
ผลิต Electronic Arts
จำหน่าย Electronic Arts
ผู้พัฒนา EA Los Angeles
ประเภท RTS
ESRB: T
ระบบขั้นต่ำ:
Operating System: Windows XP, Windows Vista or Windows 7
CPU: Any Intel Core Duo machine, AMD Athlon 3500+ or better
RAM: 2 GB
Disk Drive: 8X or faster DVD-ROM drive
Hard Drive: at least 10 GB of free space
Video: DirectX 9.0c compatible video card. 256 MB with Shader Model 3.0 support. NVIDIA GeForce 8800 or better, ATI Radeon HD 3850 or better
Sound: DirectX 9.0c compatible sound card
Multiplayer: 2 to 10 players, network or Internet connection required (Cable, DSL, or faster connection
Internet connection required at all times. (อ่านดีๆ ตรงข้อนี้นะครับแล้วคนไทยอาจรู้สึกสยอง บรึ๊ย!!)
ต้นเหตุมันเกิดจาก Tiberium...
และแล้วเกมซีรีย์ Command & Conquer (ไม่นับรวมภาคแยกย่อยนะครับ) ก็ได้เดินทางมาถึงภาคสุดท้ายแล้ว หลังจากเหตุการณ์ที่แร่ Tiberium ตกลงมาบนโลกเมื่อตอนภาคแรก (ในปี 1995) ฝ่าย GDI (Global Defense Initiative) หรือในชื่อภาษาไทยก็คือกองกำลังรักษาความสงบสุขของโลกได้พยายามปกป้องแร่ Tiberium จากพวกผู้ก่อการร้ายที่หวังจะครอบครองแร่ดังกล่าวเพียงเพราะมันสามารถนำไป ใช้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานหรือแม้แต่นำไปใช้เพื่อผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงได้ โดยกลุ่มคนเหล่านั้นเรียกตัวเองว่า NOD (Brotherhood of NOD) ซึ่งมี Kane เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง

คุณคิดว่า 2 ภาพนี้ ภาพไหนน่ากลัวกว่ากัน
สงครามดำเนินมาอย่างเรื่อยๆ จนในที่สุดระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้เพื่อแย่งชิงแร่ Tiberium อยู่นั้นก็เกิดมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนามว่า Scrin เข้าโจมตี โดยไม่มีใครทราบเลยว่า Scrin ก็คือมนุษย์ต่างดาวที่ได้หว่านแร่ Tiberium ไว้บนโลกเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งบัดนี้พวกมันกำลังเดินทางมาเอาของๆ มันคืนแล้ว แต่ทั้งนี้จะมาเอาของคืนอย่างเดียวก็ดูธรรมดาไป เพราะฉะนั้นฝ่าย Scrin ก็จะขอทำลายล้างมนุษยชาติเป็นของขวัญแก้เหนื่อยที่อุตสาห์ถ่อสังขารมาถึงโลก ใบนี้สักหน่อย
ผ่านมาอีกหลายปีสงครามก็ยังไม่สิ้นสุด ในขณะที่ตอนนี้โลกและมนุษยชาติก็กำลังจะสูญพันธ์ เห็นอย่างนี้แล้วทั้ง GDI และ NOD จะทำอย่างไร ติดตามต่อได่ใน Command & Conquer 4 - 16 มีนาคม นี้

หลังจากฝ่าฟันกับการพิชิต Beta Key Command & Conquer 4 BETA มา และแล้วผมก็ได้มาอยู่ในมือ ซึ่งครั้งแรกที่ผมได้ติดตั้งเกมลงในเครื่องคอมพ์และรอติดตั้งอยู่นั้น ในใจก็คิอว่าเราจะเขียนรีวิวได้ไหมว้า.. เหตุที่ทำให้ผมคิดเช่นนั้นก็เพราะ ผมไม่ได้เล่นเกมซีรีย์ Command & Conquer มานานตั้งแต่ Red Alert 2 แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็เอาเถอะอุตสาห์หา Beta Key มาได้แล้วก็ต้องลองสักหน่อยละครับ
ปล. ในเวอร์ชั่นที่ผมรีวิวนี้มีขนาดไฟล์ 1.5GB และจะเล่นได้เฉพาะ Multiplayer แบบ Online นะครับในส่วนของ Campaign ยังไม่สามารถเล่นได้
หลังจากที่ผมได้ลองทดสอบเล่นอยู่เป็นเวลา 1 วันเต็มๆ ผมรู้สึกได้ทันทีหลังจากเล่นจบเลยครับว่า "Command & Conquer 4 มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ" เปลี่ยนไปจนทำให้ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลย อย่างระบบเก็บแร่ในภาคนี้ก็ถูกตัดออก เป็นการใช้ Command Points (CP) ในการกำหนดการผลิต Unit แทน ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องวางแผนให้ดีว่าจะใช้ Unit ที่กิน CP น้อยๆ แต่สร้างได้เยอะหรือจะเน้นไปทางของใหญ่ๆ แต่กิน CP มาก อีกทั้งรสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดอีกอย่างก็คือฐานหลักของเราสา มารถคลื่อนย้ายได้ ประมาณว่าตั้งฐานหลักอยู่ตรงนี้แล้วเกิดไม่พอใจ อยากไปอยู่ใกล้ๆ เพื่อน ก็สามารถถอนฐานออกได้และสั่งให้ฐานของเราเดินไปตามเป้าหมายได้เลย (คิดได้ไง!!)

นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกมากมายจนบางครั้งผมรู้สึกว่า "มากไปหรือเปล่า" อย่างระบบการเข้าเกมในเวอร์ชั่นเต็มที่ผมไปแอบได้ยินมาว่า จะต้องต่อเน็ทก่อนถึงจะเข้าได้ โดยเหตุผลก็คือในภาคนี้จะมีการเก็บค่าประสบการณ์ (EXP) ไว้ใน Profile ของ EA Account เพื่อนำไปอัพเกรดเทคโนโลยีของฝ่ายเรา อีกทั้งจุดหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากเกินที่ผมจะรับได้ก็คึอ เกมเน้นไปที่ทาง Action มากจนเกินไป ประมาณว่าเราสามารถบู๊ล้างผลาญได้เลยทันทีที่เริ่มเกม เนื่องจากมันไม่ต้องเก็บแร่ เพราะฉะนั้นก็กดๆๆๆๆ สร้าง Unit ให้เร็วที่สุดกันจนมือหงิก อีกทั้งภารกิจ (เฉพาะใน BETA เวอร์ชั่น) ก็ดูจะไม่มีอะไรน่าจดจำเลย เพราะพี่ท่านเล่นใช้เป็นภารกิจแบบชิงธง ซึ่งแน่นอนว่าใครยึดธงได้มากที่สุดก็ชนะไปเท่านั้นเอง
จบในเรื่องของ Gamplay มาในเรื่องของกราฟฟิกกันบ้าง สำหรับในภาคนี้ภาพก็ยังคงรักษาความงามได้ตามมาตรฐาน แต่ทั้งนี้ถ้าเทียบกับเกมในปัจจุบันจะพบว่าเกมในภาคนี้มีกราฟฟิกที่ธรรมดา อีกทั้งพวกเอ็ฟเฟ็กระเบิดหรือระบบฟิสิกส์ก็ดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าใด และสุดท้ายผมมีข้อสังเกตเล็กน้อยว่าทำไมเกมในเวอร์ชั่น BETA ภาพถึงล็อคเฟรมเรทไว้ที่ 40 fps เท่านั้น (ใครไม่เชื่อลองเปิด Fraps ดู)

มาในส่วนของเสียงประกอบและเสียงเอ็ฟเฟ็กต่างๆ ซึ่งทาง EALA ก็ยังคงเอกลักษณ์ของพวกเสียง Voice Over ต่างๆ ไว้ค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้ในส่วนของเสียงเอ็ฟเฟ็กอาจจะยังขาดสีสันและฟังแล้วธรรมดามากๆ โดยเฉพาะเสียงระเบิดหรือเสียงของการยิงอาวุธต่างๆ ที่ออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ ดล่าคือเสียงเหล่านั้นค่อนข้างเบาและฟังแล้วดูไม่มีพลังเลย แต่ทั้งนี้ถึงแม้เสียงเอ็ฟเฟ็กจะฟังไม่ดีแต่ผมกลับรู้สึกประทับใจกับดนตรี ประกอบมากๆ โดยเฉพาะเมื่อเล่นเป็นฝ่าย NOD ขอบอกว่าดนตรีทำออกมาได้หลอนๆ และหดหู่ดีจริงๆ

สุดท้ายสำหรับเรื่องการควบคุมในภาคนี้ผมว่าทำออกมาได้พอใช้ โดยการเลือกยูนิตจะทำได้ด้วยการคลิกเมาส์ซ้ายที่ตัวยูนิตเหมือนเกม RTS อื่นๆ ส่วนการสั่งให้ยูนิตเคลื่อนที่จะใช้ปุ่มคลิกขวาของเมาส์ ซึ่งในส่วนนี้สำหรับผมแล้วถือว่าสอบผ่าน แต่สำหรับคนที่ไม่ถนัดสามารถเข้าไปตั้งการใช้เมาส์ให้เหมือนกับภาคเก่าๆ ได้ที่เมนู Option ได้ และสุดท้ายก่อนจบหัวข้อนี้ผมขอตั้งข้อสังเกตอีกหนึ่งข้อก็คือทำไมเกมในภาค นี้ถึงไม่อนุญาตให้เราใช้ปุ่ม WASD บนคีย์บอร์ดในการควบคุมทิศทางของจอได้ เพราะบางครั้งการใช้เมาส์ในการเลื่อนเพื่อเคลื่อนฉากอาจจะดูช้าและไม่ถนัด เมื่อเทียบกับใช้ปุ่ม WASD บนคีย์บอร์ด

Conclusion
สำหรับบทสรุปของ Command & Conquer 4 ในเวอร์ชั่น BETA สำหรับผมแล้วผมขอบอกกันตามตรงในฐานะผู้ที่เคยเป็นแฟนคลับของ Dune II จาก Westwood เอ้ย!! ไม่ใช่ ต้องซีรีย์ C&C ว่า "ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยในเรื่องของรูปแบบการเล่น" แต่ถ้าแยกระเด็นและมองในเรื่องของความสนุกและความมันส์ผมว่าภาคนี้ก็ทำได้ ไม่เลวทีเดียว ซึ่งผมก็หวังว่าข้อเสียต่างๆ ที่ผมได้กล่าวไปนั้น ในเวอร์ชั่นขายจริงจะมีการพัฒนาปรับปรุงให้ดีกว่านี้อย่างมาก เพราะไม่อย่างนั้นบทสรุปของมหากาพย์ชิ้นนี้คงจบลงด้วยความเศร้าอย่างแน่นอน

-----------------
ที่มา: GamerTechZone.com < เข้าไปชมบ้านผมกันบ้างนะครับ
Comment