Announcement

Collapse
No announcement yet.

เกมเมอร์ออสซี่โวย!! StarCraft II ล็อคโซน

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    ลดความเป็นชาตินิยม !!! ขอเถอะห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาด

    แค่ปัจจุบันคนประเทศเราก็แทบไม่มีตรงนี้กันอยู่แล้วนะ ไม่งั้นไม่เกิดเหตุการณ์แย่ๆ หลายๆ อย่างในรอบหลายๆ ปีมานี้หลอก(เราสูญเสียเอกราชทางวัฒณธรรมไปกี่ทีแล้วครับ จาก US มา Jap มา Kor) ขอเถอะจะลดอะไรลดไปแต่ห้ามขาดความภูมิใจในชาติกำเนิดตัวเองจนถึงขนาดต้องลดความเป็นชาตินิยมลงเด็ดขาด



    ปล.ประเทศที่ก้าวไปไวส่วนใหญ่คนในชาติจะมีความเป็นชาตินิยมสูงนะครับ

    Comment


    • #32
      เห็นด้วยกับท่านCannavaroJมากๆอะ

      ผมอยากให้มองญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างอะ

      Comment


      • #33
        จะมีซักกี่ประเทศ ที่คนในประเทศเป็นพลเมืองชั้นสองในประเทศตัวเอง...แบบประเทศไทย



        เอวัง

        Comment


        • #34
          เอา..ก็ถ้าว่าอย่างนั้นนะครับ.. หลังจบกระทู้นี้ของผมก็ย้ายกลับมาเข้าเรื่องเกมส์ละกันครับ

          คือถ้าอ่านกระทู้ด้านบนของผม ผมจะแยกความนิยมเป็นสองส่วน ส่วนที่ผมไม่เห็นด้วย จะเป็นบรรทัดบน ส่วนที่ผมเห็นว่าดีจะเป็นบรรทัดล่าง ผมอยากจะบอกว่ามันมีความแตกต่างกันครับ
          มีครั้งนึงในบอรดแซท ช่วงกำลังมีเหตุการณ์มีการวิจารณ์เรื่องเสื้อที่ราชสำนักเอามาขายงานเทศกาลทำให้เกิดค่านิยมเรื่องสีเสื้อ สีเหลืองถ้าใครใส่แล้วจะรักชาติและกษัตริย์ สีน้ำเงินรักความยุติธรรม สีแดง.. ตอนนั้นผมเห็นด้วยเรื่องที่มองเห็นว่าเอามาขายกันเกล่อเกินไป เหมือนฉลองเสร็จแล้วไม่ยอมเลิก มีการต่อช่วงเวลาเฉลิมฉลอง เอาสีฟ้าสีชมพูมาขายจนดูหมดความสำคัญ แกมบังคับบริษัทเอกชนสวมชุดสีฉลองในวันทำงาน ใครก็น่าจะจำกันได้ แรกมันก็ดีหลังๆบางคนก็ชอบนะไม่รู้.. การตอบกระทู้ดำเนินไปดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็มีคนนึงโพล่งขึ้นมาทำให้กระทู้นั้นจบไปเลยคือเขาบอกว่า "อะไรก็ช่างใครด่าพ่อกูๆเอาตาย.." ผมคิดว่ากระทู้มันเป็นการต่อว่าคนขายเสื้อเอาความจงรักภักดีมาขายจนเกินงาม แล้วทำไมไอ้คนๆนี้มันถึงคิดว่าพ่อต้องเป็นคนขายเสื้อด้วยวะ เหมือนว่าพ่อกับแม่ปรึกษากันว่าเสื้อมาขายกันเถอะ แล้วถ้าเอามาขายจริงๆแล้วห้ามวิจารณ์ว่าผิด!! ผมมองว่ามันมีอะไรไม่ปรกติในค่านิยมของเรา มีใครบางคนสร้างค่านิยมผิดๆผสมในกระแสความรักชาติของเรา

          ชาติที่มีความเชื่อบางอย่างสูงมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี จีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาใต้เป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดที่เราต้องลดความนิยมบางอย่างออก เพราะมันมีผลร้ายแรงในบ้านเรา องค์มหาราชของเราพระองค์นึงเล็งเห็นเรื่องนี้ชัดช่วยบ้านเมืองเรารอดวิกฤติ(เขียนถูกมั้ยนี่)มาแล้ว

          Comment


          • #35
            Originally posted by coljack View Post
            เอา..ก็ถ้าว่าอย่างนั้นนะครับ.. หลังจบกระทู้นี้ของผมก็ย้ายกลับมาเข้าเรื่องเกมส์ละกันครับ

            คือถ้าอ่านกระทู้ด้านบนของผม ผมจะแยกความนิยมเป็นสองส่วน ส่วนที่ผมไม่เห็นด้วย จะเป็นบรรทัดบน ส่วนที่ผมเห็นว่าดีจะเป็นบรรทัดล่าง ผมอยากจะบอกว่ามันมีความแตกต่างกันครับ
            มีครั้งนึงในบอรดแซท ช่วงกำลังมีเหตุการณ์มีการวิจารณ์เรื่องเสื้อที่ราชสำนักเอามาขายงานเทศกาลทำให้เกิดค่านิยมเรื่องสีเสื้อ สีเหลืองถ้าใครใส่แล้วจะรักชาติและกษัตริย์ สีน้ำเงินรักความยุติธรรม สีแดง.. ตอนนั้นผมเห็นด้วยเรื่องที่มองเห็นว่าเอามาขายกันเกล่อเกินไป เหมือนฉลองเสร็จแล้วไม่ยอมเลิก มีการต่อช่วงเวลาเฉลิมฉลอง เอาสีฟ้าสีชมพูมาขายจนดูหมดความสำคัญ แกมบังคับบริษัทเอกชนสวมชุดสีฉลองในวันทำงาน ใครก็น่าจะจำกันได้ แรกมันก็ดีหลังๆบางคนก็ชอบนะไม่รู้.. การตอบกระทู้ดำเนินไปดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็มีคนนึงโพล่งขึ้นมาทำให้กระทู้นั้นจบไปเลยคือเขาบอกว่า "อะไรก็ช่างใครด่าพ่อกูๆเอาตาย.." ผมคิดว่ากระทู้มันเป็นการต่อว่าคนขายเสื้อเอาความจงรักภักดีมาขายจนเกินงาม แล้วทำไมไอ้คนๆนี้มันถึงคิดว่าพ่อต้องเป็นคนขายเสื้อด้วยวะ เหมือนว่าพ่อกับแม่ปรึกษากันว่าเสื้อมาขายกันเถอะ แล้วถ้าเอามาขายจริงๆแล้วห้ามวิจารณ์ว่าผิด!! ผมมองว่ามันมีอะไรไม่ปรกติในค่านิยมของเรา มีใครบางคนสร้างค่านิยมผิดๆผสมในกระแสความรักชาติของเรา

            ชาติที่มีความเชื่อบางอย่างสูงมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี จีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาใต้เป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดที่เราต้องลดความนิยมบางอย่างออก เพราะมันมีผลร้ายแรงในบ้านเรา องค์มหาราชของเราพระองค์นึงเล็งเห็นเรื่องนี้ชัดช่วยบ้านเมืองเรารอดวิกฤติ(เขียนถูกมั้ยนี่)มาแล้ว


            ขอโทษนะคับ ที่พาออกนอกประเด็นไป แต่ผมขอถามอีกอย่างหนึ่งครับ(PM มาก็ได้)

            สิ่งที่คุณบอกว่าควรจะให้ลดลงคือการลดลงต่อสิ่งไหนครับ ผมอ่านแล้วตีความไม่เคลียนะครับ(แล้วค่อนข้างเคลือบแคลงใจต่อคำที่ผมเน้นด้วยว่าต้องการจะสื่อถึงสิ่งไหน)....
            Last edited by CannavaroJ; 9 Jul 2010, 12:27:04.

            Comment


            • #36
              Originally posted by CannavaroJ View Post
              ขอโทษนะคับ ที่พาออกนอกประเด็นไป แต่ผมขอถามอีกอย่างหนึ่งครับ(PM มาก็ได้)

              สิ่งที่คุณบอกว่าควรจะให้ลดลงคือการลดลงต่อสิ่งไหนครับ ผมอ่านแล้วตีความไม่เคลียนะครับ(แล้วค่อนข้างเคลือบแคลงใจต่อคำที่ผมเน้นด้วยว่าต้องการจะสื่อถึงสิ่งไหน)....
              เห้นด้วยครับ ผมเอะใจตั้งแต่คำว่า ข่าวหลังสองทุ่มแล้วครับ อย่ามาพูดกำกวมดีกว่าครับ
              แล้วพวกที่บอกอายน่ะครับ อายเรื่องอะไรครับผมไม่เข้าใจ ก็แค่กลุ่มคนเล่นเกมส์ออกมาเรียกร้องให้สิ่งที่ตัวเองต้องการแค่นั้นเอง แต่ทำไมต้องอายความเป็นคนไทยครับ

              Comment


              • #37
                ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเปลี่ยนจาก "ลดค่าความเป็นชาตินิยม" เป็น"คิดอีกทางอย่างสร้างสรรค์"ดีกว่า
                ยกตัวอย่าง ชัดๆเลย
                ญี่ปุ่น
                ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ล้าหลังมากแต่มีความคิดด้านความจงรักภักดีสูง ใครทำผิดหรือถูกกล่าวหาว่ามีความคิดแตกต่างต่อกษัตริย์ต้องคว้านท้องทั้งตระกูล ตั้งกองทหารเรียกว่ากลุ่มภักดี (ภักดีจริงๆนายถูกลอบสังหารเขาจะคว้านท้องตาม) เชื่อมั่นวิถีตัวเองมากไม่รับวัฒนธรรมใคร สุดท้ายมันก็เสื่อมประเทศล้มแยกออกเป็นฝักฝ่าย วันนึงมีไดเมียวคนนึงเปิดใจรับวัฒนธรรมต่างชาติรับศาสนาศริสต์เข้ารัฐ ศาสนาคริสต์มาพร้อมปืนไฟ แผ่นดินถูกรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง (ตรงนี้ผม+1 ให้คิดอีกทางอย่างสร้างสรรค์) แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถเข้าถึงบางคนในญี่ปุ่นได้ เขาโดนลอบสังหาร ประชาชน ที่แต่งงานกับคนต่างชาติ เด็กลูกครึ่งโดนจับฆ่า บีบเปลี่ยนศาสนา ไล่คนต่างชาติออกประเทศ ทุกอย่างยกเลิกหมด ปิดประเทศ 300ปี เขาว่ากันว่าถ้าเขาไม่โดนรอบสังหาร ญี่ปุ่นครองโลกฝั่งเอเซียไปแล้ว ต่อมามีเรือสีดำทำด้วยเหล็กมาปิดล้อมอ่าว ขอให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทุกคนลงความเห็นให้สู้ตายแต่เพราะเทคโนโลยีต่างกันมาก ทำให้สู้ไม่ได้ ประเทศเกิดกลุ่มรักชาติมากมาย มีความคิดแลกชีวิตเพื่อแผ่นดินเท่านั้นไม่มีแนวคิดทางเลือกอื่นเลย สุดท้ายคงไม่พ้นเพื่อนบ้านรอบเมืองไทยเรา
                ซากาโมโต้ เรียวม่า
                ท่านผู้นี้เปลี่ยนญี่ปุ่น จริงๆผมอยากอธิบายเองแต่ด้วยเนื้อหากลัวผิดเพี้ยนมาเข้าข้างตัวเองและความละเอียดที่ถูกต้องกรุณา เข้าอ่านที่ลิ้งค์นี้ครับ http://aunzoro.exteen.com/20071001/entry

                โลกยุคปัจจุบันของญี่ปุ่นเริ่มต้นจากวิสัยทรรศของชายผู้นี้ครับไม่ได้มาจากโชกุน หรือซามูไรที่ไหน


                นี่เป็นบทความบุคคลที่ผมกล่าวถึงช่วงต้นกระทู้ครับ ถึงชีวิตเขาจะจบไม่สวย ก็เถอะครับ ขอยกมายาวๆเลยละกันใครไม่อ่านกรุณาข้าม
                -----------------------------------------------------------------------
                เห็นชื่อหนัง The Last Samurai ซึ่งแสดงนำโดย ทอม ครูซ แล้วทำให้เกิดความคิดคำนึงว่า แท้ที่จริงนั้น ใครกัน คือ ซามูไรรุ่นสุดท้ายในญี่ปุ่นทีมงาน ต๋วยตูน จึงค้นคว้าหาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง ...พวกเราก็เลยได้อานิสงค์รับรู้ไปด้วยนะจ๊ะ
                ประวัติศาสตร์นักสู้ซามูไร เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 11 เมื่อรัฐบาลอ่อนแอ ชาวบ้านตลอดจนขุนนางญี่ปุ่น จึงหันไปพึ่งพาผู้มีฝีมือในเชิงยุทธ ที่ขนานนามกันว่า "ซามูไร"จากนั้นมาซามูไรก็รุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ "โชกุฯ" อัครมหาเสนาบดี และ "โตเมียว"เจ้าผู้ครองนครต่างๆ ของญี่ปุ่น ต่างก็มีซามูไรเป็นกองทัพไว้ประดับบารมี
                อาวุธประจำกายของซามูไรนั้น ทั่วโลกรู้ดีว่า คือ ดาบอันคมกริบซามูไรบางคนใช้วิธีฝึกฝนความคมดาบของตน โดยอาศัยร่างของชาวบ้านสามัญชนเป็นที่ทดสอบแบบนี้ชาวบ้านก็ผวาไปตามกันซีครับ ดังนั้น ในสมัยของโชกุนโตกูงาวะจึงมีกฎหมายอนุญาตให้ซามูไรเอาศพของนักโทษประหารไปรองรับคมดาบของตนได้ วิธีการก็คือ เอาศพไปมัดติดกับหลัก ซึ่งทำจากลำไม้ไผ่จากนั้นนักดาบในชุดซามูไรออกศึก (กามิ ชิโม)ก็จะถือดาบเยื้องย่างเข้ามาพินิจพิจารณาดูว่า จะฟันส่วนใดของศพจึงจะเหมาะสม เช่นว่าการฟันข้อมือจะง่ายดายที่สุด ส่วนการฟันขาดสะโพก (เรียว กูรูม่า) หรือฟันตัดสองบ่า (ไต-ไต) จะยากที่สุด หลังจากฟันแล้ว ซามูไรก็จะตรวจสอบดาบของตนอย่างละเอียดว่ามีบิ่น หรืองอหรือไม่ เสร็จแล้วก็ไปตรวจตรา ร่องรอยการฟันบนร่างศพ
                ซามูไรที่เก่งกาจนั้น มีดาบชั้นดีไว้ครอบครองครับ เช่นดาบที่ผลิตจากสำนักตีดาบมีระดับ เช่น ติมบะ โนะ กามิ โยชินามิ (ค.ศ.1565-1635) หรือสำนักของ อิโนอูเอะ ชินกาอิ (ราว ค.ศ.1674)
                ศิลปะการใช้ดาบต่อสู้อย่างรวดเร็วฉับไวนั้นสร้างชื่อเสียงให้ซามูไร จนใครได้ยินชื่อก็หนาว
                แต่ ... เมื่อถึงกาลเวลาหนึ่ง ดาบซามูไรก็ต้องถูกสยบด้วยอาวุธอื่นอันทรงอานุภาพกว่า
                ในปี ค.ศ.1551 หนุ่มนักสู้วัย 20 ปี นามโอดะ โนบูนางะขึ้นเป็นไดเมียวครองนครเล็กๆ โอวาริใกล้กับเมืองนาโงยาในปัจจุบันเขาได้สร้างวีรกรรมที่ทำให้ญี่ปุ่นทั้งประเทศตื่นตะลึง นั่นคือ สามารถใช้นักรบเพียง 3,000 คน ยืนหยัดต่อสู้ และพิชิตกองทัพขนาด 25,000 คน ของอิมะงาวะซึ่งเป็นไดเมียวนครใหญ่ โดยอิมะงาวะนั้น คิดการใหญ่ต้องการเป็นโชกุน แลยกกำลังออกปราบปรามเมืองใหญ่น้อย แต่โนบูนางะไม่ยอมก้มหัวให้เขาใช้กลยุทธ์หลอกเอากองทัพของอิมะงาวะ ไปติดกับในซอกเขา ท่ามกลางหมอกหนาแล้วนำนักรบจำนวนน้อยของตน ถล่มข้าศึกจนราบคาบ
                ก่อนหน้านี้ ในปี ค.ศ.1542 ชาวโปรตุเกสได้มาถึงญี่ปุ่นเป็นหนแรก เพื่อค้าขายพวกเขาได้นำปืนยาว อาวุธชนิดใหม่ ที่ชนชาวญี่ปุ่นไม่เคยเห็นมาด้วย เจ้าครองนครต่างๆชื่นชมมาก เพราะมันมีพลานุภาพเหนือกว่าหน้าไม้ และธนูหลายเท่า และโดยที่พี่ยุ่นนั้นถนัดในเรื่องก๊อปปี้ ดังนั้น จึงมีข้อมูลที่พ่อค้าโปรตุเกสคนหนึ่งบันทึกไว้เพียงชั่วหกเดือน นับจากที่ได้ลูบคลำปืนเป็นครั้งแรกเหล่าช่าวญี่ปุ่นก็สามารถผลิตปืนขึ้นเองได้ถึง 600 กระบอก
                ปืนนั้นเป็นอาวุธระยะไกล สามารถสังหารข้าศึกได้แบบไม่ทันรู้ตัว ในอมตะวรรณกรรม "ผู้ชนะสิบทิศ" ของ "ยาขอบ" เมื่อบุเรงนองจอมทัพพม่าได้เห็นอานุภาพของปืนเป็นครั้งแรก ก็ยังทรงรำพึงอย่างรันทดพระทัยว่า ต่อแต่นี้ไปคงจะไม่ได้เห็นภาพการต่อสู้ด้วยดาบ หรือทวนอย่างห้าวหาญ สมกับเป็นนักรบอีกแล้ว
                ครับ แม้นักรบซามูไรหลายคนจะเหยียดหยาม นักรบถือปืนว่า ขี้ขลาดตาขาวแต่โนวุนางะเป็นขุนศึกประเภทคิดใหม่-ทำใหม่ เขาเรียนรู้อย่างรวดเร็วว่ายุคแห่งอาวุธทันสมัยได้มาถึงแล้ว และหากเขาต้องการรวมรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวเขาจำเป็นต้องใช้ปืน
                นอกจากปืนแล้ว โนบูนางะยังมียอดขุนพลคู่ใจ ซ้าย-ขวา คือโตโยโตมิฮิเดโยชิกับโตกูงาวะ อิเอยาสุ (สองคนนี้ต่อมาโด่งดังสุดๆ ทั้งคู่) ทำให้โนบูนางะสามารถแผ่ขยายอำนาจกว้างขวางออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็พบอุปสรรคสำคัญซึ่งมิใช่กองทัพของไดเมียวใด
                หากทว่า เป็นสมณะนักรบ แห่งพุทธศาสนา !
                ในปี 1571 โนบูนางะยกกำลังกองทัพ 30,000 คน ไปล้อมวัดซากาโมโต บนเขาฮิเออิทางเหนือของเกียวโต วัดนี้เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ทั้งของผู้นับถือศาสนาพุทธและชินโต แต่พระภิกษุในวัดปฏิเสธไม่ยอมอ่อนน้อมและอพยพชาวบ้านลูกเล็กเด็กแดงทั้งหลายเข้ามาหลบ ภายในวัด
                เหตุการณ์ต่อจากนี้ บาทหลวงหลุยส์ ฟรังส์มิชชันนารีซูอิตได้บันทึกไว้ว่า
                "เมื่อรู้ว่าชาวบ้านทั้งหมดได้ไปปักหลักอยู่ในวัด โนบูนางะก็สั่งการทันทีให้เอาปืนระดมยิง ใช้ไฟเผา และบุกเข้าไปใช้ดาบสังหารทุกคนภายในวัดไม่ว่าจะเป็นชายหญิง หรือเด็กเล็ก"
                และหลังจากนี้ โนบูนางะก็ได้นำกลยุทธ์การรบแผนใหม่มาใช้โดยดาบซามูไรไม่มีทางเทียบได้เลย
                ในการรบแบบเดิมๆ ของซามูไร พวกเขาจะควบม้าดาหน้าเข้ามา พร้อมกับกวัดไกวดาบในมือประจัญบานห้ำหั่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัว แต่เมื่อพบกับกลยุทธ์ใหม่ของโนบูนางะพวกเขาไม่มีโอกาสหรอกครับ โนบูนางะจัดวางพลปืนจำนวน 3,000 คนของเขารับมือทหารม้าซามูไร โดยตั้งแนวเป็นชั้นๆ และไม่ยิงพร้อมกันทีเดียวหมดทุกคนเมื่อแถวหน้ายิงออกไป แล้วก็จะบรรจุกระสุน ระหว่างนั้น แถวที่ 2 และ 3 ก็ยิงออกไปทีลัแถวตามลำดับ ยิงออกไป 3-4 ชุด ทัพม้าซามูไรก็ไม่เหลือ
                เมื่อเห็นเช่นนั้น วัดอื่นๆ ก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของปืนและตั้งต้นสร้างโรงงานผลิตปืนเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะเมืองอิสระซากาอิถึงกับเป็นแหล่งอุตสาหกรรมค้าขายปืน ให้กับผู้ซื้อทุกรายไม่มีเกี่ยงในปี 1575 นั้น ถึงกับกล่าวกันว่า ทัพของโนบูนางะทันสมัยยิ่งกว่าทัพขนาดเล็กของยุโรปเสียอีก
                ถัดไป คือ วัดฮอนงันจิในโอซากา ซึ่งเป็นวัดใหญ่มีสานุศิษย์ที่ร่ำรวยมาก มีขุมกำลังซามูไรที่สามารถ ซึ่งก็มืภิกษุสมณะของวัดนั่นเอง บรรดาหลวงพ่อ และหลวงพี่แห่งวัดนี้ใช้เวลานอกเหนือการปฏิบัติธรรม มาฝึกฝนการใช้ดาย และธนูอย่างช่ำชองจนต่อต้านกองทัพปืนยาวของโนบูนางะได้นานถึง 11 ปี !โนบูนางะจึงเปลี่ยนไปใช้การบุกทางทะเล โดยใช้ปืนใหญ่ขนาดเล็ก ระดมยิงจากเรือเหล็กซึ่งยุทธวิธีนี้ ล้ำหน้าการรบทางเรือของอเมริกา ในสงครามกลางเมือง ถึง 300 ปีเชียวครับผม
                ดีแต่ว่า พระจักรพรรดิทรงเห็นว่า วัดใหญ่ และสำคัญแห่งนี้จะไม่รอดพ้นความพินาศจึงยื่นพระหัตถ์มาไกล่เกลี่ย โดยให้โนมูนางะครอบครองโอซากาได้และภิกษุในวัดฮอนงันจิ ก็ยังปฎิบัติธรรมต่อไปอย่างอิสระได้เช่นกันซึ่งพระท่านก็ยินดีที่ไม่เสียหน้า ต้องยอมแพ้
                ถึงจุดนี้ ท่านผู้อ่านเห็นด้วยไหมครับ ถ้าจะกล่าวว่านักดาบซามูไรขนานแท้รุ่นสุดท้าย ที่ยืนหยัดต่อสู้กับอาวุธไฮเทค (ในยุคนั้น)ได้อย่างทรหด ก็คือสมณะแห่งพุทธศาสนานั่นเอง
                ในที่สุด โนบูนางะก็มีอำนาจสูงสุดในญี่ปุ่น เขามิได้เก่งในเชิงรบอย่างเดียวหากการบริหารก็เยี่ยมยอด เขาบูรณะวังหลวงให้แก่จักรพรรดิเพิ่มรายได้ประจำปีให้พระองค์ เพื่อให้สมแก่ พระเกียรติ เขาสนับสนุนโชกุนโยชิอากิแต่เมื่อโชกุนมีทีท่าไม่น่าไว้ใจเขาก็เนรเทศไปเสียจากนครหลวง เขาเคยกล่าวกับบาทหลวงฟรังส์ว่า
                "ไม่ว่า จักรพรรดิ หรือโชกุน ข้าก็ควบคุมได้อย่างสมบูรณ์หมดสิ้นแหละ"
                นอกจากนี้ โนบูนางะยังเสริมสร้างความแข็งแรง ในด้านเศรษฐกิจและค้าขายให้กับญี่ปุ่นด้านการทหาร ก็มีทหารม้าชั้นดีถึง 20,000 นาย
                แต่วาระสุดท้ายของเขาก็มาถึงอย่างกะทันหัน ในปี 1582 ขณะที่เขาพักผ่อนอยู่ในที่พำนัก ในเกียวโต แวดล้อมด้วยทหารในสังกัด ของนายพลอาเคชิมัตสุฮิเดะ ผู้ซึ่งฝักใฝ่ในองค์จักรพรรดิ และต้องการโค่นล้มโนบูนางะบาทหลวงฟรังส์บันทึกเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ว่า
                "เหล่าทหารของอาเคชิ กรูผ่านประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการขัดขวางเนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกิดการกบฎ โนบูนางะเพิ่งล้างหน้าล้างตาหลังตื่นนอนเช้าตรู่ ทหารที่ทรยศได้ยิงธนูเสียบสีข้างของเขาในบูนางะกระชากลูกธนูออก แล้วฉวยดาบโค้งยาวออกมาต่อสู้ แต่อีกเพียงครู่เดียวก็ถูกยิงเข้าที่แขนอีก เขากลับเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูลั่นดาล บางคนกล่าวว่าเขากระทำฮาราคีรี แต่บางคนก็เชื่อว่า เขาจุดไฟเผาห้อง และตายในกองเพลิงเรารู้แน่นอนแต่เพียงว่าบุรุษผู้ที่แม้แต่ทหารก็ยังเงียบเสียงเพียงได้ยินชื่อเขา ได้ตายไปในที่นั้น โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆกระทั่งเส้นผมสักเส้นเดียว ..."
                จุดจบของผู้ที่สยบนักรบซามูไรได้อย่างราบคาบ ช่างน่าเศร้าเสียนี่กระไรหรือเป็นผลกรรมตามสนองจากการที่เขา ได้เข่นฆ่าอย่างทารุณต่อสมณะนักสู้ในพระพุทธศาสนา ... ซามูไร รุ่นสุดท้าย


                ท้ายบทความนี้ผมไม่เห็นด้วยซะทีเดียวเพราะเป็นแฟนหนังสือการ์ตูนคนดังผู้นึง อิเคงามิ เรียวอิจิ อาจจะงงกัน เขาผู้นี้วาดการ์ตูนเรื่องน้ำตาเพชรฆาตครับ ในเนื้อหาอธิบายว่าพระในยุคสมัยนั้นเรืองอำนาจมีอิทธิพลทางการเมือง และมีกองทหารเป็นของตัวเอง ไม่ได้ประพฤติตัวเยี่ยงพระสงค์เท่าไหร่ แต่ทำตัวเยี่ยงทหารมากกว่า เล็งถึงอำนาจทางการเมืองและผลประโยชน์มากกว่ามุ่งบรรลุธรรม
                -----------------------------------------------------------------------

                Comment


                • #38
                  สุดท้ายนี้ในเรื่องที่ผมอ้างถึงเรื่องขายเสื้อ ผมตอบไม่ได้ว่าเราควรลดอะไรออกในความเชื่อของเรา แต่ผมเชื่อว่าคนที่ผมพูดถึงในเรื่อง เชื่อหรือมีความคิดบางอย่างมากเกินไป จนไม่สนใจในเรื่องประเด็นอื่น การไม่ฟัง หรือรับแนวคิดอื่นๆ เท่ากับปิดความคิดอื่นที่อาจเป็นประโยชน์หรือสร้างสรรค์จริงมั้ย

                  ไม่จำเป็นต้องมีความเป็นชาตินิยมแบบสุดโต่งก็สามารถสร้างสรรค์ให้ประเทศไทยได้
                  กินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย เมียคนไทย รถเก๋งไทย เนทไทยๆ สวยแบบไทยหล่อแบบไทย เพลงไทย โขนลิเก ตำรวจไทย ลูกทุ่งไทย เวทีไทย
                  แนวคิดสร้างสรรค์มันจะมาเมื่อเรามีแนวคิดที่ไม่ยึดติดเกินไป แล้วเราเอาสไตร์ไทยๆเราเข้าไปมันจะดีกว่า ที่เราจะทำให้ชาวบ้านเขาชอบแต่ของไทยแท้จริงมั้ย เสื้อผ้าเอาแบบสากลมาแล้วเพิ่มลายไทยเข้าไป มีเป็นไปได้กว่าให้เขามาแต่งชุดไทยเราจริงมั้ย ชาวต่างชาติชอบอาหารรสนี้เราก็เอาอาหารไทยดัดแปลงให้มีรสชาติที่เขากินได้จริงมั้ย ถ้าคุณฝืนส้มตำเมืองไทยใส่พริกหนึ่งกำมือเท่านั้น ป่านนี้มันจะเป็นอาหารที่ดังไปทั่วโลกได้ยังงัย ร้านอาหารไทยชื่อดังขายอาหารให้คนต่างชาติโด่งดังไปทั่วโลก เราคนไทยลองเข้าไปชิมดูแหวะทั้งหวาน ทั้งจืด หารสความอร่อยแบบดั้งเดิมไม่ได้ นั่นเพราะมันปรับให้พอเหมาะกับคนทั้งโลก แล้วคุณจำเป็นต้องใช้ความเป็นชาตินิยมมั้ย คุณต้องดูบางระจัน 1-2 มั้ย ต้องดูพม่าฆ่าคนไทยก่อนมั้ย ต้องสวมเสื้อฉลองเพิ่มกำลังใจ?? แขวนพระ?? สักยันต์?? ไม่ต้องครับ แค่คุณไม่ลืมใส่ความเป็นไทยก็พอแล้ว มันไม่ต้องใช้อะไรมากมายเลย ยังงัยตัวผมเองก็อยู่เมืองไทย พ่อแม่ผมก็อยู่ที่นี่ คุณเชื่อผมแล้วไม่ทำลายบ้านเมืองตัวเองหรอกครับ

                  Comment


                  • #39
                    ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแย่ ขายทุกอย่างมันให้ต่างชาติให้หมดเลยไหม ให้เหมือนอดีตนายกเราคนหนึ่ง

                    ทำไมถึงไม่ต้องการระบบนี้กันขนาดนี้อยากรู้จริงๆ


                    ปล.จีนปิดประเทศทำไมถึงโตได้(เพราะนักการเมืองและประชาชนเค้ารักชาติยังไงละ) แต่ละประเทศมันไม่เหมือนกันหลอกนะครับ
                    Last edited by CannavaroJ; 9 Jul 2010, 14:48:30.

                    Comment


                    • #40
                      อีกนิด มหากษัตริย์ไทยที่ผมกล่าวถึงแล้วผมเคารพยิ่งชีพ พระองค์พาชาติไทยพ้นวิกฤติ และสร้างประเทศรุ่งเรืองเช่นอารยประเทศ(เขียนผิด??) คือองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

                      หากพระองค์ทรงแข็งขืนป่านนี้ถึงประเทศจะได้เอกราชคืนเหมือนชาติอื่นก็คงไร้ราชวงค์กษัตริย์ปกครองแล้ว แต่พระองค์ทรงตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ยอมตัดแผ่นดิน เร่งพัฒนาประเทศให้ทันต่างชาติเขาจะได้ไม่รังแกคนไทยได้อีก เราถึงภูมิใจได้ถึงวันนี้ นึกขำๆถ้า มีคนเอาหนังบางระจัน 1-2 ไปฉาย ตั้งประท้วงทวงแผ่นดินแบบเขาพระวิหารในตอนนั้น วันนี้คงไม่มีแผ่นดินอยู่ เอาอย่างความอัจฉริยะภาพของพระองค์ท่านน่าจะเหมาะกว่ามาช่วยกันดูหนังปลุกใจชาตินิยมนะครับ ผมรู้ว่าพวกท่านหนะมีความรักชาติเต็มร้อยแล้วจริงๆ และมีวิจารณาญาณสูงด้วยเช่นกัน ย่อมแยกความแตกต่างของคนที่มีความรักชาติเต็มร้อย และพวกที่มีเกินร้อยได้แน่ครับ

                      Comment


                      • #41
                        มันเป็นเรื่องนานาจิตตัง ที่จะมีคนบ่น เพราะต้นเหตุมันมาจาก ACTIVISION ครับ ที่ดันล็อกโซน เกมเมอร์ออสซี่มันก็บ่นไปตามเรื่องอ่ะแหล่ะ เกมเมอร์ไทยก็บ่นเหมือนกัน

                        ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราจะต้องไปแคร์ความคิดเห็นคนต่างชาติ(บางคน) จนต้องมาขัดแย้งกันเอง ทุกวันนี้ผมพอใจกับเนตไทยของผม (ผมยืนยันว่าไม่เน่า) เพราะผมมีความพอดีครับ

                        ชอบมากเรื่อง ซากาโมโต้ เรียวม่า อ่านหนังสือการ์ตูนแล้วชอบ


                        ฮาๆ กลายเป็นกระทู้ชาตินิยมซะแล้ววว
                        Last edited by thatreech; 9 Jul 2010, 15:25:42.

                        Comment


                        • #42
                          เอ่อ นี่มันกลายเป็นกระทู้อะไรไปแล้วครับเนี่ย =..=
                          ผมเข้ามาดูอย่างเดียวแล้วนะ เจอการออกทะเลแบบนี้เข้าไป รับไม่ไหวอ่ะ

                          Comment


                          • #43
                            Originally posted by CannavaroJ View Post
                            ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแย่ ขายทุกอย่างมันให้ต่างชาติให้หมดเลยไหม ให้เหมือนอดีตนายกเราคนหนึ่ง

                            ทำไมถึงไม่ต้องการระบบนี้กันขนาดนี้อยากรู้จริงๆ


                            ปล.จีนปิดประเทศทำไมถึงโตได้(เพราะนักการเมืองและประชาชนเค้ารักชาติยังไงละ) แต่ละประเทศมันไม่เหมือนกันหลอกนะครับ

                            คุณพูดไม่เคลียร์แล้วครับ คุณคิดว่าคนอย่างผมสนับสนุนให้ขายอะไรครับผมไม่เข้าใจ
                            แล้วไม่ต้องการระบบอะไร ตอบดีๆ
                            จีนปิดประเทศหรอครับ?? เขาเปิดรับคอมมิวนิสต์ล้างความเชื่อเก่าๆ ตอนนี้จีนปิดประเทศหรือเปล่าครับ ยังเป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่าครับ
                            เขาโตได้เพราะเขาเปิดรับครับ เข้าใจระบอบคอมมิวนิสต์ยุคใหม่ด้วยนะครับ สิงคโปร์ก็คอมมิวนิสต์ครับ
                            กังฟู วัฒนธรรมโดนล้างออก หมดประเทศ แม้แต่..ระบบปกครองเก่าก็ไม่เหลือ แล้วทำไมตอนนี้วัฒนธรรมเข้มแข็งหละ jacky chan ดังได้ยังงัย ของดีๆมันโดนล้างยังงัยก็ต้องเป็นของดีครับ เขาเอากลับมาเพราะเขาไม่ลืมสิ่งดีๆของวัฒนธรรมตัวเองครับ แต่เอาเรื่องแย่ๆ ที่มันเป็นค่านิยมเลวๆ ออกไป หมดสมัยตัดจู๋เข้าไปทำงานในวัง มีเมีย300คน เดินทางไปไหนจราจรติดขัดทั้งเมือง(ปัจจุบันมีบางประเทศเป็นอยู่) ไม่ต้องบ้าบอมีอาชีพจอมยุทธวันๆไม่ทำอะไร สู้กันประเทศไม่พัฒนา ฝึกวิชาต้องหลบซ่อนวิชาดีๆสูญหายหมด ผู้หญิงโดนกดขี่ทางประเพณี ผมถามซิว่าถ้าจีนเขาปิดประเทศจริง มันมีแมคโดนัลไปตั้งบ้านมันได้ยังไง มีประเทศไหนในโลกนี้ปิดประเทศแล้วเจริญ?? เกาหลีเหนือ??พม่า??

                            คุณตอบแบบนี้ผมไม่สบายใจเลย เหมือนไม่อยากรับฟังกัน

                            Comment


                            • #44
                              Originally posted by coljack View Post
                              คุณพูดไม่เคลียร์แล้วครับ คุณคิดว่าคนอย่างผมสนับสนุนให้ขายอะไรครับผมไม่เข้าใจ
                              แล้วไม่ต้องการระบบอะไร ตอบดีๆ
                              จีนปิดประเทศหรอครับ?? เขาเปิดรับคอมมิวนิสต์ล้างความเชื่อเก่าๆ ตอนนี้จีนปิดประเทศหรือเปล่าครับ ยังเป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่าครับ
                              เขาโตได้เพราะเขาเปิดรับครับ เข้าใจระบอบคอมมิวนิสต์ยุคใหม่ด้วยนะครับ สิงคโปร์ก็คอมมิวนิสต์ครับ
                              กังฟู วัฒนธรรมโดนล้างออก หมดประเทศ แม้แต่..ระบบปกครองเก่าก็ไม่เหลือ แล้วทำไมตอนนี้วัฒนธรรมเข้มแข็งหละ jacky chan ดังได้ยังงัย ของดีๆมันโดนล้างยังงัยก็ต้องเป็นของดีครับ เขาเอากลับมาเพราะเขาไม่ลืมสิ่งดีๆของวัฒนธรรมตัวเองครับ แต่เอาเรื่องแย่ๆ ที่มันเป็นค่านิยมเลวๆ ออกไป หมดสมัยตัดจู๋เข้าไปทำงานในวัง มีเมีย300คน เดินทางไปไหนจราจรติดขัดทั้งเมือง(ปัจจุบันมีบางประเทศเป็นอยู่) ไม่ต้องบ้าบอมีอาชีพจอมยุทธวันๆไม่ทำอะไร สู้กันประเทศไม่พัฒนา ฝึกวิชาต้องหลบซ่อนวิชาดีๆสูญหายหมด ผู้หญิงโดนกดขี่ทางประเพณี ผมถามซิว่าถ้าจีนเขาปิดประเทศจริง มันมีแมคโดนัลไปตั้งบ้านมันได้ยังไง มีประเทศไหนในโลกนี้ปิดประเทศแล้วเจริญ?? เกาหลีเหนือ??พม่า??

                              คุณตอบแบบนี้ผมไม่สบายใจเลย เหมือนไม่อยากรับฟังกัน
                              พูดได้ดีมากครับ

                              Comment


                              • #45
                                ผมไม่ต้องการคำพูดสวยหรูครับ แต่ผมต้องการคือคำตอบของสิ่งที่ผมถาม(ไม่ใช่ถาม A แต่อ้อมไป B)

                                Originally posted by coljack View Post
                                เอา..ก็ถ้าว่าอย่างนั้นนะครับ.. หลังจบกระทู้นี้ของผมก็ย้ายกลับมาเข้าเรื่องเกมส์ละกันครับ

                                คือถ้าอ่านกระทู้ด้านบนของผม ผมจะแยกความนิยมเป็นสองส่วน ส่วนที่ผมไม่เห็นด้วย จะเป็นบรรทัดบน ส่วนที่ผมเห็นว่าดีจะเป็นบรรทัดล่าง ผมอยากจะบอกว่ามันมีความแตกต่างกันครับ
                                มีครั้งนึงในบอรดแซท ช่วงกำลังมีเหตุการณ์มีการวิจารณ์เรื่องเสื้อที่ราชสำนักเอามาขายงานเทศกาลทำให้เกิดค่านิยมเรื่องสีเสื้อ สีเหลืองถ้าใครใส่แล้วจะรักชาติและกษัตริย์ สีน้ำเงินรักความยุติธรรม สีแดง.. ตอนนั้นผมเห็นด้วยเรื่องที่มองเห็นว่าเอามาขายกันเกล่อเกินไป เหมือนฉลองเสร็จแล้วไม่ยอมเลิก มีการต่อช่วงเวลาเฉลิมฉลอง เอาสีฟ้าสีชมพูมาขายจนดูหมดความสำคัญ แกมบังคับบริษัทเอกชนสวมชุดสีฉลองในวันทำงาน ใครก็น่าจะจำกันได้ แรกมันก็ดีหลังๆบางคนก็ชอบนะไม่รู้.. การตอบกระทู้ดำเนินไปดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็มีคนนึงโพล่งขึ้นมาทำให้กระทู้นั้นจบไปเลยคือเขาบอกว่า "อะไรก็ช่างใครด่าพ่อกูๆเอาตาย.." ผมคิดว่ากระทู้มันเป็นการต่อว่าคนขายเสื้อเอาความจงรักภักดีมาขายจนเกินงาม แล้วทำไมไอ้คนๆนี้มันถึงคิดว่าพ่อต้องเป็นคนขายเสื้อด้วยวะ เหมือนว่าพ่อกับแม่ปรึกษากันว่าเสื้อมาขายกันเถอะ แล้วถ้าเอามาขายจริงๆแล้วห้ามวิจารณ์ว่าผิด!! ผมมองว่ามันมีอะไรไม่ปรกติในค่านิยมของเรา มีใครบางคนสร้างค่านิยมผิดๆผสมในกระแสความรักชาติของเรา

                                ชาติที่มีความเชื่อบางอย่างสูงมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี จีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาใต้เป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดที่เราต้องลดความนิยมบางอย่างออก เพราะมันมีผลร้ายแรงในบ้านเรา องค์มหาราชของเราพระองค์นึงเล็งเห็นเรื่องนี้ชัดช่วยบ้านเมืองเรารอดวิกฤติ(เขียนถูกมั้ยนี่)มาแล้ว
                                ที่ผมเน้นหมายถึงใครที่ผมถาม แล้วต่อมาคุณดันยกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเกี่ยกวับโชกุนที่มำให้ประเทศตกต่ำมาจนมีไดเมียวออกมากู้ชาติ คุณต้องการจะสื่ออะไรกับผมตรงนี้ครับ ??? นี้คือสิ่งที่ผมอยากรู้ครับ


                                ปล.หลังจากนี้ขอให้ตอบกันทาง PM ดีกว่านะครับ
                                Last edited by CannavaroJ; 9 Jul 2010, 17:53:26.

                                Comment

                                Working...
                                X