Tweet
เกมนี้ ศึกแดงเดือดที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เจ้าบ้านได้นักเตะกำลังหลักกลับมาอย่าง เฟอร์นันโด ตอร์เรส แต่ยังขาดจอมทัพ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ส่วนทีมแมนฯยู ก็มีข่าวดีเช่นกัน เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างท้วม กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงได้แล้ว โดยลงคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วน ไมเคิ่ล โอเวน มีรายชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง
นาทีที่ 5 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อนเมื่อ ลูคัส เลว่า ได้บอลจากการส่งของ ยอสซี่ เบนายูน ก่อนเลี้ยงตัดไปทางขวาสับไกยิงระยะ 20 หลาบอลแฉลบกองหลังผีแดงออกหลังไป
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลก็ได้เสียวอีกครั้ง พอล สโคลส์ กองกลางคนเก่งของ แมนฯยู เสียบอลตรงกลางสนาม ลูคัส เลว่า ตัดบอลได้ ก่อนจ่ายต่อให้ เค้าท์ ได้หลุดเดี่ยวในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนตวัดยิงบอลพุ่งออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ
นาทีที่ 21 แมนฯยู ก็ได้โอกาสลุ้นประตูบ้าง ในจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ ครองบอลอยู่ตรงกลางสนาม ก่อนไหลบอลให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก่อนตัดสินใจเปิดเข้ากลางให้ รูนี่ย์ เทกตัวโหม่งเต็มๆ บอลเข้ากรอบ แต่เบาไป เรน่า นายทวารเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ยอสซี่ เบนายูน ได้บอลตรงเขตโทษด้านขวาตัดสินใจเปิดบอลเข้ากลางให้ ออเรลิโอ โหม่งเหน่งๆ บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ โกลทีมเยือน ยังไวพุ่งรับไว้ได้ทัน จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนฯยู 0-0
เริ่มเกมครึ่งหลังเพียง 5 นาที หงส์แดง เกือบได้ประตูนำอีกครั้ง พาทริค เอวร่า เสียบอลตรงกลางสนาม เบนายูน ตัดได้ก่อนจ่ายต่อให้ จอห์นสัน ทางขวาตัดเข้ากลางให้ เบนายูน อีกครั้ง แต่จับบอลไม่ดีทำให้พลาดโอกาสยิงอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 62 ผีแดง ได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ลูกเตะมุม ไรอัน กิ๊กส์ รับหน้าที่เปิดเข้ากลาง ตอร์เรส ช่วยโหม่งเคลียร์แต่ยังมาเข้าทาง กิ๊กส์ อีกครั้ง ก่อนโยนไปเสาสองให้ เวย์น รูนี่ย์ เปิดต่อเข้ากลางให้ ไรอัน กิ๊กส์ วิ่งเข้ายิง แต่บอลยังเข้าซอง โฆเซ่ เรน่า อีกครั้ง
แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่น นาทีที่ 65 เดิร์ท เค้าท์ ได้บอลตรงกลางประตูจ่ายต่อให้ เบนายูน ทางกราบขวา และจ่ายทะลุช่องให้ เฟอร์นันโด ตอร์เรส พาบอลหนี ริโอ เฟอร์ดินานด์ เข้ากรอบเขตโทษ ตามด้วยยิงยัดเสาแรกเข้าแสกหน้า ฟาน เดอร์ ซาร์ ให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อน 1-0
ทางแมนยูมีการเปลี่ยนตัวครับ โดยส่งโอเว่นและนานี่ลง
นาทีที่ 84 แมนฯยู น่าตีเสมออย่างยิ่ง เมื่อ อันโตนิโอ วาเลนเซีย น่าตีเสมอให้ทีมเยือนเหลือเกินเมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น พักบอลในกรอบเขตโทษมาให้ ก่อน วาเลนเซีย จับบอลลงและอัดด้วยขวาเต็มแรงผ่าน เรน่า ไปแล้ว แต่บอลดันชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดายที่สุด
นาทีที่ 88 ทีมเยือนน่าได้ประตูอีกครั้ง เมื่อ เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังเจ้าถิ่น ดึง ไมเคิ่ล โอเว่น ล้มลง นานี่ รับหน้าที่ยิงบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ว่ายังตรงตัว เรน่า รับเข้าซองสบาย
ช่วงทด
เวลาบาดเจ็มมา 4 นาที ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มาโดนใบเเหลืองที่สองเมื่อเสียบ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ โกลทีมเยือนช้าโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไป
ช่วงจากนั้นไม่นาน วีดิทก็โดนใบแดงด้วยเหมือนกัน
ท้ายๆของการทดเวลาบาดเจ็บ ลูคัส เลว่า จ่ายบอลจากจังหวะสวนกลับ ให้ เอ็นก๊อก หลุดเดี่ยวยิงผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบเสาสองอย่างสวยงาม ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ชนะขาดลอย 2-0 จบเกม 90 นาที หงส์แดง 2-0 แมนฯยู
ราย
และในระหว่างเกมมีจังหวะปัญหาคือจังหวะนี้ครับ
คาราเกอร์ วิ่งเข้ามาเสียบไมเคิล คาร์ริค ในกรอบเขตโทษ แล้วไม่ได้จุดโทษ เรียกได้ว่าเสียบซะล้มทั้งยืนเลย
ชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า , เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนียล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว , ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลวา , เดิร์ค เค้าท์, ยอสซี่ เบนายูน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เฟร์นานโด ตอร์เรส
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า ,อันโตนิโอ วาเลนเซีย, พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์
-----------------------------------------------------------------------------------
* ผมไม่มั่นใจบางเหตุการเช่นใครโดนใบแดงก่อนหลัง และอื่นๆเล็กๆน้อย
ที่เค้าไม่ได้เอ่ยถึง ผมเลยเพิ่มเติมเหตุการณ์เข้าไปเอง เอาเท่าที่จำได้
บทความโดย ปีกแดง (เว็บ Mthai )
Comment