Tweet
Update Main Theme Song
เผื่อใครที่ชอบเพลงแบบอลังการณ์ๆนะครับแปะไว้ให้ฟังกัน ส่วนตัวผมชอบพเลงนี้นะฟังแล้วดูยิ่งใหญ่ไม่แพ้หนังฮอลลี่วูดเลยล่ะ
ข้อมูลเบื้องต้นของเกม
เรตเกม:M(Mature) เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุ 17 ปีขึ้นไป
ขนาดความจุเกม:1 DVD9
วันที่วางจำหน่าย:11/10/09
ระบบป้องกันแผ่น:STEAM
ประเภทของเกม:FPS (First Person Shooter)
ผู้พัฒนา:Infinity Ward
ผู้ผลิต:Activision
ผู้ที่จำหน่ายในไทย:New Era
ประเภทแผ่นที่จัดจำหน่าย:แผ่นนำเข้า(Import)
รองรับการเล่นแบบออนไลน์:Yes
รองรับการเล่นแบบ Co-OP:Yes
Zad Zone
สวัสดีครับก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์แวะมาอ่านรีวิวชิ้นนี้นะครับผม ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำรีวิวเท่าไรนักอันเนื่องมาจากไม่มีเวลานั่นเอง เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ หากคิดว่าการเดินทางของปีนี้นั้นได้มาถึงตอนปลายเหล่าเกมเมอร์อย่างเราๆจะนึกถึงอะไร ? เกมใหม่ในปีหน้า... คงจะไม่ใช่ถ้าจะให้เดาแล้วล่ะก็คุณคงกำลังคิดถึงเกม FPS สุดเทพนาม Modern Warfare 2 มากกว่าสินะ แน่นอนว่ามันเดาไม่ยากเลยเพราะสำหรับเกมตระกูล Call Of Duty นี้นับได้ว่ามีชื่อเสียงมากตั้แต่ภาคแรกเลยทีเดียวด้วยระบบการเล่นที่เร้าใจ เนื้อเรื่องชวนติดตามและความมันส์ที่ไม่เคยปราณีใครทำให้เกมนี้เป็น Game Of The Year เกือบทุกภาคเลยทีเดียว(หากไม่นับของ Tryechนะ)
Call Of Duty นั้นเดิมทีทางทีมงาน Infinity Ward ได้เป็นผู้สร้างขึ้นเป็นรายแรกและได้รับกระแสตอบรับจากเกมเมอร์อย่างล้นหลามซึ่งภาคเก่าๆที่โด่งดังจะเป็นการเล่นในยุคสงครามโลก และในปี2007 Infinity Ward ได้หักมุมของตนเองด้วยการทำเป็นสงครามยุคปจุบันและใช้ชื่อว่า Call Of Duty Modern Warfare ก่อนเกมวางจำหน่ายเราหลายๆคนอาจจะคิดว่าจะสนุกสู้สงครามโลกได้หรือ เมื่อเกมวางจำหน่ายก็ทำให้เราได้รู่ว่าค่ายนี้เขามีพรสวรรค์ด้านการทำเกมเสียจริงๆสำหรับในภาค Modern Warfare นั้นก็ยังคงขายดีเทน้ำเทท่าเหมือนเดิมเพราะทุกอย่างยังคงอยู่ครบแม้ว่าจะเปลี่ยนแนวมาเป้นปจุบันก็ตาม
สำหรับในภาค Modern Warfare 2 นั้นทาง Infinity Ward ได้ทุ่มเทให้กับมันมากพวกเขาใส่ใจทุกรายละเอียดและทำออกมาได้สุดยอดสมกับคำว่า "ภาคต่อ" จริงๆไม่ว่าจะเป็นระกบบการเล่นที่เร้าใจขึ้นกว่าเดิม ภารกิจสุดท้าทายใหม่ๆเป็นต้นและที่มากไปกว่านั้นคือมัลติเพลย์เยอร์นั้นทำออกมาได้แหวกแนวมากๆ ทำให้เราอยากหามาเล่นกันง่ายๆเลยทีเดียว ในภาคนี้ Infinity Ward ต้องการให้มันออกมาใกล้เคียงกับคำว่า สงคราม มากที่สุดหากมองดูใน FPS แนวเดียวกันแล้วนั้น Call Of Duty เป็นเกมที่มีองค์ประกอบที่ดีของเกม FPS อย่างครบครันทำให้มันออกมาสุดยอดทุกภาคและกับ Modern Warfare 2 ที่หลายท่านอาจจะได้เล่นกันแล้วนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสนจะสุดยอดของ Infinity Ward หากคิดกันดีๆแล้วล่ะก็นี่ก็เป็นหนังแอคชั่นดีๆหนึ่งเรื่องเลยล่ะ
Review Zone
เอาล่ะครับ มาถึงช่วงรีวิวเกมของเรากันแล้วนะครับ ส่วนตัวคิดว่าหลายๆคนอาจจะเล่นจบไปแล้ว(ก่อนผม)ก็มี แต่อย่างไรก็ตามรีวิวชิ้นนี้ก็ยังจัดทำขึ้นมาเพื่อให้คนที่อาจจะไม่ค่อยสนใจข่าวสารเกมหรือไม่มีเวลาหาอ่านรีวิว/รายละเอียดเกี่ยวกับเกมนี้ให้ได้เห็นกันนะครับผม เอาล่ะได้เวลาแล้ว~
สเปคเครื่องที่ต้องการ
Operating System : Windows XP, Windows Vista or Windows 7
Processor : Intel Pentium 4 3.2 GHz or AMD Athlon 64 3200+
Ram : 1 GB of Ram (Windows XP) or 2 GB of Ram (Windows Vista, Windows 7)
Vido : 256 MB DirectX 9.0c with Pixel Shader Model 3.0
Sound Card : DirectX 9.0c Compatible
Hard Drive : 11GB
สเปคที่แนะนำ
Processor : Intel Core 2 Duo 2.4 GHz
Ram : 2 GB of Ram
Vido : 512 MB DirectX 9.0c with Pixel Shader Model 3.0
Sound Card : DirectX 9.0c Compatible
Hard Drive : 11GB
สเปคเครื่องที่ใช้ทดสอบ
Windows XP Sp2
Core 2 Duo 2.66 Ghz
Ram 2 Gb
Geforce 8600 GTS 256Mb
การตั้งค่ากราฟิค
ในการรันเกมสามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่20กว่าๆครับ เล่นได้ไม่เสียอารมณ์ตลอดเกมเพราะเฟรมเรตต่ำสุดนั้นอยู่ที่15เฟรม ซึ่งก็ถือว่าเยอะเพราะอาการกระตุกมีเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ในฉากกรุง Washington DC ครับที่เป็นปัญหาเพราะเกมกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุ สรุปคือสเปคนี้เล่นได้ดีครับแต่ในฉาก DC ต้องลดกราฟิคลงมาเหลือ Medium ครับ
เกณฑ์คะแนน
Editor'sChoice = 9 ถึง 10 คะแนน
จัดว่าเป็นเกมที่น่าหามาเล่นเป็นอย่างยิ่ง ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
Excellent = 8 ถึง 8.9 คะแนน
จัดว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างดีแต่ยังบกพร่องอยู่บางจุดจึงให้คะแนนเพิ่มไม่ได้
Good = 7 ถึง 7.9 คะแนน
จัดว่าเป็นเกมที่เล่นได้เพลินๆ ไม่มีอะไรหวือหวา
Avarge = 5 ถึง 6.9 คะแนน
จัดว่าเป็นเกมที่พอเล่นได้ แต่ค่อนข้างย่ำแย่อยู่พอสมควร
Fair = 4 ถึง 4.9 คะแนน
เกมระดับนี้เป็นเกมที่มีคุณภาพค่อนข้างต่ำและมีคุณค่าอยู่ค่อนข้างน้อยในการเสี่ยงชีวิตเพื่อหามาเล่น
Poor = 0ถึง3.9 คะแนน
เกมในระดับนี้ผมไม่อยากแนะนำให้หามาเล่น ไม่ว่าจะกระหือ หน้ามืดตามัว ขนาดไหนก็ตาม
Let's Get To The Review!
Graphics
ส่วนแรกนะครับเราจะมาดูในด้านกราฟิคกันก่อน ซึ่งใน Moderen Warfare 2 นี้แม้จะใช้เอนจิ้นตัวเดียวกันกับภาคแรกก็จริงครับแต่ทว่าเอนจิ้นตัวเดิมในภาคนี้ก็แสดงประสิทธิภาพได้ดีกว่ากว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคฝุ่น ควัน หรือเปลวเพลิง นั้นดูเนียนสวยกว่าภาคแรกมาทีเดียว
ต่อมาคือในด้านของ Texture เอนจิ้นตัวนี้ก็เร็นเดอร์และแสดงประสิทธิภาพได้ดีเท็กเจอร์มีความละเอียดดีมากแม้จะลดกราฟิคเหลือ Normal ก็ยังทำให้กราฟิคในเกมนี้สวยงามอยู่ครับนับว่าต้องยกความดีให้กับ Infinity Ward เลยที่ทำกราฟิคออกมาได้สวยงามแถมไม่กินสเปคเครื่องนับว่าเป็นสวรรค์ของผู้ที่มีคอมระดับกลางๆเลยครับ
กราฟิค: 9.5/10
Gameplay
ส่วนต่อมาเราจะมาดูระบบการเล่นกันนะครับ โดยในภาคนี้รูปแบบการเล่นจะยังคงเป็นภารกิจระห่ำแตกแบบภาคแรก(ซึงอาจจะระห่ำกว่าด้วย) มาในภาคนี้สิ่งแรกที่ผมสังเกตุเห็นก็คือการพัฒนาในด้านระบบการเล่นขึ้นมาจากภาคแรกครับ จากที่ภาคแรกเป็นเกมเดินยิงเอามันส์คล้ายกับเกมทั่วไป แต่ในภาคนี้คุณจะได้สัมผัสกับภารกิจใหม่ๆเช่น การปีนภูเขาน้ำแข็ง ขับเจ็ทสกีหนีศัตรู หรือเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทั้งหมดล้วนแต่เป็นของถนัดของ Infinity Ward เลยก็ว่าได้ตัวเกมมีการใส่คิวได้ดีมากไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Actionต่างๆที่ถูกจัดฉากออกมาได้อย่างดี คล้ายกับว่าเราอยู่ในเกมหรือได้ดูหนัง Action ดีๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวตัวเกมทีภารกิจใหม่ๆให้ผู้เล่นสัมผัสอยู่ตลอดเวลา มีสภาพแวดล้มหลากหลายรูปแบบ และภารกิจที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยก็คือมิชชั่นที่ 2 ที่เราจะต้องเล่นเป็นผู้ก่อการร้ายและเอาปืนไล่ยิงผู้บริสุทธิ์ แม้จะไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงแต่มันก็เป็นฉากหนึ่งที่ทำออกมาได้สมจริงดีเลยทีเดียว
เกมเพลย์: 9.5/10
Control Keys
สำหรับการควบคุมนั้นในภาคนี้ก็ยังออกแบบปุ่มออกมาให้ใช้งานง่ายแบบภาคแรกครับ แต่ว่าในภาคนี้อาจจะมีปืนบางกระบอกติดอุปกรณ์เสริมเช่น เครื่องตรวจจับชีพจร เราก็สามารถกดเปิด/ปิดมันได้เพียงปุ่มแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น หรือจะเป็นระบบขับยานพาหนะในบางด่านก็ออกแบบการควบคุมออกมาได้ดี เล่นได้ลื่นไหลไม่มีติดขัดครับ
นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นภารกิจแบบที่เรายังไม่เคยเจอเช่นการปีนป่ายภูเขาน้ำแข็ง หรือลอบเชือดศัตรูก็ยังทำได้ง่ายๆเลยครับนับได้ว่าเป็นเกมที่พอร์ตลงมาได้ดีจริงๆ ตลอดเกมการเล่นคุณจะสัมผัสความสนุกได้อย่างเต็มที่จนอาจจะไม่อยากจะใชจอยเลยก็ได้นะครับ หุหุ
การควบคุม: 10/10
AI System
ในส่วนของระบบ AI ในภาคนี้ AI ยังคงมีคุณภาพเหมือนเดิมครับแต่ดูเหมือนว่าในภาคนี้พวกมันสมจริงขึ้นกว่าภาคแรกมากทำให้เกมการเล่นสนุกขึ้นเยอะเลยทีเดียว AI ทุกตัวล้วนมีพฤติกรรมที่หน้ายกย่อง เช่น การวิ่งหลบที่กำบังทันทีที่เจอหน้าเรา การยื่นแขนออกมายิงแบบสุ่มนอกบังเกอร์ เป็นต้น หรือแม้กระทั่ง AI ที่ถือโล่บางตัวถ้าหากมันเห็นเรารีโหลดกระสุนอยู่ล่ะก็เราจะโดนโล่ของศัตรูกระแทกทันที ซึ่งถ้าเป็นเกมอื่นก็คงยืนให้เรายิงนิ่งวๆแน่นอน แต่กับเกมนี้แล้ว AI งั่งๆทั้งหลายแหล่จะไม่โผล่มาให้คุณเห็นแน่นอน
AI System: 9.5/10
Sound
ในส่วนสุดท้ายที่เราจะมาดูกันนะครับคือในส่วนของ เสียง ครับประเด็นแรกนะครับก่อนเกมวางจำหน่ายทาง Infinity Ward ได้ออกมาบอกว่าในภาคนี้ผู้ประพันธ์ซาวด์แทร็คให้กับเกมคือเจ้าพ่อเพลงหนังฮอลลี่วูดอย่าง Hans Zimmer จึงทำให้เกมเมอร์อย่างเราๆอดคิดไม่ได้ว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน แน่นอนครับเมื่อผมได้สัมผัสกับหูตัวเองแล้วไม่มีอะไรจะติเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ใช้เปิดในตอนขึ้นเครดิตตอนเริ่มเกมครั้งแรก+กับมูวี่ที่ฉายให้เราดู นับว่าเหมือนเทลเลอร์เปิดตัวหนังอย่างยิ่ง หรือจะเป็นเพลงที่ใช้โหลดฉากทั้งหลายแหล่อีก รวมกว่า15 เพลงก็ประพันธ์ออกมาได้เข้ากับบรรยากาศของเกมมากทำให้เกมนี้ดูไม่ธรรมดามากขึ้นเลยทีเดียว นอกจากนั้นในเสียงของเกมเองกดีไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นเสียงพากษ์ตัวละคร เสียงปืนที่ดูหนักแน่นขึ้น ทำให้เกมนี้สนุกขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
เสียง: 10/10
รวมคะแนน
เกมเพลย์: 9.5/10
การควบคุม: 10/10
AI System: 9.5/10
เสียง: 10/10
คะแนนรวม: 9.7 คะแนน
หากถามว่า Modern Warfare 2 นั้นคุ้มค่ากับการรอคอยไหม หากถามผมผมตอบได้เลยว่า คุ้มค่า มากเลยทีเดียวในภาคนี้มันไม่ได้เป็นเกมยิงธรรมดาหรือไม่ได้เป็นภาคต่อเฉยๆแต่มันมีหลายๆอย่างที่เพิ่มเข้ามาจนเกือบจะเป็นเกมใหม่เลยทีเดียว หากกำลังมองหาเกม FPS สุดมันส์แล้วล่ะก็ Modern Warfare 2 เป็นตัวเลือกแรกทีคุณควรมองเลยทีเดียว
ข้อดีของเกม
-กราฟิคสวยงาม
-ภารกิจใหม่ๆ มันส์ๆ
-AIฉลาด
-อาวุธใหม่ตรึม!
-ซาวด์แทร็คระดับหนังฮอลลีวูด
ข้อเสียของเกม
-จบไวไปหน่อย
-ระบบมัลติเพลเยอร์เหมือนคอนโซล
Screenshot
Comment