Announcement

Collapse
No announcement yet.

++ บทสรุป Dragon Age Origins Walkthrough ++

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    สงสัยครับ สกิลที่ทำให้มองเห็นมอนจุดแดงๆ รูปทีนอ่ะครับ

    ในปาร์ตี้มีคนเดียวได้ปล่าวฮะอีก3คนไม่มี จะเห็นจุดมั้ยครับ

    และถ้ามีคนเดียวก็ได้ จำเป็นไหมว่าเราต้องกดบังคับตัวนั้นก่อนถึงจะได้ผลสกิลอ่ะ

    มอริแกนในคลิปเท่ห์มาก ในเกมหน้าไม่งี้หว่า

    Comment


    • #17
      Side Quests(โดยคุณ Zeusgod)
      Blackstone Irregulars
      เป็นเควสที่รับจากกล่องตามเมืองต่างๆ
      A Change in Leadership
      Type: Combat
      Start: Blackstone Irregulars
      Destination: Random
      encounter at Taoran’s Camp
      Task: Kill Raelnor or Taoran
      Quest Tips: เควสนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อจบเควสของ blackstone อันอื่นๆหมดแล้ว เควสนี้ไม่มีไรมากไปฆ่า Raelnor ที่ตลาดในเมือง Denerim หรือเลือกฆ่า Taoran ที่แคมป์ ซึ่งจะสุ่มเจอระหว่างเรากดเดินทาง

      Dereliction of Duty
      Type: Combat
      Start: Blackstone Irregulars in Gnawed Noble Tavern
      Destination: มี 3 สถานที่ที่ต้องไป Denerim,
      Lake Calenhad Docks,Frostback Mountains
      Task: ไล่ฆ่ากลุ่มพวกหนีทหาร เพื่อความยุติธรรม(- -*)
      Quest Tips ตามล่าพวกหนีทัพประมาณนั้น มีสามกลุ่ม คุยและฆ่าทิ้งเลย(โหดไปมั้ง)
      กลุ่มแรก Layson อยู่ที่ Denerim มันอยูที่ Rundown backstreet ไปถึงหาบ้านชื่อ Dirty Hovel (กลุ่มนี้ผมทำสุดท้ายเลย กว่าจะฝ่าดงทีนทหารที่ดักตีจากเควสอื่นๆไปได้)
      กลุ่มสอง Sammael ที่ Lake Calenhad Docks (ท่าเรือข้ามหอเมจ)
      กลุ่มสาม Tornas ที่ frostback mountains แถวๆลานวงกลมข้างหน้าทางเข้าเมืองคนแคระ

      Grease the Wheels
      Type: ส่งข่าว
      Start:รับที Blackstone Irregulars ที่หมู่บ้าน Redcliffe
      Destination: ต้องไป 5 ที่ ใน Denerim
      Quest Tips: ตามหาคนใส่ hood ในเมือง Denerim ตามนี้ ที่ the Market District,
      Dark Alley, Alienage, Pearl, Run-down Back Street. เควสนี้คุยเฉยๆ

      Notices of Death
      Type: ส่งข่าว
      Start: Blackstone Irregulars ที่ Gnawed Noble Tavern ในเมืองเดเนริม
      Quest Tips: ส่งข่าวร้ายว่าสามีหรือญาติคุณตายแล้ว ตามสถานที่ข้างล่าง
      • Irenia (Redcliffe Chantry)
      • Larana (Spoiled Princess in Lake Calenhad Docks)
      • Sara (Denerim Market District)
      • Tania (Dirty Back Alley in Denerim)

      Restocking the Guild
      Type: หาของ
      Start: รับที่เดียวกับเควสข้างบน
      Destination: ไม่มี
      Quest Tips: เก็บ 20 health poultices มาส่งให้ของรางวัลเป็นเงินประมาณสาม ทองมั้ง (รู้สึกไม่คุ้มนั่งหาหญ้ามาผสมยาสะสมตั้งนาน)

      Scraping the Barrel

      Type:ส่งข่าว
      Start: Blackstone Irregulars
      Quest Tips: ไปส่งข่าวสามที่ ให้กับคนสามคน
      • Patter Gritch (Lothering Chantry)
      • Varel Baern (Elven Alienage)
      • Dernal Garrison (Redcliffe, generic cottage)

      ของรางวัลส่วนใหญ่เป็นเงิน เควสกลุ่มนี้

      Denerim


      Slim Couldry’s Quests

      Crime Wave
      Start: Slim Couldry
      Destination: Denerim Market District
      Task: Speak to Slim Couldry
      about a series of Stealth and Stealing quests
      Quest Tips: เควสนี้รับที่ Slim Couldry ที่ตลาดใน Denerim โดยที่จะได้รับต่างๆกันออกไปแล้วแต่อาชีพคุณและสกิล
      ถ้าคุณเป็น rogue และ มีท่า Stealth จะได้รับเควส ตามนี้ “The Absent Mistress,”
      “A Fistful of Silver,” “The Private Collection,” and “The Tears
      of Andraste.”
      ถ้าคุณมี สกิลขโมยของ คุณก็จะได้รับเควสดังนี้ “Lady in Waiting,” “A Stolen Blade,” “Market Day,” and “The Traitor’s Crown.”
      ส่วนใหญ่เป็นเควสแอบย่องไปขโมยของตามที่ต่างๆในเมือง อาจโดนทหารยามไล่บ้างต้องสู้นิดหน่อย
      ผมเล่น warrior เลยไม่มีให้ทำมั้งหรือหาไม่เจอเองไม่รู้

      Honor Bound
      Type: Combat
      Start: Outside the Gnawed
      Noble Tavern.
      Destination: The alley behind the Gnawed Noble Tavern
      Task: Duel Ser Landry (or persuade him not to duel)
      Quest Tips: เควสนี้เราจะได้รับต่อเมื่อเดินเฉียดพ่อ เซอร์Landry แถวๆตลาดในเมืองตรงตัว G พี่แกจะหาเรื่องทักเราและจำเราได้ว่าเราเป็น Greywarden (จำได้อีก) ซึ่งตอนนี้เราก็กลายเป็นผู้ร้ายที่โดนหาว่าฆ่าพระราชาไปแล่ว แล้วมันก็จะท้าเราดวล ซึ่งมีทางเลือกคือ
      1.รับคำท้าแล้วเดินตามมันไปดวลกัน ดวล1:1 ก็ได้หรือจะกวนมันยกพวกตีกัน
      2.ซึ่งถ้าเรามีสกิลPersuade สูงเราอาจเจรจาไม่ตีกันกันได้
      3.ปฏิเสธไปว่าตูไม่ใช่คนที่เจ้าว่า มันก็จะจากไป แต่มันจะมาดักเจอะเราอีกครั้งระหว่างเดินทาง(ไม่รู้เอาพวกมาเยอะกว่าเดิมไหมด้วยเพราะผมดวลกะมันแบบหมู่คณะ

      The Last Request
      Type: Combat
      Start: Ser Friden’s corpse in
      Denerim’s Run-down Back Street
      Destination: Elven Alienage
      Task: Destroy the blood mages in the Alienage
      Quest Tips: เควสนี้เราจะได้รับเมื่อเราเจอศพทหารTemplar ที่ Rundown backstreet นะครับ(ผมมาถึงต้องฝ่าดงทีนก่อน ไม่รู้พวกดักตีหัวจากเควสไหน) เก็บของจากศพให้หมด จะปลดล็อกสถานที่ Elven Alienageไปที่นั่น จะพบว่าเป็นที่ซ่อนตัวของพวก bloodmage และพวกหนีทัพ ฆ่าให้หมด ในนั้นกับดักเยอะเหมือนกันครับ

      Sergeant Kylon’s Quests
      จ่าแกมีหลายงานให้เราทำ หาเงินใช้

      Pearls Before Swine
      Type: Combat
      Start: Sergeant Kylon in the
      market district
      Destination: White Falcon
      Veteran in the Pearl
      Quest Tips: นี่เป็นเควสแรกของพี่จ่า จ่าแกต้องการให้ไปเคลียร์ พวกทหารรับจ้าง ที่ the pearl
      ผ่านเควสนี้ได้หลายวิธีเลย เจรจาก็ได้ ซัดกัน ซึ่งใกล้ๆชนะมันจะยอมแพ้ จะฆ่าหรือปล่อยก็ได้ หลังจากนั้นเดินทางกลับไปหาจ่าเพื่อรับรางวัล ( ซึ่งระหว่างทางจะเจอหัวหน้ากลุ่มทหารกับจ่าเราที่เดินทางมาขอบคุณเรากำลังจะตีกัน ตอนนี้ก็อัดกันได้ตามสะดวก)

      The Crimson Oars
      Type: Combat
      Start: Sergeant Kylon
      Destination: Gnawed Noble Tavern
      Quest Tips:เควสที่สองของจ่า แกให้ไปที่ Gnawed Noble Tavern ไปไล่พวก Crimson
      Oars mercenaries ให้ที เราเลือกได้ว่าจะตีไล่ไปหรือเจรจา(อยู่ที่สกิลด้วยนะ)เลี้ยงเหล้าพวกนั้นแล้วเชิญออกจากร้านไป ในระหว่างที่สู้กันเก็บหัวหน้าก่อนลูกน้องจะยอมแพ้

      Something Wicked
      Type: Exploration
      Start: Ser Otto in the Elven
      Alienage
      Destination: Abandoned
      Orphanage
      Quest Tips: รับจาก ser otto ที่ Elven Alienage เขาจะขอให้คุณช่วยสืบหาสิ่งผิดปกติอะไรบางอย่าง โดยที่คุณต้องหาเบาะแสให้ครบเพื่อที่จะไปยังAbandoned Orphanage(ที่เลี้ยงเด็กกำพร้าร้าง) สิ่งที่ต้องสำรวจมี A pool of fresh blood, A feral dog, A dead dog., An insane beggar.
      จากนั้นตามออตโต้ไปยัง orphanage คุ้มกันเขาไว้ให้รอดตลอดรอดฝั่ง

      อันที่ยังไม่ได้ทำอาจแปลมั่วบ้างจาก Prima Official Game Guide


      เควสเมือง Denerim ต่อ
      Drake Scale Armor
      Type: Crafting
      Start: Once you’ve collected a drake scale
      Destination: Wade’s Emporium in Denerim Market District
      Quest Tips: เป็นเควสทำเกราะจากเกร็ดของ เดรก นะครับ จะทำได้ก็ต่อเมือเก็บเกล็ดมาให้ได้ก่อน 3 ชิ้น นำไปหา เวด อยู่ที่ ตรงจุด B เค้าจะทำให้ ต้องมีการจ่ายค่าทำให้เค้าด้วยซึ่งไม่มีผลอะไรต่อเกราะที่ได้ แต่จะส่งผลให้ได้ชนิดของเกราะออกมาต่างกัน regular และ superior โดยที่รอบแรกจะได้แบบ regular และรอบสองจะได้ superior
      ผมลองทั้งจ่ายตังค์ให้รอบแรกและรอบหลังเกราะก็ได้ออกมาเหมือนกัน แต่ถ้าจ่ายให้จะมีผลต่อการทำเกราะมังกร ซึ่ง เสียตังไปประมาณ 30 ทอง หน้าตาแบบนี้


      Dragon Scale Armor
      Quest Tips: เหมือนกันกับเกราะเดรก แต่เควสนี้ต้องทำเควสเกราะเดรกจบก่อนนะ โดยคราวนี้ใช้เกล็ดมังกร 1 ชิ้น (ได้จาก high dragon ไปดูในเควสหลักหน้าแรก) ซึ่งเมื่อนำไปให้จะเลือกได้ว่าจะให้ทำเกราะชนิดไหน medium, heavy,massive และได้ในเวอร์ชั่น superior ถ้าคุณจ่ายตังค่าทำเควสเกราะเดรก ทั้งสองครั้ง

      UNBOUND
      Type: Combat
      Quest Tips: จริงๆเควสนี้ไม่ได้รับจากในเมืองแต่เราจะเจอจากศพนักผจญภัย Adventurer ตาม ruin ต่างๆที่เราไปมา เช่น Temple ruin ในเควสหาขี้เถ้า หรือ Bacilian Ruin ในเควสเอลฟ ถ้าคุณได้รับเควสนี้เมื่อไหร่ ให้เดินทางกลับไป Denerim แล้วไปที่ dirty back alley แล้วหาประตูบ้านหลังนึง Quaint Hovel
      เข้าไปในนั้นจะมีชายชื่อ Vilhm Madon มาคุยด้วยคุยเสร็จก็กลายร่างเป็น Gaxkang โหดมาตัวนี้ ถ้าฆ่าได้จะได้ดาบ มือเดียวที่ดี อันนึงในเกม (ดาบดีแต่หมดยาไปหลายขวดกว่าจะได้มา)

      Antivan Crows Quests
      เควสชุดนี้จะเริ่มจาก The Trial of Crows โดยเมื่อเราไป Denerim ครั้งแรกระหว่างในเมืองจะเจอเด็กคนนึงเอาข่าวมาบอก ให้ไปพบคนที่ Gnawed Noble Tavern เมื่อคุณไปคุณจะพบกับMaster Ignacio ผู้ซึ่งจะเสนองานให้เรา นั้นคืองานลอบสังหารของ Antivan Crows เควสนักฆ่านี่ทำแล้วอาจมีผลให้เพื่อนเราบางคนค่าความสัมพันธ์ลบลงโดยเฉพาะ ป้าwynne
      ซึ่งมีหลายเควสย่อย
      The First Test
      งานแรกเหยื่อเราอยู่ที่ the pearl ให้ไปที่นั่นจะมีอยู่ห้องนึงล็อกอยู่ให้สำรวจแล้วจะต้องตอบพาสเวิร์ด(พาสเวิร์ดหาได้จากใบประกาศจับ graywarden ทีตลาด)ตอบให้ถูก มั่วจนถูกก็ได้ เข้าไปเราจะพบกับ Peadan เหยื่อรายแรก(พวกนี้มันรอดักเชือดgraywarden อยู่) ฆ่าซะแล้วกลับไปรายงานมาสเตอร์
      Mercenary Hunt
      หลังจากเสร็จเควสแรก Ignacio จะให้เควสต่อไปโดยต้องไปเปิดจากหีบที่อยู่ข้างหลังเค้า(ไม่ส่งให้กะมือค่าจ้างก็เหมือนกันหยิบเองจากหีบสงสัยของร้อน) เหยื่อรายต่อไปเป็นแกงค์พวก Quanari อยู่ที่Kadan-Feซึ่งจะปรากฎบนแผนที่โลก ไปที่นั่นฆ่าทุกคนแล้วกลับไปรายงาน
      An Audience with the Ambassador
      งานนี้ก็รับได้เลยถ้าเสร็จเควสแรก โดยที่เหยื่อของงานนี้เป็น คือท่านทูต Gainley ของเมืองคนแคระ โดยจะเข้าทำได้ต้องจบเควสของเมืองคนแคระก่อน(A Paragon of Her Kind) หรือไม่ก็เลือกข้างเจ้าชาย ในระหว่างทำเควส ไม่งั้นห้องประชุมมันปิดเข้าไม่ได้ ทำได้แล้วกลับไปรายงาน
      The Ransom
      งานสุดท้ายของสมาคมนักฆ่านี้ คุณต้องทำเควสก่อนหน้าให้หมดก่อนแล้วถึงจะรับได้ งานนี้คือไปสังหารCaptain Chase และพวกที่ โดยเดินทางไปที่ Ransom Drop ในเมือง Denerim งานนี้มีพวกนักฆ่าคนอื่นมาร่วมแจมด้วย ตีกันมั่วแต่เป้าหมายเราคือกัปตันคนเดียวฉะนั้นอย่าไปมัวตีกับนักฆ่าของ antivan crows คนอื่น

      Forgotten Verses
      เควสนี้เริ่มตอนที่เราลุยใน Ruined Temple ในระหว่าเควสหาเถ้า ถ้าคุณเก็บ ม้วน scroll ในนั้นมาด้วยให้นำกลับไป Denerim แล้วไปที่หน้าโบสถ์ในตลาด คุยกับSister Justine เธอจะรับบันทึกโบราณไปแปล และให้ค่าตอบแทนเรา 7 ทอง




      Romance Quest
      Morrigan
      มอริแกนชอบผู้ชายนะครับตัวละครหญิงอย่าพยายาม คุยกับเธอเรื่องทั่วไปความเป็นมาและพลังของคุณ อย่าไปกวนทีนเธอ เพิ่มค่าความสัมพันธ์ไประยะหนึ่งให้ของขวัญไปเรื่อยๆ ค่อยเริ่มเข้าเรื่อง(ปลดล็อกคลาสได้ก็ ok)
      จากนั้นคุยกับเธอที่แคมป์ จนมีบทสนทนานี้ขึ้นมา
      “Tis a curious thing. I do not know how to describe it.”
      จากนั้นตอบตามนี้เลย เรียงไปเลย
      “What? Is something wrong?”
      “Why would I do that?”
      “Because I need you here.”
      “I was hoping to be more than friends.”
      เป็นการเริ่มต้นการจีบ
      พอหลังจากเราลุยหอคอยเมจแล้วเก็บบันทึกของแม่เธอมาได้ หลังจากคุยเควสแม่เธอแล้วก็คุยอีกจะเจอบทสนทนานี้
      “I have a thought.”
      ตอบดีๆไปตามนี้
      “Oh? What’s on your mind?”
      “And? What’s in it for me?”
      “My tent does get rather cold...”
      จริงๆแล้วบทสนทนาไม่ค่อยตรงเท่าไหร่เอาเป็นว่าถ้าความสัมพันธ์กับเธอ 50+และจีบกันมาก่อนหน้านั้น จะเริ่มมีประโยคที่คุณเธอจะบ่นว่าเตนท์เธอเย็นจัง จากนั้นก็เลือกตามบายเลยครับ

      Leliana กับ Zavran มีอีกสองตัวที่จีบได้แต่คงไม่ต้องเนอะ

      มีคนปั้น Mabari(หมาเรา)เป็นตัวหลักบ้างไหม


      --------------------------


      เพิ่งจบเควสเมืองคนแคระและล่ามังกรสองตัว สรุปเกมนี้มันบังคับให้เราเล่นนักเวทสินะเพราะเวลาสู้บอสบังคับมอริแกนตลอด เศร้าใจคนเล่น warrior จริงๆสร้างมาไม่ได้ค่อยบังคับมัน

      Orzammar


      A Lost Nug
      Type: Exploration
      Start: Nug Wrangler Boermor
      in Orzammar Commons
      Quest Tips: เควสนี้เป็นเควสตามหาตัว Nugหน้าตาคล้ายๆหนูยักษ์นะผมว่า มาคืนWrangler Boermor โดยเจ้าตัวนี้จะอยู่ทั่ว Orzammar เมื่อหาเจอก็เอามาคืนเค้าจะได้รับเงินตอบแทน ถ้าหาได้ครบ 10 ตัวจะได้รางวัลใหญ่
      A Mother’s Hope
      Task: Find Ruck
      Quest Tips: เมื่อเข้าเมืองมาแถวๆหน้าร้านขายชุดเกราะของจาร์นา(C) จะพบกับ Falida สวดออนวอนอยู่เธอจะบอกว่าลูกชายเธอหายสาบสูญไปใน deep roads เมื่อเราเดินทางสู่ deep roads ถ้าพบข่าวอะไรของลูกเธอให้กับมาบอกเธอด้วย(ลูกเธออยู่บริเวณซากเมืองเก่าก่อนเจอบอสแมงมุมนั่นเอง)

      An Unlikely Scholar
      Type: Messenger
      Start: Dagna in Orzammar Commons
      Destination: Circle Tower
      Quest Tips: ในเมืองนี้จะมีลูกสาวร้านขายเกราะ ชื่อDagna เธออยากเป็นเมจมากเลยและขอร้องให้เราส่งคำขอร้องของเธอไปยัง Circle ของเมจในเฟราเดนเพื่อรับเธอเข้าเป็นเมจ(เมจอื่นอยากจะออกมาอีนี่อยากเข้าไปเรียน) ถ้าคุณจบเควส broken circle โดยที่ Enchanter Irving ยังมีชีวิตอยู่เขาจะรับ Dagna เข้าเรียน แต่ถ้าหอคอยนั้น Templar เป็นคนคุมล่ะก็จะถูกปฎิเสธไม่ให้เข้าเป็นเมจ ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนเราสามารถกลับไปบอกเธอยังไงก็ได้(ซะงั้น) จะบอกว่ารับหรือไม่รับเธอก็ออกเดินทางสู่แผ่นดินภายนอกอยู่ดี (ถ้าเราไปบอกพ่อเธอเรื่องเธอจะเป็นเมจและบอกว่าเราช่วยเธอจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จแกจะโกรธไม่ขายของให้เรา)
      ไว้มาต่อเย็นๆงานเข้า

      Asunder
      Type: Exploration
      Start: A small bloody sack
      Destination: Altar of Sundering in Ortan Thaig
      Quest Tips: เควสนี้จะได้ก็ต่อเมื่อเราเดินทางไป Aeducan Thaig เมื่อเราฆ่า darkspawn ในนั้นแล้วเก็บ bloody sacks ได้ โดยเราต้องหาเพิ่มให้ครบ 3 อัน มีอีนนึงอยู่ที่ Caridin’s Cross เมื่อเก็บได้ครบนำไปที่ Ortan Thaig หา Altar of Sundering เมือวางลงบนแท่นคุณจะเลือกได้ว่าจะสู้กับปีศาจเพื่อค่าXPหรือเลือกเงิน(ไม่ได้ทำเพราะเล่นเควสคนแคระไม่ได้เหยียบไป Aeducan Thaig เลย)

      The Key to the City
      เควสนี้ได้ไอเท็มมีประโยชน์มากเป็นแหวน Attribute +2 มั้ง
      Quest Tips: ถ้าคุณสำรวจเมือง Orzammar จนทั่วคุณก็จะได้รับเควสนี้เอง(สำเร็จเควสโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน)เควสนี้จะช่วยปลดล็อกตู้ลงคะแนนเสียง(ในสภาคนแคระน่ะแหละ) โดยมีของรางวัลเป็นแหวนกุญแจเมือง
      สถานที่ๆต้องไปกดสำรวจ
      • Hall of Heroes (find commission report)
      • Commons (find document on bridge to Proving)
      • Proving Grounds (find writ of censure in fghter’s area)
      • Diamond Quarter (find council writ behind doors to Commons)
      • Dust Town (find Assembly directive in niche)
      กด Tab ดูไปละกันครับเควสนี้ผมก็ไม่ได้อ่านมันเหมือนกันสำรวจจนทั่วก็ quest update ซะงั้น

      The Chant in the Deeps
      Type: Messenger
      Start: Orzammar Commons
      Destination: The Shaperate
      Quest Tips: รับจาก Brother Burkel แกเป็นพระในเมืองคนแคระ ต้องการจะเปิด Chantry หรือโบสถ์ในเมืองคนแคระ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต จึงของให้เราช่วยเกลี้ยกล่อม shaper ให้หน่อย ซึ่งอยู่ที่ The Shaperate ในเขต Diamond ไปข่มขู่หรือเกลี่ยกล่อมก็ได้ เรามัน Gray warden นี่นา
      เสร็จกลับไปแจ้งข่าวดี แกก็จะได้เปิดโบสถ์มีลูกวัดสองคน


      The Dead Caste
      Type: Exploration
      Start: The Dead Trenches
      Destination: The Dead Trenches
      Task: Find the four pieces of
      the Legion of the Dead armor
      Quest Tips: เควสนี้จะให้เราหาชุดเกราะ Legion ที่อยู่ใน dead trenches ทั้งหมดมี 4 ชิ้นมีชุด หมวก รองเท้า และถุงมือ โดยหาตาม sarcophagus ตามห้องต่าง ไอ้ที่เหมือนโลงนั่นเอง และไปที่ห้อง Legion of the Dead Relic (ห้องที่มีพวกวิญญาณทหารเฝ้าอยู่ หยิบหมวกปุ๊ปอัดเราปั๊บ) ไปอ่านเควส Gangue Shade
      ได้ครบสี่ชิ้นเดินทางต่อไปทางที่จะเจอกับ brood mother จะมีหีบอยู่ หยิบ insignia ติดมือมากลับมาถึงเมือง นำกลับไปที่ The Shaperate จบเควส (เควสนี้ผมไม่จบแฮะเหมือนลืมหยิบกลับไปหยิบใหม่มันเอ๋อมีรูปสัญลักษณ์เควสขึ้นแต่กดไม่ได้ กำ ) ชุดเกราะเซตนี้ก็โอเคนะให้คนแคระใส่
      เพิ่ม กลับไปที่ The Shaperate ไปแตะตรง Memory ที่เป็นแท่นหนังสือในนั้น จบเควส ผมหลงตั้งนานหาไอ้แท่นไม่เจอ ก็เป้ามันชี้ไปหีบก่อนเจอเจ๊ brood อยู่ได้

      Exotic Methods
      Type: Crafting
      Start: Herbalist Widron in Royal Palace
      Destination: Herbalist Widron
      Quest Tips: ไปคุยกับ Herbalist Widron ที่อยู่ใน เขตพระราขวัง แถว western chamber เค้าจะขอให้คุณหาส่วนประกอบและปรุงยามารักษา คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ส่วนประกอบมี elfroot(x4), lifestone (x2), fask,concentrator agent (x2) และต้องใช้สกิลปรุงสมุนไพร ระดับมาสเตอร์(ยากตรงนี้ ยังอัพมาไม่ถึงซักตัว)

      Lost to the Memories
      Type: Messenger
      Start: Orta in the Shaperate
      Destination: Ortan Thaig
      Quest Tips: Orta ที่อยู่ที่ shaperate จะขอให้คุณช่วย หาบันทึกเกี่ยวกับตระกูลของเธอ ในระหว่างที่คุณผจญภัยอย่างสนุกสนานใน deep roads ซึ่งบันทึกนี้มันอยู่ที่ Ortan Thaig (คุณอาจไม่ต้องไปคุยกับเธอก่อนลงดีฟโรดก็ได้ ในระหว่างเดินทางเจอก็หยิบกลับมา ถ้าคุณสำรวจทั่วเจอแน่นอน) หลังจากเก็บคืนมาได้แล้ว นำบันทึกนี้ไปให้เธอ เธอจะโครตดีใจเพราะประวัติกลับคืนมาได้เป็นคนชั้นสูงในเมืองซะที เพื่อรับรางวัลกับเธอคุณต้องเดินทางออกนอก Orzarmar หรือ Frobackmountiansไปก่อนแล้วกลับมาค่อยไปหาเธอใหม่เธอจะตบรางวัลคุณอย่างงาม หาเธอเจอที่ Assembly chamber


      Of Noble Birth
      Type: Messenger
      Start: Mardy
      Destination: Bhelen or Harrowmont
      Task: Gain a birthright for your illegitimate son
      Quest Tips: เควสนี้จะเล่นได้ก็เมื่อคุณเล่นเป็นคนแคระ ชนชั้นสูงด้วยนะครับ(ผมก็ยังไม่ปั้นไว้ซักตัว) ในช่วงเริ่มเกม โดย Mardy จะขอให้คุณช่วยไปขอร้อง Bhelen หรือ Harrowmont ให้รับรองลูกเธอให้เข้าเป็นคนในตะกูล โดยถ้าคุณออกจาก Orzammar โดยไม่ได้ทำให้เด็กเข้าอยู่ในตระกูลไหนเลย เมื่อคุณกลับมาอีกทีเด็กนี้จะไปอยู่ใช้ ชีวิตรันทด dust town คนที่ไม่ได้เล่นคนแคระ ก็เควสนี้ล้มเหลวไปตั้งแต่เข้าเมือง
      Political Attacks
      Type: Combat
      Start: Faction Supporters
      Destination: Three locations in Orzammar
      Task: Defeat the faction supporters who want you dead
      Quest Tips: ไอ้นี่ไม่รู้มันจะนับเป็นเควสไหมแต่มันเป็นเหตุการณ์ที่คุณต้องเจอหลังจากเลือกว่าจะหนุนใครเป็น KING อีกฝั่งนึงจะส่งลูกน้องมาตึ้บคุณตามสถานที่ต่างในเมือง 3 ครั้งด้วยกัน ลูกกระจ๊อกธรรมดา

      Caged in Stone
      Type: Combat Start: Royal Palace Throne
      Destination: Royal Palace Throne
      Quest Tips: เควสนี้ในเมนเควสหน้าแรกมีมั้งใน Royal Throne Room สำรวจหา codex จากนั้นก็ไปต้องนำตัวเราและเพื่อนๆไปยืนให้ถูกจุด หน้าห้องคน ในห้องตรงหัวลูกศรสองคน แล้วตัวละครเราค่อยกดสำรวจ codex ที่บัลลังค์ แล้วจะมีมังกรออกมาให้ฆ่า จะได้รับดาบ Ageless two-handed
      เควสนี้ผมก็ข้ามไปไม่ได้ทำแต่แรกมาทำทีหลังทำไม่ได้เพราะกด codex ไปแล้ว นี่ภาพการยืนให้ถูกจุด



      The Gangue Shade
      เควสนี้คุณจะเจอระหว่างทำเควส The Dead Caste ตอนที่เก็บเซตเกราะ Legion of the Dead ในเควสนั้นมาครบแล้วคุณหรือคนในปาร์ตี้ต้องใส่มัน แล้วกดที่แท่น Dead Relicในห้อง Legion of the Dead Relic จากนั้นก็จัดการกับ Gangue shade

      Precious Metals
      เควสขาย lyrium ให้เมจนี่ไปอ่านหน้าแรกในเมนเควสได้เลย สำหรับผม Godwin มันหายไปน่าจะไม่รอด ผมเลยรับมาไปขายร้านในเมือง พอกลับไปหา Rogek มันโมโหใหญ่เลยเก็บมันซะทั้งแกงค์ ปล.อย่าลืมล้วงกระเป๋ามันก่อนเจื๋อนนะครับ

      The Shaper’s Life
      Type: Exploration
      Start: Wall of Memories in Shaperate
      เควสนี้เป็นเควสสำรวจธรรมดาโดยต้องสำรวจหา Wall of Memories ใน shaperate ก่อนเพื่อเปิดเควสแล้วไปสำรวจหารูนโบราณในเมือง 3 จุด เพื่อรับรางวัล จุดแรกอยู่ตรงทางลงไปดีพโรด
      จุดที่สอง อยู่ใน caridin's cross จุดสุดท้ายอยู่ที่ dead trenchs ครบสามจุดกลับไปที่ wall of memories รางวัลเป็น XP แค่นี้

      Unintended Breakthrough
      เควสนี้จะเจอโดยบังเอิญตอนคุณเดินใน royal palace จะมีกลุ่มโจรโผล่มาจากเพดาน แล้วโจมตีก็จัดการซะทหารยามจะเดินมาขอบใจ

      Zerlinda’s Woe
      ใน Dust town จะเจอ Zerlinda เขาจะเล่าเรื่องลูกของเธอที่เกิดกับชายคนละชนชั้น จากนั้นคุณสามารถไปบอกพ่อของZerlinda หาเจอได้ในบาร์ Tapster ชื่อ Ordel ให้รับเธอและลูกกลับมาได้ถ้าคุณมีค่า persuade สูงๆ หรือถ้ากล่อมไม่สำเร็จคุณสามารถ บอกให้ Zerlinda ลูกเธอออกจากเมืองไปก็ได้ไปเป็น surface dwarf หรือจะเอาไปฝากกับหลวงพี่ ที่เราช่วยตั้งโบสถ์ให้ก็ได้เขาจะรับทั้งแม่ทั้งลูกไว้ดูแล หรืออาจแนะให้เธอส่งเด็กลงสู่deep roads ก็ได้

      Thief in the House of Learning
      Shaper Assistant Milldrate ที่ shaperate จะขอให้คุณช่วยหาหัวขโมย Shady Corebi ที่ขโมยหนังสือ “A Volume of Shaper History” ไปโดยหัวขโมยอยู่ที่ Dust town (ที่รอยสักเติมหน้ายืนอยู่กลางถนนเห็นชัดๆ) ไปคุยจะรู้ว่าหนังสือกำลังถูกขายอยู่ที่ Proving town ไปที่นั่นแล้วไปทวงคืนมาจาก Fixer Gredin (จากศพมันตามเคย) ได้มาแล้วเลือกได้ว่าจะขายให้ผู้รับซื้อที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้นหรือจะนำไปคืน

      Proving After Dark
      Type: Combat
      Start: Proving Armsman in Proving Grounds
      เควสนี้คุณต้องไป ที่ Proving grounds แล้วเดินไปข้างในจะ เจอกับ Armsman อยู่ในห้องเค้าจะให้เราลงต่อสู้ในสนามประลอง สี่รอบ มันส์กว่าตอน สู้ในเควสหลัก หัวเหลืองทั้งนั้นชนะให้ได้เพื่อชื่อเสียงและเงินทอง


      จบเมืองนี้แล้วมั้ง อาจข้ามบางเควส


      Sidequest เสริมจากคุณ darkman799 (OSTAGAR)
      สำหรับคนที่เริ่มเล่นใหม่นะครับผมไม่อยากให้พลาดทำเควสสองเควสใน Ostaga นะครับ
      ได้ของมาใช้ดีพอควรครับสำหรับเริ่มต้นเกมส์อย่างนี้ ป.ล.patch 1.02 นะครับ(เหมือนอันเก่ามันไม่มีค่า+อาวุธให้)

      1.ไปเอากุญแจหีบจากนักโทษทีี่แขวนอยู่ในแคมป์ดันแคนนะครับ ชั้นบน
      อย่าไปคุยกะผู้คุมนะ คุยกะนักโทษเลย จะได้กุญแจมาเปิดหีบของTranquil ที่อยู่หน้าทางขึ้นไปหา ALLISTER
      แล้วค่อยเปิดหลังกลับมาจากป่าครับ ได้หมวก Mage ดีๆมาใช้กะของอีกหลายชิ้นคุ้มนะครับ


      2.เควสจากศพของ มิชชั่นนารีจ๊อคบี้
      อันนี้จะได้ของหลายชิ้นเลยนะครับ
      จะเจอศพตรงหน้องน้ำที่เจอหมาป่าตอนแรก ก่อนเจอทหารที่บาดเจ็บ


      แล้วมันก้จะมีมาร์คในแผนที่ถ้าเดินไปใกล้ๆมาร์ค
      กด tab ดูจะเขียนว่า Chasind Trail sign

      อันแรกจะอยู่ที่ camp ไฟ ที่เจอทางขวาหลังจากเจอ darkspawn กลุ่มแรกครับ
      แล้วเดินย้อนไปทางขวาของแผนที่ไปเจอcamp ไฟ

      อันสองอยู่บนเนินทางขวา(หันหน้าหาต้นไม้ที่ล้ม)

      อันที่3 อยู่ที่หลังจากลุย Darkspawn กลุ่ม2(เลยแค้มป์ไฟไป)

      อันที่4 อยู่เลยไปอีกหน่อยแล้วจะจอทางข้ามไปสู้กะหมาป่ากลุ่มที่2
      ถ้าเดินข้ามไปตรงที่หมาป่าโผล่มาจะมีหีบอีกหนึ่งหีบ
      จะได้จดหมายฉบับที่2 มา เราก็สำรวจต่อ

      อันต่อมาก่อนไปเจอ Darkspawn สู้กับหมาป่า

      อันที่ 6อยู่ที่ใต้ต้นไม้ที่มีหีบและกรงขังเปล่าๆ
      (ทั้งนี้ถ้าไม่เดินตามทางที่ผมเดินก็กด tab เอาละกันครับ)

      อันสุดท้ายอยู่ตรงหน้าสะพานที่เจอ mage
      หลังจัดการเรียบร้อย มากดสำรวจ แล้วเดินข้ามสะพานไปทางขวาๆ
      ที่ท่อนไม้จะเป็นที่ซ่อนสมบัติครับ

      อ้ออีกอย่างถ้าเราสู้กับพวก Darkspown บนเนินที่มันกำลังสู้กับหมาป่าอยู่
      ถ้าเสร็จแล้วให้เดินกลับมาที่กองไฟแรกอีกครังจะมีกล่องซ่อนอยู่ในกองไฟครับ
      เลือกได้2ทางคือ หยิบทั้งกล่อง หรือ เปิดเอาของข้างในมา
      จะขึ้นเควสให้เอาของไปส่งที่ Red criff ครับ

      หวังว่าเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
      เกมส์นี้หมั่นกด tab จะทำให้เราไม่พลาดอะไรดีๆไปนะครับ
      Last edited by pongkrit03; 8 Jan 2010, 23:47:07.

      Comment


      • #18
        Originally posted by doglife View Post
        well well well. is there anywhere i can get this game in Chiang Mai? if not where could i order form the site? what about the shipping? is anyone sell this game here?


        kam pim thai mai dai.windows 7 mai dee yang tee kid
        ไม่ใช่ว่าวินโดวส์เซเว่นไม่ดี เพราะนี่ผมก้อใช้วินโดวส์เซเว่น พอดีว่าติดตั้งเป็น ไม่ใช่สักเเต่คลิก next next next finish

        Comment


        • #19
          ลด ขนาดไงหว่า ขอ Code นิด นึกไม่ออก เหอๆ
          ขี้เกียจอัพใหม่แล้วงะ

          Comment


          • #20
            รวมไกด์อาชีพต่างๆ



            1.ARCRANE WARRIOR ทำโดยคุณ NeoCom ครับผม
            แนวทางการเล่น Arcane Warrior เมื่อ Str ถูกคำนวนโดยใช้ Magic(Spoil Warning)

            หมายเหตุ บทความนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล จงอย่างเชื่อ ขอให้ไปลองเอง

            ทักทายกันก่อน
            ___ผมนั่งนึกอยู่ 2 วันว่าจะเขียนบทความอันนี้ดีหรือปล่าว เนื่องจากเกมส์นี้ก็ออกมานานแล้ว หลายคนก็จบกันไปคนละหลายรอบแล้ว แต่ก็คิดว่าด้วยความดีของเกมส์ บวกกับการได้เป็นเกมส์แห่งปีของ IGN เชื่อว่ายังมีนักเล่นอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่เคยได้ลิ้มลองเกมส์นี้ เลยตกลงใจที่จะเขียนขึ้นมา

            ทำไมต้อง Arcane Warrior
            ___เกมมส์ Dragon Age:Origins นี้แบ่ง Class ออกเป็น 3 Class แต่ละ Class มี Specializations(ต่อจากนี้ขอเรียก Spec) ให้เลือกอีก 4 ชนิดโดยเลือกใช้ได้ 2 ชนิด หลังจาก 2 รอบแรกที่ผมได้เล่น Warrior(จากนี้จะขอเรียกว่า War) และ Rogue ก็ตกลงใจว่ารอบนี้จะเล่น Mage
            ___หลักจากการเล่น 2 รอบแรก ผมก็ได้สัมผัส Mage 2 คนที่รวมคณะ คือน้อง Mory และป้า Wynne ทั้ง 2 คนนี้มี Spec ติดตัวที่ต่างกัน กล่าวคือ Shapeshifter และ Spirit Healer ตามลำดับ พบว่าทั้งสอง spec น่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ในเมื่อมี Spec เหล่านี้ให้ใช้แล้ว จะสร้างมาอีกทำไม จึงมองไปที่ Spec ที่เหลือ นั่นก็คือ นักเวทย์ฝ่ายมืดผู้ใช้ เลือด แทน mana กับ นักเวทย์โหด ผู้แปลงพลังเวทย์เป็นความแข็งแกร่ง

            ___จากที่ได้อ่านกระทู้ ทั้ง Web นอกและ Web ใน ส่วนของ Blood Mage นั้นค่อนข้างเป็นไปในทางเดียวกัน คือโหด ลื่นไหล ใช้เวทย์ได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องอาศัยการความคุมที่ดี แต่มีความเห็นที่แตกต่างกันในส่วนของ Arcane War หลายคนบอกว่าอ่อน บางคนบอกว่าเทพ อย่ากระนั้นเลย วัยรุ่นต้องลอง
            ___และหลังจากที่ได้ลองแล้วก็พบว่า นี่เป็นอีก Spec หนึ่งนี่เล่นสนุก เป็นลูกผสมของ War และ Mage อาจจะไม่ดีสุดโต่งทั้ง 2 ด้าน แต่ก็ดีพอที่จะเล่นได้ทั้ง 2 ด้านแบบไม่เสียอารมณ์ และผมถือว่านี้เป็น Spec ที่แปลกแตกต่างที่สุดของสาย Mage เลยทีเดียว

            ชีวิตเมื่อเริ่มต้น
            ___"ข้าคือ Mage" แน่นอน 6 Lv แรกวิถีชีวิตของเราไม่ต่างไปจาก Mage อื่นๆ ข้อแนะนำเพียงอย่างเดียวของช่วงนี้คือ "จงใช้ Point ทุกชนิดอย่างประหยัด" เพราะกว่าเราจะรู้ตัวจริงๆว่าเราต้องการอะไร ก็ต่อเมื่อได้เป็น Arcane War ไปแล้ว ใส่ Attributes เท่าที่จำเป็นในการใช้เวทย์หรือของอื่นๆ
            *ผมพบว่า แม้จะเล่นในระดับ Nightmare เราก็สามารถผ่านช่วงแรกของเกมส์จนจบสงครามที่ Ostagar ได้โดยอาศัยแค่เวทย์ 3 ชนิดได้แก่ Arcane Bolt / Paralyze และ Heal

            ปลดล็อค Arcane War
            ___หากเป็นการเล่นรอบแรก หรือท่านที่ยังไม่ได้ปลดล็อค Spec นี้ หลักจากจบศึกที่ Ostagar คุณจำเป็นที่จะต้องตรงไปป่าของเหล่า Elf นั้นคือป่า Mirkwood...คนละเรื่องแล้ว เอาใหม่ นั้นคือป่า Dalish ของพวก Elf ป่า เพื่อรับเควส Nature of the Beast ของฝ่าย Elf แล้วมุ่งไปยัง Lower Ruins เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของ Elven Arcane warrior ใน Phylactery ผู้ถูกจองจำมานับร้อยปี แล้วอย่าลืมขอความรู้เพื่อปลดล็อคเป็นรางวัลละ



            Attributes
            Str - ลืมมันได้เลยทั้งในฐานะ Mage และในฐานะ Arcane War คุณไม่จำเป็นจะต้องใช้มัน มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
            Dex - เพื่อถือและมีผลต่อความแรงของอาวุธ"แทง" เพิ่มอัตราการหลบหลีก และความแม่นยำของอาวุธทุกชนิด
            เราอาจต้องใช้ Dex เมื่อรู้สึกว่าฟันศัตรูไม่ค่อยโดน ส่วนเรื่องการหลบหลีกผมถือเป็นของแถม แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งทุ่ม point ลงไป ถ้ายังไม่ใช้ Spell และ Talent ของเพื่อนๆให้ได้ประโยชน์สูงสุด(ติดตามในส่วนของ spell)
            Willpower - ทุก 1 แต้มจะเพิ่ม mana ให้ 5 หน่วย ส่งผลโดยตรงกับจำนวนและความถี่ที่จะใช้เวทย์
            แต่เดี๋ยวก่อนถ้าคุณคิดจะเลือก Blood mage เป็น Spec ที่ 2 แล้วละก็ mana ก็คงไม่ใช่ของจำเป็นเท่าไหร่นัก เอาแค่พอใช้แต่ก็ต้องลง point ไปบ้างเพราะกว่า Spec 2 จะมาก็ปาเข้าไป lv 14 ส่วนเท่าไหร่ถึงจะพอผมคงบอกไม่ได้ คงต้องถามตัวคุณเอง
            Magic - นี่คือแทบทั้งชีวิตของคุณ เมื่อคุณคือ Arcane war Magic จะเป็นทั้งพลังเวทย์มีผลโดยตรงต่อความแรงและระยะเวลาของเวทย์ที่ใช้ และเมื่อมันถูกคำนวนเป็น Str จึงมีผลโดยตรงต่ออาวุธประชิดทุกชนิดยกเว้นมีดสั้น(เป็นอาวุธแทง ใช้ Dex คำนวน) ความสามารถในการใส่เกราะหนักและความสามารถในการถืออาวุธ แล้วคุณจะพบว่า คุณสามารถใส่เกราะได้ทุกชนิด
            ข่าวด่วน Arcane War ใช้ Magic คำนวนแทน Str ในทุกสถานะการ นั้นแปลว่า มันถูกนำไปคำนวนเมื่อคุณ"ข่มขู่"(intimidation) ด้วยเช่นกัน
            Cunning - เกือบไร้ประโยชน์ ปล่อยให้ Rogue ประจำทีมอัพไปจะดีกว่า 16 แต้มเพื่อ Coercion ขั้น Master น่าจะเพียงพอ
            Cons - ทุก 1 แต้มจะเพิ่มเลือดให้คุณ 5 หน่วย เราคงต้องลงใช้ส่วนนี้บ้างเพื่อไม่ให้ Arcane War ของเรานิ่มเกินไป
            และเช่นกัน ถ้าวางแผนจะเป็น Blood mage นี่คงเป็น Attribute ที่ 2 ที่จะลงทุนให้มัน


            Skill เนื่องจาก Mage จะได้ skill point ทุกๆ 3 lv เราจึงไม่ค่อยมีแต้มให้ลงนัก ผมจะขอกล่าวสั้นก็แล้วกัน
            Coercion-เพิ่มทางเลือกสนทนา อัพให้เต็มถ้าต้องการบทพูดที่หลากหลาย และประโยชน์จากเควสที่มากกว่า แต่ต่อให้ไม่อัพเลย คุณก็จบเกมส์นี้ได้
            Stealing-ลักเล็กขโมยน้อย ลืมมันไปซะ ถ้า Rogue ในทีมแต้มเหลือจะอัพก็แล้วแต่
            Trap-Making-สร้างและดักจับกับดัก มีประโยชน์ แต่ให้คนอื่นอัพแทนก็ไม่เสียหาย
            Survival-ดักจับศัตรูที่หายตัวและ"รู้สึก"ถึงศัตรูที่อยู่ไกลออกไป เพิ่ม Nature Resistance มีประโยชน์ แต่ก็อีกละเพื่อนยังว่างอยู่หรือปล่าว
            Herbalism-ปรุงยา มีประโยชอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเองจะให้ป้า หรือน้อง mory อัพแทนก็ได้ พวกนั้นเค้ามี skill เบื่องต้นมาแล้ว
            Poison-Making-สร้างและใช้พิษ ในหลายสถานะการการใช้พิษอาจช่วยให้อะไรง่ายขึ้น เรียนขั้นต้นเพื่อสามารถใช้พิษได้ทุกชนิด ที่เหลือให้เกย์ประจำทีมฝึกให้จะแจ่มกว่า
            Combat Training-ช่วยให้รับ damage ได้มากขึ้นก่อนที่จะถูกยกเลิกการร่ายเวทย์(interrupts) และในขั้น 2 ช่วยเพิ่มอัตราการฝื้น Mana ถ้าไม่ยื่นร่ายเวทย์ใหญ่กลางดงติงก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เรียน 2 ชั้นเพื่อ mana regeneration ก็พอไหว
            Combat Tactics-เพิ่ม tactics slot เกือบไร้ประโยชน์ถ้าเราคุมตัวเราเอง ถ้า point เหลือ ใส่ไว้ซักแต้มสองแต้มก็แล้วแต่ชอบ

            อาวุธประจำกาย
            อันที่จริงส่วนนี้น่าจะอยู่หลังจากเรื่องของเวทย์ แต่ผมคิดว่าเรื่องเวทย์คงต้องร่ายกันยาว เลยยกส่วนนี้มาเขียนก่อน
            เนื่องจาก Arcrane War นำ Magic มาคำนวนแทน Str ทำให้เราสามารถถืออาวธได้แทบทุกชนิดจะยกเว้นแค่ มีดสั้น และ ธนู ที่ใช้ Dex ในการถือและคำนวนความแรง ผมจึงขอตัดอาวุธทั้งสองอย่างนั้นทิ้งไปก่อน

            ดาบใหญ่-ขวานยักษ์ (Two-Hand Weapon)Strength modifier 1.1 ในที่นี้คือ Magic modifier นั้นแปลว่า ยิ่ง magic สูงตัวคูณความแรงก็ทำให้ Damage สูงขึ้นด้วย แต่ด้วยอัตราการโจมตีที่ช้า และ Arcane War ก็ไม่แน้นความแม่นยำนัก ถ้าวึดบ่อยๆก็แลดูจะปล่าวประโยชน์ และเมื่อไม่มี Talent ทดแทนข้อเสียเหมือนพวก Warrior แท้ๆเค้ามีกัน จุดอ่อนจุดนี้เลยยิ่งเด่นชัด นอกเสียจากรักจะเล่นสายนี้จริงๆ คงต้องแบ่ง Attribute ไปลง Dex ให้มากขึ้น
            อาวุธมือเดียว ใช้ง่าย มีหลายเล่มให้เลือกใช้ในเกมส์ ด้วยอัตราการโจมตีที่ดีกว่าก็ดูเหมือนจะเหมาะกว่า ยิ่งถ้ามี enchants ด้วยแล้วจะยิ่งเห็นผลว่า ถี่กว่า ย่อมดีกว่า
            ดาบ+โล่ เหมือนข้างบน ในเมื่อมือยังว่างถือโล่ไว้อุ่นใจกว่า เพิ่มการหลบหลีกและกันธนู"นิดหน่อย" แถมด้วย option ที่มากับโล่ ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
            ดาบ+มีด ข้อดีคือจำนวนการโจมตีที่เพิ่มขึ้นต่อรอบ ถ้าอาวุธผ่านการ enchants มาทั้ง 2 ชิ้นไม่ว่าจะด้วยเวทย์หรือด้วย Rune ก็จะส่งผลเพิ่ม แต่ข้อเสียคือเมื่อไม่มี Talent การถืออาวุธ 2 มือจะโดนหัก Damage ออกไปส่วนหนึ่ง และมีดสั้นยังอาศัย Dex ในการถือ ทำให้ไม่สามารภถือมีดสั้นระดับสูงได้ ถ้าอยากถือจริงๆก็ต้องเสีย Attribute ไปมาก ซึ่งแลดูจะไม่คุ้มนัก
            ไม้เท้าเวท จริงอยู่ชาติกำเนิดเราคือ mage แต่ผมไม่คิดว่าเราจะเหมาะกับไม้เท้าอีกต่อไป เพราะ Damage ที่ได้จากไม้เท้านั้นเทียบไม่ได้เลยกับอาวุธประชิด ขอดีข้อเดียวที่คุณยังควรพกมันอยู่คือ มันไม่มีวันพลาดเป้า หรือคุณอาจเอาไว้ยิงสวนพวกนักธนูที่ชอบยืนบนที่สูง สลับกับการยิงเวทย์ถ้าขี้เกียจวิ่งขึ้นไปหวด(กลับมารับบท mage ตามเดิม) และพวกมอนกึ่งบอสทั้งหลายที่หวดโดนยากเหลือเกิน พกไว้ซักอันกันเหนียวก็ดี
            สรุป ผมคิดว่าถือดาบมือเดียวเป็นอาวุธหลักจะใช้โล่หรือมีดสั้น(ระดับต่ำ)ขึ้นอยู่กับสถานะการ และมีไม้เท้าไว้ซักอันที่อาวุธ set ที่ 2 น่าจะลงตัว

            ชุดเกราะ
            ในส่วนนี้ผมก็คงไม่เขียนอะไรมากอีกเช่นกัน แค่ต้องการจะย้ำอีกครั้งว่า คุณสามารถใช้ชุดเกราะได้ทุกชนิดในเกมส์ ตั้งแต่เสื้อคลุมเวทย์จนไปถึง Massive Armor แล้วแต่ละอย่างต่างกันอย่างไร
            ต่างกันที่ค่า Fatigue ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนเล่นเกมส์นี้ทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจถึงค่า Fatigue ถ้าแปลตรงๆก็จะแปลว่า "ความเหนื่อยล้า" "ความอ่อนเพลีย"
            มีผลอย่างไร ยิ่งค่านี้มากเท่าไหร่ เราก็ต้องใช้ mana หรือ Stamina เพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยค่านี้จะแสดงเป็น % ตัวอย่างง่ายๆ
            ตัวอย่างที่ 1
            Arcane War ของเราใส่เกราะเบา Fatigue รวม 10% ร่าย Heal ใช้ mana ปรกติ 20 หน่วย ใช้เพิ่ม 10% = 22 หน่วย
            ตัวอย่างที่ 2
            Arcane War ของเราใส่เกราะหนัก เปิด Combat Magic Fatigue รวม 80% ร่าย Heal ใช้ mana ปรกติ 20 หน่วย ใช้เพิ่ม 80% = 36 หน่วย
            ตัวอย่างที่ 3
            Arcane War ของเราใส่เกราะหนัก เปิด Combat Magic Fatigue รวม 80% ร่าย Blizzard ใช้ mana ปรกติ 70 หน่วย ใช้เพิ่ม 80% = 126 หน่วย
            อย่าเพิ่งตกใจ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด จะขอกล่าวในส่วนของ Spell และเทคนิคการควบคุม
            โปรดทราบ ค่า Fatigue ไม่นำไปคำนวนเมื่อเปิดใช้ Sustained เพราะการเปิดใช้ Sustained คือการดึง mana ออกไปจาก mana pool ไม่ใช่การใช้แบบ Activated หรือพูดอีกอย่างก็คือ ค่า Fatigue นำไปคิดเมื่อใช้ Spell หรือ Talent แบบ Activated เท่านั้น

            ที่ว่ามาเหมือนจะมีแต่ข้อเสีย ข้อดีละ เนื่องจากเกราะในเกมส์นี้มีเกราะ set อยู่หลาย set นั่นทำให้เราสามารถเลือกใช้ได้ในหลายๆสถานะการ เช่น
            Arcane War ของเราใส่เกราะ Wade's Superior Drakeskin Armor Set +70 Fire Resistance + Heroic Defense = 80%++ Fire Resistance
            ปรกติโดนมังกรพ้นไฟ เสีย Hp 70 หน่วย หัก Fire Resistance เหลือ 14 หน่วย
            แหล่ม
            หรือด้วยเกราะ Massive + Rock Armor รวม 35++ Armor เราก็เป็น Tank ยืนรับ Damage ได้ชิลๆ

            Spell
            Spell เป็นส่วนที่มีลายละเอียดมากส่วนหนึ่งของเกมส์ เพื่อให้ไม่บทความส่วนนี้ยาวเกินไป ผมจะกล่าวถึงเฉพาะเวทย์ที่เห็นว่าน่าสนใจสำหรับ Arcane War

            Arcane Warrior Spells มี 4 spell เหมือน Spec อื่นๆ และแน่นอน ควรค่าแก่การพูดถึงทั้ง 4 Spell
            Combat Magic - Sustained / Upkeep: 50 (ไม่บอกในเกมส์ แต่ถูกหักเมื่อใช้) / Fatigue: 50% / Cooldown: 10s
            - Spell ประจำ Spac ของ Arcane ไม่ว่าจะเปิดใช้หรือไม่ Mage ผู้มี spell นี้ติดตัวจะนำค่า Magic ไปคำนวนแทน Str เพื่อสวมใส่อาวุธและชุดเกราะ ด้วย spell นี้ จะทำให้ mage นิ่มๆคนเดิมกลายเป็น mage สารพัดประโยชน์ Arcane War จะสามารถสวมใส่ และถืออาวุธได้แทบทุกชนิดในเกมส์
            และเมื่อเปิดใช้ค่า Magic จะถูกนำไปแทน Str เพื่อคำนวนค่า Damage เท่านั้นยังไม่พอ ยังนำไปคำนวนเป็น Attack Bonus อีกด้วย นั้นหมายความว่านอกจากจะตีแรงขึ้น ยังตีแม่นขึ้นอีกด้วย
            Attack Bonus: 5.0 + (Spellpower / 5.0) / Damage Bonus:นำ Magic ไปคำนวนแทน Str
            Aura of Might - Passive Spell เสริมความสามารถของ Combat Magic เพิ่ม bonus ให้ค่า attack และ damage ให้มากขึ้น พร้อมของแถม + bonus ให้ค่า defense อีกต่างหาก
            Shimmering Shield - Sustained เกราะเวทย์ ที่ลดความเสียหายด้วยการเพิ่ม bonus armor และ resistances ทุกชนิดอีก 75 % ข้อเสียข้อเดียวคือมันจะกิน mana ไปเรื่อยๆจน mana คุณเหือดไปหมดหลอด แล้วเกราะนี้ก็จะหายไป ด้วย Spell นี้ คุณสามารถเป็น Tank ได้เลย
            Fade Shroud - Passive เมื่อ Combat Magic เปิดใช้ คุณจะอยู่ระหว่างโลกแห่งความจริงและ The Fade เพิ่มค่า mana regeneration และทำให้หลบการโจมตีได้ เป็น spell สุดท้ายที่เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่ฝึกมัน นอกเสียจากว่าคุณอยากได้ Point ไปอัพอย่างอื่นจริงๆ

            Primal เวทย์กลุ่มธาตุ เวทย์กลุ่มนี้ถือเป็นพื้นฐานของนักเวทย์สายโจมตี แต่ก็มีเวทย์สนับสนุนอยู่ด้วย
            Fire
            Flaming Weapons
            enchant อาวุธด้วยไฟ ใช้ได้ดีโดยเฉพาะกับพวก undead ทั้งหลาย ///
            Fireball โยนนำเข้าไป ได้ทั้งสร้าง Damage ล้ม และ Damage Overtime
            Earth
            Rock Armor
            Sustained ที่ช่วยเพิ่ม Armor ตลอดการใช้งาน ข้อที่ดีกว่า Shimmering Shield คือมันไม่ดูด mana ///
            Stonefist ข้อดีคือ ยิงไปที่ศัตรูที่ถูกแช่หรือทำเป็นหิน ตูมเดียวดับ (shattering)
            Cold
            Frost Weapons
            enchant อาวุธด้วยน้ำแข็ง แรงน้อยกว่าธาตุไฟ แต่ก็เอาไว้ใช้กับพวกกันไฟ หรือพวกปีศาจธาตุไฟได้เป็นอย่างดี ///
            Cone of Cold เวทย์แช่แข็งหมู่ ที่มีประโยชน์มาก ได้ทั้งรุกและรับในเวทย์เดียว สามารถผสมเพื่อทำ shattering ได้อีกด้วย ถือเป็นเวทย์ที่ขาดไม่ได้เลย ///
            Blizzard พายุหิมะลูกนี้ ผมแทบไม่เคยใช้มันเดี่ยวๆเลย เพราะนี้คือส่วนผสมของเวทย์ที่รุนแรงยาวนานที่สุดของเกมส์ "Storm of the Century"
            Electrical
            Tempest และแน่นอน นี่คือส่วนผสมของ "Storm of the Century"
            Chain Lightning เวทย์โจมตีหมู่ที่รุนแรงมากทีเดียว แรงโดยไม่ต้องผสม

            เวทย์กลุ่มธาตุนี้นับว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมส์นี้ หรือแม้แต่เกมส์ RPG อื่นๆ แต่ ถ้าคุณมีนักเวทย์มากกว่า 1 คน ผมแนะนำว่า ยกหน้าที่ร่ายเวทย์กลุ่มนี้ให้เพื่อนคุณจะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมีน้อง Mory ข้างกายเป็นประจำ เธอมีเวทย์กลุ่มน้ำแข็งติดตัวถึง 2 ขั้น สายฟ้า 1 ขั้น แต่นั้นก็แล้วการจัดทีม style ของคุณเอง
            แจ้งให้ทราบ enchant ธาตุไฟ Flaming Weapons และ ธาตุน้ำแข็ง Frost Weapons ไม่สามารถทับกันได้ จึงเป็นการดีที่จะมอบหน้าที่เปิดใช้ 2 เวทย์นี้โดยนักเวทย์คนเดียวกัน แล้วเลือกเปิดตามสถานะการ
            Creation เวทย์กลุ่มสนับสนุน ผมขอกล่าวแค่สั้นๆในกลุ่มนี้ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอะไรซับซ้อนทั้งในส่วนตัวเวทย์เองละการใช้งาน
            Healing Spells ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวทย์กลุ่มนี้ดี ขอสังเกตเดียวคือ ถ้านักเวทย์ของคุณพอจะมี Point มีเหลือ Heal และ Rejuvenate น่าจะมีติดตัวทุกคน(ไม่มีก็ไม่เสียหาย)
            Enhancement เวทย์กลุ่ม Buff ใช้งานได้ดีทุกเวทย์ ทั้งเสริมโจมตีและเสริมป้องกัน แต่ผมพบว่า กับศัตรูปรกติคุณแทบไม่จำเป็นต้องพึ่งมันเลย ถ้าคุณชอบไปไหนมาไหนกับป้า Wynne ให้ป้ารับภาระนี้จะดูเหมาะกว่า
            Glyph Spells คู่ควรแก่การกล่าวถึงที่สุดในกลุ่มนี้
            Glyph of Warding เพิ่มอัตราการหลบ missile attacks เพิ่ม mental resistance และที่พลาดไม่ได้ เพิ่ม bonus defense ให้ฝ่ายเราทุกคนที่อยู่ในวงอีก 30 แต้ม
            Glyph of Repulsion ผลักศัตรูที่เข้ามาในวงให้ล้มลงคือผลโดยตรง แต่ที่เด็ดคือ มันสามารถผสมกับ Glyph of Paralysis เพื่อสร้าง "ระเบิดนะจังงัง" Palalysis Explosion เป็นเวทย์ซื้อเวลาที่ช่วยได้มากทีเดียว(เด็ดดวงมาก ขอบอก)
            Glyph of Neutralization ภายใต้วงแหวงเวทย์นี้จะลบทุกอย่างที่เป็นเวทย์ ทั้งสถานะทุกชนิด Mana และ mana regeneration นี่ทำให้นักเวทย์ง่อยเปลี้ยเสียขากันเลยทีเดียว ข้อควรระวังอย่างยิ่ง ถ้าคุณคือ Arcane War คุณก็คือนักเวทย์ หากทะลึ่งวิ่งเข้าไปหวดศัตรูที่อยู่ในวงเวทย์นี้ คุณก็จะได้รับผลเช่นเดียวกัน
            Summoning Spells เวทย์กลุ่ม Summon นี้ผมว่าไม่เหมาะกับ Arcane War เท่าไหร่ Spell Wisp ช่วยเพิ่ม WillPower แลกกับ Upkeep 30 ถือว่าไม่มาก แต่ถ้าคุณไม่คิดจะร่ายเวทย์สายโจมตีบ่อยๆผมว่าไม่ค่อยเห็นผล Stinging Swarm ถือว่าโหดเอาเรื่อง แมลงพวกนี้จะเปลี่ยนเป้าหมายถ้าเป้าเก่าตาย แถมไม่กัดฝ่ายเรา แต่ทางผ่าน 2 Spell หาโอกาศใช้ได้น้อยและไม่ค่อยสะดวก แล้วแต่ชอบเลยครับ
            Spirit Spells
            Anti-Magic Spells กลุ่มป้องกันและลบล้างเวทย์ เวทย์กลุ่มนี้แน้นลบล้างผลของเวทย์ทั้ง Buff และ De-buff ความเห็นส่วนตัวถ้าไม่ได้ใช้บริการ Alistair ผมว่ามี Dispel Magic ติดไว้ก็อุ่นใจดี ส่วน Spell Shield ลืมมันไปเถอะ เรามีอะไรที่แจ่มกว่านั้นอยู่แล้ว
            Mana Alteration Spells กลุ่มเวทย์ที่เล่นกับ mana Spell Might ถือเป็นของจำเป็นหากต้องการใช้ "Storm of the Century" ส่วน Mana Clash ก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากจะลบ mana เป้าหมายแล้วยังกลายเป็น Spitir damage เป็นอีกเวทย์ที่เอาไว้จัดการกับพวกนักเวทย์ด้วยกัน
            Death Spells เวทย์กลุ่ม Necromencer ความรุนแรงของระเบิดศพทั้งหลายถือว่าน่าสนใจ แต่ปัญหาคือการควบคุมที่ลำบาก ทำให้ควานน่าใช้ลดลงไปมาก
            Telekinesis Spells เวทย์กลุ่มสุดท้ายของสาย Spirit Mind Blast ระเบิดจิตที่จะทำให้ศัตรูรอบๆ stun ไม่ยาวนานนัก แต่ก็นานพอจะพาตัวเองออกจากสถานะการณ์รุมกินโต๊ะ ถือเป็นเวทย์เอาตัวรอดที่ไม่น่าพลาด Telekinetic Weapons enchant ที่เพิ่มพลังทำลายเกราะ armor penetration เอาไว้ซัดพวกเกราะหนาดีนักแล Crushing Prison หยุดการเคลื่อนไหวพร้อม spirit damage เป็นอีกเวทย์ที่น่าสนใจ
            Entropy เวทย์กลุ่มสุดท้าย ที่แน้นไปในทาง De-buff
            Debilitation Spells
            Weakness ลด attack และ defense แถมด้วยการเคลื่อนที่ที่ช้าลง ทำให้ศัตรูพลาดบ่อยขึ้น ในขณะที่เราพลาดน้อยลง ช่วยแก้ที่บอกว่านักเวทย์วึดบ่อยได้อย่างดี
            Paralyze หยุดการเคลื่อนไหวศัตรู 1 ตัว ใช้ได้ดียันจบเกมส์
            Miasma นี่คือ Sustained ที่ผมเปิดเกือบตลอดทั้งเกมส์ มันคือ Aura of Weakness ศัตรูที่เข้ามาในรัศมี ถ้าความต้านทานไม่สูงพอจะติด Weakness โดยทันที และจะไม่หายจนกว่าจะออกจากรัศมี
            Mass Paralysis ตรงตัวตามชื่อ Paralysis หมู่
            Hex Spells ยันต์สั่งตาย Vulnerability Hex และ Affliction Hex ให้ผลการลด resistance เหมือนกัน แต่ Affilction มีผลถึงตัวรอบๆด้วย ที่เด็ดจริงๆขอเวทย์กลุ่มนี้คือ
            Misdirection Hex ทำให้การโจมตีปรกติของศัตรูพลาด และ critical กลายเป็นการโจมตีธรรมดา
            Death Hex ทำให้การโจมตีปรกติของเรากลายเป็น Critical
            Sleep Spells เวทย์หลับหลอนซ่อนตาย
            Horror เป็นอีกเวทย์ที่เปิดโอกาศให้เราซัดฟรี(หรือหนีรอด) และหากศัตรูติด Sleep อยู่แล้วก็จะกลายเป็น Nightmare โดน Spirit damage อย่างหนัก ถึงตายกันเลยทีเดียว
            Draining Spells
            มาถึงเวทย์ชุดสุดท้ายแล้วครับ Drain Life ใช้ได้ดีในช่วงแรก ช่วงหลังๆอาจไม่ค่อยเห็นน้ำเห็นเนื้อนัก แต่อย่างน้อยก็ยิงขั้นเวลาระหว่างรอ cool time เวทย์อื่นได้ ที่น่าใช้ของกลุ่มนี้คือเวทย์คำสาปสุดแสบ Curse of Mortality ที่ทำ spirit damage แบบ overtime แถมยังกันการ heal ทุกชนิดอีกต่างหาก ต้องจัดการด้วยการล้างเวทย์อย่างเดียว
            Specializations
            Arcane War ไม่ใช่ Spec เดียวของสายเวทย์ และแน่นอน คุณยังเลือกได้อีก 1 สาย แต่จะเลือกอะไรดี

            Shapeshifter ผู้จำแลงร่าง ทันทีที่คุณแปลงเป็นสัตว์อื่นผลของ Spell Arcane War ก็จะหายไป ... ผมว่านี่ไม่ใช่ทางเลือก T T

            Blood Mage เวทย์แห่งเลือด ด้วย spell Sustained อันเป็นที่มาของ Blood mage >
            Blood Magic ที่จะใช้เลือดแทน Mana ในอัตราที่ต่ำกว่า(และจะต่ำลงไปอีกถ้ามี item ของ blood mage 2 ชิ้น) ปัญหา mana ไม่เพียงพอหมดไป เกิดปัญหาใหม่ เลือดไม่พอมาแทน เพราะฉนั้นถ้าใครมองสายนี้เอาไว้ คุณก็ต้องแบ่งแต้ม attribute ลงไปที่ Cons แทนที่จะเป็น willpower
            ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของ Blood Mage คือเวทย์ Heal ทั้งหลายจะมีผลลดลง 10 % แต่เนื่องจาก Cool Time ของ Blood magic ที่ต่ำมาก แค่เพียง 10 วินาที การเปิด-ปิด spell นี้จึงเป็นทางเลือกเหนึ่ง หรือจะใช้วิธีโหดๆด้วย spell
            Blood Sacrifice ที่จะดูดเลือดเพื่อนร่วมทีม 50 หน่วย เพื่อมาเติม Hp ของเราได้ 100 หน่วย
            Blood Wound ผมว่านี่เป็นเวทย์โจมตีวงกว้างที่แจ่มสุดๆในเกมส์ เพราะนอกจากมันจะเป็นวงใหญ่ ทำ Damage overtime เหมือนเวทย์อื่นๆแล้ว มันยังทำให้ศัตรูที่โดนเวทย์นี้ ขยับไม่ได้ อีกด้วย นั้นแปลว่า ถ้า physical resistance ไม่สูงพอ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นจะต้องอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะตาย หรือจนกว่าเวทย์จะหมดลง

            หากใครคิดจะเล่นสายโหด แน้นโจมตี ผมว่า Blood Mage เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

            โปรดทราบ DLC Warden's Keep มี spell อีก 2 อย่างที่เป็นสาย Blood mage ให้ใช้แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็น Blood mage นั่นคือ Dark Sustenance และ Bloody Grasp โดยที่ Dark Sustenance จะสังเวยเลือด 40 หน่วย เพื่อ mana regenerat อย่างรวดเร็วสุดๆ ลองซ้อมใช้ก่อนตกลงใจจะก้าวเข้าสู่สายมืดได้

            Spirit Healer เวทย์สายพ่อพระแม่พระ มาพร้อมกับ 4 Spell เพิ่มเลือดที่น่าใช้ไม่แพ้กัน
            Group Heal ใช้ mana พื้นฐานเพียง 40 หน่วย แต่ให้ผล Heal ทุุกคนในทีม คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
            Revival ชุบชีวิต คือคำอธิบายของ spell นี้ ผมว่านี่ชัดเจนเพียงพอแล้ว(และนี้คือวิธีเดียวในเกมส์ที่จะชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมระหว่างการต่อสู้)
            Lifeward ร่ายใส่เพื่อนหรือตัวเองไว้ หากเลือดลดต่ำลงจนใกล้ตาย spell นี้จะเติมเลือดให้เองทันที
            Cleansing Aura ผู้ที่อยู่ในรัศมีของ Sustained นี้จะได้รับผล Heal ทุกๆ 5 วินาที และยังมีผลในการล้างอาการบาดเจ็บ injury ให้ผู้ที่อยู่ในรัศมี(ไม่นับผู้ร่าย)อีกด้วย ข้อควรระวังคือ มันดูดมานาเรื่อยๆและผลของ spell จะหมดลงเมื่อ mana หมด
            ถึงตรงนี้จะเห็นว่าเกมส์นี้มี spell พื้นฐานถึง 64 ชนิดและสำหรับ spec อีก อย่างละ 4 ชนิด การวางแผนการเรียน spell ไว้ล่วงหน้าจึงน่าจะเหมาะกว่า เพราะนั้นจะทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นและได้ใช้ spell ที่ต้องการอย่างแท้จริง
            จากเรื่องของ Armor ที่เคยได้กล่าวไว้ จะเห็นว่า ปัญหาหนึ่งของ Arcane War คือเมื่อเปิด Combat Magic จะมีค่า Fatigue เพิ่มขึ้นอีกถึง 50% และเมื่อรวมกับ Fatigue ของชุดเกราะหนักที่มีประมาณ 20-30% ทำให้มีค่า Fatigue สูงถึง 80% ได้ แต่ Combat Magic ก็เหมือน spell Sustained อื่นๆ คือเปิดและปิดได้ การวางแผนการใช้เวทย์และเปิด-ปิด spell จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้มาก

            เช่นเมื่อเห็นศัตรูอยู่ไกลออกไป ปิด Combat Magic แล้วโยน fireball เข้าไป หรือร่ายเวทยใหญ่นำเข้าไปก่อน วิ่งเข้าไปจับ Paralyze ตัวปัญหา เปิด Combat Magic เปิด Miasma แล้วค่อยลุยพวกที่เหลือ(หรือเก็บตัวปัญหาก่อนก็แล้วแต่)

            Talent
            อย่างเพิ่งงง ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแต่อย่างใด จริงอยู่ว่า Arcane War ของเราไม่มี Talent ใช้เหมือนสายบู้ แต่ตราบใดที่คุณไม่ได้เล่นแบบ Solo คุณก็มีสิทธิได้รับผลของ Talent บางประเภทของเพื่อนร่วมทีม

            Champion Talents >> Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense อย่างละ 10 แต้มให้ปาร์ตี้ทุกคนในรัศมี
            Bard Talents >> Song of Valor เพิ่ม mana และ stamina regeneration ให้ทุกคนในรัศมี Song of Courage >> เพิ่ม bonus attack , damage และ critical

            COMPANIONS
            ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนร่วมทีม มีหลายทางเลือกที่สามารถเป็นไปได้ นั้นขึ้นอยู่กับความชอบและ style การเล่นของแต่ละคนไป และแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะวางตัวหลักของคุณไปในตำแหน่งใด แล้วเรายังต้องการใครอีก...

            Tank อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น Arcane War สามารถเป็น Tank ได้ แต่ผมแนะนำว่า อย่างน้อย ในทีมควรมี 2rd Tank เอาไว้อีกคน เหตุผลก็เพราะว่า Talent ที่มีประโยชน์มากๆของการเป็น tank คือ Taunt และ Disengage มีอยู่ใน Warrior เลือดแท้เท่านั้น คงจะมีปัญหาแน่ๆถ้า DD ของเราสลัดศัตรูไม่หลุด ในขณะที่ตัวหลักก็ทำอะไรไม่ได้ ก็วิ่งตามกันไปเป็นขบวน ในการเล่นระดับปรกติอาจไม่เป็นปัญหานัก แต่ถ้าระดับ Hard ขึ้นไปมันจะน่ากวนใจอย่างยิ่ง และด้วย Talent นี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นเทคติกกึ่งโกง "ลากแล้วให้เพื่อนยิง" ได้อีกด้วย

            DD ด้วย Spell สนับสนุนทั้ง Buff และ De-buff เราอาจจะรับหน้าที่นี้ซะเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ด้วย Skill และ Talent ของ Rogue ที่มีประโยชน์ไหนหลายๆสถานะการ จึงเป็นการดีที่จะมี Rogue ไว้ซักคนในทีม อย่างน้อยๆแค่เปิดหีบได้ทุกใบก็ทำให้ไม่เสียอารมณ์แล้ว

            Mage<Healer> ถ้าคุณเลือก Spirit Healer เป็น Spec ที่ 2 ตำแหน่งก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเป็น Blood mage ผมว่ามี Healer ไปไหนมาไหนด้วยก็อุ่นใจดี

            Mage<Nuker> ในทางกลับกัน ถ้าคุุณเป็น Healer เองแล้ว การจะมี Mage อีกคนในทีมเพื่อเปิดโอกาสให้สามารถใช้เวทย์ได้มากขึ้นก็เป็นความคิดที่ไม่เลว

            ตัวอย่างการจัดทีม
            Stan>>Tank/DD (Champion) สลับกัน tank ด้วย Taunt และ Disengage เปิด Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense
            Zevran>>Rogue/DD (Assassin,Duelist) งาน"เข้าข้างหลัง" เป็นงานโปรดของเค้า
            Wynne>>Mage/Healer(Spirit Healer) ตู้ยาประจำทีม
            Warden>>Mage/Nuker,Tank,Support-Debuff(Arcane War,Blood mage) ยิงเวทย์ใหญ่ตัดกำลัง De-buff ลดสถานะ แล้วหวดด้วยดาบเข้าไปช่วย Tank

            ตัวอย่างการจัดทีม 2
            Stan>>Tank/DD (Champion) สลับกัน tank ด้วย Taunt และ Disengage เปิด Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense เหมือนเดิม
            Leliana>>Rogue/Rank DD (Bard,Ranger) อีหนูส่องไกล เปิด Song of Valor เพิ่ม mana และ stamina regeneration
            Morrigan>>Mage/Nuker(Blood mage,Shapeshifter) โจมตีด้วยเวทย์เป็นหลัก ผสมเวทย์ใหญ่ เปิด Flaming Weapons สลับ Frost Weapons เพิ่ม enchant
            Warden>>Mage/Healer,Tank,Support-Debuff(Arcane War,Spirit Healer) เปิด Miasma De-buff ลดสถานะ ช่วย Tank และคอย Heal เพื่อนร่วมทีม

            เทคนิคการใช้เวทย์ใหญ่ "Storm of the Century" ในกรณีที่มีนักเวทย์ 2 คนในทีม
            นักเวทย์คนที่ 1 เปิด Spell Might
            นักเวทย์คนที่ 2 เริ่มร่ายเวทย์ใดเวทย์หนึ่ง
            นักเวทย์คนที่ 1 ร่ายอีกเวทย์ตามทันที
            ผลที่ได้ เมื่อเวทย์แรกลงไปแล้วเวทย์ที่ 2 จะตามลงไปทำให้เกิด "Storm of the Century" ทันที ศัตรูส่วนใหญ่จะตายก่อนออกจากวงเวทย์ได้

            Conclusion
            มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะเห็นภาพของ Arcane War กันบ้างแล้ว แน่นอนไม่ใช่ทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะปั้นออกมาอย่างไร อย่างไรก็ตามผมจะขอสรุปไว้คร่าวๆ

            -โดย Concept แล้ว Arcane Warrior คือนักเวทย์ผู้เปลี่ยนพลังเวทย์ให้กลายเป็นความแข็งแกร่ง แต่เกมส์ก็เปิดโอกาสให้คุณเล่นได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กลับตัวคุณเอง
            คุณอาจเล่นเป็น Healer แล้วฝึกแค่ Combat Magic เพื่อให้สามารถใส่เกราะหนักได้ แล้วไม่สนใจมันอีกเลย ไม่เปิด Sustained นี้ใช้เลยตลอดทั้งเกมส์...แค่อยากใส่เกราะหนัก

            -ถ้าคุณตัดสินใจจะเข้าไปลุยด้วยตัวเอง รับบทนักเวทย์ในคราบนักรบ นั้นก็แทบไม่ต่างอะไรกับนักรบตัวจริง แต่คุณจะไม่มี Talent เหมือนพวกพันธุแท้เขามีกัน

            -ถึง Arcane War จะไม่มี Talent แต่เรายังมีเวทย์ให้ใช้อีกเป็นโหล ซึ่งบางเวทย์ก็ให้ผลไกล้เคียงกับ Talent เช่น Stonefist ก็อัดให้ล้มได้เหมือนกัน

            -ย้ำกันอีกรอบ ถ้าคุณไม่คิดจะ Solo ยังมี Talent และ Spell ของเพื่อนร่วมทีมที่ส่งผลถึงทุกคนในทีมได้ จงใช้มันให้เป็นประโยชน์

            -ถึง Lyrium_Potion จะมีจำนวนจำกัดกว่า Health Poultice แต่มันก็เติม mana ได้ ในขณะที่ไม่มี item ใดเติม stamina ได้

            -การเปิด Combat magic จะเพิ่มค่า Fatigue อีก 50% ทำให้ต้องใช้ mana ในการร่ายเวทย์ทุกชนิดเพิ่มขึ้น ความถี่ในการใช้เวทย์จะลดลงเหลือ 2 ใน 3 แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเปิด Sustained นี้ตลอดเวลา แถม Cooldown ของมันก็แค่ 10วิ การวางแผนการใช้เวทย์จึงเป็นทางออกของปัญหานี้
            ผมเล่นจนจบเกมส์ในระดับ Nightmare โดยเจอเหตุการ mana ไม่พอใช้น้อยมาก

            -อย่างไรก็ดี Arcane War ที่ใส่เกราะหนักถึงจะไม่เปิด Combat magic ก็จะมี Fatigue อย่างน้อย 20-30% แต่ถ้าไม่ใช่เวทย์ใหญ่แล้ว สัดส่วนเพียงแค่นี้ถือว่าไม่มาก

            -หากมีปัญหา Mana ไม่พอใช้จริงๆ ลองมอง Blood mage เป็น Spec ที่ 2 อาจจะทำให้โลกทัศน์คุณเปลี่ยนไป

            -ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ได้จริงๆของ Arcane War คือเวทย์บางเวทย์ไม่สามารถร่ายทั้งที่ถืออาวุธได้ เพราะฉนั้นการร่ายเวทย์ขณะตะลุมบอนจึงเป็นข้อแตกต่างหลักของ Arcane War กับนักเวทย์อื่นๆ
            Tip ขณะตะลุมบอนด้วยอาวุธระยะใกล้อยู่ หากต้องการร่ายเวทย์ทันที สามารถใช้วิธีกึ่งโกงด้วยการกด Space Bar"หยุดเกมส์" แล้วกด / เปลี่ยนอาวุธ(โดยอาวุธ set ที่ 2 จะเป็น ไม้เท้า หรือไม่ใส่อะไรไว้เลยก็ได้) แล้วกดใช้เวทย์ Arcane War ของท่านจะร่ายเวทยทันที เมื่อร่ายเสร็จก็กด / เปลี่ยนอาวุธหลักกลับมา อย่างไรก็ตาม เมื่อจะโจมตีต่อด้วยอาวุธหลัก Arcane War ก็ต้องเสียเวลาชักมันออกมาอยู่ดี แต่อย่างน้อยด้วยวิธีนี้ ก็ทำให้ร่ายได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาเก็บอาวุธ
            ด้วยวิธีนี้ทำให้ใช้ Mind Blast หรือ Cone of Cold กลางดงศัตรูได้โดยไม่เสียจังหวะ



            สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
            ผมคงจะจบบทความนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ เชื่อว่านี่จะเป็นประโยชน์ให้ผู้สนในเล่น Arcane War ได้มีข้อมูลและแนวทางบ้าง ส่วนท้ายที่สุดแล้วจะออกมารูปแบบใดก็คง Way ใคร Way มัน

            ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการทดลองด้วยตัวเองรวมทั้งข้อมูลที่มีใน Website และ Webboard ทั้งในและต่างประเทศ หากผิดพลาดประการใดก็ยินดีรับทุกความคิดเห็น

            ขอขอบคุณ
            http://social.bioware.com/forum
            http://dragonage.wikia.com
            http://www.gamefaqs.com/boards/gento...p?board=920668
            http://forums.overclockzone.com
            และทุกๆคนที่อ่านบทความนี้ครับ


            ขอบคุณครับ


            2.Rouge ทำโดยคุณ bankbond ครับผม


            ]

            ลองทำดูเล่นๆครับ เผื่อว่ามีคนสนใจอยากจะเล่นในสายอาชีพนี้
            ----Guide นี้สำหรับ Dual Weapon ของ Rouge----
            ----ทุกตารางใน Guide นำมากจาก Prima : Official Guide Book นะครับ


            =====================================================


            "การที่จะเป็นสายอาวุธคู่ที่เก่งกาจ ต้องอดทน"

            เพราะอะไรนะหรือ?
            1.Dagger ดีๆในช่วงแรกนั้นหายาก ต้องอาศัยความอดทน สักเล็กน้อย
            2.ชุดก็เช่นกัน ชุด Rouge ดีๆนั้นก็หายาก

            ดังนั้น การดำเนินเนื้อเรื่องตั้งแต่แรกด้วยการเล่น Dual Weapon เป็นเรื่องยาก เพราะเราจะไม่มีจุดเด่นด้านใดเลย โจมตีเร็วกว่าอาวุธอื่นก็จริง แต่ตีเบา
            (ตอนยังไม่มีสกิล Momentum ตีเร็วก็จริง พอเปิด Momentum เปิดกับไม่ได้เปิด แตกต่างกันคนละโลกเลย)


            =====================================================

            Strength - 1.เกราะสำหรับ Rougeดีๆบางชนิด ต้องอาศัย Strength
            2. ถ้าต้องการเล่นดาบกับมีดสั้น ดาบดีๆต้องอาศัย Strength
            3. มีผลต่อการ Intimidation/Phy.resistance
            4. ข้อนี้ไม่แน่ใจ ว่าถ้าจะเล่นดาบกับมีดสั้นคู่กัน ความแรงของดาบจะขึ้นตาม Strength หรือเปล่า ใครมีข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยบอกกล่าวด้วยครับ
            5. เพิ่มโอกาสการติดคริติคอลของ Rouge
            สรุป - Strength เป็นค่าที่มีผลทางด้านกายภาพ ซึ่งแล้วแต่ผู้เล่นว่าจะอัพหรือไม่อัพ ส่วนใหญ่มีผลต่อชุดเกราะ อาวุธ และการคริติคอล


            Dexterity - 1.การหลบการโจมตี / เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี (คิดว่าใช่นะ)
            2.เพิ่มความรุนแรงกับอาวุธประเภท Dagger และธนู
            3.มีความจำเป็นในการอัพสกิล/การใส่อาวุธ และ ชุดเกราะบางชนิด
            4.เพิ่ม Phy.Resistance
            สรุป - Dexterity ไม่ต้องพูดอะไรมาก ว่าค่านี้คือค่าที่สำคัญที่สุดของ Dual Weapon ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในการโจมตี ความจำเป็นในการอัพสกิล ฯลฯ


            Willpower - 1.เพิ่ม Mana/Stamina 5 หน่วย ต่อการอัพ Willpower 1 แต้ม
            2.เพิ่ม Mental Resistance
            สรุป - Willpower ทำให้สามารถใช้สกิลต่างๆได้บ่อยขึ้น ก็ควรที่จะอัพไว้บ้าง หรือไม่อัพก็ไม่เป็นไร


            Magic - 1.เพิ่มความรุนแรงในการใช้เวทย์มนตร์
            2.เพิ่มผลของ Potion/Poultices/Salve สำหรับทุกสายอาชีพ
            3. จำเป็นสำหรับการใช้ Salve ระดับสูง
            4. เพิ่มค่า Mental Resistance
            สรุป - Magic ไม่จำเป็นต้องอัพ เพราะ Salve เราก็ใช้แบบ Lesser ก็ได้


            Cunning - 1.จำเป็นสำหรับการอัพสกิลหลายๆสกิลของ Rouge
            2.การหาจุดอ่อนของเกราะศัตรูสำหรับ Rouge
            3.เพิ่มโอกาสในการเจาะเกาะ / Mental Resistance / จำเป็นในการเจรจาพอสมควร
            สรุป - Cunning เป็นอีกหนึ่งStatus ที่จำเป็นสำหรับ Rouge ควรจะแบ่งกันอัพกับ Dex


            Constitution - 1.เพิ่ม Health(HP) 5 หน่วยต่อ 1 แต้ม
            2.เพิ่ม Phy.Resistance
            สรุป - Constitution ในความเป็นจริง เรามีตัวแทงค์อยู่แล้ว ดังนั้น อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องอัพ แต่อาจจะอัพเผื่อไว้หน่อยก็ได้


            ====================================================



            อย่างๆที่รู้กันอยู่ ขึ้นต้นว่า Dual Weapon คงต้องเป็นอะไรที่เป็นคู่ๆแน่ๆ แน่นอน
            เพราะสายการเล่นนี้ ใช้อาวุธคู่ ในการดึงประสิทธิภาพสกิลออกมาได้สูงสุด

            1.Dagger + Dagger การผสมผสานของมีดสั้นสองเล่ม ซึ่งอยากที่รู้กันอยู่ว่า Dagger ในเกมดีๆนั้นหายาก
            D+D มีการโจมตีที่รวดเร็วยิ่งมีสกิล Momentum ไปแล้ว ยิ่งฟันมันส์เข้าไปใหญ่
            แต่ข้อเสียของ D+D คือ สู้กับพวกเกราะหนักไม่ค่อยจะได้


            2.Dagger + Other weapon การผสมผสานของมีดสั้นและอาวุธชนิดอื่น ซึ่งการจะใช้ดาบดีๆในเกมต้องอาศัย Strength ในการสวม
            D+O มีการโจมตีที่คาดว่าน่าจะพอๆกับ D+D เมื่อ Dexterity เราเยอะพอ เพราะการใช้ Sword ต้องอาศัย Strength ในการเพิ่มความรุนแรง (คาดว่านะ)
            ข้อเสียของ D+O คือ ต้องใช้ Strength ในการสวม ซึ่งมันไม่ใช่ค่าหลักของเรา

            -ผมไม่แน่ใจในตรงจุดที่ว่า ความแรงของ Sword เมื่อเล่น DW แล้วจะใช้ Strength คิด ใครมีข้อมูลที่ถูกต้อง ช่วยชี้แนะด้วยครับ
            -อาวุธก็จะแตกต่างกันไปตามละชนิดเช่นกัน เช่น พวก Maces จะเจาะเกราะได้มากกว่า

            สรุป การเลือกอาวุธ ก็เลือกตามความชอบเลยครับ ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น

            ความจริง ข้อมูลอาวุธยังมีอีกมากมายครับ ลองโหลด Prima : Official Guide Book มาดูละกันครับ




            ====================================================



            ชุดเกราะทั้งหมด มีเป็นระดับขั้น ดังนี้ (ไปตัดมาจาก Prima Official Guide Book มาครับ)


            ชุดเกราะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
            1.Clothing เป็นชุดผ้าธรรมดาๆ หรือ ชุดของเมจ ซึ่งไม่มีอะไรมากนัก
            2.Light Armor เป็นชุดเกราะเบา เป็นชุดที่เหมาะสมสำหรับ Rouge เพราะ Fatigue ไม่เยอะเท่าไหร่ และบางชนิดมีลด Fatigue ให้ด้วย
            ดังนั้น จึงใช้สกิลได้หลายครั้งแต่บางชนิดต้องใช้ Strengthในการสวมใส่ แต่ไม่มากนัก
            3.Meduim Armor เป็นชุดเกราะน้ำหนักปานกลาง เป็นอีกชุดที่เหมาะสมสำหรับ Rouge
            เพราะมี Def ที่ดีกว่า แต่ก็แลกมาซึ้ง Fatigue และ บางชนิดต้องใช้ Strength ในการสวมใส่
            4.Heavy Armor เกราะหนัก เป็นชุดที่ไม่ค่อยเหมาะกับ Rouge สักเท่าไหร่
            เพราะเพิ่ม Fatigue ค่อนข้างเยอะ และ ใช้ Strength พอสมควร
            5.Massive Armor ลืมมันไปเลย เป็นชุดที่ไม่เหมาะกับ Rouge อย่างยิ่ง
            เพราะเพิ่ม Fatigue มหาศาลซึ่งเหมาะกับตัว Tank


            อันนี้เป็นตาราง Set เกราะต่างๆ ลองเลือกดูนะครับ


            ความจริง ข้อมูลชุดเกราะยังมีอีกมากมายครับ ลองโหลด Prima : Official Guide Book มาดูละกันครับ



            ====================================================



            โดยปกติแล้ว ถ้าจะเล่นสาย Dual Weapon คนส่วนใหญ่ คงที่จะอัพสายนี้เต็มหมดแล้ว เราจึงจะมาวิเคราะห์ ความน่าใช้ของสกิล และ สถาณการณ์ที่ควรใช้สกิล ลุยครับ
            ----ขอขอบคุณข้อมูลสกิลจากคุณ Violent ที่ได้แปลสกิลสำคัญๆ ของ Dual Weapon ไว้หมดแล้ว ในหน้าแรกของกระทู้นี้ ----


            สกิลสาย Rouge



            Dirty Fighting
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Activated
            Successive Talent: Combat Movement
            Requires: 10 Dexterity
            Friendly Fire: No
            ทำให้เป้าหมายติด Stun ในระยะเวลาสั้นๆ
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ถือว่าเป็นสกิลที่ใช้หากินในช่วงแรก
            เนื่องจากมีท่าโปรยเมล็ดถั่ว (ฮา) ที่ค่อนข้างเร็ว และ ทุกตัวในช่วงแรก แทบจะติด Stun 100%
            ท่านี้มักจะใช้ไม่ติดท่าศัตรูมีค่า Phy.Resistance ที่สามารถต้านทานได้



            Combat Movement
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Passive
            Previous Talent: Dirty Fighting
            Successive Talent: Coup De Grace
            Requires: Level 4, 14 Dexterity
            Friendly Fire: No
            ทำให้มีโอกาสโจมตีแบบ Backstab เพิ่มมากขึ้น
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็นสกิล passive อยู่แล้ว
            จึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก คือการอัพให้โจมตีแบบ Backstab มากขึ้น



            Coup De Grace
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Passive
            Previous Talent: Combat Movement
            Successive Talent: Feign Death
            Requires: Level 8, 18 Dexterity
            Friendly Fire: No
            หากศัตรูติดสถานะ Stun หรือ Paralyzed ทำให้เราโจมตีแบบ Backsteb สำเร็จ
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ถ้าจะเล่นแล้วสาย DW แล้วไม่มี passive นี้ ก็ไม่รู้จะเล่นไปทำไม
            ใช้กับท่า Dirty Fighting ได้ดียิ่งนัก



            Feign Death
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Sustained
            Range: Personal
            Upkeep: 40
            Fatigue: 5%
            Cooldown: 300 seconds
            Previous Talent: Coup De Grace
            Requires: Level 12, 22 Dexterity
            Friendly Fire: No
            หากใช้ท่านี้จะทำให้ศัตรูไม่สนใจเรา หาเป้าหมายอื่นแทน
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - สกิลแกล้งตาย ! โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
            เพราะเล่นอยู่แล้วไม่มีเวลากด และ ท่าแอคชั่นมันค่อนข้างนาน ค่อยๆ ล้มตายไปอย่างช้าๆ



            Below the Belt
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Activated
            Range: Personal
            Activation: 25
            Cooldown: 15 seconds
            Successive Talent: Deadly Strike
            Requires: 10 Dexterity
            Friendly Fire: No
            เตะผ่าหมาก และมีโอกาสทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็นสกิลที่ใช้ได้ดีในช่วงแรกอีก 1 สกิล ท่า Action ที่เร็ว แต่ใช้ในช่วงหลังแทบจะไม่มีผลเลย


            Deadly Strike
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Activated
            Range: Personal
            Activation: 25
            Cooldown: 15 seconds
            Previous Talent: Below the Belt
            Successive Talent: Lethality
            Requires: Level 4, 14 Dexterity
            Friendly Fire: No
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ธรรมดา ไม่มีอะไรมาก เป็นสกิลที่ใช้เจาะเกราะ ซึ่งถ้ามีค่า Cunning มากพอ ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องกดใช้


            Lethality
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Passive
            Previous Talent: Deadly Strike
            Successive Talent: Evasion
            Requires: Level 8, 23 Dexterity
            Friendly Fire: No
            เพิ่มโอกาสการโจมตี Critical และถ้าหากค่า Cunning ของตัวละครมากกว่า Strength, จะทำให้ความแรงในการโจมตีขึ้นอยู่กับค่า Cunning แทนค่า Strength
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็น Passive ที่ยอดมากๆอีกหนึ่ง passive สมควรมีติดตัวไว้อย่างยิ่งยวด


            Evasion
            Class(es): Rogue
            Category: Rogue
            Type: Passive
            Previous Talent: Lethality
            Requires: Level 12, 35 Dexterity
            Friendly Fire: No
            เพิ่มโอกาส 1 ใน 5 ในการหลบหลีกการโจมตีธรรมดา, Stun และ Knocked down
            ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็น Passive ที่ยอดมากๆอีกหนึ่ง passive สมควรมีติดตัวไว้อย่างยิ่งยวด




            [b] โปรดติดตามตอนต่อไป
            ขอบคุณ Prima : Dragon Age : Origins Official Guide Book
            ขอบคุณ ท่าน Violent สำหรับแปลสกิลต่างๆ ในหน้าแรก ขอบพระคุณอย่างสูง


            เรื่องการ backstab โดยคุณ hayabusa
            Originally posted by hayabusa View Post
            ไม่รู้มีคนรู้แล้วหรือยังเรื่องRougeนะครับ
            1.Rouge Backstap Dmgที่ได้ออกมาจะเท่ากับความแรงของCRI แต่ว่ามีผลไม่เหมือนกับCRI เช่น เวลาเป้าหมายติดFrozen จะไม่สามารถShatter(แต่ถ้าใช้ร่วม stealth สามารถShatterได้)
            2.Backstap position ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้านหลังเสมอไป

            ดูจากในรูปนะครับ


            ในวงกลมเส้นสีแดงคือส่วนที่ทำการBackstapไม่ได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่เช่นติดStun/Paralysis/Frozen สามารถทำได้
            ส่วนที่เป็นสีดำนั้นเราสามารถทำการBackstapได้

            วงกลมจะมี2แบบครับ
            1.แบบสีดำครึ่งวงกลม ส่วนมากจะเป็นพวกสัตว์ต่างๆหรือพวกมังกร
            2.แบบ1/4(แบบในรูป) ส่วนมากจะเป็นพวกที่มีลักษณะคล้ายๆกับคน

            3.Backstap ไม่สามารถใช้ได้กับธนูกับstaves(ไม่เท้า)หรือSkillประเภทActiveได้


            Mini Guide Warrior โดยคุณ CannavaroJ ครับ
            Originally posted by CannavaroJ View Post
            1.ว่าแต่พวกimmuneเวทนี้ ก็ยังติดพวกเวทก่อกวนรึป่าว อย่างพวกparalysis หรือ crushing prisonอะ ขอโทษนะคะ เราไม่รู้จริงๆ

            - เท่าที่สังเกตมาไม่เคยเจอพวก Immune เวท ทุกเวทนะครับ จะเจอเฉพาะเวทเป็นชนิดๆ ไปครับ จะเจอก็แต่พวกที่มีค่าต้านทานเวทสูงๆ แทน พวกนี้ก็จะติดสถานะเวทก่อกวนพวกนั้นแปปเดียวแทน(ประมาณ 1 - 1.5 วินาทีได้ -*-)


            2. นักดาบสองมือเราคิดจะลองเล่นเหมือนกัน ตีแรงได้ใจ มีเคล็ดลับส่วนตัวอะไรแนะนำไหม

            Warrior : Dual Weapon

            - เล่นสายนี้ต้องอดทนครับช่วง 10 -12 เวลแรกเราจะอ่อนมาก เพราะต้องเน้นอัพ Dex เพื่อปลด Talent อย่าง Momentum + Dual Weapon Mastery ก่อน(ประมาณ 36) และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและหลังจากนั้นเราต้องแบ่ง Status Point ไปอัพ Dex ให้สูงถึง 36-46 เลยทีเดียว เพื่อให้เวลาเราใช้ Dual Strike ไม่วืดบ่อย(ถ้า Dex ต่ำกว่า 32-36 ไม่แนะนำให้ใช้ Dual Strike มันวืดบ่อยมาก DPS แบบไม่ใช่จะสูงกว่า) และที่สำคัญ War สายนี้จะเริ่มเล่นโหดเมื่อเราผ่าน Fade ไปแล้วครับ เพราะเราจะได้พวก Status พิเศษอย่างพวก Will ที่จะเพิ่มปริมาณ Stamina ในการใช้ Talent พิเศษให้กับตัวละครเราเช่น Talent เพิ่ม DMG ของ Berserk หรือเพิ่ม ATK ของ Champian หรือแม้แต่ Talent สุดโหดของ Reaver ได้อย่างเพียงพอ....

            สรุป Status โดยเฉลี่ย คืออัพ Dex ไป 36-46 แล้วแต่ความชอบ Con สัก 20-26 แล้วแต่ว่าอยากอึดแค่ไหน ที่เหลือไป Str ให้หมดเลยครับ พวก Cunning พวก Will ไม่ต้องไปสนใจมันครับเดี่ยวเราเข้าไปใน Fade ก็มีค่าพวกนี้มาเพิ่มให้เราฟรีๆ เอง...

            Talent ที่แนะนำ
            ความเร็ว : Momentum, Blood Thirst
            ความแรง : Dual Strike, Berserk, Frightening Appearance
            ความแม่นยำ : Dual Weapon Mastery, Blood Frenzy หรือ Rally

            * Haste ไม่สามารถใช่ร่วมกับ Momentum ได้ดังนั้น Mage ที่คอย Support ไม่ต้องอัพครับ
            **Warrior สายนี้เป็นสายที่ทำ DPS ได้สูงที่สุดแล้ว(อาจจะเป็นอาชีพที่ทำ DPS สูงที่สุดในเกม ไม่ก็พอๆ กับ Rouge สาย Dual)


            Warrior : Shield

            - War สายนี้เป็นสายที่มีความสำคัญต่อทีมมากๆ ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อสามารถเรียนรู้ Class Templar และ Champian ได้ ทั้งทำหน้าที่ Tank ให้เพื่อน Support เพิ่มความสามารถให้เพื่อน และก่อกวนศัตรูด้วย Skill War Cry และ Shield Pummel หรือแม้กระทั้ง Clear สถานะต่างให้เพื่อนด้วย Cleanse Area ก็ได้...

            สรุป Status โดยเฉลี่ย คืออัพ Dex ไปให้สูงจนสามารถอัพ Talent ของสาย Shield ได้จนครบ(อาจจะให้สูงกว่านี้ก็ได้เพราะมันช่วยเพิ่มอัตราการหลบหลีกให้ด้วย แต่ผมไม่แนะนำเพราะมันไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่เวลาโดนรุม) ส่วน Str ให้เราอัพแค่พอใส่เกราะมังกรได้ก็พอ ไปลง Will สัก 20-25 เพื่อการใช้สกิลในการตั้งรับหรือรักษา ที่เหลือให้เราไปลง Con ให้หมด(45+)เพื่อเพิ่มความอึดเพราะนี้คือหัวใจสำคัญของสายนี้...

            Talent ที่แนะนำ
            Tank: Shield Mastary, Sheild Wall, Shield Expertise, Taunt, Shield Tactics
            Support : Rally, War Cry, Shield Pummel, Cleanse Area, Shield Bash

            *ผู้เล่นอาจจะไม่สนุกกับการเล่นสายนี้เลย ยกเว้นแต่คุณจะเป็นพวกพ่อพระชอบทำอะไรเพื่อทีมเสมอหรือไม่ก็เป็นพวกซาดิสชอบความเจ็บปวดก็อาจจะชอบเล่น War สายนี้เหมือนกัน





            ปล.สาย Two-Hand ไม่ต้องแล้วเนอะมีคนแนะนำไปแล้ว(โดยส่วนตัว Two-Hand เป็นสายที่ยืดหยุ่นและตลุมบอลกับฝ่ายตรงข้ามเยอะๆดี ที่สุดแล้ว)
            Last edited by pongkrit03; 25 Mar 2010, 08:08:49.

            Comment


            • #21
              แง้ว หมายถึง ใช้ Html code ลดขนาดเลยไง มันทำได้แต่ลืม
              แหล่ว
              ถ้า ไปแก้ขนาดรูป อีัพใหม่ ไม่เห็นต้องถามเน้อ - -

              หืม เดยีวแก้ให้จ้ะ

              Comment


              • #22
                ขอบคุณสำหรับน้ำใจ ^^

                Comment


                • #23
                  แวะมาเก็บ

                  Comment


                  • #24
                    สุดยอดครับจะติดตามอ่านจนจบ ขอบคุณน้ำใจอันยิ่งใหญ่ครับ คุณ Violent ด้วยครับ

                    Comment


                    • #25
                      ขอบคุณครับ คราวนี้อยากรู้เรื่อง

                      Item ที่มันเพื่มป้องกัน อะไรเงี้ยอะครับ ที่มันใช้ก่อนต่อสู้กับธาตุนั้นๆ

                      Comment


                      • #26
                        ขอบคุณคร้าบ ตึกคอมมีแผ่นแท้ขายมั๊ยนอ.... ต้องหามาลอง

                        Comment


                        • #27
                          ซู่ๆ ครับ

                          Comment


                          • #28
                            side quest และ main quest มีลูกศรเหมือน fall out ไหมครับเล่นเหมือนบาง quest ก็ไม่มีลูกศรครับ

                            Comment


                            • #29
                              God bless you... ครับ

                              ^^

                              ได้ guide แว้ว ...เล่นแนวนี้ไม่เก่งจริง ๆ ....

                              หัดใหม่นี่เล่นตัวละครไหนดีครับ...

                              Comment


                              • #30
                                ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์มากๆ ^^

                                ท่าทางเกมส์นี้ จะอยู่กับเครื่องผมไปอีกนาน สนุกดีครับ เล่นหลายรอบก็คงยังใช้ได้อยู่

                                เล่นรอ Diablo 3 ได้เลย

                                Comment

                                Working...
                                X