ก็เป็นรีวิวชิ้นที่สองของผมแล้วนะครับ มีข้อติชมอะไร ก็บอกมาได้นะครับ เล่นไม่ผ่านก็ถามได้ครับ
Half-Life 2: Episode Two เป็นภาคที่สองในไตรภาคย่อยของ Half-Life 2
เนื้อเรื่องจะต่อจาก Half-Life 2 Episode One
ภาคนี้ได้รับการปรับปรุงทั้งระบบการเล่น กราฟิก ให้ดูดีมีสกุลขึ้นมานิดนึง
และแน่นอนว่า เนื้อเรื่องน่าติดตามมากกว่าภาคที่แล้ว
การให้คะแนน
ก็เหมือนเดิมครับผมจะให้ตามนี้
Story: เนื้อเรื่อง ความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง
Design: การออกแบบ กราฟิกภายในเกม
Gameplay: รูปแบบการเล่น
Sound: ระบบเสียงภายในเกม
Overall: นำคะแนน 4 ตัวแรกมาเฉลี่ย
ระดับคะแนนก็ตามนี้
S: อยู่ในระดับดีเยี่ยม
A: อยู่ในระดับดีมาก
B: อยู่ในระดับดี
C: อยู่ในระดับพอใช้
D: อยู่ในระดับแย่
F: อยู่ในระดับแย่มาก
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
Story
เฮียแว่น Gordan Freeman กับสาวจอมบู๊ Alyx Vance ลูกสาวของเพื่อนเก่า Eli Vance
ได้หนีออกมาจาก City 17 ได้สำเร็จ แต่ก่อนจะหนีออกมาได้หอคอย Citadel ได้ระเบิดทำให้ City 17 เป็นจุณ
และก่อให้เกิด Portal Storm ที่ๆ Citadel ระเบิด และก็จะส่งผลกระทบมาที่บริเวณใกล้เคียงเรื่อยๆ
ทำให้เกิดความเสียหายขนานหนัก
คุณ (Gordan Freeman) และ Alyx ต้องร่วมมือร่วมใจในการนำรหัสที่จะเป็นในการปิด Portal Storm
ไปให้ศูนย์บัญชาการของกองทัพกบฎ (เรียกให้หรูก็กองทัพกู้โลก) ที่ White Forest
แต่ก่อนจะไปถึงแน่นอนว่ามันมีปัญหาเล็กน้อยๆ
อย่างเช่นพวก Hunter น้องเล็กของไอ้ยักษ์ 3 ขา Strider มาลอบโจมตีบ่อย
แล้วไหนจะพวก Antlions ที่มาลอบกัดตอนจะหนีออกจากถ้ำ แถมยังมีซอมบี้ประปราย
แต่เฮียแว่นของเราจะสามารถไปที่ White Forest ได้หรือไม่ และผลสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในเกมครับ
วิจารณ์: เนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตามตลอดเกม ความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งต่างๆ มีตลอดในเกมเลยทีเดียว
รวมถึงตอนท้ายเกมที่ทิ้งปริศนาไว้ให้คิดในภาคต่อไป แถมจบลงแบบพลิกล็อคเกินคาด
คะแนนที่ได้: A
Design
วิจารณ์: กราฟิกภายในเกมได้รับการปรับปรุงมากขึ้นครับ
มีการใช้งาน HDR (High Dynamic Range) แต่ตัวเกมก็ไม่กินสเปคสูงแต่อย่างใด
ผมปรับกราฟิกในเกมได้ระดับ Medium ได้เฟรมเรตมา 30 กว่าๆ ตลอดเกม
ถ้าเทียบกับเกมอื่นในระดับกราฟิกเดียวกันถือว่าไม่กินสเปคมากเลย
ภายในเกมก็มีพาหนะใหม่ เป็นรถ Dodge Charger ปี 1969 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่เรื่อยๆ
แรกๆ ก็มีเทอร์โบ แต่ช่วงหลังๆ ก็จะเพิ่มเรดาร์ที่จะบอกตำแหน่งอาวุธ คลังกระสุน กล่องยา
รวมถึงที่วางลูกระเบิดมหาประลัยอย่าง Magnusson Device ที่สามารถจัดการ Strider ได้ง่ายดาย ซึ่งก็ง่ายจริงๆ
คะแนนที่ได้: S
Gameplay
วิจารณ์: รูปแบบการเล่นก็คงมีอินเตอร์เฟสเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไร
แต่ระบบการเล่นแบบเดิมนี้ ทำให้ผมคุ้นเคยกับปุ่มเดิมๆ
เช่นกด Q เปลี่ยนไปใช้อาวุธล่าสุด ทำให้ผมสามารถใช้ปืนอื่นได้ในขณะที่ผมกำลังเปลี่ยนกระสุน
หรือถ้าจะใช้ปืน Gravity Gun ก็แค่กด G ปุ่มเดียว
ตอนขับรถแม้จะไม่มีปืนติดมาให้ยิงเล่น แต่ Alyx ที่นั่งอยู่ข้างๆ เราก็ช่วยยิงได้ แถมยิงแม่นซะด้วย
รูปแบบการเล่นในภาคนี้ทำให้เล่นจนติดเอาง่ายๆ เลยทีเดียว และการเล่นก็ไม่ยากเว่อร์ไป
แต่บางครั้งก็มีปริศนาให้คิดเหมือนกัน ตามสไตล์ของเกมในซี่รี่ส์นี้
คะแนนที่ได้: S
Sound
วิจารณ์: ระบบเสียงสุดยอดมากครับ เสียงปืน เสียงระเบิดดังสนั่นเลยทีเดียว
เกมรองรับระบบเสียง 5.1 อย่างเต็มที่ หากใครมีลำโพง 5.1 ก็บอกได้เลยว่า สุโค่ย!!!
คะแนนที่ได้: S
Overall
ได้ไป S เลยครับ
เกมนี้มีคุณค่าควรแก่การซื้อของแท้มาเก็บจริงๆ
โดยมันเป็นหนึ่งเกมใน The Orange Box ซึ่งท่านจะไม่ได้แค่ 1 แต่ได้ถึง 5 เกมในราคา 500 กว่าบาท
คิดตีราคาก็เกมละ 100 ถูกกว่าแผ่นผีบางที่อีก เกมสนุกมากครับ
จนตอนนี้ก็นั่งรอ Episode Three ภาคสุดท้ายของไตรภาคย่อยของ Half-Life 2 แต่ไม่ใช่สุดท้ายของซี่รี่ส์ Half-Life
ประมวลรูป
เมนูหลักแบบเดิม พร้อมกับลำแสงที่มาจาก Citadel
เมนูปรับกราฟิกครับ
แข็งใจไว้นะน้อง เด๋วน้องจะตายแล้ว เอ๊ย! ม่ายช่าย!
ยิงแม่มเลย!!!
รถคู่ใจของเรา ไม่เท่ห์แต่แรง
ระเบิดมหาประลัย Magnusson Device
ส่องนึดนึง เฮ้ย! ตายแล้ว มันส่ง Strider มาอีกแล้ว!!!
Comment