกันแทน การเล่นหลักทั้ง 2 โหมดนี้ต่างกันเหมือนจะเป็นคนละเกมกันเลยทีเดียว อย่าง Team Instant Action ก็จะออกบู๊สุดๆ ไปทาง CoD ซะมากกว่า ส่วน Crash Site นั้นจะเน้นบู๊ผสมกลยุทธ์เล็กน้อยแบบ BFBC2 (อาจดูคล้าย Dead Space 2 Multiplayer ด้วยถ้าให้พูด) ที่จะอาศัย Team-Work อย่างมาก
Nanosuit ในภาคนี้จะเป็น Nanosuit รุ่น 2.0 ครับ โหมดการใช้งานหลักๆ เลยก็คือ Armor Power Stealth ครับ แต่ใน Nanosuit 2.0 นี้ มีการใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม และพลิกแพลงได้ง่ายกว่าเดิมครับ อยากไปโหมด Stealth ย่องเงียบ กด E ก็จะหายวับไปเลย...อ้าว!!! ข้าศึกอยู่โน้น กด Q เพื่อไปสู่โหมด Armor เพื่อเพิ่มอัตราการรอดตายจากลูกตะกั่วของศัตรู พอเก็บเสร็จก็อาจจะย่องหาที่หลบด้วยโหมด Stealth โดยการกด E ต่อได้! ส่วนโหมดยอดมนุษย์อย่างกระโดดสูง และการวิ่งเร็วนั้นจะรวมไปในโหมด Power โดยโหมด Power สามารถใช้ได้ตลอดไม่ต้องเปิดโหมดนี้ค้างไว้ หมายความว่าคุณสามารถกระโดดสูงพร้อมกับล่องหนได้ โหมด Power จะถูกใช้พลังงานเมื่อทำการกระโดดสูง และทำการวิ่งครับ และด้วยโหมด Power ทำให้คุณสามารถใช้ทักษะในการวิ่ง Free-Running แบบญาติๆ ของอาหมวย Faith ใน Mirror's Edge หรือทายาทมือสังหาร Ezio ของ Assassin's Creed เลยก็ว่าได้
จะมีค่า XP เฉพาะสำหรับโหมด Nanosuit ทั้ง 3 โหมดเพื่อนำไปปลดล็อค Modules ใหม่ๆ
อีกจุดที่ปรับปรุงนั้นก็คือการใช้พลังงานครับ เกมนี้การชาร์จพลังงานทำได้เร็วขึ้น สามารถนำไปบู๊ได้เรื่อยๆ การใช้พลังงานก็มีวี่แววว่าลดลงจากเดิมเล็กน้อยด้วย
บางคนคิดว่า เกมจะไม่ต่างกับ Crysis ภาคแรกสักเท่าไหร่หรอกมั้ง เพราะโหมด Armor ก็เปิดได้ทุกคน ยิงยังไงก็ไม่ตายหรอก! เออ...ผมว่าคุณคิดผิดครับ เกมได้มีการแยกระบบ เลือด กับชุดเกราะ Nanosuit ไว้คนละฝากกันครับ พูดง่ายๆ คือ แม้คุณจะเปิด Armor Mode ก็จริง แต่พลังชีวิตก็มีกระทบบ้าง แต่น้อยกว่าที่จะปล่อยตัวลอยไม่เปิดโหมดอะไรเลย ทำให้ Nanosuit เปรียบเสมือนอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความสามารถในการรบ มากกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเลยอย่าง Crysis Multiplayer ภาคแรก แถม Armor Mode เมื่อโดนกระทบไปก็ไม่ได้ว่าจะทนเหมือนกับภาคแรก ทำให้เกมถูกยกระดับความสนุก และความรวดเร็วในระดับเดียวกับ CoD Multiplayer ได้เลย!
ระบบเลือดก็มาใช้เป็นแบบเดียวกับ CoD ครับ โดนยิงมากๆ ก็แดงขึ้น
Be the Weapon...
มาพูดถึงอาวุธดีกว่า ในเกมมีอาวุธให้ใช้อยู่ 4 กระบอกหลักๆ คือ Scar ปืนกลมาตรฐาน,DSG-1 สไนเปอร์,MK.60 ปืนกลเบากระบอกโต,JACKAL ลูกซอง Automatic แถมที่สุดยอดกว่าคือ สามารถปรับแต่งปืนได้แบบเดียวกับเกมตระกูล CoD เลยครับ! สามารถติดศูนย์เล็ง Red Dot Reflex Sight ได้ รวมถึงอุปกรณ์ใต้ปืน (Under Barrel) ซึ่งในเกมก็จะมีให้ปลดล็อคอันเดียวคือปืน Hologram ครับ บอกตรงๆ ว่าแสบมาก (แสบยังไงไปหาเอาในเกมนะครับ) และที่ผมคิดไว้ในเกมเต็ม ก็ยังคงจะมี Grenade Launcher รวมถึง Gauss Rifle ไรเฟิลพลังงานในเกมภาคแรกที่ถูกย่อส่วนแต่ความแรงยังเท่าเดิม! ที่สำคัญที่สุดก็คือ...ติดกี่อันก็ได้ครับ เช่นจะติด Reflex คู่กับ Hologram กับปืน Scar ได้ แถมพวกอุปกรณ์เสริมพวกนี้สามารถเลือกปลดล็อคได้เมื่อทำตาม Challenge ครับ คล้ายๆ MW2 ที่ต้องใช้ปืนนั้นฆ่า 10 คนแล้วจะปลดล็อคของ เพียงแต่ Crysis 2 จะเพิ่มความอิสระในการปลอล็อค
เกมนี้มี Killcam ด้วยครับ ซึ่งจะบอกหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ปืน อุปกรณ์ที่ติด Modules ที่ใช้ และโหมดสูทที่เปิด
ภาพงาม...ไม่กินสเปค (จริงๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟ)
เกมนี้ปรับกราฟิกได้ 3 ระดับครับ ไล่เลยคือ Gamer Advanced Hardcore ครับ กราฟิกอาจจะคล้ายกับพอร์ตมาจาก Console ก็จริง แต่ก็มีภาพสวยงาม แถมยังไม่กินสเปคอีกต่างหาก!!! นี่คือเรื่องจริงครับ คอมผมใช้สเปค Core 2 Quad Q8200+RAM 4GB+Geforce GT440 1GB รันบน Windows 7 64-Bit เปิดระดับ Gamer ความละเอียดเต็มจอ 1440*900 ของผมสามารถเล่นได้ไหลลื่น โดยเฟรมเรตต่ำสุดอยู่ที่ 22 สูงสุดที่ 46 เฉลี่ยเลยก็ที่ 31 ลื่นๆ ครับ...แถมกราฟิกก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรแม้จะปรับ Gamer ก็ตาม!
ภาพนี้จำไม่ได้ว่าปรับ Gamer หรือ Advanced ไว้ แต่ผมว่ามันก็งามแล้วนะเออ!
ส่วนเรื่องปิงนั้น การันตีได้เลยว่า เน็ต True 6Mbps เล่น Server Fragnetics.com ซึ่งอยู่ที่สิงค์โปร์นั้น ได้ปิงอยู่ที่ 58 ครับ นับว่าชิวมากสำหรับการเล่นเกมแบบออนไลน์มัลติครับ!
ปิงยังงี้ ก็สนุกสิครับ...
เกมนี้...ผมกด LIKE เลยฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
โดยรวมคือผมชอบมากครับ ทั้งเกมที่มีความสมดุล สนุก มันส์ รวดเร็วฉับไว เร้าใจสุดๆ แถมยังได้กลิ่นอายการไล่ล่าจากการปีนป่ายตึกอีก ชุดสามารถดัดแปลง ปรับแต่ง ปืนปรับแต่งอุปกรณ์ได้ มันสุดๆ ไปเลย!!! แนะนำให้ไปหามาเล่นครับ ก่อนจะหมดช่วง Demo คือวันที่ 13 มี.ค.ครับ!!!!!
Score : 9.5
The Good
+เกมเพลย์มันส์สุดติ่ง รวดเร็วฉับไว
+Nanosuit รุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม ปรับแต่งได้ ปืนปรับแต่งได้
+กราฟิกสวยไม่กินสเปค
+ปิงน้อยไม่แลค
+มี Dog Tag ใช้แสดงตัวเอง ซึ่งเท่ห์ไม่เบา
+เสียงปืนดูมีน้ำหนักดี เสียงเปลี่ยนโหมด Nanosuit ดูมีพลัง
The Bad
-บั๊กนิดหน่อย (นิดหน่อยจริงๆ นะ)
ภาพรวม
โดยรวมผมว่า ถ้าคุณชอบเกมตระกูล CoD ในโหมด Multiplayer และชอบ Crysis ภาคแรกมาก่อน ผมรับรองว่า คุณจะชอบและหมดเวลาไปกับเกมนี้พอๆ กับที่หมดไปในเกมตระกูล CoD เลยทีเดียว ผม Confirm!!! (เพราะผมเล่นมันมาจะ 10 ชม.แล้วในบันทึก ฮ่าฮ่า)
แอด Friends ด้วยนะครับ MicrobenzProbTH ครับ!
ปิดท้ายด้วยวิวตึกสวย(มั้ง)ครับ...(ภาพนี้ปรับ Gamer ครับ...)
Comment