Tweet
สวัสดีครับทุกๆท่าน เพื่อตอบสนองโครงการ review เกมของคุณ karas100 ก็เลยขอรีวิวเกม crysis warhead ภาคเสริม
จากเกม Crysis (โดนคุณ Garin191 review ไปซะก่อน) ฉายา game of the year ประจำปี 2007 โดย game critics award แต่การรีวิวครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการรีวิว crysis ไปในตัวละครับ (แต่คะแนนและข้อดีข้อเสียจะเน้นไปที่ warhead ครับ) เพราะข้อแตกต่างค่อนข้างน้อย การรีวิวครั้งนี้จะละเอียดเป็นพิเศษ(หน่อยๆ) ขอขอบคุณทุกความเห็นเหมือนเดิมนะครับ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อการรีวิวของผมก็ตาม
หมายเหตุ!!!: "เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ"
Crysis และ crysis warhead จากทีมงาน Crytek Frankfurt และ Crytek Budapest อดีตผู้สร้างเกม Far Cry จนกลายมาเป็นหนึ่งในสุดยอดเกม fps เคียงคู่กับ call of duty 4 การรีวิวครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้ ณ บัดนี้
"crysis warhead ไม่จำเป็นต้องมี crysis ในการเล่น"
เนื้อเรื่อง: (มีสปอย์!!!)
ในปี 2020 กองทัพเกาหลีเหนือนำโดยนายพลควง ได้ทำการควบคุมเกาะหลิงซางในทะเลฟิลิปปินส์ หนึ่งในนักโบราณคดี ดร.โรเซนทอล ได้ขอความช่วยเหลือ อีกทั้งกล่าวว่าพวกเขาได้ค้นพบบางสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนโลกนี้ไปตลอดการ กองทัพจึงได้ส่งหน่วย delta force ซึ่งมีระบบชุดนาโนซูทแบบใหม่ของกองทัพ โดยชื่อของเราในภาคนี้คือไซโค (ภาคแรกเล่นเป็นโนแมท) และมีหัวหน้าคือ โฟเฟ็ด ได้กระโดดร่มลงไปยังเกาะ แต่ก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นก็คือเอเลี่ยนโบราณที่ตื่นจากการหลับไหลได้ออกมาอาละวาดจนเกิดโกลาหลครั้งใหญ่ จะเป็นอย่างไรต่อเชิญติดตามได้ใน "Crysis Warhead ฝ่าสมรภูมิเอเลี่ยนถล่มโลก"
ขอบอกว่า ถึงแม้เนื้อเรื่องของ crysis จะคล้ายๆหนังเรื่อง war of the world แต่ผมว่าเกม crysis นี้ สามารถเล่ารายละเอียดความเป็นมาของเอเลี่ยนได้อย่างเด่นชัดกว่าหนังซะอีก (ในหนังเอเลี่ยนตายอนาจมาก ติดเชื้อแบคทีเรีย
) การเล่าเรื่องดำเนินตลอด ไม่มีหยุด (ยกเว้นหลงทาง) อาจจะผ่านทางเสียงเพื่อนร่วมทีมหรือฉากตัดต่างๆที่ทำให้เราตื่นเต้นราวกับดูหนังเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องในภาคนี้จะไม่ได้ต่อจาก crysis แต่จะเล่าเรื่องของไซโค ซึ่งเดินทางแยกไปจากโนแมตและโฟเฟ็ดไปยังอีกฟากนึงของเกาะ โดยในภาคนี้มีคัทซีนที่ให้อารมณ์มากขึ้น และมีการขยายความเกี่ยวกับพวกเอเลี่ยนที่ออกมา แต่เนื้อเรื่องยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร แถมเนื้อเรื่องสั้น ส่งผลให้หลายคนอารมณ์ค้าง (ผมคนนึงหล่ะ) และคนที่ไม่เคยเล่น crysis อาจจะงงๆอยู่บ้าง เพราะไม่มีการอธิบายความเป็นมาของเนื้อเรื่อง
ข้อดีเนื้อเรื่อง:
- ดำเนินตลอด ไม่มีหยุด
- ด้วยกราฟฟิกที่สวยงาม ทำให้ฉากคัทซีนดูสมจริงและตื่นเต้น การใช้คำพูดและฉากได้อารมณ์ เขียนบทมาดี
- การเปลี่ยนตัวละครหลัก ทำให้อารมณ์ของเกมเปลี่ยนไปในแบบร้อนแรงมากขึ้น
- การเปลี่ยนคัทซีนจากมุมมองที่ 1 ใน crysis มาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ทำให้เราเข้าใจฉากและเนื้อเรื่องมากขึ้น
ข้อเสียเนื้อเรื่อง:
- เนื้อเรื่องมันคับคล้ายคับคลากับหนังเอเลี่ยนหลายเรื่อง (ID4, War of the world, ET (go home) น่าจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่านี้หน่อย
- เนื้อเรื่องสั้นและไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
- ไม่มีคัทซีนอธิบายความเป็นมาในภาคหลัก
รูปแบบการเล่น:
รูปแบบการเล่นนั้น ถ้าจะให้พูดตามปกติก็คือเหมือนเกม fps ปกติทั่วไป ปุ่ม WASD เคลื่อนที่ space bar กระโดด แต่นั่นมันเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้ Crysis แตกต่างจากเกมอื่นๆคือชุดนาโนซูทที่ทำให้ตัวละครมีความสามารถในการ เพิ่มความเร็ว ความแข็งแกร่ง และเกราะ รวมถึงการล่องหนอีกด้วย ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดได้ง่ายๆโดยยการกดปุ่มเมาส์ค้างแล้วเลื่อนไปตามทิศที่ต้องการ หรือผ่านทางปุ่มลัด เพียงแค่ 4 โหมดนี้ ก็สามารถเพิ่มความหลากในการเล่นเป็นอย่างมาก โดย 4 โหมดนี้ใช้ระบบพลังเป็นหลอด 2 หลอด หลอดแรกโชว์ถึงค่าพลังของสูท และหลอดที่สองแสดงพลังชีวิต การใช้งานจะแตกต่างกันไป โดยตัวละครสามารถรักษาตัวเองได้เพราะใส่นาโนซูท (ถือเป็นข้ออ้างที่ดีในการ heal ตัวเอง เพราะเกมหลายเกม heal ตัวเองได้ แต่ได้ยังไงไม่รู้) อีกทั้งยานพาหนะต่างๆสามารถขับได้ทุกอย่าง จึงทำให้ crysis เป็นเกมเปิดดั่งเช่น GTA เวอร์ชั่นอนาคตนั่นเอง
มีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในเกม คือการแต่งอาวุธได้ตามต้องการ เมื่อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอจบด่าน ได้ค่าประสบการณ์ครบก่อนถึงแต่งได้ ถ้าหยิบอุปกรณ์แต่งปืนจากศัตรูขึ้นมาได้ก็สามารถนำมาใช้บนอาวุธใดๆได้ทันที และยังมีการเปลี่ยนโหมดการยิงครบวงจร และอุปกรณ์เสริมเช่น กล้องส่องทางไกล กล้องมองกลางคืน
ฉากในแต่ละด่านนั้นมีขนาดใหญ่มาก เราสามารถเดินหรือว่ายน้ำไปได้เกือบทุกที่บนเกาะ แต่เนื่องด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาตรงกลางของเกาะ แม้จะเป็นภูมิประเทศแบบเปิด สุดท้ายเราก็ต้องถูกบีบให้ไปในเส้นทางที่ผู้สร้างกำหนดไว้อยู่ดี
ในภาค warhead ขอบอกตรงๆว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจาก crysis เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นหน้าจอ ซึ่งจะตั้งค่ามาให้เป็นสีแดง และระบบต่างๆจะตรงกับ patch crysis 2.1
ข้อดีรูปแบบการเล่น:
- การเล่นเป็นแบบ sandbox หรือการเล่นแบบเปิด สามารถทำอะไรหรือไปที่ใดก็ได้
- ระบบการเปลี่ยนโหมดที่ไหลลื่น ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้หลากรูปแบบตามต้องการ
- ด้วยวัตถุและฉากที่ตอบสนองได้ (จะพูดถึงในภายหลัง) ทำให้เกมเป็น GTA ผสม the sims อย่างแท้จริง (ขนาดนั้นเชียว)
- มีอาวุธบางอย่างและยานพาหนะที่มากขึ้น รวมถึงศัตรูใหม่
ข้อเสียรูปแบบการเล่น:
- แม้เกมเป็นรูปแบบเปิด เนื้อเรื่องยังคงดำเนินเกือบเป็นเส้นตรง ยังคงถูกบังคับเส้นทางหลายฉากของเกม และภารกิจก็ยังคงต้องทำตาม objective อย่างเคร่งครัด มิชะนั้นจะไปต่อไม่ได้
- ไม่มีคำอธิบายโดยละเอียดถึงโหมดแต่ละโหมดของชุดอย่างละเอียดในเกม ส่งผลโดยตรงถึงผู้เล่นใหม่
- พาหนะยังคงบังคับยากอยู่พอสมควร
- ไม่มีระบบการเล่นใหม่ๆเพิ่มจากภาคหลัก
ตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
การออกแบบทุกอย่างถือว่าทำมาละเอียดมากๆครับ texture เป็นแบบ high def แบบที่ออกทีวีจอใหญ่ได้เลย ตัวละครสามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์ออกมาให้เราเห็นเด่นชัดกว่าเกมอื่นๆมาก
ส่วนองค์ประกอบภายในเกมก็ทำได้ละเอียดดีทีเดียว ยกเว้นบางส่วนที่ยังดูเรียบๆบ้าง (แค่นี้ก็กระตุกพอแล้ว) เรื่องฉากคงไม่ต้องอธิบายมากนะครับ จากภาพก็น่าจะบ่งบอกการจัดฉาก จัดแสงได้อย่างชัดเจน
ยานพาหนะ ปืนต่างๆ ออกแบบแนวอนาคตได้เป็นอย่างดี อย่างในรูปนี่คือ FN Scar ปืนที่มีโอกาสมาแทน M4 ซึ่งเป็นปืนหลักประจำกองทัพสหรัฐในอนาคต
ส่วนพวกเอเลี่ยนสามารถออกแบบออกมาได้อย่างคมชัดเชียวครับ แถมยังใส่รายละเอียดน้อยๆลงไปในตัว Exosuit ซึ่งเป็นเอเลี่ยน 4 ขาตัวใหญ่ ถ้าใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันจะเปลี่ยนสีตามสถานการณ์ เหมือนกับชุดของเรา จึงเป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีนี้เราขโมยมาจากเอเลี่ยน
warhead ได้ใส่รายละเอียดของเอเลี่ยนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความหลากหลายของศัตรูมากขึ้น อีกทั้งสามารถออกแบบฉากเดิมที่มีอยู่ใน crysis ใหม่ให้ดูดีมากขึ้น
ข้อดีตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
- texture ละเอียดมาก อีกทั้งการออกแบบโมเดลก็มีรายละเอียดมาก
- องค์ประกอบของฉากมีเยอะมาก ไม่ว่าจะข้าวของต่างๆภายในอาคารหรือสัตว์ต่างๆนานาภายนอก
- ตัวละครสามารถแสดงสีหน้าได้สมจริง ทำให้เราเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างดี
ข้อเสียตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
- texture ที่คมชัด ส่งผลต่อความลื่นของเกม ควรลดความคมชัดของวัตถุที่ไกลออกไปหรือวัตถุที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้เกมลื่นขึ้น
- บางครั้งเกิดปัญหาการเหลื่อมล้ำของวัตถุ โดยเฉพาะตัวละครที่มีกลไกการเคลื่อนไหวสูงอย่าง Exosuit บางครั้งแอบมีการขาพันกันเองเป็นบางครั้ง
กราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
ความต้องการของระบบขั้นต่ำ ("ต่ำ"จริงๆเลย)
CPU: Intel Pentium 4 2.8 GHz (3.2 GHz for Vista)
RAM: 1GB (1.5GB บน Windows Vista)
Video Card: 256 MB video memory, NVIDIA GeForce 6800 GT/ATI Radeon 9800 Pro (Radeon X800 Pro for Vista) or greater
Storage: 15GB
Sound Card: DirectX 9.0c compliant card (DirectX 10.1 compliant if applicable)
ODD: DVD-ROM
OS: Windows XP
DirectX: DX9.0c
ความต้องการของระบบขั้นแนะนำ
CPU: Intel Core 2 Duo @ 2.2 GHz, or AMD Athlon 64 X2 4200+
RAM: 2 GB
Video Card: NVIDIA GeForce 8600 GT or ATI HD3850 512 MB
Storage: 15GB
Sound Card: DirectX 9.0c compliant card (DirectX 10.1 compliant if applicable)
ODD: DVD-ROM
OS: Microsoft Windows Vista
DirectX: DX10
มาถึงจุดเด่นอันดับ 1 ของเกมตระกูล crysis กันละครับ ถ้าไม่มีกราฟฟิกที่ตื่นตาด้วยขุมพลังของ cryengine 2 Crysis ก็คงไม่ได้มาถึงขั้นนี้ได้ ด้วยเป็นเกมแรกๆที่สามารถใช้ความสามารถของ directx 10 ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ crysis เป็นต้นกำเนิดเกม next gen ทั้งหลายในปัจจุบันนี้หล่ะครับ
ความลับของความสวยของระบบนี้คือ shader หรือแสงเงานั่นเองครับ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ถ้าปรับ option นี้ให้เป็น low ก็จะหมดความสวยไปในทันทีครับ ถ้าใครได้ดูวิดีโอตัวอย่างของระบบ cryengine ก็จะรู้ถึงความสามารถของมันครับ เนื่องจากระบบมีความละเอียดมาก ผมคงจะไม่พูดเรื่องนี้มากครับ เอาเป็นว่าเกมนี้ ผีเสื้อบินมา ยิงให้มันร่วงได้น่ะครับ (จริงๆ
)
ในภาค warhead ได้มีการปรับปรุงระบบ ทำให้กินสเปคน้อยลง (นิดนึง) และภาพ shader แบบ medium ยังพอคงความสวยไว้ได้ ได้มีการปรับเปลี่ยนสีสันของพรรณพืชต้นไม้ให้สวยงามมากขึ้น แต่ใบไม้ของต้นไม้พุ่มยังคงดูแบนๆเป็น 2 มิติอยู่ อีกทั้งไม่มีการลบรอยหยักบนขอบใบไม้ทำให้ภาพดูขัดๆกับความเรียบลื่นของเกม
ฟิสิกค์ของเกมนี้ทำได้ยอดเยี่ยม สามารถแสดงการเคลื่อนไหวของวัตถุจำนวนมากได้โดยไม่ขัดข้องอันใด (ยกเว้นเครื่องแรงไม่พอ) สิ่งก่อสร้างบางส่วนสามารถทำลายได้ แต่ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือศพทหารเกาหลี (อีกครั้ง) บางครั้งนอนตายอย่างผิดธรรมชาติ เนื่องจากเกมนี้ใช้ ragdoll (ท่าตาย) อย่างอิสระ ทำให้บางทีศพก็ทำท่าๆที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ หรือบางทีวัตถุนึงซ้อนอีกวัตถุนึง (อาจจะเพราะวัตถุถูกบีบด้วยของสองสิ่ง พอมันไม่มีที่ออกมันก็ทะลุเลย)
ข้อดีกราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
- สวยงาม ละเอียด เข้าขั้นโอเวอร์ (จนคอม error) จนสามารถเอาไปทำหนัง animation ได้เลยทีเดียว
- ฟิสิกค์ไม่ก่อปัญหาในเกม
- สามารถปรับ option ภาพ Enthusiast (very high) บน windows xp ได้แล้ว
ข้อเสียกราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
- สวยงาม ละเอียด เข้าขั้นโอเวอร์ จนคอม error คอมไม่แรงจริง อย่าคิดเล่น Gamer (high)
- ragdoll ไม่เป็นธรรมชาติ
- ระบบยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาโรคภาพฟ้า จอดำ ฯลฯ ได้ 100%
- ถ้าคอมแรงไม่พอ แล้วภาพกระตุก จะเกิดปัญหาปากไม่ตรงกับเสียง
A.I.:
เกม next gen ก็ต้องมาพร้อมระบบ next gen อย่าง AI ในเกมนี้เป็นเกมแรกๆที่ AI สามารถคิดเองได้ (non-script) ตามสภาพของเกมและการเล่นของผู้เล่น อย่างเช่นถ้าผู้เล่นทำเสียง เปิดไฟฉายหรือเลเซอร์ก็อาจเป็นการเปิดเผยตัวเองให้ศัตรูรู้ตัว ถึงแม้จะอยู่ในโหมดล่องหนก็ตาม
พวกเกาหลียังมีการแสดงบุคลิกเวลาที่ไม่ได้สู้รบเช่น เดินเล่น เช็ดรถ พูดคุย ทำให้เรารู้สึกใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น อีกทั้งศัตรูยังมีระบบในการคิด ดั่งเช่นเราอยู่จุด A แล้วล่อความสนใจ แล้วแอบล่องหนเดินไปจุด B ศัตรูก็ยังคงพยายามสำรวจจุด A อยู่ เพราะคิดว่าผู้เล่นยังคงอยู่ที่นั่น
แต่ก็มีหลายครั้งที่ AI แสดงความซื่อบื้อออกมา (อีกครั้ง) เช่น เดินวกไปวนมา ไม่ยอมยิงเรามั่ง เข้าๆออกๆอาคารเดิมๆ และแปลกที่ทหารเกาหลีว่ายน้ำไม่เป็น (แล้วก็ตายไกลจากฝั่งไป 3 เมตร)
ในภาค warhead จะมีการปรับปรุง A.I. บ้าง แต่พวกเกาหลียังคงบื้อบางทีเช่นเดิม ส่วนเอเลี่ยนมีการปรับปรุงขึ้นมาก ไม่มีการเอ๋อ ทำให้การต่อสู้ท้าทายมากขึ้น ทำเอาหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
ข้อดี A.I.:
- มีระบบการคิด และไม่ได้ถูกกำหนดการกระทำโดยตรง
- A.I. สามารถกระทำกริยาต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการกระตุก หยุดนิ่งแล้วค่อยเปลี่ยนกริยา
- มันฉลาดกว่าที่เราคิดไว้
- ทั้งเกาหลีและเอเลี่ยนสามารถรุมเราจนกลายจุลได้
ข้อเสีย A.I.:
- บางทีก็...โง่กว่าที่เราคิดไว้
- บัคเพียบ
- ทหารเกาหลีว่ายน้ำไม่เป็น
- ปัญหาความซื่อบื้อหลายอย่างของ A.I. ยังไม่ถูกแก้ในภาคนี้
เสียง:
เสียงเป็นแบบ surround 5.1 ch ครับ ต่อ home theater เสียงรอบทิศเลยครับ
ออนไลน์:
ในภาคนี้ จะใช้ชื่อว่า Crysis Wars ซึ่งจะเป็นแผ่นลงแยกจากตัวเกม โดย muliplayer ของภาคนี้ได้รับความนิยมสูงต่างจากของภาคหลักมาก โดยภาคนี้ crytek ได้เปลี่ยนความสมดุล อาวุธ ยานพาหนะและอื่่นๆทำให้ระบบออนไลน์สมบูรณ์มากขึ้น
บัค:
เพียบเช่นเดิม
เวลาให้คะแนนมาถึงแล้วครับ (คะแนนต่อไปนี้ ไม่ได้เทียบ crysis ภาคหลักในการให้คะแนนโดยตรง)
การเล่น: 9.0 คะแนน (เหมือนเดิมเด๊ะ แถมเป็นเส้นตรงมากขึ้น แต่ด้วยมี action มากขึ้นทำให้คะแนนเพิ่ม)
เนื้อเรื่อง: 8.0 คะแนน (เนื้อเรื่องลอกมาจากหนังหลายเรื่อง สั้น ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร)
กราฟฟิก: 10 คะแนน (กะว่าจะหัก 0.5 แต่เห็นว่ามีการพัฒนาขึ้นก็เลยให้เต็มเลย)
เสียง: 9.5 คะแนน (เสียงประกอบดีขึ้น)
ความคิดสร้างสรรค์: 9.0 คะแนน (เกือบจะเหมือนภาคหลัก แต่การออกแบบเอเลี่ยนใหม่ทำให้ดูดีมากขึ้น)
ความคุ้มค่าในการหามาเล่น: 10 คะแนน (ลองสักครั้ง ถ้าเครื่องยังไหว)
ภาพรวม: 9.0 คะแนน
ข้อดีโดยรวม
- ภาพสวยงามตระการตา ฟิสิกค์สุดยอด
- ระบบการเล่นหลากหลาย เปลี่ยนได้ตามต้องการ
- ศัตรูมีความคิด จะเล่นกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
- มีการพัฒนาบางส่วนเพิ่มจากภาคแรก และเป็นแบบ standalone pack ทำให้เล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาคแรก
ข้อเสียโดยรวม
- พอเล่นมากๆก็ชักเบื่อ แม้เกมเป็นแบบเปิดก็ตาม
- พอเล่นมากๆๆ ก็เริ่มรู้ว่าบัคเยอะ
- เนื้อเรื่องสั้นมาก เล่น 2-3 วันก็จบ
- บางคนเล่นไม่ได้ เพราะการ์ดจอไม่ถึง (อีกครั้ง)
เวลาให้คะแนน(แบบกวนๆ)มาถึงแล้วครับ (ครั้งพิเศษตามคำเรียกร้อง) (คะแนนต่อไปนี้ เทียบ crysis ภาคหลักในการให้คะแนน"โดยตรง")
การเล่น: 6.0 คะแนน (ไม่มีอะไรเปลี่ยน เปรียบเหมือนเกม dynasty warrior ที่ออกมากี่ภาคก็เหมือนเดิม มีเพียงฉากใหม่และอาวุธที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น)
เนื้อเรื่อง: 4.0 คะแนน (เนื้อเรื่องลอกมาจากหนังหลายเรื่อง สั้น ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร อีกทั้งยังเป็นการเขียนเนื้อเรื่องแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เป็นแค่การใส่เนื้อเรื่องแทรกเข้าไปใน crysis ภาคหลักเพื่อให้สมบูรณ์ขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเนื้อเรื่องโดยรวมของ crysis เลย)
กราฟฟิก: 8.0 คะแนน (กินสเป็คอยู่ดี ถึงแม้ภาพจะสวยก็ตาม และดูเหมือนภาคนี้ความสวยดูน้อยลงในหลายฉาก แถมดูทื่อๆ)
เสียง: 6.0 คะแนน (ไฟล์เสียงใช้ของเดิมหมด)
ความคิดสร้างสรรค์: 5.0 คะแนน (นอกจากเอเลี่ยนกับฉากใหม่แล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิม)
ความคุ้มค่าในการหามาเล่น: 6 คะแนน (ลองภาคแรกดีกว่ามั้ง)
ภาพรวม: 6.0 คะแนน (สรุปคือเป็นการเอาของเก่ามายำใหม่ เพื่อให้ได้ยอดขายเพิ่ม)
อื่นๆ:
- ภาคนี้มีการใช้ SecuROM ที่ทำให้ลงเกมได้ไม่เกิน 5 เครื่อง ทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ไม่ดีจากหลายส่วน ปัจจุบันมี patch ออกมาเพื่อทำการ de-authorize จำนวนการลงเกมแล้ว
สรุป:
ภาค warhead นี้ ถึงแม้จะไม่ได้เพิ่มอะไรมากจากภาคหลัก แต่ก็ยังคงความสนุกและความดุเดือดในแบบของไซโคได้เป็นอย่างดี ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ EA Game เลยทีเดียว
เบ็ดเตล็ด
- ความจริงแล้ว นาโนซูทนั้นได้มีไอเดียคิดไว้โดยกองทัพสหรัฐนานนับ 50 ปี แต่ก็ไม่สามารถทำออกมาสำเร็จได้ ออกไปแนวเครื่องจักรผ่อนแรงมากกว่า
- รูปแบบของหน่วย delta force ใน crysis นั้นได้ความคิดมาจาก Future Force Warrior ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะนำไปใช้กับกองทัพในอนาคต
- เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Constitution ที่ปรากฎในด่านสุดท้ายของ crysis ภาคหลักนั้น มีต้นแบบมาจาก CVN-80 ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2021 แต่เกมเป็นเนื้อเรื่องในปี 2020
- ถ้าใครได้ฟังวิทยุของพวกเกาหลีเหนือที่ซ่อนอยู่ภายในที่ต่างๆในภาคแรก ท่านจะรู้ว่า 1.Kim Jong-chul ลูกชายของคิมจองอิว ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน ได้ทำการขึ้นดำรงตำแหน่งแทนพ่อในปี 2008 (คือเกมมันสร้างในปี 2007 อ่ะนะ) 2.Kim Jong-chul ได้ทำการปฏิวัติเศรษฐกิจเกาหลีเหนือจนเป็นประเทศมั่งคั่งติดอันดับของโลก และได้ซื้ออุปกรณ์ hardware จากจีน เพิ่มอำนาจให้กับตน 3.เกาหลีเหนือได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว
- นายพลควง หนึ่งในบอสเกมที่ถูกฆ่าง่ายติดอันดับ 1
วิธีฆ่า
1.เปิดโหมดพลัง ต่อยไม่กี่ทีก็กองที่พื้นแล้ว
2.ปากล่องลังใส่
3.เปิดโหมดล่องหนทำมันปวดหัว
- จาก EA Thai ทำให้เราทราบว่า Crysis ภาคหลักนั้น มีคำพูดถึง 50000 กว่าคำที่จำเป็นต้องแปล
- เกม Crysis ภาคหลักมีต้นทุนสูงถึง 22 ล้านดอลลาห์สหรัฐ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ต้นทุนคืนครบถ้วนแล้ว หลังยอดขายพุ่งเกิน 1 ล้านชุด
- กำลังจะมีหนังอนิเมชั่นเรื่อง Raining Fire ซึ่งจะใช้ระบบ cryengine 3 ในการสร้างหนังทั้งเรื่อง http://movie.vam-u.de/
จากเกม Crysis (โดนคุณ Garin191 review ไปซะก่อน) ฉายา game of the year ประจำปี 2007 โดย game critics award แต่การรีวิวครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการรีวิว crysis ไปในตัวละครับ (แต่คะแนนและข้อดีข้อเสียจะเน้นไปที่ warhead ครับ) เพราะข้อแตกต่างค่อนข้างน้อย การรีวิวครั้งนี้จะละเอียดเป็นพิเศษ(หน่อยๆ) ขอขอบคุณทุกความเห็นเหมือนเดิมนะครับ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อการรีวิวของผมก็ตาม
หมายเหตุ!!!: "เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ"
Crysis และ crysis warhead จากทีมงาน Crytek Frankfurt และ Crytek Budapest อดีตผู้สร้างเกม Far Cry จนกลายมาเป็นหนึ่งในสุดยอดเกม fps เคียงคู่กับ call of duty 4 การรีวิวครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้ ณ บัดนี้
"crysis warhead ไม่จำเป็นต้องมี crysis ในการเล่น"
เนื้อเรื่อง: (มีสปอย์!!!)
ในปี 2020 กองทัพเกาหลีเหนือนำโดยนายพลควง ได้ทำการควบคุมเกาะหลิงซางในทะเลฟิลิปปินส์ หนึ่งในนักโบราณคดี ดร.โรเซนทอล ได้ขอความช่วยเหลือ อีกทั้งกล่าวว่าพวกเขาได้ค้นพบบางสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนโลกนี้ไปตลอดการ กองทัพจึงได้ส่งหน่วย delta force ซึ่งมีระบบชุดนาโนซูทแบบใหม่ของกองทัพ โดยชื่อของเราในภาคนี้คือไซโค (ภาคแรกเล่นเป็นโนแมท) และมีหัวหน้าคือ โฟเฟ็ด ได้กระโดดร่มลงไปยังเกาะ แต่ก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นก็คือเอเลี่ยนโบราณที่ตื่นจากการหลับไหลได้ออกมาอาละวาดจนเกิดโกลาหลครั้งใหญ่ จะเป็นอย่างไรต่อเชิญติดตามได้ใน "Crysis Warhead ฝ่าสมรภูมิเอเลี่ยนถล่มโลก"
ขอบอกว่า ถึงแม้เนื้อเรื่องของ crysis จะคล้ายๆหนังเรื่อง war of the world แต่ผมว่าเกม crysis นี้ สามารถเล่ารายละเอียดความเป็นมาของเอเลี่ยนได้อย่างเด่นชัดกว่าหนังซะอีก (ในหนังเอเลี่ยนตายอนาจมาก ติดเชื้อแบคทีเรีย
) การเล่าเรื่องดำเนินตลอด ไม่มีหยุด (ยกเว้นหลงทาง) อาจจะผ่านทางเสียงเพื่อนร่วมทีมหรือฉากตัดต่างๆที่ทำให้เราตื่นเต้นราวกับดูหนังเลยทีเดียว เนื้อเรื่องในภาคนี้จะไม่ได้ต่อจาก crysis แต่จะเล่าเรื่องของไซโค ซึ่งเดินทางแยกไปจากโนแมตและโฟเฟ็ดไปยังอีกฟากนึงของเกาะ โดยในภาคนี้มีคัทซีนที่ให้อารมณ์มากขึ้น และมีการขยายความเกี่ยวกับพวกเอเลี่ยนที่ออกมา แต่เนื้อเรื่องยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร แถมเนื้อเรื่องสั้น ส่งผลให้หลายคนอารมณ์ค้าง (ผมคนนึงหล่ะ) และคนที่ไม่เคยเล่น crysis อาจจะงงๆอยู่บ้าง เพราะไม่มีการอธิบายความเป็นมาของเนื้อเรื่อง
ข้อดีเนื้อเรื่อง:
- ดำเนินตลอด ไม่มีหยุด
- ด้วยกราฟฟิกที่สวยงาม ทำให้ฉากคัทซีนดูสมจริงและตื่นเต้น การใช้คำพูดและฉากได้อารมณ์ เขียนบทมาดี
- การเปลี่ยนตัวละครหลัก ทำให้อารมณ์ของเกมเปลี่ยนไปในแบบร้อนแรงมากขึ้น
- การเปลี่ยนคัทซีนจากมุมมองที่ 1 ใน crysis มาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ทำให้เราเข้าใจฉากและเนื้อเรื่องมากขึ้น
ข้อเสียเนื้อเรื่อง:
- เนื้อเรื่องมันคับคล้ายคับคลากับหนังเอเลี่ยนหลายเรื่อง (ID4, War of the world, ET (go home) น่าจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่านี้หน่อย
- เนื้อเรื่องสั้นและไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
- ไม่มีคัทซีนอธิบายความเป็นมาในภาคหลัก
รูปแบบการเล่น:
รูปแบบการเล่นนั้น ถ้าจะให้พูดตามปกติก็คือเหมือนเกม fps ปกติทั่วไป ปุ่ม WASD เคลื่อนที่ space bar กระโดด แต่นั่นมันเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้ Crysis แตกต่างจากเกมอื่นๆคือชุดนาโนซูทที่ทำให้ตัวละครมีความสามารถในการ เพิ่มความเร็ว ความแข็งแกร่ง และเกราะ รวมถึงการล่องหนอีกด้วย ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดได้ง่ายๆโดยยการกดปุ่มเมาส์ค้างแล้วเลื่อนไปตามทิศที่ต้องการ หรือผ่านทางปุ่มลัด เพียงแค่ 4 โหมดนี้ ก็สามารถเพิ่มความหลากในการเล่นเป็นอย่างมาก โดย 4 โหมดนี้ใช้ระบบพลังเป็นหลอด 2 หลอด หลอดแรกโชว์ถึงค่าพลังของสูท และหลอดที่สองแสดงพลังชีวิต การใช้งานจะแตกต่างกันไป โดยตัวละครสามารถรักษาตัวเองได้เพราะใส่นาโนซูท (ถือเป็นข้ออ้างที่ดีในการ heal ตัวเอง เพราะเกมหลายเกม heal ตัวเองได้ แต่ได้ยังไงไม่รู้) อีกทั้งยานพาหนะต่างๆสามารถขับได้ทุกอย่าง จึงทำให้ crysis เป็นเกมเปิดดั่งเช่น GTA เวอร์ชั่นอนาคตนั่นเอง
มีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในเกม คือการแต่งอาวุธได้ตามต้องการ เมื่อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอจบด่าน ได้ค่าประสบการณ์ครบก่อนถึงแต่งได้ ถ้าหยิบอุปกรณ์แต่งปืนจากศัตรูขึ้นมาได้ก็สามารถนำมาใช้บนอาวุธใดๆได้ทันที และยังมีการเปลี่ยนโหมดการยิงครบวงจร และอุปกรณ์เสริมเช่น กล้องส่องทางไกล กล้องมองกลางคืน
ฉากในแต่ละด่านนั้นมีขนาดใหญ่มาก เราสามารถเดินหรือว่ายน้ำไปได้เกือบทุกที่บนเกาะ แต่เนื่องด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาตรงกลางของเกาะ แม้จะเป็นภูมิประเทศแบบเปิด สุดท้ายเราก็ต้องถูกบีบให้ไปในเส้นทางที่ผู้สร้างกำหนดไว้อยู่ดี
ในภาค warhead ขอบอกตรงๆว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจาก crysis เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นหน้าจอ ซึ่งจะตั้งค่ามาให้เป็นสีแดง และระบบต่างๆจะตรงกับ patch crysis 2.1
ข้อดีรูปแบบการเล่น:
- การเล่นเป็นแบบ sandbox หรือการเล่นแบบเปิด สามารถทำอะไรหรือไปที่ใดก็ได้
- ระบบการเปลี่ยนโหมดที่ไหลลื่น ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้หลากรูปแบบตามต้องการ
- ด้วยวัตถุและฉากที่ตอบสนองได้ (จะพูดถึงในภายหลัง) ทำให้เกมเป็น GTA ผสม the sims อย่างแท้จริง (ขนาดนั้นเชียว)
- มีอาวุธบางอย่างและยานพาหนะที่มากขึ้น รวมถึงศัตรูใหม่
ข้อเสียรูปแบบการเล่น:
- แม้เกมเป็นรูปแบบเปิด เนื้อเรื่องยังคงดำเนินเกือบเป็นเส้นตรง ยังคงถูกบังคับเส้นทางหลายฉากของเกม และภารกิจก็ยังคงต้องทำตาม objective อย่างเคร่งครัด มิชะนั้นจะไปต่อไม่ได้
- ไม่มีคำอธิบายโดยละเอียดถึงโหมดแต่ละโหมดของชุดอย่างละเอียดในเกม ส่งผลโดยตรงถึงผู้เล่นใหม่
- พาหนะยังคงบังคับยากอยู่พอสมควร
- ไม่มีระบบการเล่นใหม่ๆเพิ่มจากภาคหลัก
ตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
การออกแบบทุกอย่างถือว่าทำมาละเอียดมากๆครับ texture เป็นแบบ high def แบบที่ออกทีวีจอใหญ่ได้เลย ตัวละครสามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์ออกมาให้เราเห็นเด่นชัดกว่าเกมอื่นๆมาก
ส่วนองค์ประกอบภายในเกมก็ทำได้ละเอียดดีทีเดียว ยกเว้นบางส่วนที่ยังดูเรียบๆบ้าง (แค่นี้ก็กระตุกพอแล้ว) เรื่องฉากคงไม่ต้องอธิบายมากนะครับ จากภาพก็น่าจะบ่งบอกการจัดฉาก จัดแสงได้อย่างชัดเจน
ยานพาหนะ ปืนต่างๆ ออกแบบแนวอนาคตได้เป็นอย่างดี อย่างในรูปนี่คือ FN Scar ปืนที่มีโอกาสมาแทน M4 ซึ่งเป็นปืนหลักประจำกองทัพสหรัฐในอนาคต
ส่วนพวกเอเลี่ยนสามารถออกแบบออกมาได้อย่างคมชัดเชียวครับ แถมยังใส่รายละเอียดน้อยๆลงไปในตัว Exosuit ซึ่งเป็นเอเลี่ยน 4 ขาตัวใหญ่ ถ้าใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันจะเปลี่ยนสีตามสถานการณ์ เหมือนกับชุดของเรา จึงเป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีนี้เราขโมยมาจากเอเลี่ยน
warhead ได้ใส่รายละเอียดของเอเลี่ยนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความหลากหลายของศัตรูมากขึ้น อีกทั้งสามารถออกแบบฉากเดิมที่มีอยู่ใน crysis ใหม่ให้ดูดีมากขึ้น
ข้อดีตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
- texture ละเอียดมาก อีกทั้งการออกแบบโมเดลก็มีรายละเอียดมาก
- องค์ประกอบของฉากมีเยอะมาก ไม่ว่าจะข้าวของต่างๆภายในอาคารหรือสัตว์ต่างๆนานาภายนอก
- ตัวละครสามารถแสดงสีหน้าได้สมจริง ทำให้เราเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างดี
ข้อเสียตัวละคร ฉาก และองค์ประกอบภายในเกม:
- texture ที่คมชัด ส่งผลต่อความลื่นของเกม ควรลดความคมชัดของวัตถุที่ไกลออกไปหรือวัตถุที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้เกมลื่นขึ้น
- บางครั้งเกิดปัญหาการเหลื่อมล้ำของวัตถุ โดยเฉพาะตัวละครที่มีกลไกการเคลื่อนไหวสูงอย่าง Exosuit บางครั้งแอบมีการขาพันกันเองเป็นบางครั้ง
กราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
ความต้องการของระบบขั้นต่ำ ("ต่ำ"จริงๆเลย)
CPU: Intel Pentium 4 2.8 GHz (3.2 GHz for Vista)
RAM: 1GB (1.5GB บน Windows Vista)
Video Card: 256 MB video memory, NVIDIA GeForce 6800 GT/ATI Radeon 9800 Pro (Radeon X800 Pro for Vista) or greater
Storage: 15GB
Sound Card: DirectX 9.0c compliant card (DirectX 10.1 compliant if applicable)
ODD: DVD-ROM
OS: Windows XP
DirectX: DX9.0c
ความต้องการของระบบขั้นแนะนำ
CPU: Intel Core 2 Duo @ 2.2 GHz, or AMD Athlon 64 X2 4200+
RAM: 2 GB
Video Card: NVIDIA GeForce 8600 GT or ATI HD3850 512 MB
Storage: 15GB
Sound Card: DirectX 9.0c compliant card (DirectX 10.1 compliant if applicable)
ODD: DVD-ROM
OS: Microsoft Windows Vista
DirectX: DX10
มาถึงจุดเด่นอันดับ 1 ของเกมตระกูล crysis กันละครับ ถ้าไม่มีกราฟฟิกที่ตื่นตาด้วยขุมพลังของ cryengine 2 Crysis ก็คงไม่ได้มาถึงขั้นนี้ได้ ด้วยเป็นเกมแรกๆที่สามารถใช้ความสามารถของ directx 10 ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ crysis เป็นต้นกำเนิดเกม next gen ทั้งหลายในปัจจุบันนี้หล่ะครับ
ความลับของความสวยของระบบนี้คือ shader หรือแสงเงานั่นเองครับ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ถ้าปรับ option นี้ให้เป็น low ก็จะหมดความสวยไปในทันทีครับ ถ้าใครได้ดูวิดีโอตัวอย่างของระบบ cryengine ก็จะรู้ถึงความสามารถของมันครับ เนื่องจากระบบมีความละเอียดมาก ผมคงจะไม่พูดเรื่องนี้มากครับ เอาเป็นว่าเกมนี้ ผีเสื้อบินมา ยิงให้มันร่วงได้น่ะครับ (จริงๆ
)ในภาค warhead ได้มีการปรับปรุงระบบ ทำให้กินสเปคน้อยลง (นิดนึง) และภาพ shader แบบ medium ยังพอคงความสวยไว้ได้ ได้มีการปรับเปลี่ยนสีสันของพรรณพืชต้นไม้ให้สวยงามมากขึ้น แต่ใบไม้ของต้นไม้พุ่มยังคงดูแบนๆเป็น 2 มิติอยู่ อีกทั้งไม่มีการลบรอยหยักบนขอบใบไม้ทำให้ภาพดูขัดๆกับความเรียบลื่นของเกม
ฟิสิกค์ของเกมนี้ทำได้ยอดเยี่ยม สามารถแสดงการเคลื่อนไหวของวัตถุจำนวนมากได้โดยไม่ขัดข้องอันใด (ยกเว้นเครื่องแรงไม่พอ) สิ่งก่อสร้างบางส่วนสามารถทำลายได้ แต่ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือศพทหารเกาหลี (อีกครั้ง) บางครั้งนอนตายอย่างผิดธรรมชาติ เนื่องจากเกมนี้ใช้ ragdoll (ท่าตาย) อย่างอิสระ ทำให้บางทีศพก็ทำท่าๆที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ หรือบางทีวัตถุนึงซ้อนอีกวัตถุนึง (อาจจะเพราะวัตถุถูกบีบด้วยของสองสิ่ง พอมันไม่มีที่ออกมันก็ทะลุเลย)
ข้อดีกราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
- สวยงาม ละเอียด เข้าขั้นโอเวอร์ (จนคอม error) จนสามารถเอาไปทำหนัง animation ได้เลยทีเดียว
- ฟิสิกค์ไม่ก่อปัญหาในเกม
- สามารถปรับ option ภาพ Enthusiast (very high) บน windows xp ได้แล้ว
ข้อเสียกราฟฟิคและระบบฟิสิกส์:
- สวยงาม ละเอียด เข้าขั้นโอเวอร์ จนคอม error คอมไม่แรงจริง อย่าคิดเล่น Gamer (high)
- ragdoll ไม่เป็นธรรมชาติ
- ระบบยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาโรคภาพฟ้า จอดำ ฯลฯ ได้ 100%
- ถ้าคอมแรงไม่พอ แล้วภาพกระตุก จะเกิดปัญหาปากไม่ตรงกับเสียง
A.I.:
เกม next gen ก็ต้องมาพร้อมระบบ next gen อย่าง AI ในเกมนี้เป็นเกมแรกๆที่ AI สามารถคิดเองได้ (non-script) ตามสภาพของเกมและการเล่นของผู้เล่น อย่างเช่นถ้าผู้เล่นทำเสียง เปิดไฟฉายหรือเลเซอร์ก็อาจเป็นการเปิดเผยตัวเองให้ศัตรูรู้ตัว ถึงแม้จะอยู่ในโหมดล่องหนก็ตาม
พวกเกาหลียังมีการแสดงบุคลิกเวลาที่ไม่ได้สู้รบเช่น เดินเล่น เช็ดรถ พูดคุย ทำให้เรารู้สึกใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น อีกทั้งศัตรูยังมีระบบในการคิด ดั่งเช่นเราอยู่จุด A แล้วล่อความสนใจ แล้วแอบล่องหนเดินไปจุด B ศัตรูก็ยังคงพยายามสำรวจจุด A อยู่ เพราะคิดว่าผู้เล่นยังคงอยู่ที่นั่น
แต่ก็มีหลายครั้งที่ AI แสดงความซื่อบื้อออกมา (อีกครั้ง) เช่น เดินวกไปวนมา ไม่ยอมยิงเรามั่ง เข้าๆออกๆอาคารเดิมๆ และแปลกที่ทหารเกาหลีว่ายน้ำไม่เป็น (แล้วก็ตายไกลจากฝั่งไป 3 เมตร)
ในภาค warhead จะมีการปรับปรุง A.I. บ้าง แต่พวกเกาหลียังคงบื้อบางทีเช่นเดิม ส่วนเอเลี่ยนมีการปรับปรุงขึ้นมาก ไม่มีการเอ๋อ ทำให้การต่อสู้ท้าทายมากขึ้น ทำเอาหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
ข้อดี A.I.:
- มีระบบการคิด และไม่ได้ถูกกำหนดการกระทำโดยตรง
- A.I. สามารถกระทำกริยาต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการกระตุก หยุดนิ่งแล้วค่อยเปลี่ยนกริยา
- มันฉลาดกว่าที่เราคิดไว้
- ทั้งเกาหลีและเอเลี่ยนสามารถรุมเราจนกลายจุลได้
ข้อเสีย A.I.:
- บางทีก็...โง่กว่าที่เราคิดไว้
- บัคเพียบ
- ทหารเกาหลีว่ายน้ำไม่เป็น
- ปัญหาความซื่อบื้อหลายอย่างของ A.I. ยังไม่ถูกแก้ในภาคนี้
เสียง:
เสียงเป็นแบบ surround 5.1 ch ครับ ต่อ home theater เสียงรอบทิศเลยครับ
ออนไลน์:
ในภาคนี้ จะใช้ชื่อว่า Crysis Wars ซึ่งจะเป็นแผ่นลงแยกจากตัวเกม โดย muliplayer ของภาคนี้ได้รับความนิยมสูงต่างจากของภาคหลักมาก โดยภาคนี้ crytek ได้เปลี่ยนความสมดุล อาวุธ ยานพาหนะและอื่่นๆทำให้ระบบออนไลน์สมบูรณ์มากขึ้น
บัค:
เพียบเช่นเดิม
เวลาให้คะแนนมาถึงแล้วครับ (คะแนนต่อไปนี้ ไม่ได้เทียบ crysis ภาคหลักในการให้คะแนนโดยตรง)
การเล่น: 9.0 คะแนน (เหมือนเดิมเด๊ะ แถมเป็นเส้นตรงมากขึ้น แต่ด้วยมี action มากขึ้นทำให้คะแนนเพิ่ม)
เนื้อเรื่อง: 8.0 คะแนน (เนื้อเรื่องลอกมาจากหนังหลายเรื่อง สั้น ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร)
กราฟฟิก: 10 คะแนน (กะว่าจะหัก 0.5 แต่เห็นว่ามีการพัฒนาขึ้นก็เลยให้เต็มเลย)
เสียง: 9.5 คะแนน (เสียงประกอบดีขึ้น)
ความคิดสร้างสรรค์: 9.0 คะแนน (เกือบจะเหมือนภาคหลัก แต่การออกแบบเอเลี่ยนใหม่ทำให้ดูดีมากขึ้น)
ความคุ้มค่าในการหามาเล่น: 10 คะแนน (ลองสักครั้ง ถ้าเครื่องยังไหว)
ภาพรวม: 9.0 คะแนน
ข้อดีโดยรวม
- ภาพสวยงามตระการตา ฟิสิกค์สุดยอด
- ระบบการเล่นหลากหลาย เปลี่ยนได้ตามต้องการ
- ศัตรูมีความคิด จะเล่นกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
- มีการพัฒนาบางส่วนเพิ่มจากภาคแรก และเป็นแบบ standalone pack ทำให้เล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาคแรก
ข้อเสียโดยรวม
- พอเล่นมากๆก็ชักเบื่อ แม้เกมเป็นแบบเปิดก็ตาม
- พอเล่นมากๆๆ ก็เริ่มรู้ว่าบัคเยอะ
- เนื้อเรื่องสั้นมาก เล่น 2-3 วันก็จบ
- บางคนเล่นไม่ได้ เพราะการ์ดจอไม่ถึง (อีกครั้ง)
เวลาให้คะแนน(แบบกวนๆ)มาถึงแล้วครับ (ครั้งพิเศษตามคำเรียกร้อง) (คะแนนต่อไปนี้ เทียบ crysis ภาคหลักในการให้คะแนน"โดยตรง")
การเล่น: 6.0 คะแนน (ไม่มีอะไรเปลี่ยน เปรียบเหมือนเกม dynasty warrior ที่ออกมากี่ภาคก็เหมือนเดิม มีเพียงฉากใหม่และอาวุธที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น)
เนื้อเรื่อง: 4.0 คะแนน (เนื้อเรื่องลอกมาจากหนังหลายเรื่อง สั้น ไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควร อีกทั้งยังเป็นการเขียนเนื้อเรื่องแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เป็นแค่การใส่เนื้อเรื่องแทรกเข้าไปใน crysis ภาคหลักเพื่อให้สมบูรณ์ขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเนื้อเรื่องโดยรวมของ crysis เลย)
กราฟฟิก: 8.0 คะแนน (กินสเป็คอยู่ดี ถึงแม้ภาพจะสวยก็ตาม และดูเหมือนภาคนี้ความสวยดูน้อยลงในหลายฉาก แถมดูทื่อๆ)
เสียง: 6.0 คะแนน (ไฟล์เสียงใช้ของเดิมหมด)
ความคิดสร้างสรรค์: 5.0 คะแนน (นอกจากเอเลี่ยนกับฉากใหม่แล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิม)
ความคุ้มค่าในการหามาเล่น: 6 คะแนน (ลองภาคแรกดีกว่ามั้ง)
ภาพรวม: 6.0 คะแนน (สรุปคือเป็นการเอาของเก่ามายำใหม่ เพื่อให้ได้ยอดขายเพิ่ม)
อื่นๆ:
- ภาคนี้มีการใช้ SecuROM ที่ทำให้ลงเกมได้ไม่เกิน 5 เครื่อง ทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ไม่ดีจากหลายส่วน ปัจจุบันมี patch ออกมาเพื่อทำการ de-authorize จำนวนการลงเกมแล้ว
สรุป:
ภาค warhead นี้ ถึงแม้จะไม่ได้เพิ่มอะไรมากจากภาคหลัก แต่ก็ยังคงความสนุกและความดุเดือดในแบบของไซโคได้เป็นอย่างดี ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ EA Game เลยทีเดียว
เบ็ดเตล็ด
- ความจริงแล้ว นาโนซูทนั้นได้มีไอเดียคิดไว้โดยกองทัพสหรัฐนานนับ 50 ปี แต่ก็ไม่สามารถทำออกมาสำเร็จได้ ออกไปแนวเครื่องจักรผ่อนแรงมากกว่า
- รูปแบบของหน่วย delta force ใน crysis นั้นได้ความคิดมาจาก Future Force Warrior ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะนำไปใช้กับกองทัพในอนาคต
- เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Constitution ที่ปรากฎในด่านสุดท้ายของ crysis ภาคหลักนั้น มีต้นแบบมาจาก CVN-80 ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2021 แต่เกมเป็นเนื้อเรื่องในปี 2020
- ถ้าใครได้ฟังวิทยุของพวกเกาหลีเหนือที่ซ่อนอยู่ภายในที่ต่างๆในภาคแรก ท่านจะรู้ว่า 1.Kim Jong-chul ลูกชายของคิมจองอิว ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน ได้ทำการขึ้นดำรงตำแหน่งแทนพ่อในปี 2008 (คือเกมมันสร้างในปี 2007 อ่ะนะ) 2.Kim Jong-chul ได้ทำการปฏิวัติเศรษฐกิจเกาหลีเหนือจนเป็นประเทศมั่งคั่งติดอันดับของโลก และได้ซื้ออุปกรณ์ hardware จากจีน เพิ่มอำนาจให้กับตน 3.เกาหลีเหนือได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว
- นายพลควง หนึ่งในบอสเกมที่ถูกฆ่าง่ายติดอันดับ 1
วิธีฆ่า
1.เปิดโหมดพลัง ต่อยไม่กี่ทีก็กองที่พื้นแล้ว
2.ปากล่องลังใส่
3.เปิดโหมดล่องหนทำมันปวดหัว
- จาก EA Thai ทำให้เราทราบว่า Crysis ภาคหลักนั้น มีคำพูดถึง 50000 กว่าคำที่จำเป็นต้องแปล
- เกม Crysis ภาคหลักมีต้นทุนสูงถึง 22 ล้านดอลลาห์สหรัฐ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ต้นทุนคืนครบถ้วนแล้ว หลังยอดขายพุ่งเกิน 1 ล้านชุด
- กำลังจะมีหนังอนิเมชั่นเรื่อง Raining Fire ซึ่งจะใช้ระบบ cryengine 3 ในการสร้างหนังทั้งเรื่อง http://movie.vam-u.de/
Comment