ย้อนกลับไปสักประมาณกลางๆ ปี 2008 เกม Battlefield: Bad Company ที่ผลิตโดยบริษัท EA DICE ได้ออกอาละวาดลวดลายมหกรรมสงครามระหว่างอเมริกากับรัสเซียบนเครื่อง PS3 และ XBOX360 ไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าด้วยเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดีทำให้ทาง EA DICE ตัดสินใจคลอดภาคที่ 2...
โดยในภาคที่ 2 ที่ผมจะนำมารีวิววันนี้ตามกำหนดการวางจำหน่ายจะอยู่ในวันที่ 2 มีนาคม 2010 แต่วันนี้เมื่อทาง EA DICE เกิดใจดีปล่อยเวอร์ชั่น BETA ออกมาให้ผู้ที่มีเบต้าคีย์อยู่ในมือนั้นได้ทดลองเล่นในโหมด Multiplayer ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าผมจะพลาดได้อย่างไรล่ะ
ซึ่งในเวอร์ชั่น BETA ที่ขนาดความจุไฟล์ 1.4GB นั้นจะอนุญาตให้เราเล่นได้แค่ด่าน Port Valdez และภารกิจแบบ RUSH (เข้ายึดและทำลาย M-COM Station) แบบเดียวเท่านั้น โดยเมื่อเริ่มเกมเมื่อเราเลือกอาวุธต่างๆ ครบมือและจัดตั้งทีมเรียบร้อยแล้ว ทีมที่เป็นฝ่ายรุก (ATTACKERS) จะทำการโดดร่มฝ่ากระสุนปืนลงมายัง Safe Zone ส่วนในฝ่ายตั้งรับ (DEFENDERS) จะทำหน้าที่ในการตั้งรับข้าศึกที่เข้ามาและต้องพยายามปกป้องไม่ให้อีกฝ่าย เข้ามาทำลาย M-COM Station ลงได้ (นึกภาพคล้ายๆ วางระเบิดใน Counter Striker) ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามองลักษณะและรูปแบบของตัวเกมในเวอร์ชั่น Beta แล้วโดยส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่า "เกมนี้เล่นไปไม่นานก็คงน่าเบื่อ ตามฟอร์ม" ซึ่งเมื่อผมพยายามนั่งเล่นไปมาอยู่อีก 2 วันผมกลับรู้สึกว่า "สงสัยผมคงต้องถอนคำพูดแล้วล่ะ"
แน่นอนว่าตัวเกมอาจจะดูซ้ำแนวเดิมๆ เนื้อเรื่องและบรรยากาศแบบสงครามโลกเดิมๆ แต่ในเกม Battlefield: Bad Company 2 กลับมีพลังความมันส์และการทำลายล้างที่บ้าคลั่งและทำให้ผมรู้สึกตื่นตาทุก ครั้งที่ได้เล่น โดยเฉพาะเจ้ายานพาหนะแบบใหม่อย่างรถ ATV อีกทั้งในเกมเรายังสามารถทำลายล้างสิ่งปลูกสร้างได้ด้วย เช่น ถ้าวันนี้ผมอยากฮาร์ดคอร์ขึ้นมาสักวันแล้วผมเลือกเป็นหน่วย Engineer ในความจริงผมสามารถกระโดดเข้าทางหน้าต่างเพื่อไปวางระเบิดทำลาย M-COM ได้แต่ผมขอเลือกเป็นนำ RPG มายิงบ้านให้มันพังลงมาจากนั้นผมจึงค่อยเดินดุ่ยๆ เข้าไปวางระเบิดได้อารมณ์สะใจขาโจ๋เกรียนแตกอย่างผมจริงๆ 555+
ซึ่งเมื่อลองมาดูในส่วน Gameplay และการบังคับของเกมนี้ยังคงใช้ลักษณะการบังคับเหมือนเกม FPS ทั่วๆ ไป ทำให้คนที่เพิ่งเล่นครั้งแรกไม่เป็นจำเป็นต้องปรับความคุ้นเคยของปุ่มและ คีย์ต่างๆ มากนัก แต่ทั้งนี้ผมมีข้อสังเกตเล็กน้อยในเรื่่องของการบังคับตัวละคร และสคริปตัวละครที่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่นุ่มนวลและเที่ยงตรงเท่าที่ควร อย่างบางทีผมเดินไปชนกับก้อนหินแล้วผมกดถอยออกมาบางครั้งตัวละครไม่สามารถ ออกมาได้ต้องกดกระโดดบ้างไม่ก็กดถอยหลังย้ำๆ หลายทีกว่าจะออกมาได้ ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีใครพบเห็นเหมือนอย่างผมบ้างหรือไม่แต่ถึง อย่างไรผมว่าทีมงานควรจะต้องปรับปรุงระบบสคริปรวมถึงความเสถียรของตัวละคร ให้ดีกว่านี้ในเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง
ในส่วนของ HUD จะเห็นว่าในภาคนี้ไม่มีเกร็ดพลังชีวิตแล้ว แต่จะใช้เป็นโดนยิงแล้วหน้าจอแดงตามสูตร FPS สมัยนี้ ซึ่งเมื่อหาที่พักสักครู่ก็จะหายไปเอง ซึ่งในเวอร์ชั่น BETA จะเห็นว่าหน้าจอไม่ค่อยรกเท่าไหร่ จะมีก็เพียงแผนที่มุมซ้านล่างและจำนวนกระสุนมุมขวาล่างเท่านั้น
ที่นี้มาดูในส่วนของเสียงเอ็ฟเฟ็กกันบ้าง ต้องยอมรับครับว่าการเล่นเกมนี้กับชุดลำโพง Home Theater ดีๆ สักชุดสร้างบรรยากาศได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะเสียงระเบิดที่ค่อนข้างดัง หนักแน่น (เสียง Sub มาเป็นลูกๆ) และสะใจผมมาก อีกทั้งเสียงกระสุนกระแทกเหล็กหรือวัตถุต่างๆ สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดี ซึ่งเสียงเหล่านั้นจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นถ้าฟังในหูฟังดีๆ สักตัว
และสุดท้ายในส่วนของกราฟฟิกผมขอพูดได้เลยครับว่า EA DICE ทำภาพออกมาได้งามพอสมควร Texture ค่อนข้างละเอียด และจุดเด่นอย่างเอ็ฟเฟ็กระเบิดที่แสดงถึงการทำลายล้างจริงๆ อีกทั้งในส่วนของฟิสิกส์การพังทลายผมว่าเกมนี้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติดีที่ เดียว
ซึ่งสำหรับเกม Battlefield: Bad Company 2 เวอร์ชั่น BETA ผมว่าถึงแม้ทาง EA DICE จะเลือกด่านมาให้เราทดสอบความมันส์กันแค่เล็กน้อย แต่ผมว่าตัวเกมก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ความมันส์และบ้าดีเดือดตามสไตล์ Battlefield ได้เป็นอย่างดีครับ โดยเฉพาะตัวเกมไม่ได้ให้เรามีหน้าที่เดินดุ่ยๆ หยิบอาวุธยิงอย่างบ้าคลั่งอย่างเดียว แต่ตัวเกมสามารถให้เราเลือกวิธีการเผชิญหน้าข้าศึกตามแบบที่เราถนัดได้ เช่น บางคนถนัดสู้รบด้วยยานเกราะ บางคนชอบความบ้าระห่ำขี่ ATV สาดกระสุนหรือบางคนชอบทำตัวเป็น Rambo ถือ RPG ถล่มอย่างบ้าคลั่ง ผมว่าเกมนี้ตอบโจษย์เรื่องเหล่านั้นได้แล้วครับ แต่ทั้งนี้ในเรื่องที่ควรต้องปรับปรุงในเวอร์ชั่นนี้ก็มีบ้างอย่างที่ได้ กล่าวไปแล้วข้างต้น (รวมถึงในเวอร์ชั่น Beta จะยังไม่สามารถขับขี่เครื่องบินจู่โจมหรือเครื่องบินใดๆ ได้ (เท่าที่ผมเล่นนะครับ) ไม่รู้ตัวเต็มจะมีหรือเปล่า) ซึ่งผมคาดว่าเมื่อใดก็ตามที่เกมตัวเต็มออกวางจำหน่าย เจ้า Battlefield: Bad Company 2 น่าจะสร้างปรากฏการณ์เกม FPS Online ที่น่าเล่นและทวงบัลลังก์ Battlefield กลับคืนมาได้อย่างแน่นอนครับ (ถ้าพวกคุณไม่เบื่อเกมเดินยิงยุคสงครามดาษๆ แบบนี้หรือถ้าคุณไม่ใช่เป็นพวกโลกแคบ)
ที่มา: www.gamertechzone.com < เข้าไปชมกันหน่อยนะ
โดยในภาคที่ 2 ที่ผมจะนำมารีวิววันนี้ตามกำหนดการวางจำหน่ายจะอยู่ในวันที่ 2 มีนาคม 2010 แต่วันนี้เมื่อทาง EA DICE เกิดใจดีปล่อยเวอร์ชั่น BETA ออกมาให้ผู้ที่มีเบต้าคีย์อยู่ในมือนั้นได้ทดลองเล่นในโหมด Multiplayer ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าผมจะพลาดได้อย่างไรล่ะ
ซึ่งในเวอร์ชั่น BETA ที่ขนาดความจุไฟล์ 1.4GB นั้นจะอนุญาตให้เราเล่นได้แค่ด่าน Port Valdez และภารกิจแบบ RUSH (เข้ายึดและทำลาย M-COM Station) แบบเดียวเท่านั้น โดยเมื่อเริ่มเกมเมื่อเราเลือกอาวุธต่างๆ ครบมือและจัดตั้งทีมเรียบร้อยแล้ว ทีมที่เป็นฝ่ายรุก (ATTACKERS) จะทำการโดดร่มฝ่ากระสุนปืนลงมายัง Safe Zone ส่วนในฝ่ายตั้งรับ (DEFENDERS) จะทำหน้าที่ในการตั้งรับข้าศึกที่เข้ามาและต้องพยายามปกป้องไม่ให้อีกฝ่าย เข้ามาทำลาย M-COM Station ลงได้ (นึกภาพคล้ายๆ วางระเบิดใน Counter Striker) ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามองลักษณะและรูปแบบของตัวเกมในเวอร์ชั่น Beta แล้วโดยส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่า "เกมนี้เล่นไปไม่นานก็คงน่าเบื่อ ตามฟอร์ม" ซึ่งเมื่อผมพยายามนั่งเล่นไปมาอยู่อีก 2 วันผมกลับรู้สึกว่า "สงสัยผมคงต้องถอนคำพูดแล้วล่ะ"
แน่นอนว่าตัวเกมอาจจะดูซ้ำแนวเดิมๆ เนื้อเรื่องและบรรยากาศแบบสงครามโลกเดิมๆ แต่ในเกม Battlefield: Bad Company 2 กลับมีพลังความมันส์และการทำลายล้างที่บ้าคลั่งและทำให้ผมรู้สึกตื่นตาทุก ครั้งที่ได้เล่น โดยเฉพาะเจ้ายานพาหนะแบบใหม่อย่างรถ ATV อีกทั้งในเกมเรายังสามารถทำลายล้างสิ่งปลูกสร้างได้ด้วย เช่น ถ้าวันนี้ผมอยากฮาร์ดคอร์ขึ้นมาสักวันแล้วผมเลือกเป็นหน่วย Engineer ในความจริงผมสามารถกระโดดเข้าทางหน้าต่างเพื่อไปวางระเบิดทำลาย M-COM ได้แต่ผมขอเลือกเป็นนำ RPG มายิงบ้านให้มันพังลงมาจากนั้นผมจึงค่อยเดินดุ่ยๆ เข้าไปวางระเบิดได้อารมณ์สะใจขาโจ๋เกรียนแตกอย่างผมจริงๆ 555+
ซึ่งเมื่อลองมาดูในส่วน Gameplay และการบังคับของเกมนี้ยังคงใช้ลักษณะการบังคับเหมือนเกม FPS ทั่วๆ ไป ทำให้คนที่เพิ่งเล่นครั้งแรกไม่เป็นจำเป็นต้องปรับความคุ้นเคยของปุ่มและ คีย์ต่างๆ มากนัก แต่ทั้งนี้ผมมีข้อสังเกตเล็กน้อยในเรื่่องของการบังคับตัวละคร และสคริปตัวละครที่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่นุ่มนวลและเที่ยงตรงเท่าที่ควร อย่างบางทีผมเดินไปชนกับก้อนหินแล้วผมกดถอยออกมาบางครั้งตัวละครไม่สามารถ ออกมาได้ต้องกดกระโดดบ้างไม่ก็กดถอยหลังย้ำๆ หลายทีกว่าจะออกมาได้ ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีใครพบเห็นเหมือนอย่างผมบ้างหรือไม่แต่ถึง อย่างไรผมว่าทีมงานควรจะต้องปรับปรุงระบบสคริปรวมถึงความเสถียรของตัวละคร ให้ดีกว่านี้ในเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง
ในส่วนของ HUD จะเห็นว่าในภาคนี้ไม่มีเกร็ดพลังชีวิตแล้ว แต่จะใช้เป็นโดนยิงแล้วหน้าจอแดงตามสูตร FPS สมัยนี้ ซึ่งเมื่อหาที่พักสักครู่ก็จะหายไปเอง ซึ่งในเวอร์ชั่น BETA จะเห็นว่าหน้าจอไม่ค่อยรกเท่าไหร่ จะมีก็เพียงแผนที่มุมซ้านล่างและจำนวนกระสุนมุมขวาล่างเท่านั้น
ที่นี้มาดูในส่วนของเสียงเอ็ฟเฟ็กกันบ้าง ต้องยอมรับครับว่าการเล่นเกมนี้กับชุดลำโพง Home Theater ดีๆ สักชุดสร้างบรรยากาศได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะเสียงระเบิดที่ค่อนข้างดัง หนักแน่น (เสียง Sub มาเป็นลูกๆ) และสะใจผมมาก อีกทั้งเสียงกระสุนกระแทกเหล็กหรือวัตถุต่างๆ สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดี ซึ่งเสียงเหล่านั้นจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นถ้าฟังในหูฟังดีๆ สักตัว
และสุดท้ายในส่วนของกราฟฟิกผมขอพูดได้เลยครับว่า EA DICE ทำภาพออกมาได้งามพอสมควร Texture ค่อนข้างละเอียด และจุดเด่นอย่างเอ็ฟเฟ็กระเบิดที่แสดงถึงการทำลายล้างจริงๆ อีกทั้งในส่วนของฟิสิกส์การพังทลายผมว่าเกมนี้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติดีที่ เดียว
ซึ่งสำหรับเกม Battlefield: Bad Company 2 เวอร์ชั่น BETA ผมว่าถึงแม้ทาง EA DICE จะเลือกด่านมาให้เราทดสอบความมันส์กันแค่เล็กน้อย แต่ผมว่าตัวเกมก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ความมันส์และบ้าดีเดือดตามสไตล์ Battlefield ได้เป็นอย่างดีครับ โดยเฉพาะตัวเกมไม่ได้ให้เรามีหน้าที่เดินดุ่ยๆ หยิบอาวุธยิงอย่างบ้าคลั่งอย่างเดียว แต่ตัวเกมสามารถให้เราเลือกวิธีการเผชิญหน้าข้าศึกตามแบบที่เราถนัดได้ เช่น บางคนถนัดสู้รบด้วยยานเกราะ บางคนชอบความบ้าระห่ำขี่ ATV สาดกระสุนหรือบางคนชอบทำตัวเป็น Rambo ถือ RPG ถล่มอย่างบ้าคลั่ง ผมว่าเกมนี้ตอบโจษย์เรื่องเหล่านั้นได้แล้วครับ แต่ทั้งนี้ในเรื่องที่ควรต้องปรับปรุงในเวอร์ชั่นนี้ก็มีบ้างอย่างที่ได้ กล่าวไปแล้วข้างต้น (รวมถึงในเวอร์ชั่น Beta จะยังไม่สามารถขับขี่เครื่องบินจู่โจมหรือเครื่องบินใดๆ ได้ (เท่าที่ผมเล่นนะครับ) ไม่รู้ตัวเต็มจะมีหรือเปล่า) ซึ่งผมคาดว่าเมื่อใดก็ตามที่เกมตัวเต็มออกวางจำหน่าย เจ้า Battlefield: Bad Company 2 น่าจะสร้างปรากฏการณ์เกม FPS Online ที่น่าเล่นและทวงบัลลังก์ Battlefield กลับคืนมาได้อย่างแน่นอนครับ (ถ้าพวกคุณไม่เบื่อเกมเดินยิงยุคสงครามดาษๆ แบบนี้หรือถ้าคุณไม่ใช่เป็นพวกโลกแคบ)
ที่มา: www.gamertechzone.com < เข้าไปชมกันหน่อยนะ
Comment