Mass Effect 2
ผลิต Electronic Arts
จำหน่าย Electronic Arts
ผู้พัฒนา BioWare
ประเภท Action Role-Playing
ESRB: M
ระบบขั้นต่ำ:
OS: Windows XP SP3/Windows Vista SP1/Windows 7 Processor 1.8GHz Intel Core 2 Duo or equivalent AMD CPU
Memory 1 GB RAM for Windows XP/2 GB RAM for Windows Vista and Windows 7
Hard Drive 15 GB
DVD ROM
Sound Card DirectX 9.0c compatible
Input = Keyboard/Mouse
Video Card 256 MB (with Pixel Shader 3.0 support, Supported Chipsets: NVIDIA GeForce 6800 or greater; ATI Radeon X1600 Pro or greater, Please note that NVIDIA GeForce 7300, 8100, 8200, 8300, 8400, and 9300; ATI Radeon HD3200, and HD4350 are below minimum system requirements.
ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ผมได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Star Wars และได้เล่นเกม Star Wars The Rebel Assault ผมรู้สึกติดใจและชื่นชอบเรื่องประหลาดๆ นอกโลกอย่างมาก และยิ่งเมื่อผมโตขึ้นแล้วได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ของปู่ Stanley Kubrick นามว่า 2001 a space odyssey ยิ่งทำให้ผมชื่นชอบเรื่องของอวกาศและจักรวาลจนเข้าเส้นและกระแสเลือดเข้าไป อีก แต่ทั้งนี้เวลายิ่งผ่านไป ผมได้สัมผัสเรื่องราวที่ผมชื่นชอบจากบรรดาค่ายภาพยนตร์และค่ายเกมต่างๆ มากมายที่ผมพอจะมีปัญหาซื้อหามาได้จนผมเริ่มรู้สึกเอียนและเบื่อหน่ายกับ ภาพยนตร์แนวนี้ เพราะด้วยเนื้องเรื่องที่ซ้ำซากจำเจและการเดินเรื่องที่ไร้รสนิยมเข้าทุกวัน ทำให้ผมปฏิเสธภาพยนตร์และเกมแนวอวกาศนอกโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและหันไป สนใจเกมแนว Action แทน จนกระทั่งเมื่อ EA และ BioWare วางจำหน่าย Mass Effect ภาคแรกบวกกับช่วงนั้นผมมีความจำเป็นต้องเล่นเกมนี้เพราะกระแสดีและผมต้อง เขียนบทความวิจารณ์เกมๆ นี้ให้เพื่อนของผม ทำให้ผมต้องยอมฝืนใจเล่นอย่างไม่เต็มใจหนัก
จากวันผ่านไปเป็นอาทิตย์ ผมไม่สามารถวางเมาส์หรือผละตัวเองออกจากคีย์บอร์ดได้ ผมติด Mass Effect เข้าให้แล้ว เพราะเกมมีการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตาม ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์และเกมอวกาศอื่นๆ ที่มักมีการดำเนินเรื่องดาษๆ น่าสมเพสยิ่งนัก
ใครจะเชื่อว่าจักรวาลแห่งนี้มีเรื่องราว
ในจักรวาลแห่งนี้ย้อนกลับไปเป็นหมื่นๆ ปีตามการนับแบบ BCE (Before Common Era) ได้มีเผ่าพันธุ์ที่มีเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้ามากๆ นามว่า Protean อาศัยอยู่ในกาแล็กซี่หนึ่งในจักรวาล ชาว Protean ค้นพบการเดินทางข้ามกาแล็กซี่ที่เรียกว่า Mass Relay ซึ่งทำให้ยานอวกาศสามารถเดินทางข้ามกาแล็กซี่แบบเร็วกว่าแสงได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเผ่าพันธุ์ที่ชั่วร้ายนามว่า Reapers เข้ามายึดครองและทำลายเผ่าพันธุ์ Protean ลง
ผ่านมาอีกหลายหมื่นปี BCE มนุษยชาติสามารถเดินทางออกสู่อวกาศได้ และได้ทำการค้นพบซากเมืองของเหล่า Prothean ที่ล่มสลายไปแล้ว และแล้วมนุษย์ก็ค้นพบเทคโนโลยีการเดินทางข้ามกาแล็กซี่แบบเร็วกว่ากว่าแสง ของเหล่า Prothean มนุษย์เริ่มศึกษาศาสตร์เหล่านี้อย่างจริงจึงจนเกิดเป็นศาสตร์ Mass Effect ขึ้น อีกทั้งมนุษย์ยังค้นพบว่าแท้จริงแล้ว ดวงจันทร์ของดาวพลูโตยังเป็น Mass Relay ขนาดใหญ่และพบว่า Citadel ก็คือศูนย์กลางของการสำรวจกาแล็กซี่อีกด้วย มนุษย์พยายามเดินเครื่อง Mass Relay ที่ตนค้นพบแต่เผ่าพันธ์ Turain กลับไม่ยอมในการกระทำของมนุษย์จนเกิดเป็นสงครามขึ้น แต่ในที่สุดสภาสูงของ Citadel ก็เข้ามายุติความรุนแรงนี้ได้
Mass Relay ของจริง!!!??!! ใน Tunisia
ปี 2183 CE (Common Era) ในที่สุดมนุษย์และเผ่า Turain ก็เป็นมิตรกันและร่วมวิจัยระบบล่องหนชนิดใหม่ และได้ติดตั้งลงบนยาน Normandy ที่มี Commander Shepard เป็นผู้บัญชาการ
Commander Shepard ได้รับภารกิจให้ไปกู้อารยธรรมของเผ่า Protean ที่ล่มสลายไปแล้วเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ Commander Shepard ยังไม่ทันป้อนอาหารเข้าปาก อาณานิคมของมนุษย์กลับถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวจาก Saren ซึ่งมีผู้อยู่เบื้องหลังนั่นก็คือพวก Reapers นั่นเอง ทำให้ Commander Shepard จำเป็นต้องทำภารกิจติดตามและทำลายล้าง Saren เพื่อปกป้องอาณานิคมมนุษย์โลก จนในที่สุด Commander Shepard ก็สามารถจัดการ Saren ได้สำเร็จแต่เขาก็ไม่สามารถขัดขวางการมาของพวก Reapers ที่หวังจะมาทำลายล้างและครอบครองกาแล็กซี่ทั้งหมดได้
วันเดือนปีเคลื่อนลอยผ่านไป
Commander Shepard และยาน Normandy เดินทางผ่านเรื่องราวร้ายๆ และเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย เขากำลังเดินทางไปทำหลากหลายภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ แต่ระหว่างการเดินทาง Normandy ได้พบกับยานลึกลับลำหนึ่งนามว่า The Collectors ซึ่งเป็นยานที่มีลำตัวคล้ายดั่งเศษขยะดาวเทียมอวกาศ โดยไม่มีใครรู้ว่า The Collectors เดินทางมาได้จากไหน อย่างไร แต่ที่รู้ตอนนี้ก็คือ The Collectors โจมตียาน Normandy จนย่อยยับ ลูกเรือหลายส่วนเสียชีวิต อีกหลายส่วนหนีออกมาได้ ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ Commander Shepard เสียชีวิต!! ด้วย
หลังจากนั้นเรื่องราวของ Mass Effect 2 ก็เกิดขึ้น...
สำหรับเกม Mass Effect 2 ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัส หลังจากกดเริ่มเกมสิ่งที่ผมรู้สึกเปลี่ยนไปทันทีก็คือกราฟฟิกที่สวยงามขึ้น มาก โดยเฉพาะโมเดลตัวละครที่มีความละเอียดสูงขึ้น เงาตัวละครที่ได้รับการปรับปรุงจากภาคแรกให้เนียนและนุ่มนวลขึ้น อีกทั้ง Cutscene ที่ดูต่อเนื่องและสวยงามกว่าภาคแรกมาก โดยเมื่อเกมเปิดเรื่องขึ้นมาไม่ถึง 5 นาที ตัวเกมสามารถดึงความสนใจของผู้เล่นไม่ให้ผละออกจากจอได้ในทันที เพราะเกมเปิดด้วยเนื้อเรื่องที่ตึงเครียด ลุ้นระทึกมาก
ซึ่งในส่วนของ Gameplay ภาคนี้ทาง EA และ BioWare ได้ปรับเปลี่ยนให้เน้นไปทาง Action มากขึ้น เพราะถ้าสังเกตเห็นจะพบว่า เกมตัดช่อง Inventory ออกไป แต่มีการเพิ่มการอัพเกรดอาวุธเข้ามาแทน ซึ่งการอัพเกรดอาวุธก็สามารถทำได้อย่างง่ายเพียงซื้อชุดอัพเกรดมาวิจัยใน ห้องแล็ปเท่านั้น (ไม่ต้องไปหาชิ้นส่วนมานั่งประกอบแบบในภาคแรกแล้ว) อีกทั้ง Interface หน้าจอระหว่างต่อสู้ก็ใช้งานได้รวดเร็วขึ้นอย่างการเลือกใช้สกิลหรือแม้แต่ การสั่งลูกทีมให้ประจำตำแหน่งต่างๆ ก็เพียงกดแค่คีย์ Q และ E เท่านั้น และสุดท้ายการอัพเดตสกิลตัวละครยังสามารถตั้งก่อนเริ่มเกมได้ด้วยว่าจะให้ เกมตั้งให้แบบอัตโนมัติหรือเราจะเป็นผู้เลือกเอง
ในส่วนของ Mini Games ทั้งหลายในภาคนี้ก็ยังคงมีอยู่ แต่ความยากจะลดลงเล็กน้อย (ผมจำได้ว่าในภาคที่แล้วตอนแฮ็คเข้า Noveria Core โคตรยากเลยจริงๆ) โดยในภาคนี้ Mini Games ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางเกมจับคู่สัญลักษณ์วงจรไฟฟ้ากับจับคู่ข้อความที่เหมือน กัน นอกนั้นเท่าที่ผมได้สัมผัสมาก็จะเน้นไปทาง Hack Terminal แล้วจับเวลาหาเครื่ออัพโหลดข้อมูลซะมากกว่า
มาในเรื่องของเนื้อหาของเกม โดยในภาคนี้เกมมีการเดินเรื่องที่เร็ว กระชับและหักมุมได้อย่างน่าตกใจมาก อีกทั้งเนื้อเรื่องของภาคนี้ในส่วนของเควสย่อยก็ยังวางเรื่องให้น่าสนใจและ น่าติดตามเหมือนภาคแรก แต่ทั้งนี้การเลือกตอบในบทสนทนาต่างๆ หรือแม้แต่การ Upgrade ยานจะยังมีผลต่อฉากจบและการดำเนินเรื่องด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผู้ใดเล่นและเลือกตอบคำถามต่างๆ แบบลวกๆ เพื่อเล่นให้จบแบบขอไปที คุณอาจจะต้องพบกับเนื้อเรื่องที่คาดไม่ถึงแน่นอน แต่ถ้าคุณอยากจะจบแบบดีๆ จบแบบประทับใจผมว่าคุณควรใส่ใจกับบทสนทนาหรือเควสย่อยบางเควสสักเล็กน้อย
ปล. จุดนี้ขอยืนยันว่าการดำเนินเรื่อง การสร้างปฏิสัมพันธ์ตัวละครหรือแม้แต่การปรับปรุงอัพเกรดยาน Normandy มีผลต่อเนื้อเรื่องช่วงหลังมาก ซึ่งขอบอกเลยครับว่าฉากจบมันมีทั้งแบบสะเทือนอารมณ์กับแบบ Happy Ending สไตล์ฮอลลีวูดครับ
สำหรับ AI ของเกมนี้ตามที่ EA และ BioWare ได้กล่าวไว้ว่าจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เมื่อผมได้ทดสอบแล้วผมว่า เขาทำได้ดีที่เดียว โดยเฉพาะ AI ของฝ่ายเราที่สามารถหาที่กำบังหรือเลือกจุดต่อสู้ได้เอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสั่งทุกครั้ง อีกทั้งของฝ่ายศัตรูก็ค่อนข้างฉลาดเช่นกัน
ในส่วนของเสียงและเพลงประกอบสำหรับ Mass Effect 2 ผมว่าทาง EA และ BioWare ยังคงทำออกมาได้ดีและเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะช่วงฉากแรก ซึ่งถ้าใครที่ใช้ลำโพง Multi-Channel ดีๆ สักชุดจะรู้ซึ้งถึงคำว่า "สวรรค์ของเสียงมีจริง" โดยเฉพาะเสียงในช่วง Subwoofer จะเปล่งออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ดึงดูดมาก ส่วนดนตรีประกอบก็ยังคงอลังการเหมือนเดิม แต่ผมมีความรู้สึกเล็กน้อยครับว่าภาคนี้ดนตรีประกอบดูจะลดบทบาทบิ้วอารมณ์ ผู้เล่นไปพอสมควร
Conclusion
หลังจากปล้ำกับเจ้า Mass Effect 2 มาร่วมเดือนเนื่องจากติดงานเกือบทุกวัน ทำให้ผมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเกม Action RPG สุดยิ่งใหญ่เกมนี้ว่า ในภาคนี้ตามความรู้สึกผมถึงแม้ว่าตัวเกมจะเน้นไปทาง Action มากกว่าภาคที่แล้ว ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนไม่ถูกใจกับเนื้อหาที่เป็นเส้นตรง กระชับฉับไว แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าเจ้า Mass Effect 2 เป็นภาคที่ดีภาคหนึ่ง และดีกว่าภาคที่แล้วในความคิดของผมด้วย เนื่องจากผมรู้สึกว่าในภาคนี้ทาง BioWare มีการแก้ไขข้อพกพร่องรวมถึงระบบการเล่นเกมที่ดูติดขัดจากภาคที่แล้วให้คน เล่นทั้งที่เป็นแฟน RPG และไม่ใช่แฟน RPG สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่ซับซ้อนมาก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผู้เล่นท่านใดชอบจัดการเรื่องสกิล อัพโน้น อัพนี่ก็สามารถจัดการค่าต่างๆ เหล่านั้นได้เองทังหมด หรือพวกที่ชอบเกม Action บู๊ล้างผลาญและไม่ชอบการอัพเกรดสกิลต่างๆ ก็สามารถเข้าถึงเกมๆ นี้ได้ด้วยการตั้งการจัดการทุกอย่างเป็นอัตโนมัติทั้งหมด อีกทั้งด้วยการที่ BioWare สร้างสคริปบทสนทนาให้มีความหลากหลายและมีผลต่อฉากจบ ทำให้ผมรู้สึกว่าการเล่นจบเพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับในภาคนี้ เพราะแน่นอนว่าคุณสามารถเลือกเส้นทางของ Commander Shepard ให้เป็นอย่างไรก็ได้ในการเล่นครั้งต่อไป อีกทั้งด้วยความคิดของผู้สร้างที่สามารถนำเซฟจากภาคแรกมาใช้ได้ ก็เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมเสียจริงๆ
ที่นี้มาดูในส่วนของข้อเสียกันบ้างสำหรับเกม Mass Effect 2 นี้มีข้อเสียเพียงเล็กๆ น้อยเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นพวกบั๊กต่างๆ มากกว่าอย่างเช่น ในบางฉากตัวละครอาจหยุดนิ่งไม่ยิงตอบโต้กับเรา ทั้งๆ ที่ผมเดินไปอยู่ด้านหน้าของพวกมันแล้วแท้ๆ หรือแม้แต่บั๊กตัวละครเดินติดฉาก ส่วนข้อเสียอื่นๆ ก็อาจมีบ้างอย่างผมไม่เข้าใจว่าทาง BioWare เขาจะใส่ฉาก Mission Complete ขึ้นมาทำไม ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามันฮาเกินจะรับได้เสียจริงๆ 555+
----------------------
อ่านรีวิวกันจบแล้วขอความร่วมมือเข้าไปสมัครสมาชิกเว็บ www.gamertechzone.com หน่อยนะจ๊ะ จะกราบขอบพระคุณงามๆ เลยจ้าา
Comment